อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 943 งูและเสือสู้กัน
กู้ชูหน่วนเดินไปแล้ว ทิ้งเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ที่เป็นงูตัวเดียวไว้

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์กวาดมองสมบัติวัตถุล้ำค่าทั้งห้อง

แม้ว่าของทุกอย่างที่นี่จะมีค่ามหาศาล แต่มันไม่มีความสนใจเลยสักนิด

เพราะมันมาเลื้อยเล่นที่นี่หลายครั้งแล้ว ในนี้ไม่มีอะไรอร่อยเลยจริงๆ

มีคำสั่งของกู้ชูหน่วน เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ก็ยังคงเอาของล้ำค่าใส่เข้าไปในแหวนมิติทีละชิ้นๆ แล้วจึงได้ไปหากู้ชูหน่วน

ในห้องหลอมยา

หลังจากที่กู้ชูหน่วนกลับไป พบว่ายาจำนวนไม่น้อยล้วนเป็นรูปเป็นร่างแล้ว

โดยเฉพาะยาจื่อหยาง แทบจะไม่มีที่ไม่เป็นรูปเป็นร่าง

นางยิ้มเล็กน้อย

พื้นที่ในแหวนมิติมีจำกัด ไม่สามารถเอายาทั้งหมดไปได้ กู้ชูหน่วนรีบใช้เวลาที่มีอยู่จำกัดนี้ เอาสมุนไพรปรุงยาทิ้งไป พยายามหลอมยาที่นางปรารถนามานานแล้วออกมา โดยเฉพาะยาระดับสาม

อัตราที่ยาระดับสามจะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้ค่อนข้างต่ำ

แต่นางก็หลอมออกมาแล้วหลายสิบเม็ด

สมุนไพรปรุงยาปริมาณมากมาย ทั้งหมดใช้ไปกับยาระดับสามแล้ว

แล้วในขณะที่นางเตรียมยาระดับสามและกำลังจะกินลงไปเพื่อหลอมละลายนั้น ข้างหูก็ได้ยินเสียงทะเลาะกัน

นางเดินไปตามเสียง

กลับเห็นว่าคนที่กำลังทะเลาะกันไม่ใช่คนอื่น

แต่เป็นเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์และเจ้าเสือน้อย

ดวงตาทั้งคู่ของเจ้าเสือน้อยเป็นประกาย จับจ้องไปที่แหวนมิติในมือของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ติดๆ พยายามที่จะแย่งชิงแหวนมิติด้วยทุกกระบวนท่า

และไม่รู้ว่าเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์อิจฉาหรือไม่

เมื่อเห็นท่าทางของเจ้าเสือน้อย ปากก็ส่งเสียงขู่ฟ่อฟ่อฟ่อ

พลางตีแบบกะจะให้เจ้าเสือน้อยตายไป

“เจ้าคือเจ้าเสือน้อยที่นายหญิงพูดถึงใช่หรือไม่? พูด เจ้ามาเกี่ยวข้องกับนายหญิงของคนอื่นได้ยังไง ข้าจะบอกเจ้า นายหญิงเป็นของข้า ของข้า ของข้า…..”

“โฮกโฮก…….”

งูหนึ่งเสือหนึ่งสู้กันอย่างดุเดือดเป็นอย่างมาก ตู้มากมายล้วนพลิกคว่ำไปหมดแล้ว

เจ้าเสือน้อยเพิ่งจะเกิดออกมาได้ไม่นาน ทั้งยังเป็นเพียงแค่ระดับสาม ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์

มันถูกตีจนมึนงงเล็กน้อย และรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อยด้วย แต่มันแยกเขี้ยวใส่เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ไม่หยุด

ร่างกายเล็กๆของมันใหญ่ขึ้นในพริบตา ใหญ่เท่าคนผู้หนึ่งเต็มๆ

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์พูดอย่างเหยียดหยาม “เจ้าคิดว่าเจ้าแปลงร่างให้ใหญ่ขึ้นเป็นคนเดียวหรือ? ข้าก็ทำได้”

