GGS:บทที่ 1148 โกลาหล

หลังจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกวันนี้สิ้นสุดลง ขอบเขตการชำระล้างของเหรียญตราเทวฑูตก็ได้ไปถึงทวีปแอฟริกาเรียบร้อยแล้ว
ในพื้นที่แห่งนั้นทันทีที่ขอบเขตการชำระล้างไปถึงเหล่าเงาสีดำที่คนทั่วไปยากจะเห็นได้นั้นก็ได้ปรากฎมาเพียงชั่วครู่และหายไปแทบจะในทันทีที่สัมผัสกับแสงชำระล้าง

เย็นวันนั้นเองซูจิ้งก็ได้รับสายจากหลัวฉือหลิน โดยเขาได้พูดออกมาว่า “นายท่าน พลังงานชั่วร้ายที่ปกคลุมที่นี่ได้จางหายไปแล้วครับ”
“แล้วเงาดำล่ะ มันไม่มีท่าทีอะไรเลยเหรอ” ซูจิ้งถามออกมา
“ไม่มีครับ ดูเหมือนมันจะไหวตัวทันและออกจากพื้นที่นี้ไปก่อนน่าจะประมาณครึ่งชั่วโมงเพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่มีการตายประหลาดเลย” หลัวฉือหลินพูดออกมา
“งั้นนายกลับมาหาฉันได้แล้ว” ซูจิ้งพูดออกมา

เจ้าเงาดำนั่นสมควรจะแกร่งเกินกว่าที่หลัวฉือหลินจะติดตามได้อย่างปลอดภัยแล้ว หากคราวนี้มันพบตัวหลัวฉือหลินอีกแน่นอนว่าย่อมฆ่าทิ้ง
ในเมื่อเงาดำนั่นพบลำแสงชำระล้างแล้วหนีออกไปแบบนี้ก็ไม่มีเหตุผลที่เขาต้องให้หลัวฉือหลินอยู่อีกแล้ว การให้มาอยู่ข้างเขานั้นจะดีกว่า

“ได้ครับ” หลังฉือหลินไม่พูดอะไรอีก เขาได้บังคับสแตนด์ของตัวเองให้กลับประเทศจีนอย่างรวดเร็ว ในเช้าวันถัดมา แสตนด์ของหลัวฉือหลินก็ได้เข้าไปเจอซูจิ้ง ซูจิ้งเองก็ได้กล่าวชมเชยและให้รางวัลก่อนที่จะบอกแผนการขั้นต่อไปกรณีมีอะไรเกิดขึ้น
ในตอนนี้ยิ่งเขาพบร่องรอยของเงาดำมากขึ้นเท่าไหร่เขาเองก็รู้สึกอยู่ไม่สุขมากขึ้นเท่านั้น ราวกับว่าอันตรายกำลังจะมาเยือนในไม่ช้า

วันนี้ ซูจิ้งต้องขึ้นชกมวยในรอบชิงชนะเลิศ ซูจิ้งตั้งจะรีบจบการแข่งนี้โดยไวโดยคู่ต่อสู้ของเขาในวันนี้นั้นคือนักชกชาวรัสเซีย
บรรยากาศภายในสนามแข่งนั้นมีชีวิตชีวาอย่างมาก โดยนอกจากชาวรัสเซียแล้ว คนส่วนใหญ่นั้นล้วนแล้วแต่เชียร์ซูจิ้งทั้งหมดทั้งสิ้น
ที่เป็นแบบนี้ไม่ใช่ว่านักชกชาวรัสเซียคนนี้จะอ่อนแอแต่อย่างใดไม่งั้นเขาคงไม่มาถึงรอบสุดท้าย แต่เป็นเพราะซูจิ้งนั้น ในตอนนี้เขาได้คว้าเหรียญทองมากกว่า 19 เหรียญแล้ว ยังไงซะก็น่าเชียร์กว่าอยู่ดี

