มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 793
เขานั้นได้พูดคุยส่วนตัวกับเจ้าแดนหลิวดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว เพราะเขารู้ว่าเทวทูตพิภพเบื้องบนนั้นได้ให้ความสำคัญกับหลิวซิว ดังนั้นเขาจึงได้เอ่ยถาม

เรื่องที่เกี่ยวกับชุดเกราะทองและหยกม้วนทองนั้น ทั้งเผ่าพันธุ์มนุษย์และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นั้นก็มีความเป็นกังวล ดังนั้นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์จังได้มีการออกคำสั่งออกไป

“เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องสนใจหรอก แต่แค่คอยติดตามเฝ้าระวังกับพวกเผ่าพันธุ์มารก็พอ”เทวทูตจื่อเยียนพูดอย่างเรียบๆ

“รับทราบ!”เจ้าศักดิ์สิทธิ์ตำหนักดาราเอ่ยพร้อมหยักหน้า

“เจ้ากลับไปก่อนเถอะ”

……

เมื่อต้องเผชิญกับเทวทูตที่มีขั้นสูงกว่า ที่แม้แต่เจ้าศักดิ์สิทธิ์ตำหนักดารา ก็ยังจะต้องก้มเคารพเขา ไม่เพียงแต่เพราะว่าฝั่งตรงข้ามนั้นมาจากพิภพแดนที่ขั้นสูงกว่า เหตุผลที่สำคัญเลยนั้น ก็คืออำนาจพลังของเขา

เมื่อเปรียบหากเจ้าศักดิ์สิทธิ์ตำหนักดารากับมหาเทพมาร ไม่ว่าฝั่งตรงข้ามเบื้องหลังจะแข็งแกร่งแค่ไหน? เพียงแค่ฝั่งตรงข้ามมีพลังอำนาจไม่เท่าข้า ข้าก็จะไม่เกรงกลัวใดๆ

เพราะว่ามีกฎขอบเขตอยู่ คนที่มีพลังอำนาจที่แข็งแกร่งกว่าเทพมาร ก็ไม่สามารถที่จะลงมาที่ดินแดนเบื้องล่างได้ เพียงแค่เจ้านั้นในแดนเทพมารมีพลังอำนาจที่มากมายไร้เทียมทาน ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องหวาดกลัวอันใดไป

ถึงแม้เทวทูตจื่อเยียนจะเป็นเพียงหญิงสาว แต่ทว่ามีพลังอำนาจที่น่ากลัวเป็นอย่างมาก ที่แม้แต่เจ้าศักดิ์สิทธิ์ตำหนักดารายังคงต้องทำตัวอ่อนน้อมต่อหน้าเธอ

“นายท่าน” เย่หานเอ่ยถามอย่างนอบน้อม

“ท่านคงจะเคยพบเจอกับเจ้านั่นบ้างแล้วล่ะ”เทวทูตจื่อเยียนยิ้มๆ

“รับทราบ เขาคือเจ้าศักดิ์สิทธิ์ตำหนักดารา เป็นเพราะเขาเป็นคนเริ่มเรื่องขึ้นมา ” เย่หานเอ่ยออกมาอย่างตรงไปตรงมา

“เรื่องนี้ข้าได้ทราบดีแล้ว แต่ว่าเจ้าเด็กนั่นช่างโชคดีดีจริงๆ ได้รับของไปมากมาย”

“ก็เพียงแค่โอกาสจังหวะดีนั่นแหละ ไม่ใช่ทุกอย่างจะดีเสมอไป แต่ว่ายังไงสะก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป ไม่แน่นะว่าอาจจะมีโอกาสได้เป็นถึงเทพฟ้า”

เงาเสมือนของเทวทูตจื่อเยียน ก่อนที่ดวงตาที่ว่างเปล่าทั้งสองข้างที่จะแหงนหน้ามองท้องแต่ แต่ก็ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

……

“หลัวซิวยังไม่ตาย!”

ตั้งแต่มีข่าวจากสำนักตำหนักดารานภา

แพร่กระจายออก อิงจากที่เจ้าศักดิ์สิทธิ์ตำหนักดาราพูดออกมาเอง

“โอ้พระเจ้า แม้แต่มหาจักรพรรดิยุทธ์ที่แข็งแกร่งยังตายในเหวปีศาจนั่น แล้วเจ้าหลัวซิวรอดมาได้ยังไง?”

ผู้คนต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันไป บางคนก็พูดว่าเจ้าหลัวซิวนั้นรู้จักกับพวกปีศาจที่อยู่ภายใน อีกทั้งยังดึงดูดให้พวกกองกำลังบุกเข้าไป เพื่อที่จะฆ่าคนทิ้ง

ไม่ว่าจะพูดอย่างไร เมื่อเปรียบกับกองกำลังแล้ว หลัวซิวไม่ตาย ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีแล้ว

เพราะว่าเขาไม่ตาย ถ้าหากจับที่ตัวเขา ก็จะได้รับของล้ำค่ามากมายที่อยู่บนตัวเขา ไม่ว่าจะเป็นปีกทิพย์ไร้มลทินหรือหยดม้วนทอง ล้วนแต่เป็นของล้ำค่าที่มิอาจเปรียบราคาได้

เมื่อเวลาหนึ่งเดือนผ่านไป ก็ไม่ได้มีข่าวของหลัวซิวออกมา

ในช่วงเวลานี้ หลัวซิวได้แต่อยู่ตัวคนเดียว

เย่หานก็ได้เริ่มทำการฆ่าสังหารรอบใหญ่ในเหวปีศาจมรณะ มหาจักรพรรดิยุทธ์ สามสิบกว่าคน และแหวนของมหาจักรพรรดิยุทธ์นั้นก็มีพลังและทรัพยากรจำนวนมากที่จะสมไว้อยู่

วันที่หลัวซิวออกมา ท้องฟ้าก็เกิดการแปรปรวนสั่นไหว ทางกฎความตายดั้งเดิมที่เปลี่ยนเป็นมังกรที่มีรูปร่างสีดำ ก่อนจะบินขึ้นไปบนท้องฟ้า แล้วก็กระจายสลายหายไป

“แดนมหายุทธ์!”

ในช่วงที่เก็บตัวอยู่คนเดียวนั้น ไม่ได้มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น และเขาได้ฝึกฝนตนเองจนไม่มีที่สิ้นสุดจนมาถึงแดนมหายุทธ์!

แต่ไม่ว่าอย่างไร แดนกฎของเขานั้นก็ได้มีความก้าวหน้าขึ้น และได้พัฒนาไปจนถึงช่วงปลายของความเชี่ยวชาญในขั้นต้น

ดังนั้นก็หมายความว่า แดนกฎ ของเขานั้นก็มาถึงในช่วงเจ้ายุทธจักรในช่วงปลาย

นอกจากแดนกฎ หลัวซิวนั้นได้พัฒนามากที่สุด นั่นก็คือดินแดนสำนึกของเขา ได้พัฒนาไปถึงขั้นเจ้ายุทธจักรขั้นต้น ในช่องจิตปลอมที่ซ่อนวิญญาณอันบริสุทธิ์ไว้มากมายได้ถูกใช้ไปมากมาย

อีกทั้งยังมีเนื้อหนังของเขา ก็พัฒนาจนไปถึงขั้นสูงสุดของร่างแดนศักดิ์สิทธิ์

“พลังอำนาจของเขาตอนนี้เปรียบเทียบเสมือนกับเจ้ายุทธจักรแล้ว พลังทั้งหมดของเขานั้น นับว่าเป็นเจ้ายุทธจักรขั้นปลาย”