ชิ้ง……

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ไม่เพียงตัวโตขึ้นเท่านั้น ​​

ทั้งยังแปลงร่างเอาหัวทั้งเก้าออกมาอีก

เจ้าเสือน้อยดูจนอึ้งไปแล้ว ราวกับคิดไม่ถึงว่างูตัวหนึ่งจะสามารถมีหัวเก้าหัวได้จริงๆ

ทันทีที่มันเปิดปากก็พ่นเปลวไฟออกมาก้อนหนึ่ง ตู้และสิ่งต่างในหอสมบัติล้วนถูกเปลวไฟขนาดใหญ่ก็เผาไหม้ทั้งหมด

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ไม่ยอม คิดจะลงมือเช่นกัน

กู้ชูหน่วนเห็นว่าสถานการณ์เพลิงไหม้ใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ ควันหนาทึบลอยขึ้นรอบๆ

นางรีบหยุดยั้ง “หยุด รีบหยุดเดี๋ยวนี้”

“นายหญิง มันรังแกข้า”

“โฮกโฮก……”

เจ้าเสือน้อยก็คัดค้านเช่นกัน อุ้งเท้าเสือชี้ไปที่บาดแผลบนตัว และระบายความคับข้องใจ

ทันทีที่มีควันหนาทึบ คนในตระกูลไป๋หลี่ก็ไม่ได้โง่ เคาะระฆังเตือนภัยขึ้นทันที

“มีคนบุกเข้าไปในหอ แล้ว มีคนบุกเข้าไปในหอ แล้ว”

“จัดค่ายกล มือธนูเตรียมตัว ไม่ว่าผู้ใดก็ปล่อยไปไม่ได้แม้แต่คนเดียว”

สีหน้าของกู้ชูหน่วนเปลี่ยนไปทันที ​​

“ดูเรื่องงามหน้าที่พวกเจ้าทำ ยังนิ่งทำอะไรอีก รับหนีสิ”

กู้ชูหน่วนยกเท้าได้ก็เริ่มวิ่ง เอายาที่นางหลอมทั้งหมดใส่เข้าไปในแหวนมิติ

เหมือนว่าเจ้าเสือน้อยจะตระหนักอะไรได้ ช่วยนางเก็บยาและสมุนไพรปรุงยาไม่หยุด แม้กระทั่งเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ที่อยู่ข้างๆที่รู้สึกดูถูกการเก็บของ ก็เริ่มเก็บกวาดอีกครั้ง ทำงานเหมือนดั่งโจรเข้ามาในหมู่บ้านเช่นนั้น

“พอแล้ว เจ้าจะขนตู้เหล่านั้นทำอะไรอีก ตู้ไม่มีมูลค่า รีบหนีเถอะ”

“โฮกโฮก…..”

“แย่แล้ว หอสมบัติถูกล้อมไว้แล้ว เกรงว่าพวกเราคงจะออกไปไม่ง่ายแล้ว”

กู้ชูหน่วนมองดูเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ แล้วมองดูเจ้าเสือน้อยอีกครั้ง ฉับพลันนั้นก็ยิ้มแฮะแฮะไปทางเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์สะดุ้งในใจ

รอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์นี่……

ทำไมมันถึงรู้สึกไม่ดีนะ…….

นายหญิงคงจะไม่ใช้อุบายที่เอาไว้ต่อกรกับคนเลวมาใช้กับมันหรอกนะ

“ฟ่อฟ่อ…..นายหญิง จู่ๆเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ก็นึกขึ้นได้ว่ายังมีเรื่องบางอย่างที่ยังไม่ทำ เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์จะไปทำให้เสร็จก่อน”

กู้ชูหน่วนหยิบหางของมันขึ้นมา ยิ้มแฮ่แฮ่ “เจ้ามีบางเรื่องที่ยังไม่ได้ทำอยู่จริงๆ ต้องลำบากให้เจ้าไปทำหน่อยแล้ว”