นายกรัฐมนตรีใบหน้ามุ่งมั่น พูดขึ้น “ถ้าหากฉันไม่มีความกล้าแม้แต่จะเผชิญหน้ากับเฉินไต้ซือ ทหารของโยโคกาวะ ยูไนเต็ดและ ยามาดะ ยูไนเต็ดจะต้องหัวเราะเยาะฉันอยู่บนฟ้า!”
“พวกคุณไม่จำเป็นต้องเกลี้ยกล่อมแล้ว ฉันได้ตัดสินใจแล้ว”
เลขาจนปัญญา ตะโกนกับลูกน้อง “เตรียมรถ!”
“อีกอย่าง เรียกกำลังพลที่อยู่ใกล้ๆ ทั้งหมด ปกป้องนายกรัฐมนตรี!
เฉินโม่ยืนอยู่ที่เดิมเงียบๆ มองดูแผ่นดินที่เต็มไปด้วยภัยพิบัติตรงหน้า หน้าของเขาซีดเล็กน้อย
“อานุภาพของขีปนาวุธข้ามทวีปยิ่งใหญ่กว่าที่ฉันคิด แต่ยังดีที่ขวางกั้นเอาไว้ได้”
ตอนนี้ เฉินโม่ได้รับบาดเจ็บไม่น้อย แต่ว่าเขาไม่สามารถแสดงออกมาได้ และก็ไม่สามารถรักษาบาดแผลได้
“ไปเถอะ!” เฉินโม่พูดอย่างเรียบเฉย
เล่หรูหั่วยังคงเหม่อลอย เหมือนกับยังไม่ตื่นจากความสะเทือนเมื่อสักครู่
ได้ยินเช่นนี้ เขาพยักหน้าอย่างงุนงง “หา!”
เฉินโม่พาเล่หรูหั่ว เดินออกจากเขตพื้นที่นี้ช้าๆ
“ที่นี่ถูกกองทัพใช้กฎอัยการศึกแล้ว พวกเราอยากจะเรียกรถแท็กซี่ ดูท่าจะต้องเดินเท้าอีกช่วงหนึ่ง” เฉินโม่พูด
“อืม” เล่หรูหั่วพยักหน้า มองไปในดวงตาของเฉินโม่ สีหน้าผิดปกติเล็กน้อย
ระหว่างเดินทาง เล่หรูหั่วถามขึ้นกะทันหัน “เฉินโม่ นายยังเป็นมนุษยชาติไหม?”
เฉินโม่อึ้งอยู่ครู่หนึ่ง หันหน้ามองเล่หรูหั่ว พูดขึ้น “ทำไมถึงถามแบบนี้?”
“เป็นมนุษยชาติ เหตุใดถึงสามารถขวางกั้นขีปนาวุธข้ามทวีปได้?” เล่หรูหั่วพูดอย่างสงสัย
เฉินโม่พูดอย่างเรียบเฉย “วางใจเถอะ ฉันเป็นมนุษยชาติ เพียงแต่แข็งแกร่งกว่าคนธรรมดาทั่วไป อันที่จริง บนโลกนี้ไม่ได้เรียบง่ายขนาดนั้นเหมือนที่พวกเราเห็นภายนอก จักวาลดวงดาว กว้างขวางไร้ขอบเขต มนุษย์ก็เป็นหนึ่งในนั้น เพียงแต่น้ำหยดหนึ่งในมหาสมุทรเท่านั้นเอง”
“เธอเพียงแค่จำเอาไว้ว่า ฉันก็ยังเป็นฉันคนนั้นอยู่ก็พอแล้ว”
เฉินโม่เข้าใจ เล่หรูหั่วถูกพลังแข็งแกร่งที่เขาแสดงออกมา ทำให้ตกตะลึง รู้สึกสับสนกับโลกใบนี้ และเกิดความสงสัยต่อตนเองเล็กน้อย
“ใช่ นายก็ยังเป็นนายคนนั้น เพียงแต่เปลี่ยนไปจนผมไม่รู้จักแล้ว” เล่หรูหั่วแอบถอนหายใจ
“ไปเถอะ ที่นี่อากาศแย่มาก ฉันรู้สึกอึดอัดจนใจสั่น” เล่หรูหั่วพูด
“อืม”
เฉินโม่พาเล่หรูหั่วเดินต่อไปข้างหน้า
ไม่นานนัก รถยนต์โตโยต้าคราวน์สุดหรูหลายคัน ขับมาจากไกลๆ
ด้านหลังรถคราวน์หลายคันนั้น ยังมีขบวนรถตามมาด้วย
และโดยรอบ ยังมีกองทัพขนาดใหญ่ติดตาม บนท้องฟ้า ยังมีเครื่องบินบินวน
เล่หรูหั่วกังวลเล็กน้อย และพูดขึ้น “พวกเขายังไม่ยอมเลิกราเหรอ?”
เฉินโม่มองไปทางรถคราวน์หลายคันนั้น ในดวงตาเผยความครุ่นคิด “ดูก่อนแล้วค่อยว่ากัน อาจจะไม่ได้มาหาเรื่อง”
นายกรัฐมนตรีประเทศต้าเหอลงมาจากรถ เลขารีบเดินตามมาด้านหลัง ยังมีจอมพลอาวุโสและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศต้าเหอกลุ่มหนึ่ง มากันเกือบครบหมด
เป็นดังเช่นที่นายกรัฐมนตรีพูดไว้แบบนั้น ถ้าหากพวกเขาไม่มีความกล้าแม้แต่จะเผชิญหน้ากับเฉินไต้ซือ จะทำให้ทหารที่สละชีพหัวเราะเยาะ
“เฉินไต้ซือ ไม่ได้พบกันเสียนาน!” นายกรัฐมนตรีและคนอื่นๆ เดินมาตรงหน้าเฉินโมทั้งสองคนประมาณสามเมตรแล้วหยุดลง นายกรัฐมนตรีโค้งตัวแสดงความเคารพต่อเฉินโม่
เฉินโม่มองดูเขา นี่คือชายวัยกลางคนท่านหนึ่งที่ดูอ่อนโยนมาก ประมาณห้าสิบปี ให้ความรู้สึกสุภาพอย่างหนึ่ง
แต่ว่า เฉินโม่สามารถสัมผัสได้ถึงออร่าของผู้นำระยะยาวบนตัวเขา อีกอย่างดูจากสีหน้าท่าทางประหม่าของคนเหล่านั้นด้านหลังเขา สถานะของคนผู้นี้ไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน
ดังนั้น เฉินโม่เดาสถานะของคนผู้นี้ได้ทันที
“ไม่ได้พบกันเสียนาน ท่านนายกรัฐมนตรีของประเทศต้าเหอ!” เฉินโม่พูดอย่างเรียบเฉย
ท่านนายกรัฐมนตรีไม่ได้ประหลาดใจสักนิด ถ้าหากเฉินโม่ไม่สามารถเดาสถานะของเขาได้ เช่นนั้นเขาก็ไม่ใช่เฉินไต้ซือ
เพียงแต่หลังจากที่เฉินโม่ได้รู้สถานะของตนเอง ไม่ได้เผยความโมโหใดๆ ออกมาสักนิด นี่ทำให้นายกรัฐมนตรีประหลาดใจ