มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 792
“ท่านคือภูตน้ำแห่งมรณาจิ่วหยินที่แปลงร่างเป็นอสูรจิตแห่งสวรรค์ใช่ไหม?”เจ้าศักดิ์สิทธิ์ตำหนักดาราพยักหน้า ก่อนที่จะมองออกถึงที่มาของเขา

“เจ้านี่ช่างมีดวงตายิ่งนัก ถึงได้รู้ถึงประวัติความเป็นมาของข้า”งูยักษ์ดำพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

“ท่านสามารถฝึกฝนจนได้เป็นเทพมาร ทำไมเจ้าถึงได้ฆ่าคนไปมากมายขนาดนี้ ถึงให้คนอื่นถึงได้รับความทรมาน”เจ้าศักดิ์สิทธิ์ตำหนักดาราเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

“ข้าจะฆ่า แล้วทำไมข้าจะต้องอธิบายให้เจ้าด้วย?”ถึงแม้ว่าฝั่งตรงข้ามนั้นจะเป็นเทพมารตนเดียวแห่งโลกแสงดาว แต่ทว่างูยักษ์ดำกับพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา และไม่ได้ไว้หน้าเขา

“หึ!”

เจ้าศักดิ์สิทธิ์ตำหนักดารามองไปที่เขาด้วยสายตาอาฆาตแวบหนึ่ง ก่อนที่จะมีแสงส่องออกมาจากนิ้วทั้งห้าของเขา และเปลี่ยนกลายเป็นดาบอันแหลมคม ก่อนที่จะส่องสว่างไปทั่ว

โดยที่การถ่ายทอดของเจ้าศักดิ์สิทธิ์ตำหนักดารา โดยปกติแรงนั้นขึ้นอยู่กับพลังของดวงดาว ก่อนที่จะแปลงเป็นกฎเก้าประเภท ดังนั้นเมื่ออิงกับสถานการณ์ของตนเองแล้ว เมื่อเกิดการรวมตัวกันขึ้นจะทำให้เกิดกฎพลังที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก

เส้นทางที่ท่านเจ้าศักดิ์สิทธิ์ตำหนักดาราได้เดินมานั้นขึ้นอยู่กับ กฎเบญจธาตุ ที่รวมและเปลี่ยนเป็นกฎตรีภพ

“โฉ่งฉ่าง!โฉ่งฉ่าง!โฉ่งฉ่าง!”

ดาบแห่งตรีภพที่ส่องแสงออกมาก แสงและพลังที่ส่งออกมาอย่างแรงกล้า และในทุกจุดของดาบก็ส่องสว่างและแสดงถึงความคมกริบ ที่เสมือนจะสามารถตัดภูเขาออกจากกันได้อย่างง่ายดาย ที่สามารถที่จะทำลายล้างทุกสิ่ง ตัดออกให้เป็นผงได้

“กฎตรีภพ?”

งูยักษ์ดำไม่เพียงแม้แต่จะหวาดกลัว ก่อนจะแสดงถึงรอยยิ้มอันเยือกเย็นและถาม “ตั้งแต่ข้าและเจ้านายนั้นได้กลับมาถึงโลกแสงดาว ข้าเย่หานน่าจะเวลาประมาณเกือบล้านปีแล้วที่ไม่ได้ต่อสู้กับใคร”

เย่หาน เขาคือภูตน้ำที่ฝึกฝนวิชาจนมาถึงแดนเทพมาร เขาจึงตั้งชื่อให้ตัวเอง

เขาเงยหน้าขึ้นก่อนจะตะโกนเสียงดัง บริเวณรอบๆเต็มไปด้วยการสั่นสะเทือน พลังของจิ่วหยินนั้นที่เปลี่ยนรูปร่างเป็นกำแพงน้ำสีดำ ที่ขวางกั้นรังสีกระบี่แสงหมื่นผสมเอาไว้

น้ำมรณะจิ่วหยิน ที่แท้ก็คือภูน้ำแห่งฟ้าดิน ที่รวมไปด้วยกฎธาตุน้ำและกฎไท่หยิน โดยที่เย่หานนั้นร่างกายของเขานั้นเป็นภูตน้ำที่ประกอบไปด้วยสองกฎรวมกัน ที่ฝึกออกมาจนเป็นกฎจิ่วหยิน

บู๊ม!

