บทที่ 1894 ลงและขึ้น

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

บทที่ 1894 ลงและขึ้น

 

ฟางหยวนพาเซียหลินไปยังหมู่บ้านชาวประมงและพบผู้น่าหมู่บ้าน

 

เมื่อพวกเขาพบกัน ฟางหยวนค้นวิญญาณผู้นําหมู่บ้านทันที ผู้นําหมู่บ้านตกอยู่ในภวังค์ชั่วขณะก่อนจะฟื้นคีนสติโดยไม่มีข้อสงสัย

 

ฟางหยวนเปรียบเทียบข้อมูลกับชีวิตก่อนหน้าและพบว่าไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง

 

เช่นเดียวกับชีวิตก่อนหน้า เขายังใช้ตัวตนผู้ใช้วิญญาณพเนจรเพื่อติดต่อมนุษย์เหล่านี้

 

ก่อนอื่นเขาทําทายผู้ใช้วิญญาณของหมู่บ้านและเอาชนะทุกคนได้อย่างง่ายดาย ต่อมาเขามอบวิญญาณ เปลือกหอยวารีและเคล็ดลับการหลอมรวมมันให้กับพวกเขา

 

ชาวบ้านรู้สึกซาบซึ้งมาก

 

จากนั้นฟางหยวนก็พาพวกเขาด่าลงไปใต้ทะเล เพื่อฝึกฝนวิธีใช้วิญญาณเปลือกหอยวารีและสอนวิธีบรรเทาอาการกัดกร่อนของน้ํามันดิบ

 

ระหว่างกระบวนการเหล่านี้ ฟางหยวนให้ความสําคัญกับการสั่งสอนเซี่ยหลินเป็นพิเศษ

 

ชีวิตก่อนหน้าเขามอบวิญญาณให้เซียหลินเท่านั้น แต่ชีวิตนี้เขาต้องการเลี้ยงดูนางอย่างเหมาะสม เขาใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาเพื่อส่งข้อมูลเข้าสู่จิตใจของนางโดยตรง ในเวลาเดียวกันเขาก็ช่วยแก้ไขข้อผิดพลาดมากมายของนาง

 

ฟางหยวนไม่ได้อยู่ที่หมู่บ้านชาวประมงนานนัก เมื่อเขาจากมา ชาวบ้านทั้งหมดคุกเข่าลง

 

เซียหลินต้องการติดตามฟางหยวนแต่เขาปฏิเสธ “เราจะได้พบกันอีกในอนาคต”

 

เซี่ยหลินไม่สามารถทําสิ่งใดและทําได้เพียงหลั่งน้ําตาขณะเฝ้ามองฟางหยวนหายตัวไปเท่านั้น

 

ฟางหยวนกลับมาที่หอคอยเกียรติยศ แต้มบุญของเขาเพิ่มขึ้นสิบแต้ม

 

ภารกิจเริ่มต้นของหอคอยเกียรติยศเป็นภารกิจระดับต่ํา แต้มบุญสูงสุดที่สามารถได้รับคือสิบแต้ม

 

ครั้งนี้ฟางหยวนรวบรวมน้ํามันดิบและสอนวิธีรวบรวมน้ํามันดิบให้กับชาวบ้านทําให้พวกเขาสามารถดํารงชีวิตอยู่ต่อไป เขาทําภารกิจนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

ตอนนี้เฉินกงเจิ้งและคนอื่นๆถูกส่งออกไปปฏิบัติภารกิจ มีเพียงคนเดียวที่อยู่ที่หอคอยเกียรติยศ

 

เขาคือเสี่ยวหมิงเฉิน

 

เมียวหมิงเฉินมองหอคอยเกียรติยศและรู้สึกถึงความเชื่อมโยงลึกลับบางอย่าง แต่เขาไม่รู้ว่ามันคือสิ่งใดและ จะใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างไร

 

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้นเมื่อเห็นสิ่งนี้

 

วิธีการของเทพอมตะสวรรค์พิภพลึกลับมาก เขาไม่ทิ้งร่องรอยใดๆเอาไว้ราวกับมันเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

 

ผู้อมตะไม่สามารถต่อสู้กันและไม่สามารถทําร้ายชนพื้นเมืองของที่นี่

 

อย่างไรก็ตามมีความข้อยกเว้นอยู่ในกฏนี้

 

ตัวอย่างเช่นฟางหยวนสามารถค้นวิญญาณผู้นําหมู่บ้านชาวประมง และให้ความรู้มากมายแก่เซี่ยหลินผ่านวิธีบนเส้นทางแห่งปัญญา

 

นี่ไม่ถือเป็นการโจมตีงั้นหรือ?

