“จริงเหรอคะ เป็นเกียรติของขวัญอย่างมาก งั้นวันนี้ให้ขวัญทำให้คุณสักมื้อไหมคะ คุณดูสิคะดิฉันเอาวัตถุดิบมาแล้ว มีปลาทะเลทางตอนเหนือ ยังมีปูม้ากับขาแพะดำจากภูเขาหิมะที่คุณชอบทานด้วยค่ะ”
ขวัญเมืองจึงนำสิ่งของเหล่านั้นเปิดออกทันที
ทุกคนค้นพบว่า ที่แท้สิ่งที่พวกเขาถือเขามาในเมื่อสักครู่ คือวัตถุดิบต่างๆที่เตรียมมาโดยเฉพาะ
มินตราคนนี้ เก่งมากจริงๆ เพื่อจะมัดใจพ่อสามีคนนี้ ได้เตรียมตัวอย่างเพียบพร้อม
แสนรักเหงื่อเต็มตัวหลังจากกลับมาจากสวนดอกไม้ด้านหลัง ในห้องรับแขกห้องนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศที่มีความสุข มีทั้งดื่มน้ำชา มีทั้งกำลังพูดคุยกัน มีทั้งที่ทำกับข้าวอยู่……
ไม่ครึกครื้นสักนิด
“ใครมาเหรอ”
เขาขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างรังเกียจ ถามออกมา
คนรับใช้ที่ส่งเขากลับมาจึงตอบออกมาว่า:“คุณผู้หญิงใหญ่พาคุณขวัญมาค่ะ กำลังทำอาหารให้คุณท่านอยู่ในครัว คุณชายจะเข้าไปไหมคะ”
“ไม่ไป!”
น้ำเสียงของเขาเย็นชาอย่างที่สุด หลังจากนั้นคำสองคำนี้ก็ออกมาจากริมฝีปากบาง เขาให้คนรับใช้เข็นเขาไปที่ลิฟต์ด้านโน้น
แต่มินตราคนนี้เป็นคนสายตาเฉียบแหลม
หรือพูดได้ว่า เธอยังมองหาเขาอยู่ตลอด ในที่สุดก็ได้เห็นเขาก็เข้ามา เธอรีบวางเมล็ดทานตะวันที่อยู่ในมือลงทันทีแล้วรีบวิ่งมา
“แสนรัก คุณกลับมาแล้วเหรอ นี่จะไปไหน ทำไมเหงื่อออกเต็มตัวไปหมดขนาดนี้”เธอวิ่งมาที่หน้าประตูลิฟต์ มองไปยังแสนรักที่ร่างกายเต็มไปด้วยเหงื่อ
ผู้หญิงคนนี้ มีบางครั้งเพื่อให้ได้ถึงจุดมุ่งหมาย ก็มีความหน้าด้านอยู่มาก
เธอลืมเรื่องที่เรด พาวิเลี่ยนไปหมดแล้วหรือ?
แสนรักไม่ได้มีปฏิกิริยาใด อีกทั้งเขาไม่หันมามองสักนิด ยื่นมือออกไปกดลิฟต์ทันที
มินตรา:“……”
เธอไม่เคยถูกใครมองข้ามขนาดนี้มาก่อน แค่เพียงวินาทีนั้น เธอโมโหขึ้นมาจนกัดฟันกรอดๆ
ไอ้คนนอกคอกคนนี้ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงจริงๆ ถ้าไม่ใช่ว่าตาแก่อยู่ที่นั่น เธอก็คงไม่วิ่งเข้ามาทักทายเขาหรอกนะ? เขาฝันไปเถอะ?
เธอมองไปที่คนคนนี้ที่กำลังขึ้นชั้นบนไปอย่างเกลียดชัง ทำได้เพียงกลับมาอย่างเคียดแค้น
อีกทั้งในตอนที่เธอกลับมา ในห้องครัว มีดวงตาคู่หนึ่งมองมาที่นี่อยู่ตลอด มองเห็นคนที่นั่งอยู่บนวีลแชร์คนนั้นหลังตั้งตรงดูสง่า กลับไม่ไว้หน้าคุณป้าของเธอเลยสักนิด
ดวงตานี้ ก็แสดงความสงสัยออกมา
คนคนนี้ น่าสนใจจริงๆ……
ตอนเที่ยงสิบสองนาฬิกา
ในที่สุด ชั้นล่างก็เริ่มทานอาหารแล้ว
“ตาสิน คุณไปเรียกเขาสักหน่อเถอะ”
ไชยันต์ที่นั่งอยู่ที่โซฟาดื่มชาอย่างอารมณ์ดี หลังจากได้เห็นแล้ว จึงบอกกล่าวตาสินที่อยู่ด้านหลังไปหนึ่งประโยค
ตาสินยิ้มออกมา:“ได้ครับ ผมจะไปตอนนี้แหละ”
หลังจากนั้นเขาก็ไปเรียกคนแล้ว