ยิ่งไปกว่านั้น ทุกคู่ที่ซูจิ้งชกมานั้น ซูจิ้งล้วนแล้วแต่ชนะด้วยการน็อคเอ้าท์ทั้งหมดไม่มีการปล่อยให้มีการนับคะแนนแม้แต่น้อย แต่นักชกชาวรัสเซียเองก็มีประสบการณ์มาไม่น้อยเหมือนกัน แน่นอนว่าหากเขานั้นจะแพ้ไปก็คงไม่มีใครว่า แต่หากไม่มีอุบัติเหตุอะไรจริงๆ แน่นอนว่าเหรียญทองนี้ซูจิ้งต้องคว้ามาให้ประเทศจีนได้อย่างแน่นอน

ทันทีที่เริ่มต้นการแข่งขัน ซูจิ้งได้ก้าวเข้าประชิดนักชกชาวรัสเซียในทันที แต่ในตอนนั้นเอง สแตนด์ของหลัวฉือหลินก็ได้เข้ามาอยู่ในเงาของซูจิ้งก่อนที่จะบอกกับซูจิ้งว่า “เจ้านาย ผมพบ จุนฮ่าว โอฉิงหยุน และคนที่เคยมีเรื่องกับนายท่านได้เข้ามาในสนามอย่างรวดเร็ว เป็นไปได้ว่าพวกนั้นเล็งที่นายท่าน”
ซูจิ้งขมวดคิ้วในทันทีที่ได้ยิน เขานั้นให้หลัวฉือหลินคอยตรวจตราสถานการณ์โดยรอบไว้เพื่อว่าเงาดำนั่นจะคิดเล่นไม่สื่อ
ถึงแม้เขาจะเชื่อมั่นว่าการที่เงาดำนั่นหนีออกจากแอฟริกาไปเป็นเพราะไม่อาจต้านทานลำแสงชำระล้างได้ แต่ในเมื่อเขานั้นอยู่ในที่สว่าง

เขาก็เชื่อว่าเงาดำนั่นต้องเตรียมการเล่นงานเขาไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หรือมันอาจจะเข้ามาตรงๆเพราะฟื้นฟู สภาพสมบูรณ์ได้แล้วก็ยังมีความเป็นไปได้
หรือจะให้กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือทันทีมันฟื้นฟูได้เต็มที่จึงเร่งออกจากแอฟริกาไปเพื่อเตรียมเล่นงานเขาก็เป็นไปได้เหมือนกัน เขาจึงให้หลัวฉือหลินเข้าเฝ้าดูแทนเขา
แต่เขานั้นไม่นึกมากก่อนเลยว่าจะได้พบ ซงจุนฮ่าว โอฉิงซง และคนที่เคยคัดแย้งกับเขาแล้วหายตัวไปมาปรากฎที่นี่ เอาเจ้าพวกนี้ไปเอาความกล้ามาจากที่ไหนกันแน่

“หรือนี่จะเกี่ยวกับเงาดำจริงๆ” ซูจิ้งนั้นใจเต้นไม่เป็นส่ำในทันที เขานั้นเป็นที่ยอมเสียเวลาเป็นหมื่นปีเพื่อทำให้ร่องเรือไปได้อีกหมื่นอย่างสงบสุข
เขานั้นไม่ได้พูดอะไรออกมาแต่เดินลงเวทีไปเสียดื้อแล้วตรงไปยังที่นั่งของซูเซินเย่ว เย่ฉิง ซูหยา และฉือชิงก่อนที่จะพาทุกคนไปยังห้องพัก
ผู้ชมที่กำลังดูการถ่ายทอดสดและที่อยู่ในสนามต่างก็สับสนกันไปหมดว่านี่เกิดอะไรขึ้น นี่ก็พึ่งจะเริ่มการแข่งขันเองแล้วทำไมซูจิ้งถึงได้ทิ้งการแข่งไปได้กัน
ซูเซินเย่วและคนอื่นๆเองก็พยายามคิดหาคำตามอยู่ในใจ ด้วยการที่พวกเขานั้นเห็นท่าทางและสีหน้าของซูจิ้งแล้วจึงไม่มีใครกล้าที่จะเสียเวลาถามและยอมตามไปแต่โดยดี