 

แน่นอนว่าเป็น

 

แต่ฟางหยวนไม่มีเจตนาร้าย เขาพยายามช่วยคนเหล่านั้น ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ถูกจํากัดโดยกฏดังกล่าว

 

อย่างไรก็ตามหากฟางหยวนมีเจตนาร้าย วิธีการเหล่านั้นจะไม่สามารถใช้งาน เขาต้องเผชิญหน้ากับผลกระทบย้อนกลับจากความล้มเหลว

 

อีกตัวอย่างหนึ่งคือการเก็บรวบรวมน้ํามันดิบ

 

น้ํามันดิบส่วนเกินถูกเก็บไว้ในมิติช่องว่างของฟางหยวน

 

โดยทั่วไปแล้วนอกจากทรัพยากรอมตะบนเกาะเริ่มต้น ผู้อมตะภายนอกไม่สามารถนําทรัพยากรอื่นๆเข้าไปในมิติช่องว่างของตน

 

แต่ฟางหยวนนําน้ํามันดิบเก็บไว้ในมิติช่องว่างเพื่อทําภารกิจให้สําเร็จ ด้วยการลดปริมาณร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ของสถานที่แห่งนั้น มันจะช่วยให้ทรัพยากรอื่นสามารถเติบโตขึ้น

นี่เป็นเรื่องที่ดีต่อสภาพแวดล้อมของเกาะ ดังนั้นมันจึงไม่ถูกจํากัดโดยกฎ

 

ฟางหยวนไม่เพียงทําภารกิจสําเร็จ แต่เขายังได้รับน้ํามันดิบส่วนหนึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาได้กําไรมากกว่าคนอื่นๆ

 

มีภารกิจมากมายอยู่บนหอคอยเกียรติยศแต่มันมีความแตกต่างระหว่างภารกิจ

 

ในชีวิตก่อนหน้า เสี่ยวหมิงเฉินและคนอื่นๆ ค้นพบความลับมากมาย แต่ตอนนี้พวกมันกลายเป็นข้อมูลที่มีเพียงฟางหยวนเท่านั้นที่ล่วงรู้

 

ฟางหยวนค่อยๆเดินเข้าไปหาหอคอยเกียรติยศ

 

เสียงฝีเท้าของเขาขัดจังหวะความคิดของเมียวหมิงเฉิน เขาหันหลังกลับและตกตะลึงเมื่อเห็นฟางหยวน “ชูอึ้ง!”

 

ฟางหยวนยิ้ม “พี่เมี่ยว ความเชื่อมต่อระหว่างท่านกับหอคอยเกียรติยศอ่อนแอเกินไป การเชื่อมต่อดังกล่าวมีไว้เพียงเพื่อค้นหาสถานที่แห่งนี้เท่านั้น มันไม่มีประโยชน์กับที่นี่ ข้าขอแนะนําให้ท่านทําภารกิจให้สําเร็จและสะสมแต้มบุญ”

 

ทัศนคติของฟางหยวนทําให้เสี่ยวหมิงเฉินประหลาดใจ

 

หลังจากทั้งหมดเขาเห็นฟางหยวนเพิกเฉยต่อเฉินตันและเฉินกงเจ๋งด้วยตาของตนเอง

 

เขาให้ความสนใจกับคํากล่าวของฟางหยวนและรู้สึกตกใจ เขารู้เกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างข้ากับหอคอยเกียรติยศ! นี่เป็นความลับที่ข้าไม่เคยเปิดเผย เขารู้ได้อย่างไร? เว้นเพียงเขาจะเป็นเหมือนข้าและสามารถสัมผัสตําแหน่งของวาฬมังกรฟ้าหรือบางทีเขาอาจไม่รู้ตําแหน่งแต่มีความเชื่อมโยงในรูปแบบอื่น?

 

เมียวหมิงเฉินมองฟางหยวนด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่เขาไม่ได้เปิดปากถาม

 

ฟางหยวนแสดงท่าที่ยโสต่อหน้าเฉินกงเจิ้ง มันไม่มีประโยชน์ที่เสี่ยวหมิงเฉินจะบังคับเขา

หากเขาต้องการบอกข้า เขาจะเป็นฝ่ายเปิดปากกล่าว หากข้าพยายามถาม ข้าจะไม่ได้รับสิ่งใดเลย” เมี่ยวหมิงเฉินลอบถอนหายใจอยู่ภายใน

 