ตาแก่คนนี้ ความจริงแล้วก็แค่ไม่อยากขายหน้า เมื่อสักครู่ในตอนที่มินตราเรียกเขา เกรงว่า เขาก็ได้เห็นแล้ว เพียงแค่ เพราะว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองไม่ได้ดีขึ้น
เขาก็จะไม่ยอมเปิดปาก
ตาสินทั้งรู้สึกว่าทั้งน่าโมโหและน่าขำ จึงเดินไปเคาะประตูแสนรัก
“คุณชายเล็ก ผมคือตาสิน ชั้นล่างทานข้าวแล้ว พวกเราไปทานด้วยกันไหมครับ”
“ไม่ต้องหรอก”
ในห้องนอน ยังคงเป็นน้ำเสียงที่แสนเย็นชา ปฏิเสธเขาออกมาอย่างไม่เกรงใจ
เด็กคนนี้……
ตาสินรู้สึกเหนื่อยใจ จึงทำได้เพียงผลักประตูเข้ามา:“คุณชายเล็ก คุณจะไม่ทานข้าวได้อย่างไรล่ะ ผมรู้ว่าคุณชอบความสงบ แต่ว่าคุณท่านตั้งใจมาหาคุณโดยเฉพาะ คุณไปทานข้าวเป็นเพื่อนเขาสักหน่อยเถอะ”
“ไม่ไป”
“คุณชายเล็ก ถึงคุณจะไม่เห็นแก่หน้าสงฆ์ ก็เห็นแก่หน้าเจ้าหน่อยเถอะ ปกติแล้วคุณชายม็อกโกก็ดีกับคุณไม่น้อย”
ตาสินจึงทำได้เพียงหยิบยกคนคนนี้ขึ้นมา
ไม่ผิดหรอก ในตระกูลเทวเทพ ถ้าจะสามารถเอามาพูดประนีประนอมกับคุณชายคนนี้ได้บ้างก็มีแค่คนคนนี้ ก็คือม็อกโก ไม่งั้น เมื่อวานเขาคงไม่ไปที่เรด พาวิเลี่ยนหรอก
สุดท้ายแสนรักก็ลงไปแล้ว
วินาทีนั้นที่ปรากฏตัวขึ้นมาในห้องรับแขก ขวัญเมืองที่กำลังยกอาหารเข้ามานิ่งไปสักพัก เธอมองไปยังใบหน้าคม และระหว่างคิ้วของเขายังมีกลิ่นอายของความหยิ่งทะนงที่แผ่ออกมา
เป็นเวลานาน ที่เธอยืนอยู่อย่างนั้นไม่ขยับ
นี่เป็นคนบ้าที่ตระกูลพวกเขาพูดถึงงั้นเหรอ?
ทำไมถึงได้ดูไม่เหมือนสักนิด? หน้าตาของเขา ลักษณะท่าทางของเขา รวมถึงการกระทำของเขา ไม่ได้เหมือนกับคนบ้าสักนิดเลย
ขวัญเมืองมองจนเกิดความหวั่นไหว
“แสนรัก ในที่สุดก็ลงมาแล้ว มาเร็ว รีบเข้ามา อาหารวันนี้ ต่างเป็นหลานสาวของฉันขวัญเป็นคนทำ รีบมาชิมเร็ว”
มินตราที่กำลังนั่งอยู่ข้างโต๊ะอาหาร ทันใดเห็นว่าคนคนนี้ถูกเรียกลงมาได้จริงๆ ทันใด เธอก็เหมือนกับว่าลืมเรื่องที่บาดหมางในก่อนหน้านี้ไป รีบลุกขึ้นมาทักทายอย่างเป็นกันเองอีกครั้ง
แสนรักไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมา
แต่ครั้งนี้ เขาเข้ามาที่ด้านข้างโต๊ะอาหารแล้วนั่งลง
ขวัญเมืองได้เห็นแล้ว ในที่สุดก็ได้สติกลับมา หลังจากนั้น รีบยกอาหารเข้ามาแล้ว:“ขอโทษด้วยนะคะ อาหารรสเลิศที่สุดมาแล้วค่ะ ขาแพะดำจากภูเขาหิมะ คุณปู่ ที่คุณชอบทานมากที่สุดค่ะ”
เธอยิ้มแย้มออกมาแล้วมาที่ด้านข้างของไชยันต์
และก็เป็นบริเวณที่ใกล้กับแสนรัก
หลังจากนั้น รอให้เธอเอาอาหารจานนี้วางลง ชายหนุ่มคนนี้เหมือนกับว่าถูกความเยือกเย็นปกคลุมเอาไว้ ไม่มีแม้ปฏิกิริยาอะไร อีกทั้งแม้แต่สายตาก็ไม่มองมาที่เธอสักนิด
ขวัญเมืองจึงนั่งลงข้างๆคุณป้าด้านโน้น
“มือกับเท้าของคุณ ฟื้นฟูเป็นยังไงบ้างแล้ว”ไชยันต์ทานเข้าไปสองคำก็ถามออกมา ก็ถือว่าเริ่มเปิดปากก่อนแล้ว
แสนรักที่ในแววตาเต็มไปด้วยความเย็นชา
ในขณะที่ตาสินคิดว่าเขาจะไม่สนใจแล้ว เขาก็ตอบกลับมาเบาๆว่า:“ไม่พิการหรอก”