บทที่ 1895 ภารกิจระดับกลาง

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1895 ภารกิจระดับกลาง

 

ภารกิจระดับต่ําจะได้รับแต้มบุญระหว่างหนึ่งถึงสิบแต้ม ภารกิจระดับกลางจะได้รับแต้มบุญระหว่างสิบถึงหนึ่งร้อยแต้ม

 

ฟางหยวนแลกเปลี่ยนป้ายตําแหน่งคนดี นี้ทําให้เขาสามารถรับภารกิจระดับกลาง

 

ภารกิจระดับกลางคือภารกิจระดับอมตะเช่นการปราบปรามราชันกิ่งก่าเพลิงพยัคฆ์ซึ่งเป็นสัตว์อสูรเดียวดาย แต่มันมีพลังการต่อสู้ระดับสัตว์อสูรบรรพกาล

 

ความยากของภารกิจนี้เกินขอบเขตของมนุษย์ไปไกลมาก

 

แต่ยิ่งยากก็ยิ่งได้รับรางวัลมากขึ้น

 

“ครั้งนี้ข้าได้แต้มบุญมากกว่าเก้าสิบแต้ม… ฟางหยวนคิด สาเหตุที่ข้าไม่ได้หนึ่งร้อยแต้มเพราะข้านศพของราชันกิ่งก่าเพลิงพยัคฆ์กลับมา หากข้าทิ้งมันไว้ พลังงานแห่งเต๋จากซากศพของมันจะช่วยสนับสนุนสภาพแวดล้อม

 

ฟางหยวนทําเรื่องนี้โดยเจตนา

 

เขาอยากรู้เหตุผลที่ราชันกิ่งก่าเพลิงพยัคฆ์ตัวนี้อาละวาด ดังนั้นเขาจึงน่าศพของมันออกมาเพื่อค้นคว้า

 

ชีวิตก่อนหน้ากลุ่มของเสี่ยวหมิงเฉินพบสถานการณ์เดียวกันนี้หลายครั้ง พวกเขาร่วมมือกันค้นคว้าแต่ไม่พบสาเหตุที่อยู่เบื้องหลัง คราวนี้ฟางหยวนต้องการค้นคว้ามันด้วยตนเอง

 

กลุ่มผู้อมตะมองฟางหยวนสลับกับหอคอยเกียรติยศ การแสดงออกของพวกเขาค่อนข้างน่าเกลียด

 

พวกเขาทํางานหนักแต่กลับได้แต้มบุญน้อยมาก ในทางตรงข้าม ฟางหยวนได้รับแต้มบุญมากกว่าเก้าสิบแต้มในภารกิจเดียว

 

ความแตกต่างนี้ทําให้ทุกคนโกรธ

 

แม้มันจะเป็นภารกิจง่ายๆแต่พวกเขายังต้องใช้เวลาค่อนข้ามาก

 

เมื่อเห็นแต้มบุญของฟางหยวน ช่วยไม่ได้ที่กลุ่มผู้อมตะจะรู้สึกอิจฉา บางคนอยากรู้อยากเห็นขณะที่บางคนรู้สึกสิ้นหวัง

 

ด้วยความเร็วนี้ พวกเขาจะตามฟางหยวนทันได้อย่างไร

 

ฮวาตี้มองเมียวหมิงเฉินและต้องการให้เจ้านายของนางถามฟางหยวนเกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามเมียวหมิงเฉินกลับส่ายศีรษะ

 

เฉินกงเจิ้งมองเฉินเซียว

 

เฉินเซียวไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเดินเข้าไปฟางหยวน

 

“พี่ช” เขาป้องหมัดกล่าว “เพียงบอกราคามา ตราบเท่าที่ขาสามารถจ่าย ข้าจะทําให้ท่านพอใจ”

 

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบาง “พวกเจ้าอยากรู้ว่าข้าได้รับแต้มบุญมากมายได้อย่างไรใช่หรือไม่?