ฟางหยวนเดินผ่านเขาและชี้นิ้วไปยังข้อความที่อยู่บนหอคอยเกียรติยศ “ท่านควรรับภารกิจนี้ มันค่อนข้างเหมาะสมกับท่าน ทําภารกิจและสะสมแต้มบุญ มันไม่ใช่การทําความดีแบบผิวเผิน การสอนให้คนจับปลาดีกว่าการจับปลาให้พวกเขา”

 

หัวใจของเสี่ยวหมิงเฉินสั่นสะท้านขึ้น เขากลืนน้ําลายก่อนจะกล่าวสองค่า “ขอบคุณ”

 

“ด้วยความยินดี” ฟางหยวนยิ้ม

 

การให้คําแนะนําบางอย่างแก่เยี่ยวหมิงเฉินไม่ใช่เรื่องทั่วไป

 

ด้านหนึ่ง มันเป็นการหว่านความแตกร้าว อีกด้านหนึ่ง เขาต้องการเตรียมการบางอย่างที่จะส่งผลกระทบต่อ ทะเลตะวันออก

 

ความลับเกี่ยวกับความสามารถของเสี่ยวหมิงเฉินถูกประกาศออกมาในชีวิตห้าร้อยปีของฟางหยวน

 

เสี่ยวหมิงเฉินค่อนข้างมีชื่อเสียงในกลุ่มผู้บ่มเพาะสันโดษของทะเลตะวันออก หากเขาถูกบังคับให้เข้าสู่ทางตันโดยเฉินกงเจิ้ง มีความเป็นไปได้ที่บรรพชนทะเลปราณหรืออู่ส่วยจะสามารถรับเขาเข้าร่วม

 

ฟางหยวนไม่รีบรับภารกิจแต่เดินไปอีกด้านหนึ่งของหอคอยเกียรติยศและแลกเปลี่ยนสมบัติ

 

ในชั่วพริบตา แต้มบุญที่เกินร้อยแต้มของเขาก็ลดลงเหลือเพียงหลักเดียว มันตกลงจากอันดับแรกลงสู่อัน ดับสุดท้าย

 

เมื่อเมียวหมิงเฉินเห็นเหตุการณ์นี้ เขาเต็มไปด้วยความสงสัย “ชูอิงใช้แต้มบุญนับร้อยแต้มแลกเปลี่ยนสิ่งใด?

 

ฟางหยวนรับภารกิจและหายตัวไปอีกครั้ง

 

เสี่ยวหมิงเฉินเดินไปยังอีกด้านหนึ่งของหอคอยเกียรติยศเพื่อตรวจสอบสิ่งที่ฟางหยวนแลกเปลี่ยน

 

แต่มันไม่ใช่เรื่องง่าย หลังจากทั้งหมดมีสมบัติอยู่มากเกินไป

 

“ชูอิงจงใจแสดงความปรารถนาดีต่อข้าก่อนหน้านี้เพื่อให้ข้าช่วยเขาซ่อนข้อมูลนี้หรือไม่? เมี่ยวหมิงเฉินคิด แต่เขาก็ส่ายศีรษะอย่างรวดเร็ว

 

แต้มบุญของฟางหยวนปรากฏอยู่บนหอคอยเกียรติยศ มันไม่สามารถเก็บซ่อน ในไม่ช้าผู้อมตะคนอื่นๆจะค้นพบมัน

 

ด้วยแสงสีขาวที่ส่องประกายขึ้น ฟางหยวนถูกส่งไปยังก้นทะเล

 

น้ําทะเลขุ่นมัว ทรายปั่นป่วน กิ่งก่าเพลิงยักษ์กําลังก่อความวุ่นวายขึ้น

 

กิ้งก่าเพลิงตัวนี้ไม่มีเกล็ดศีรษะของมันใหญ่แต่ร่างกายแบนราบ แขนขาของมันหนาและสัน มันมีหนวดเหมือนกรงเล็บพยัคฆ์ เหงือกของมันส่องประกาย ฟันและกรงเล็บของมันแหลมคมมาก

 

นี่คือสัตว์อสูรเดียวดาย ราชันกิ่งก่าเพลิงพยัคฆ์

 

ภารกิจของฟางหยวนคือการปราบปรามมัน

 

ฟางหยวนไม่รีบร้อนดําเนินการ เขาสํารวจสภาพแวดล้อมเป็นอันดับแรก

 

ไม่นานเขาก็ขมวดคิ้วเพราะเขาไม่สามารถหาสาเหตุในการอาละวาดของราชนกิ่งก่าเพลิงพยัคฆ์ ร่างกายและจิตใจของมันไม่มีสิ่งผิดปกติ แต่มันกลับคลุ้มคลั่งและทําลายสภาพแวดล้อมอย่างป่าเถื่อน

 