หลังจากเข้าไปถึงห้องพักแล้ว ซูจิ้งได้ทำการสะกดคนทั้งสี่ก่อนที่จะนำคนทั้งสี่ใส่เข้าไปในถุงกักอสูร
ถึงแม้ว่าถึงนี้จะเป็นถุงที่เอาไว้ใช้กักสัตว์ร้ายก็ตาม แต่ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ ถึงแม้ว่ามันจะดูโหดร้ายไปสักหน่อยแต่เขาก็ต้องทำ เพราะนี่ก็เพื่อความปลอดภัยของทั้งสี่คนทำให้เขาไม่ได้สนใจความรู้สึกของทั้งสี่คนมากนัก

ในตอนนี้คนทั้งแปดซึ่งมีซงจุนฮ่าวและโอฉิงซงอยู่ด้วยได้ก้าวขึ้นไปบนสนามมวย พวกนั้นพยายามมองรอบๆราวกับตรวจสอบอะไรบางอย่างโดยไม่ใส่ใจท่าทีของกรรมการและผู้ชมเลยแม้แต่น้อย
คนทั้งแปดมองไปรอบๆอยู่พักหนึ่งก็ได้มีชายผิวดำท่าทางกำยำสองคนก้าวขึ้นไปบนเวที “พวกแกเป็นใครเนี่ย นี่มันสนามแข่งขันอันทรงเกียรตินะ ออกไปเดี๋ยวนี้” นักชกชาวรัสเซียรีบถามออกมาด้วยความรู้สึกไม่ดีแบบสุดๆเมื่อเห็นชายผิวดำสองคนและคนอื่นๆ

ชายผิวดำนั้นยกมือขึ้นช้าๆก่อนที่จะตบไปบนหน้าของนักชกชาวรัสเซียจนทำให้เขากระเด็นตกสนามไปในทันที หัวของเขานั้นกระแทกลงพื้นอย่างรุนแรง ทันทีที่เขากระแทกลงพื้นก็ได้กระอักเลือดออกมาคำโตและสลบเหมือดไปในทันที
“ห้ะ…./ว้าย…./กรี๊ด…” เสียงอันสับสนอลหม่านได้เกิดขึ้นในทันทีที่เกิดฉากนี้ขึ้นมา เหล่าเจ้าหน้าที่และหน่วยรักษาความปลอดภัยได้เข้ามาในทันที แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรพวกเขาก็ได้ตกตายไปตามๆกันด้วยความเร็วที่แทบจะยังไม่ได้กระพริบตา
“มันต้องอยู่แถวนี้แหล่ะ”
“หาให้เจอ”
ซงจุนฮ่าว โอฉิงซง และคนอื่นๆรีบหาตัวซูจิ้งในทันที

แต่ในตอนนั้นเอง ทั้งแปดคนก็ปรากฎสายตาที่ราวกับได้เห็นเหยื่ออันโอชะ เป็นซูจิ้งที่ปรากฎตัวขึ้น เขาได้ปล่อยกระแสจิตเข้าไปป่วนสมองของคนทั้งแปดในทันทีเพื่อหมายจะสะกดจิต
แต่ในทันทีที่คนทั้งแปดโดนกระแสจิตของซูจิ้งป่วนสมอง คนทั้งแปดเพียงแค่หยุดชะงักไปชั่วครู่แล้วก็กลับมาสู่สภาพเดิมได้อย่างรวดเร็ว

