เล่มที่ 29 เล่มที่ 29 ตอนที่ 852 ไม่มีทางคาดคิดได้เลย

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

เส้นทางลับทั้งเงียบสงัดและหนาวเย็น ยิ่งทั้งสองเดินเข้าไป สีหน้าของตงหลิงจวิ้นยิ่งซีดเซียว ทั้งร่างกายยังสั่นเทาเล็กน้อย

ตงหลิงหวงกุมมือตงหลิงจวิ้นไว้ “มีข้าอยู่ เจ้าไม่ต้องกลัว! ”

ตงหลิงจวิ้นเม้มริมฝีปาก “ท่านพี่ ข้าไม่ได้กลัว ข้ากังวล… พี่หวง ท่านพูดว่าการตายของท่านแม่เกี่ยวข้องกับเสด็จพ่อของข้าหรือ? ”

อย่างไรเสีย หลายปีมานี้ ตงหลิงจวิ้นก็มาที่เรือนของพระชายาหลู่หยางอ๋องบ่อยยิ่งกว่าตงหลิงหวงเสียอีก แต่เขาไม่เคยรู้เลยว่าในเรือนของมารดาตนเองมีเส้นทางลับ

มารดาหายตัวไปนานมากแล้ว ทุกคนต่างบอกว่านางตายไปแล้ว แม้แต่พระสนมน่าหลานก็ยอมรับเองกับปากว่าเป็นคนฆ่ามารดาของเขา

ตงหลิงจวิ้นกังวลมากจริงๆ กังวลว่ายิ่งเดินลึกเข้าไปจะเห็นความโหดร้าย… จะเห็นศพของมารดาตนเอง

ตงหลิงหวงก็ไม่แน่ใจนักว่ามีอันใดอยู่ในเส้นทางลับนี้

นางทำได้เพียงจับมือตงหลิงจวิ้นให้แน่นขึ้น และตบหัวไหล่ของเขาเพื่อปลอบโยน

“จวิ้นเอ๋อร์โตแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้นก็ควรเผชิญหน้ากับมันอย่างคนที่โตแล้ว ไม่ว่าทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร มีพี่หวงอยู่ พี่หวงจะเผชิญหน้าไปพร้อมเจ้า”

คำพูดของตงหลิงหวงราวกับกระแสน้ำอุ่นที่ค่อยๆ ไหลเข้าสู่ร่างของตงหลิงจวิ้นและก่อตัวเป็นพลังที่แข็งแกร่ง แววตาทรงพลังของเขามองไปที่ตงหลิงหวงและพยักหน้าอย่างเข้มแข็ง

“อืม! ”

ทั้งสองจึงเดินไปข้างหน้าต่อ

เดินไปได้สักระยะหนึ่งก็พบกับทางแยก

โดยทั่วไปแล้ว ทางแยกจะแบ่งเป็นหยินและหยางสองทาง ทางหนึ่งเป็นทางที่อันตราย ส่วนอีกทางเป็นทางที่ปลอดภัย เพื่อใช้จัดการคนที่บุกรุกทางลับโดยเฉพาะ

ผู้ที่ไม่คุ้นชินกับเส้นทางลับย่อมเลือกเส้นทางผิดได้ง่าย หากเลือกไปทางที่อันตรายก็ต้องตายสถานเดียว ด้านในต้องเป็นกลไกซับซ้อนแน่นอน ไร้หนทางรอด ไม่มีโอกาสออกมาเลือกใหม่อีกครั้ง

ตงหลิงหวงขมวดคิ้วมองอยู่ครู่หนึ่ง “พี่หวง ในจวนมีทางลับเยอะมาก ข้าเห็นมาไม่น้อย ทว่าการจัดตั้งของทางลับนี้ต่างจากทางลับอื่นในจวน ข้าเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน”

ตงหลิงหวงไม่ได้พูดอันใด นางทำเพียงเดินไปข้างหน้าและแยกแยะโครงสร้างกับส่วนประกอบของทางลับทั้งสองอย่างรอบคอบ ผ่านไปครู่หนึ่ง นางก็เอ่ยกับตงหลิงจวิ้น “ไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิง อันที่จริงมีความแตกต่างอยู่ ทว่าตอนที่สร้างเส้นทางลับนี้ไม่ได้ใช้เอกลักษณ์เฉพาะของจวนหลู่หยางอ๋อง เจ้าจึงมองไม่ออก”