กำแพงม่านน้ำสีดำนั้นถูกพลังแสงหมื่น นั้นทำลายจนย่อยยับ ก่อนที่เย่หานจะโบกมืออีกครั้ง เพื่อเรียกม่านกำแพงน้ำขึ้นมา ก่อนที่จะมากั้นพลังรังสีกระบี่แสงหมื่นผสม

“ในระดับชั้นเทพพิภพมารระดับนี้ ไม่คาดคิดว่าจะมีคนเก่งระดับนี้อยู่ด้วย ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ”

การต่อสู้เมื่อสักครู่ก็ทำให้พอที่จะดูออก ว่าพลังการต่อสู้ของเย่หาน ยังด้อยกว่าเจ้าศักดิ์สิทธิ์ตำหนักดาราอยู่เล็กน้อย

ถึงแม้จะอยู่ในระดับพิภพชั้นกลาง แต่เย่หานก็อยู่ในแดนของเทพมาร และก็นับว่าเป็นบุคคลที่แข็งแกร่ง ถึงแม้เดิมทีเขาจะเป็นเทพมารที่มาจากชนชั้นภิภพของเทพมารที่ต่ำกว่าหนึ่งชั้น แต่เขาก็สามารถที่จะพัฒนาตนเองให้แข็งแกร่งขึ้นมา พูดๆแล้วมันก็ไม่ง่ายเลยจริงๆ

เพราะว่าการที่จะฝึกฝนวิชาในภิภพที่สภาพแวดล้อมและทรัพยากรที่ต่ำกว่า

“เจ้ามาจากแดนเบื้องบนหรอ?”

เจ้าศักดิ์สิทธิ์ตำหนักดาราขมวดคิ้ว ก่อนที่จะไม่ได้ลงมือต่อ

เขานั้นมาที่นี่นับว่าเป็นผู้แข็งแกร่งแห่งโลกยุทธ์ที่สูงสุดแห่งโลกแสงดาว เป็นธรรมชาติที่เขาจะสามารถมาถึงระดับพิภพนี้ เพราะต้องรู้ว่าโลกแสงดาว เป็นยุทธภพที่ไม่มีที่สิ้นสุด และเป็นพิภพที่ต่ำที่สุดในแดนนี้

งูยักษ์ดำไม่ได้เอ่ยขึ้น ก่อนที่จะมองเห็นคิ้วสีดำของเขานั้นมีบางอย่างส่องแสงบินออกมา ราวกับได้เปลี่ยนแปลงเป็นรูปร่างของสาวสวย

“เทวทูต?”

เจ้าศักดิ์สิทธิ์ตำหนักดาราเมื่อมองเห็นหญิงสาว ก็ตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะก้มหลังทำความเคารพ

เพราะเขานั้นคือเจ้าศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ อีกทั้งในโลกแสงดาวคนที่จะทำให้เขาเคารพได้นั้น น่าจะมีเทพแดนศักดิ์สิทธิ์ที่คอยนั่งเฝ้ารักษาอยู่สองคน

คนแรกเขานั้นเป็นเทวทูตที่มาจากพิภพเบื้องบน ส่วนอีกคนเป็นเจ้าศักดิ์สิทธิ์แห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เจ้าแดนหลิว

“ เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ข้าทราบดีแล้ว เพราะคนพวกนั้นไม่สมควรที่จะมีชีวิตอยู่”เทวทูตจื่อเยียนรู้สึกงงๆก่อนที่ค่อยๆเอ่ยๆช้า โดยที่น้ำเสียงและการแสดงออกนั้นช่างเย็นชา

ที่ทำให้เจ้าศักดิ์สิทธิ์ตำหนักดาราเกิดความรู้สึกเกรงขามขึ้น เพราะเขาและเทวทูตผู้นี้ได้พบเจอกันเพียงไม่กี่ครั้ง และรู้ดีเกี่ยวกับเทวทูตผู้นี้ ว่าเขานั้นไม่ได้แม้แต่จะสนใจเกี่ยวกับการตายของเจ้ายุทธจักรและเจ้ามหาจักรพรรดิยุทธ์

“เทวทูต เมื่อก่อนนั้นจะปรากฏในดินแดนอาณาจักรตะวันออกของเกราะนักยุทธ์ทองและม้วนหยก และตอนนี้อำนาจของม้วนหยกนั้นได้ตกไปอยู่ในมือของหลิวซิว ”เจ้าศักดิ์สิทธิ์ตำหนักดาราเอ่ยออกมา”

บทที่ 791

บทที่ 793