ผู้บัญชาการของยามาดะ ยูไนเต็ดหน้าซีดเผือด เฉินโม่ไม่ได้จงใจที่จะลดน้ำเสียงลง ดังนั้นเรื่องที่เกี่ยวกับขีปนาวุธข้ามทวีปเขาจึงได้ยินหมดแล้ว

ผู้บัญชาการฝืนยิ้มพลางพูด:“คาดไม่ถึง คาดไม่ถึงจริงๆ…..ฮ่าฮ่า…..”

ผู้บัญชาการไม่รู้แล้วว่าควรจะพูดอะไรอีก พลทหาร ชะตากรรมก็ควรเป็นแบบนี้แหละ

รองผู้บัญชาการวิ่งเข้ามา ตาแดงก่ำพลางพูด:“ท่านครับ! ในเมื่อเบื้องบนได้ทอดทิ้งเราไปแล้ว พวกเราถอยทัพกันยังจะดีกว่าไหมครับ?”

“หุบปาก!” ผู้บัญชาการตะคอกด้วยน้ำเสียงที่โมโห:“ถ้อยคำพวกนี้อย่าให้ฉันได้ยินเป็นครั้งที่สอง!”

“การเชื่อฟังคำสั่งคือหน้าที่ของพลทหาร คนคนนี้เขาแข็งแกร่งมาก เพื่อที่จะจัดการเขาให้ได้ เบื้องบนไม่ลังเลที่จะใช้กองทหารสองกองใหญ่มาเป็นเหยื่อล่อ จินตนาการความสำคัญของคนคนนี้ออกกันได้เลย ถ้าหากเราสามารถคงอยู่ไว้ในประเทศต้าเหอได้อย่างเป็นนิรันตร์ การตายของเราทุกคนจึงจะมีความหมาย!”

“ท่านผู้บัญชาการ ผมผิดไปแล้วครับ!” รองผู้บัญชาการก้มหัวคำนับ ใบหน้าเต็มไปด้วยความละอายใจ!

“ไม่เป็นไร ช่วงเวลาระหว่างความเป็นความตาย ใครก็เกิดความคิดแบบนี้กันได้ทั้งนั้น โทษแกไม่ได้หรอก!” ผู้บัญชาการตบไหล่ของรองผู้บัญชาการเบาๆ กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สงบ

เฉินโม่ไม่ได้สู้ต่อ ต่อหน้าขีปนาวุธ เหล่าทหารไม่สามารถหนีรอดแม้แต่คนเดียว ถูกฆ่าหรือไม่ก็ไม่มีความต่างกันแล้ว

มองดูท้องฟ้า เฉินโม่สามารถมองเห็นแม้กระทั่งปลายแสงไฟแล้ว

เฉินโม่มองเล่หรูหั่ว ถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน:“เธอกลัวไหม?”

เล่หรูหั่วพยักหน้า แล้วก็ส่ายหน้า “ฉันกลัว แต่ฉันอยู่กับนาย ฉันก็เลยไม่ได้กลัวแล้ว!”

“เยี่ยม!”เฉินโม่ยิ้มเล็กน้อย ทำหน้าปลื้มใจ

มองดูจุดสีดำบนฟ้าที่ขยายขึ้นเรื่อยๆ เฉินโม่แอบวัดเปรียบเทียบในใจ : “ด้วยพลังของฉันในตอนนี้ถึงแม้จะไม่สามารถต้านอาวุธนิวเคลียร์ได้ แต่ถ้าให้รับมือกับขีปนาวุธข้ามทวีปน่าจะไม่มีปัญหา แต่ผลสรุปที่เป็นรูปเป็นร่างฉันก็ยังไม่รู้เหมือนกัน เพราะว่าไม่เคยทดสอบด้วยตัวเองมาก่อน ต้องลองเสี่ยงดูเท่านั้น!”

ทหารเหล่านั้นได้เห็นขีปนาวุธบนท้องฟ้าที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แม้พวกนายพลจะเตรียมใจสละชีพเพื่อชาติมาก่อนแล้ว แต่เหล่าทหารไม่มีความเด็ดเดียวในเรื่องนี้ พวกเขามีพ่อแม่และลูกเมีย พวกเขาไม่ต้องการที่จะตาย

“อ๊าก…..ช่วยด้วย!”

เหล่าทหารวิ่งหนีดั่งคนบ้าคลั่ง ชนไปมาเหมือนดั่งแมลงวันไร้หัว

มีคนบางส่วนสาปแช่งทางการของประเทศต้าเหอ ทั้งหมดนี้กลับไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้

ผู้บัญชาการยิ้มอย่างน่าสมเพช:“หนี? แล้วจะหนีไปไหน? ขีปนาวุธข้ามทวีปยิงข้ามมา พวกแกจะหนีรอดหรือไง?”

แรงกดอากาศมหาศาลจากขีปวุธเริ่มทำให้หลอดเลือดของเหล่าทหารธรรมดาสูบฉีดพองตัว บางคนถึงขั้นระเบิดไปทั้งร่างจนสิ้นชีพ

เฉินโม่กอดแน่นเล่หรูหั่ว เธอจึงไม่เหมือนพวกทหารธรรมดาเหล่านั้น ถูกแรงกดจนร่างกายแหลกสลาย

“ปิดตา ปิดหู!”

เฉินโม่ถอนหายใจออกเบาๆ กระบี่สับสวรรค์เคลือบไปด้วยแสงไฟสีทอง และพุ่งชนไปที่ขีปนาวุธ

บึ้ม!

แสงจ้าสว่างแผ่กว้าง ตามด้วยเสียงดังสนั่นหวั่นไหวราวกับฟ้าดินแตกเป็นเสี่ยงๆ ท้องฟ้ามีเมฆรูปเห็ด พลังงานที่ทรงอานุภาพยืดจุดระเบิดเป็นศูนย์กลาง กวาดล้างขยายแผ่กว้างไปรอบทุกทิศทางภายในชั่วขณะ

พวกทหารธรรมดาถูกระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ไม่เหลืออะไรเลย ราวกับว่าไม่เคยมีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้มาก่อน

พื้นแผ่นดินสั่นสะเทือน ภูเขาขนาดเล็กที่อยู่ไม่ไกลนักถูกทำลายเป็นพื้นราบ พืชไม้บนดินกลายเป็นไอในทันที

เงาของเฉินโม่และเล่หรูหั่ว จมไปกับแสงจ้าและฝุ่นควันที่ลอยเต็มบนท้องฟ้า

ประเทศต้าเหอ สำนักงานคณะรัฐมนตรี

ด้านหน้าหน้าจอขนาดใหญ่ ทุกคนดูฉากนี้อย่างไร้เสียง

เฉินโม่คงไม่รอดแล้ว ผู้มีอำนาจระดับสูงของประเทศต้าเหอกลับไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นเลยแม้แต่นิด

ผู้คนที่ต้องสละชีพด้วย คือกองกำลังทหารสองกลุ่มใหญ่!

นายพลอาวุโสหลับตาลง น้ำตาไหลลงจากบนใบหน้า:“เหล่าพลทหาร จงหลับให้สบายเถิด!”

นายกรัฐมนตรีถอนหายใจด้วยความโล่งอก มองไปที่นายพล แล้วกล่าวว่า:“การจากไปของพวกเขานั้นมันมีความหมาย ประเทศหัวเซี่ยได้ลดนักรบที่แข็งแกร่งแบบนี้ไปแล้วทั้งคน มันคุ้มค่าแล้ว!”