ตงหลิงจวิ้นไม่คิดว่าจะเป็นเช่นนี้ เขาเผยสีหน้าชื่นชมตงหลิงหวงออกมา

“ว้าว พี่หวง ท่านยอดเยี่ยมยิ่งนัก นึกไม่ถึงว่าจะมองเรื่องเหล่านี้ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง เช่นนั้นท่านดูออกหรือไม่ว่าทางใดที่ปลอดภัย? ”

“ข้าอยู่ในกองทัพมานาน ฝึกฝนวิธีคิดที่เป็นเอกลักษณ์ เวลามองสิ่งต่างๆ จึงมองต่างจากมุมมองของคนทั่วไปเท่านั้นเอง ตามข้ามา! ”

ตงหลิงจวิ้นพยักหน้าและเดินตามหลังตงหลิงหวง ทั้งสองเดินเข้าไปในทางลับ สักพักก็เดินมาจนถึงห้องโถงกว้าง

ดูเหมือนทางลับเส้นนี้ไม่ได้ซับซ้อนมากนัก นอกจากทางแยกก่อนหน้าก็ไม่พบเจออันตรายใดๆ

เมื่อมองไปรอบด้านของห้องโถงกว้าง นอกจากห้องแยกไม่กี่ห้องก็ไม่เห็นอันใดที่แตกต่าง

หรือว่าก่อนหน้านั้นนางคิดมากเกินไป นี่เป็นทางลับธรรมดาทางหนึ่ง ไม่มีอย่างอื่นแล้ว?

“ท่านพี่ พวกเราไปดูกันเถิด! ” ตงหลิงจวิ้นชี้ไปทางห้องศิลาห้องหนึ่ง

“ได้! ”

ตงหลิงหวงพยักหน้าและเดินไปยังห้องศิลากับตงหลิงจวิ้น ทว่าเมื่อเดินมาถึงหน้าประตู ยังไม่ทันได้เข้าไป เสียงทุ้มต่ำกดดันอันคุ้นเคยก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง

“จวิ้น…จวิ้นเอ๋อร์! ”

เห็นได้ชัดว่าเสียงทุ้มต่ำนั้นไม่มีอันใด ทว่าราวกับมีพลังที่แข็งแกร่งสอดแทรกมาในน้ำเสียง มันกระชากหัวใจของตงหลิงหวงอย่างรุนแรง

ตงหลิงจวิ้นที่ยืนอยู่ข้างๆ ตัวสั่นสะท้าน ใบหน้าซีดขาวในพริบตา เขาไม่กล้าตอบกลับ ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาจึงหันศีรษะกลับมา ทว่ามองเพียงแวบเดียวก็น้ำตาคลอเบ้า

ตงหลิงหวงหันกลับมาเช่นกัน นางตกใจจนพูดไม่ออก

นางคิดถึงความเป็นไปได้นับพัน คิดว่าเส้นทางนี้คงนำไปสู่อีกสถานที่หนึ่ง หรืออาจมีความลับที่หลู่หยางอ๋องปกปิดไว้ไม่อาจบอกให้ผู้อื่นรับรู้ หรือเป็นสถานที่ซ่อนดินปืน… ทว่ากลับไม่คิดเลยว่าจะได้พบกับพระชายาหลู่หยางอ๋อง

เมื่อครู่ ตอนที่ตงหลิงจวิ้นหวาดกลัวที่จะเห็นพระศพของพระชายาหลู่หยางอ๋อง ตงหลิงหวงไม่ได้นึกถึงด้านนี้ด้วยซ้ำ

เพราะนางรู้สึกว่าไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน

พระสนมน่าหลานเป็นสตรีที่เฉลียวฉลาด ต่อให้ต้องการกำจัดพระชายาหลู่หยางอ๋อง นางก็จะจัดการอย่างสะอาดหมดจด ไม่มีทางทิ้งร่องรอยไว้เป็นแน่

หากพระชายาหลู่หยางอ๋องตายด้วยน้ำมือของพระสนมน่าหลานจริง ด้วยฝีมือของพระสนมน่าหลาน คาดว่าแม้แต่ศพก็คงหาไม่พบ

