ประเทศหัวเซี่ย รัฐสภา
เจียงเหอซานมองไปหน้าจอที่กลายเป็นฉากฝุ่นควันเต็มจอ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตกใจและความโกรธ
“เรื่องบ้าอะไรกัน!”
เจียงเหอซานทุบกำปั่นลงบนโต๊ะข้างๆอย่างแรง เสียสติต่อหน้าผู้บังคับบัญชา
ผู้บังคับบัญชาที่ต่อให้ภูเขาไท่ถล่มต่อหน้าก็ยังรักษาความสุขุมไว้ ณ ตอนนี้ก็ไม่สามารถรักษาความสงบไว้ได้ อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
“นี่แหละโชคชะตา!”
เจียงเหอซานมองไปที่ผู้บังคับบัญชาด้วยความรู้สึกแปลกใจแล้วพูด:“ผู้บังคับบัญชา คุณไม่เคยเชื่อในเรื่องโชคชะตา ทำไมวันนี้…..”
ผู้บังคับบัญชาเดินไปที่ที่นั่ง มองตาเหม่อไปที่เพดาน:“โลกบู๊โบราณได้ปรากฏต่อหน้าชาวโลก แดนเทพเพียงคนเดียวของประเทศหัวเซี่ยกลับล่มสลายลงที่ประเทศต้าเหอ ถ้านี่ไม่ใช่โชคชะตา แล้วมันคืออะไร! ”
“นี่…..”เจียงเหอซานขมวดคิ้ว
ตอนนี้ เขาพึ่งเข้าใจว่าทำไมผู้บังคับบัญชาถึงมองดูเฉินโม่ด้วยความชื่นชมเสมอมา ที่แท้ไม่ใช่เพราะว่าความแข็งแกร่งอันสูงส่งของเฉินโม่ แต่เป็นเพราะว่าเฉินโม่เป็นความหวังเดียวที่สามารถต่อกรกับโลกบู๊โบราณ
ผู้บังคับบัญชากล่าวอย่างเหม่อลอย:“เมื่อสมัยที่ท่านหวา เขาเคยบอกว่า เขาจะต่อสู้เป็นเวลาร้อยปีเพื่อประเทศหัวเซี่ย และหวังว่าจะมีคนมารับช่วงต่อหลังจากร้อยปีนี้ ตอนนี้เขาปรากฏตัวขึ้นแล้ว แต่พวกเรากลับไม่สามารถรักษาเขาไว้ได้!”
เจียงเหอซานที่ดูเศร้าหมอง:“ผู้บังคับบัญชา ท่านไม่จำเป็นต้องโทษตัวเอง เรื่องนี้โทษท่านไม่ได้ เป็นเพราะฉันเอง ถ้าตอนนั้นฉันหยุดหมอนั้นไม่ให้ไปประเทศต้าเหอได้ ก็คงไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น!”
“เฮ้อ ช่างมันเถอะ ตอนนี้การโทษตัวเองก็ไม่ได้ช่วยอะไร เรามาคิดหาวิธีรับมือกับโลกบู๊โบราณการกันเถอะ” สีหน้าของผู้บังคับบัญชาดูหดหู่เล็กน้อย ราวกับว่าแก่ชราขึ้นอีกสิบปีในพริบตาเดียว
เจียงเหอซานแอบรู้สึกในใจ:“ดูเหมือนว่าการนั่งในตำแหน่งนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ”
เมื่อฝุ่นควันจางลง เจียงเหอซานก็ชี้ไปที่หน้าจอขนาดใหญ่ อุทานด้วยความเซอร์ไพรส์:“ผู้บังคับบัญชา ดูสิ เฉินโม่ยังมีชีวิตอยู่! ฮ่าฮ่า…..”
เจียงเหอซานเสียสติอีกครั้ง
ผู้บังคับบัญชารีบทอดสายตาไปที่หน้าจอขนาดใหญ่ และเช่นเดียวกับเจียงเหอซาน ดีใจจนหัวเราะเสียงดังออดมา เป้าตามีน้ำชื้นเล็กน้อย
“ดี ดี เยี่ยมเลย พระเจ้าคุ้มครองประเทศหัวเซี่ย!”