 

“เป็นเช่นนั้น” เฉินเซียวป้องหมัดอีกครั้ง “ข้าหวังว่าพี่ชูจะสามารถชี้แนะพวกเรา อย่ากังวล ด้วยรากฐานของตระกูลเฉิน เราจะไม่ทําให้ท่านผิดหวัง นอกจากนี้ท่านยังจะกลายเป็นสหายของตระกูลเฉินอีกด้วย”

 

ก่อนหน้านี้ตระกูลเฉินใช้วิธีบังคับฟางหยวนแต่เขาไม่แยแสและแสดงท่าที่เย่อหยิง ดังนั้นตอนนี้เฉินเซียวจึงเปลี่ยนกลยุทธ์เป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์

 

ฟางหยวนหัวเราะ “ได้ ใช้มรดกที่แท้จริงของตระกูลเฉินแลกเปลี่ยนกับมัน”

 

การแสดงออกของเฉินกงเจิ้งเปลี่ยนไปทันที เขาต้องเปิดปากถาม “เจ้าต้องการมรดกที่แท้จริงใด?”

 

“มันขึ้นอยู่กับท่าน หากมันไม่ใช่มรดกอมตะก็ลืมไปซะ” ฟางหยวนกล่าวอย่างไม่แยแส

 

ริมฝีปากของเฉินกงเจิ้งกระตุก

 

เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อนจะโยนวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลออกไป

 

ฟางหยวนรับมันไว้และตรวจสอบเนื้อหา มันเป็นมรดกอมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สมบูรณ์ ส่วนที่มีค่าของมันยังอยู่กับเฉินกงเจิ้ง

 

ฟางหยวนโยนวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลกลับไปให้เฉินกงเจ๊ง “ต่อไป”

 

เฉินกงเจิ้งลบข้อมูลเก่าและบรรจุข้อมูลใหม่เข้าไปในวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูล แน่นอนว่ามันไม่ใช่มรอกที่สมบูรณ์เช่นกัน

 

ฟางหยวนตรวจสอบก่อนจะโยนมันกลับไปให้เฉินกงเจิ้งอีกครั้ง “ต่อไป”

 

เฉินกงเจิ้งมองฟางหยวนและกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ชูอิง เจ้าต้องการดูมากเท่าใด?”

 

การแสดงออกของฟางหยวนเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมเช่นกัน “อย่ากังวล ข้าชูอิงมีหลักการของตนเอง ข้าไม่ใช่คนกลับกลอก คนที่ปฏิบัติต่อผู้อื่นเหมือนคนโง่ก็คือคนโง่ เช่นนั้นหากท่านมอบหอยสังข์คลื่นเสียงให้ข้า ข้าจะบอกท่านว่าข้าได้รับแต้มบุญมากมายได้อย่างไร?”

 

“ได้ ข้าจะเชื่อเจ้าสักครั้ง” เฉินกงเจิ้งไม่ลังเล เขาหยิบหอยสังข์ออกมาจากมิติช่องว่างและโยนให้ฟางหยวน

 

ฟางหยวนตรวจสอบหอยสังข์อย่างละเอียด เมื่อไม่พบสิ่งผิดปกติ เขาก็เก็บมันเข้าไปในมิติช่องว่างจักรพรรดิ์

 

นี่เป็นทรัพยากรอมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งเสียงที่หายาก

 

เขามองเฉินกงเจิ้งและเผยรอยยิ้ม “เอาล่ะ ข้าจะบอกความลับแก่ท่าน ท่านต้องการให้ข้าบอกท่านเพียงคนเดียวหรือเปิดเผยมันต่อหน้าทุกคน”

 

การแสดงออกของเฉินกงเจิ้งกลายเป็นมืดครื้ม

 

เขาลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเผยรอยยิ้ม “มีสิ่งใดต้องปิดบัง พูดออกมาได้เลย”

 

เขาเป็นผู้นําตระกูลเฉินมานานหลายปี เขามีทักษะทางการเมืองที่ไม่ธรรมดา เรื่องนี้จะทําให้ผู้อมตะคนอื่นๆพัฒนาความรู้สึกที่ดีต่อเขา

 

เสี่ยวหมิงเฉินคิด “ไม่มีข้อตกลงใดๆ เฉินกงเจิ้งไม่สามารถหยุดชูอิง ขณะที่ชอิงพยายามหว่านความบาดหมาง! เขาสามารถบอกเฉินกงเจิ้ง เขาก็สามารถบอกคนอื่นเช่นกัน เฉินกงเจิ้งตระหนักถึงจุดนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเปิดเผยมันต่อสาธารณะ

 

“ดี ความเอื้ออาทรของท่านเฉินช่างน่าชื่นชมนัก” ฟางหยวนหันหลังกลับและวางมือลงบนหอคอยเกียรติยศ

 

ภารกิจใหม่ปรากฏขึ้นอีกครั้งแต่พวกมันแตกต่างไปจากเดิม

 

พวกมันเป็นภารกิจระดับอมตะ!