อย่างไรก็ตาม ไม่คาดคิดเลยว่าพระชายาหลู่หยางอ๋องจะยังมีชีวิตอยู่ นอกจากนั้นยังอยู่ใกล้ตัวพวกเขามาก เรียกว่าอยู่ใต้จมูกพวกเขาด้วยซ้ำ

เพียงพริบตาเดียว ความคิดนับพันก็แวบเข้ามาในสมองตงหลิงหวง

ในเมื่อพระชายาหลู่หยางอ๋องยังมีชีวิตอยู่ เช่นนั้นก็คงไม่ใช่ฝีมือของพระสนมน่าหลาน คิดจะจัดการทว่ากลับหลงเหลือความรักใคร่ เช่นนั้นคงมีเพียงหลู่หยางอ๋องผู้เดียว

หรือว่า หลู่หยางอ๋องจะขังพระชายาหลู่หยางอ๋องไว้ที่นี่?

ตงหลิงหวงความคิดสับสน นางไม่กล้าคิดไปไกลมากกว่านี้

พระชายาหลู่หยางอ๋องร้องไห้น้ำตาอาบสองแก้ม นางรีบเดินเข้าไปหาตงหลิงจวิ้นและมองใบหน้าเขา พลางยื่นมือออกมาหมายจะลูบ ทว่านางมีท่าทีเหมือนกลัวอันใดบางอย่าง มือที่ยื่นออกไปจึงชะงักค้างกลางอากาศอย่างลังเล

ตงหลิงจวิ้นโอบกอดพระชายาหลู่หยางอ๋องเข้าสู่อ้อมแขน

“เสด็จแม่ ท่านทุกข์ทรมานแล้ว! จวิ้นเอ๋อร์คิดว่าจะไม่ได้เจอท่านอีกแล้ว เสด็จ… เสด็จแม่มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? ”

พระชายาหลู่หยางอ๋องสะอื้น ร่างของนางสั่นเทาเล็กน้อย ก่อนจะพูดออกมา

“แม่… แม่คิดว่าต่อไปจะไม่ได้เจอจวิ้นเอ๋อร์อีกแล้ว จวิ้นเอ๋อร์ พวกเขาทำร้ายเจ้าหรือไม่? เจ้าบาดเจ็บที่ใดหรือไม่? รีบมาให้แม่ดูหน่อย”

พระชายาหลู่หยางอ๋องรีบเช็ดน้ำตา พลางมองตงหลิงจวิ้นอย่างละเอียดตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า หลังจากมั่นใจว่าตงหลิงจวิ้นไม่ได้รับบาดเจ็บจึงวางใจ ทว่านางก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี

“จวิ้นเอ๋อร์ พระสนมน่าหลานไม่ได้ทำร้ายเจ้าหรือ? ตอนนี้นางตั้งครรภ์ ข้าไม่ได้อยู่ข้างกายเจ้า นางไม่ได้ทำร้ายเจ้า เกรงว่านางจะกินไม่ได้นอนไม่หลับ”

ตงหลิงจวิ้นขบคิดอย่างรวดเร็วครู่หนึ่ง และเลือกพูดประเด็นหลัก “พระสนมน่าหลานทำร้ายลูกจริงๆ … ”

ตงหลิงจวิ้นเอ่ยเพียงครึ่งประโยค พระชายาหลู่หยางอ๋องก็หวาดกลัวจนใบหน้าถอดสี

“นางทำอันใดเจ้า จวิ้นเอ๋อร์ นางทำอันใดเจ้า? ”

ตงหลิงจวิ้นรีบปลอบพระชายาหลู่หยางอ๋อง “เสด็จแม่วางพระทัย แม้พระสนมน่าหลานจะทำร้ายลูก และปล่อยให้นางกำนัลบีบบังคับให้ลูกดื่มยาพิษ ทว่าพี่หวงเข้ามาช่วยลูกไว้ได้ทันพอดี ตอนนี้พระสนมน่าหลานตายไปแล้ว”

พระชายาหลู่หยางอ๋องตื่นเต้นที่ได้พบตงหลิงจวิ้นจึงไม่ได้สนใจอีกคน นางเพิ่งรู้ว่าตงหลิงหวงยืนอยู่ข้างๆ