ไม่เพียงเท่านั้นมันยังทําร้ายตัวเอง

 

หลังจากทดลองโจมตี ฟางหยวนค้นพบอีกว่าพลังการต่อสู้ของราชันกิ่งก่าเพลิงพยัคฆ์ตัวนี้บรรลุถึงระดับสัตว์อสูรบรรพกาล

 

“นี่เป็นสถานการณ์เดียวกับที่กลุ่มของเสี่ยวหมิงเฉินพบในชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนลอบถอนหายใจ

 

ในชีวิตก่อนหน้า เขาทําภารกิจที่เกี่ยวกับเซียหลินเป็นส่วนใหญ่ เขาไม่พบสิ่งนี้ หลังจากทดลองรับภารกิจนี้ เขาพบว่าเขาไม่สามารถมองเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ของมัน

 

แท้จริงแล้วราชันกิ่งก่าเพลิงพยัคฆ์มีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก

 

มันกินเกลือและทราย นั่นทําให้น้ําทะเลบริสุทธิ์

 

บริเวณที่ราชันกิ่งก่าเพลิงพยัคฆ์อาศัยอยู่ น้ําทะเลสามารถดื่มได้โดยตรง

 

หากเป็นไปได้ฟางหยวนจะไม่ฆ่าราชันกิ่งก่าเพลิงพยัคฆ์ตัวนี้ หากเขาทําสามารถให้มันสงบลง เขาจะได้รับแต้มบุญมากขึ้น

 

แต่สถานการณ์ปัจจุบันเห็นได้ชัดว่ามันเป็นไปไม่ได้

 

ฟางหยวนไม่มีทางเลือกนอกจากต้องฆ่ามัน

 

ศพของราชนกิ่งก่าเพลิงพยัคฆ์ถือเป็นกําไรของฟางหยวน เขาสามารถเก็บมันไว้ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่เหรินซิ่วผิงถูกส่งกลับไปยังหอคอยเกียรติยศ

 

คนกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันอยู่ที่นี่ก่อนแล้ว

 

เมื่อพวกเขาเห็นการมาถึงของเหรินซิ่วฝั่ง เฉินเซียวก็เปิดปากกล่าว “ยินดีด้วยน้องเหริน ตอนนี้อันดับของเจ้าอยู่บนจุดสูงสุดของหอคอยเกียรติยศแล้ว”

 

“อา…นี่เป็นไปได้อย่างไร?” เหรินซิ่วผิงไม่เชื่อในตอนแรกแต่หลังจากเห็นมันด้วยตาของตนเอง เขาทั้งประหลาดใจและยินดี

 

ชื่อของเขาอยู่ในอันดับหนึ่ง กระทั่งเฉินกงเจิ้งก็ยังเป็นเพียงที่สอง

 

ใบหน้าของเฉินกงเพิ่งค่อนข้างมืดมนเล็กน้อย

 

เหรินซิ่วผิงมองเฉินกงเจิ้งอย่างระมัดระวัง เขาสามารถเอาชนะผู้อมตะระดับแปดแต่มันก็ทําให้เขารู้สึกกังวลเล็กน้อย

 

เฉินกงเจิ้งมองเหรินซิ่วผิง

 

เหรินซิ่วผิงเร่งป้องหมัดและโค้งคํานับ “นายท่าน”

 

เฉินกงเจิ้งพยักหน้า “เหรินซิ่วผิง ในความคิดเห็นของเจ้า ชูอิงแลกเปลี่ยนสิ่งใดที่ท่าให้อันดับของเขาตกลงไปอยู่ในอันดับสุดท้าย?”

 

เหรินซิ่วผิงปืนงงก่อนที่เขาจะตระหนักว่าชื่อของฟางหยวนอยู่ในอันดับสุดท้าย เขาขมวดคิ้ว “ชูองยอมสละแต้มบุญของเขา แน่นอนว่าสิ่งที่เขาแลกเปลี่ยนต้องมีประโยชน์มากสําหรับเขา”

 

หากมันมีประโยชน์กับเขา มันก็ควรมีประโยชน์กับคนอื่นๆเช่นกัน

 

แต่มันคือสิ่งใด?

 

กลุ่มผู้อมตะพูดคุยกันมาระยะหนึ่งแล้ว

 

ด้วยแสงสีขาว ฟางหยวนปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าทุกคนอีกครั้ง

 

ในเวลาเดียวกันอันดับของเขาบนหอคอยเกียรติยศก็พุ่งขึ้นสู่อันดับหนึ่งอีกครั้ง

 

ชูอิง เก้าสิบแปดแต้ม!

 

กลุ่มผู้อมตะกลายเป็นพูดไม่ออก