 

กลุ่มผู้อมตะตกตะลึง

 

หลังจากทั้งหมดภารกิจเหล่านี้แตกต่างจากภารกิจของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง

 

เฉินเซียวมองด้วยดวงตาส่องประกาย “นี่เป็นภารกิจที่คู่ควรกับผู้อมตะ!”

 

ภารกิจระดับต่ําก่อนหน้านี้เป็นภารกิจระดับมนุษย์ทั้งหมด พวกมันไม่สามารถเปรียบเทียบกับภารกิจเหล่านี้

 

เฉินเซียวเลียนแบบฟางหยวนโดยการวางมือลงบนหอคอยเกียรติยศ แต่เขากลับแสดงออกด้วยความสับสน “เหตุใดข้าจึงไม่ได้รับภารกิจเหล่านั้น?”

 

“แน่นอนว่าไม่ ข้าใช้แต้มบุญร้อยแต้มเพื่อรับภารกิจเหล่านี้” ฟางหยวนยิ้ม

 

กลุ่มผู้อมตะหันหน้าไปทางฟางหยวนอย่างรวดเร็ว

 

แต่ฟางหยวนกลับหุบปาก

 

เฉินเซียวเริ่มกระวนกระวาย เขาป้องหมัดขึ้น “พี่ชู โปรดชี้แนะพวกเราด้วย”

 

ฟางหยวนมองเฉินเซียวด้วยท่าทางเย้ยหยัน “เหตุใดข้าต้องบอกเจ้า?”

 

เฉินเซียวตกตะลึง “เราทําข้อตกลงกันก่อนหน้านี้”

 

“ข้ารู้ พวกเจ้าถามว่าข้าได้รับแต้มบุญมากมายมาได้อย่างไร? ข้าทําธุรกรรมเสร็แล้วและบอกเหตุผลกับพวกเจ้าแล้วว่าข้าได้รับมันมาจากภารกิจเหล่านี้ สําหรับวิธีการรับภารกิจเหล่านี้ มันเป็นอีกคําถามหนึ่ง” ฟางหยวนกล่าว

 

ทุกคนตกตะลึง

 

กลุ่มผู้อมตะตระกูลเฉินเต็มไปด้วยความโกรธ

 

เฉินเซียวหัวเราะ “พี่ชูมีความสามารถด้านการค้าจริงๆ คําตอบเดียวของท่านทําให้ท่านได้รับทรัพยากรอมตะระดับเจ็ดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตระกูลเฉิน”

 

ฟางหยวนพยักหน้า “หอยสังข์คลื่นเสียงของตระกูลเฉินเป็นสิ่งพิเศษ ข้าได้รับประโยชน์จากการทําธุรกรรมครั้งนี้จริงๆ แต่ข้าไม่ได้โกหกพวกเจ้า ข้าไม่ได้ให้ข้อมูลเท็จกับพวกเจ้า ข้าชูอิงไม่ใช่คนเช่นนั้น”

 

ฟางหยวนแสดงออกราวกับผู้มีคุณธรรมสูงส่ง มันทําให้ผู้อมตะทั้งหมดรู้สึกเดือดดาลไปด้วยความโกรธ

 

เฉินกงเจิ้งโกรธมาก เขาเป็นผู้อมตะระดับแปดที่ยิ่งใหญ่ แต่เขากลับถูกล้อเล่นโดยผู้บ่มเพาะสันโดษระดับเจ็ดที่ไร้ชื่อเสียง

 