ประเทศต้าเหอ คณะรัฐมนตรี
รวมถึงทุกคนในคณะรัฐมนตรี ตกตะลึงกันหมด
“เป็น เป็นไปได้ยังไงกัน!”
“เขา เขายังมีชีวิตอยู่!”
นายกรัฐมนตรีหน้าซีดเผือด ดูเหมือนเขาจะไม่มีเรี่ยวแรงที่จะยืนให้มั่นแล้ว เขาถอยหลังสองก้าวแล้วนั่งลงบนเก้าอี้
“ท่านนายก ท่านไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?” เลขาที่อยู่ด้านหลังรีบพยุงตัวเขาไว้
นายกรัฐมนตรีฝืนยิ้มพูด:“แม้กระทั่งขีปนาวุธก็ฆ่ามันไม่ตาย ต้องอารุธนิวเคลียร์เท่านั้นหรือถึงจะฆ่ามันได้?”
“แต่ว่า ประเทศต้าเหอของเราไม่มีนิวเคลียร์นะครับ หรือว่านี่จะเป็นผลกรรมเมื่อหลายปีก่อนที่เราได้เข้าโจมตีประเทศหัวเซี่ย?”
นายกรัฐมนตรียกมือขึ้นด้วยความสั่น มองไปที่นายพล พูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้ม:“ท่านนายพล ฉันขอโทษ!กองกำลังทหารสองกอง ได้จากไปอย่างไร้ความหมาย!”
ถ้าเขาไม่เอ่ยมันออกมาคงไม่มีอะไร พอพูดออกจากปาก น้ำตาของนายพลก็ไหลลงดั่งฝน
“ท่านนายก เรื่องนี้จะโทษท่านไม่ได้ ท่านทำเพื่อประเทศต้าเหอของเรา ถ้าจะโทษก็ต้องโทษเฉินไต้ซือที่ไม่ใช่มนุษย์ มนุษย์จะไปมีพละกำลังแบบได้ยังไง?” เลขาปลอบประโลมใจอย่างสะทกสะท้าน เฉินไต้ซือจะอยู่หรือเป็น เขาไม่สนใจอยู่แล้ว หน้าที่ของเขาคือทำให้แน่ใจว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับท่านนายก
“ทำยังไงดี?พวกเราจะทำอะไรได้บ้างล่ะ?” อารุธรบที่รุนแรงที่สุดของประเทศต้าเหอก็ใช้ไปแล้ว แต่ก็ยังทำอะไรเฉินโม่ไม่ได้ นายกไม่รู้จริงๆว่าควรจะทำต่ออย่างไรดี
นายพลถอนหายใจ กล่าวว่า:“ยอมแพ้เถอะ หาคนมาสักคน ส่งเฉินไต้ซือกลับประเทศหัวเซี่ยด้วยมือตัวเอง และสัญญาว่าจะไม่เป็นศัตรูกับเขาอีก แล้วก็ ยอมแพ้ต่อทางการประเทศหัวเซี่ย!”
ผู้นำระดับสูงทั้งหมดของประเทศต้าเหอ หน้าแดงก่ำ ประเทศที่ยิ่งใหญ่สูงส่ง ถูกคนคนเดียวกดขี่จนโงหัวไม่ขึ้น
อย่างไรก็ตาม คนทุกคนเข้าใจดี ว่านี่ คือทางออกที่ดีที่สุด!
ประกายแห่งความมั่งมั่นปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนายก กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้ม:“ทหาร ฉันจะไปส่งเฉินไต้ซือด้วยน้ำมือของตังฉันเอง!”
“ไม่ได้ ไม่ว่าอย่างไงก็จะทำแบบนี้ไม่ได้นะครับ ถ้าเฉินไต้ซือเกิดคิดแค้นขึ้นมา การที่ท่านนายกมุ่งไปเช่นนี้ มันจะอันตรายเอานะครับ” เลขารีบเกลี้ยกล่อม