นี่ไม่ใช่เป็นเพราะเขานั้นสามารถสะกดคนทั้งแปดได้อย่างรวดเร็วแต่อย่างใด แต่ซูจิ้งนั้นสัมผัสได้ว่าทันทีที่เขาโจมตีจิตสำนึกของคนทั้งแปด ในตอนนั้นก็ได้มีแรงบางอย่างปะทะกับกระแสจิตของเขาทำให้ไม่สามารถทำอะไรจิตสำนึกและจิตวิญญาณของคนพวกนี้ได้เลยแม้แต่น้อย

“หึ ไอ้เงาดำนั่นสินะ” ใบหน้าของซูจิ้งนั้นในตอนนี้ราวกับคิดอะไรบางอย่าง หากดูจากการที่คนเหล่านี้ฆ่าคนได้อย่างไม่สะทกสะท้าน แสดงว่าจิตใจของคนเหล่านี้สมควรจะแข็งแกร่งกว่าเดิมมากจึงสามารถป้องกันการโจมตีทางจิตของเขาได้ขนาดนี้ นี่ย่อมไม่ใช่เรื่องปกติอย่างแน่นอน
โดยเฉพาะกับซงจุนฮ่าวและโอฉิงซงที่มีเรื่องกับเขาโดยตรงแล้ว หากว่าสองคนนี้มีจิตใจระดับนี้ตั้งแต่ต้น เขาคงวุ่นวายมากกว่านี้อย่างแน่นอน นี่แสดงว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ ทั้งแปดคนสมควรจะไปทำอะไรบางอย่างมาจนมาถึงระดับนี้ได้ ไม่ว่าจะมองยังไง เจ้าเงาดำนั่นสมควรจะเป็นต้นเหตุอย่างแน่นอน ส่วนซูจู่และฉิวจิงที่ไม่ได้อยู่ที่นี่ เขาเองก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าสองคนนั้นไปไหน

“หึหึหึ ซูจิ้ง ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” ซงจุนฮ่าวมองซูจิ้งในขณะที่กล่าวทักทายด้วยเสียงอันโหดเหี้ยม นี่แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้ป่วยจิตอีกแล้วแถมยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ดีอีกด้วย
และดูเหมือนว่าเขาจะจำได้ด้วยซ้ำว่าซูจิ้งนั้นทำอะไรกับหมอนี่ไว้บ้างจนต้องเข้าห้องขังจิตเวทไป หากไม่ใช่ว่าเขานั้นได้รับการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญล่ะก็ทั้งชีวิตของเขาคงจะต้องอยู่ที่ห้องขังแห่งนั้น ยิ่งคิดก็ยิ่งทำให้ซงจุนฮ่าวนั้นแค้นฝังลึกลงไปเรื่อยๆ
“โฮ่…แล้วไอ้คนที่ช่วยแกออกมาแล้วทำให้แกกลับมาสภาพเดิมนี่ไปอยู่ไหนซะล่ะ” ซูจิ้งถามออกมา ซูจิ้งนั้นได้ปล่อยกระแสจิตของตัวเองออกไปทั่วก็ไม่พบร่องรอย
การที่คนพวกนี้มีจิตแข็งพอจนกล้าที่จะฆ่าคนต่อหน้าผู้คนกลางการถ่ายทอดสดแบบนี้สมควรจะเป็นฝีมือของเงาดำนั่น

นี่ราวกับจะบอกว่าต่อให้ฆ่าเขาตายไปคนพวกนี้ก็ไม่ได้แยแสต่อสิ่งใด และนี่ค่อนข้างจะดูมีเหตุผลพอสมควรเพราะหากฆ่าเขาในระหว่างออกอากาศ ลำแสงชำระล้างของเหรียญตราเทวฑูตเองก็สมควรจะส่งผลกระทบ นี่จึงเป็นเหตุผลที่คนพวกนี้ต้องการฆ่าเขาในระหว่างถ่ายทอดสดให้จงได้
ความจริงแล้วซูจิ้งนั้นไม่ได้สนใจแปดคนนี้แต่อย่างใด เขานั้นกลัวแต่ร่างเงาดำนั่นที่หลบซ่อนอยู่เท่านั้น