“หลังจากออกไป ข้าจะตอบแทนเจ้าอย่างสาสม!” เฉินกงเจิ้งสาบานกับตนเองอยู่ในใจแต่เขากลับหัวเราะและปรบมือ “ชูอิง น่าประทับใจ เจ้ามีทั้งไหวพริบและความสามารถ อย่ากังวล ตระกูลเฉินของข้าไม่สนใจเรื่องเล็กๆน้อยๆ มาทําข้อตกลงกันใหม่ บอกข้าว่าเจ้าต้องการสิ่งใดเพื่อแลกเปลี่ยนกับวิธีรับภารกิจเหล่านี้”

 

อย่างไรก็ตามฟางหยวนกลับส่ายศีรษะ “ข้าไม่ขายข้อมูลนี้ พวกท่านสามารถทดลองด้วยตนเอง”

 

เฉินกงเจิ้งเบิกตากว้าง “ชูอิง ข้าหวังว่าเจ้าจะคิดเรื่องนี้ให้ดี!”

 

ฟางหยวนไม่สนใจเขาและหายตัวไปทันที

 

เฉินกงเจิ้งหน้าซีด ชูอิงไม่ไว้หน้าเขาแม้แต่น้อย

 

ชูอิง อย่าให้ข้าพบเจ้าข้างนอก!” เฉินกงเจ๊งคารามอยู่ภายใน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพบผู้อมตะระดับเจ็ดที่ไม่ แยแสเขาแม้แต่น้อย

 

ฟางหยวนจําเป็นต้องรักษาความได้เปรียบของเขาเอาไว้ สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อแผนการพิชิตสวรรค์วาฬมังกรฟ้าของเขา

 

สาหรับเฉินกงเจิ้งและคนอื่นๆ ฮ่าฮ่า ข้าไม่เชื่อว่าพวกเจ้าจะอยู่ร่วมกันได้” ฟางหยวนเย้ยหยันอยู่ในใจ แผนหว่านความไม่ลงรอยของเขาไม่ได้ผลก่อนหน้านี้ เพราะมันเป็นการเคลื่อนไหวเล็กๆน้อยๆ แต่ครั้งนี้เขาขุดหลุมขนาดใหญ่เอาไว้ นอกจากนั้นเขาก็ไม่กลัวว่าเฉินกงเจิ้งจะไม่กระโดดลงไป

 

ฟางหยวนต้องการความช่วยเหลือจากภายนอก เขาต้องแยกกลุ่มผู้อมตะออกจากกัน

 

เขาสามารถทําภารกิจระดับกลางได้ด้วยตนเอง แต่หลังจากภารกิจระดับกลาง เขาต้องทําภารกิจระดับสูงขึ้น

 

ภารกิจระดับสูงขึ้นไปต้องใช้ความร่วมมือระหว่างผู้อมตะหลายคน

 

แม้ฟางหยวนจะมีลูกน้องซ่อนอยู่ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ แต่พวกเขาไม่สามารถให้ความช่วยเหลือฟางหยวนในถ้ําสวรรค์วาฬมังกรฟ้าแห่งนี้ นี่คือการจัดเตรียมของเทพอมตะสวรรค์พิภพ

 

มีเพียงผู้อมตะที่ผ่านการทดสอบเท่านั้นที่สามารถท่าภารกิจ

 

หลังจากฟางหยวนจากไป บรรยากาศด้านหน้าหอคอยเกียรติยศก็เปลี่ยนแปลงไป

 

เฉินกงเจิ้งประกาศคําร้องขอที่ค่อนข้างรุนแรง เขาต้องการให้ผู้อมตะทั้งหมดใช้แต้มบุญของพวกเขาเพื่อแลกเปลี่ยนสมบัติเหล่านั้น

 

เฉินกงเจิ้งเดิมพันว่าหนึ่งในสมบัติเหล่านั้นจะเป็นสิ่งที่ฟางหยวนแลกเปลี่ยนไปก่อนหน้านี้

 

เนื่องจากฟางหยวนไม่ได้บอกพวกเขา พวกเขาจึงต้องทดลองด้วยตนเอง

 

เมียวหมิงเฉินและคนอื่นๆไม่เต็มใจทําเช่นนั้นแต่พวกเขาไม่มีทางเลือก พวกเขาต้องคํานึงถึงอนาคตและไม่สามารถต่อต้านผู้อมตะระดับแปดผู้นี้