มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 795
“รอบก่อนที่เขาฆ่าคนอื่นไปทั่ว อีกทั้งยังฆ่าผู้คนฝีมือดีของแดนศักดิ์สิทธิ์ไปมากมาย อีกทั้งมหาจักรพรรดิยุทธ์ของตำหนักดารานภา อีกทั้งลมรอบนี้ยังไม่ทันพัดผ่านไป เขาก็ลงมืออีกครั้ง โดยที่ครั้งนี้ได้ฆ่าผู้อาวุโสท่านหนึ่งของเผ่าหงส์ไป”

เจ้าแดนหลิวได้แต่เดินไปเดินมา ก่อนที่หางตาจะคอยเหลือบมองไปที่เทวทูตจื่อเยียน

ในรอบก่อนที่มีเทวทูตมากมายจากแดนเบื้องบนลงมา เจ้าแดนหลิวนั้นมาจากโลกแสงดาว อีกทั้งยังเป็นเผ่ามนุษย์ ในมุมมองของผลประโยชน์ แน่นอนว่าจะต้องเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์

“พวกมดเหล่านี้ ฆ่าไปแล้วก็ฆ่าไปเถอะ” เทวทูตจื่อเยียนพูดมาอย่างไม่เต็มใจ

“ข้าพูดว่าเทวทูตผู้ใหญ่ เจ้าพูดออกมาได้อย่างง่ายดายมาก ตั้งแต่จากที่ภัยพิบัติโบราณนั้นผ่านไป พวกเราเผ่ามนุษย์ไม่ง่ายเลยที่จะปรากฎเจ้ายุทธจักรและมหาจักรพรรดิยุทธ์อย่างในสมัยก่อนยังอยาก ถ้าหากถูกฆ่าไปอีกไม่กี่คน ถ้าอย่างงั้นก็จะสูญเสียไปมากกว่าเดิม” เจ้าแดนหลิวพูดยิ้มอย่างฝืนๆ

“ถ้าหากไม่มีข้า ในรอบที่ภัยพิบัติโบราณนั้น พวกเจ้าเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็คงจะถูกเผ่ามารยึดครองไปแล้ว”เทวทูตจื่อเยียนยิ้มๆ “ในส่วนที่เกี่ยวข้องเรื่องที่เกี่ยวกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ เจ้าหาวิธีจัดการเองก็แล้วกัน”

ถึงแม้เรื่องที่จะจัดการกับหลัวซิวนั้น เทวทูตจื่อเยียนไม่ได้เอ่ย แต่เจ้าแดนหลิวก็รู้ทราบดีว่า เทวทูตเบื้องบนนั้นฝากฝังความหวังอันสูงส่งไว้กับหลัวซิว

“ถ้าหากว่าเขานั้นได้ล้มลงระหว่างการต่อสู้ ถ้าอย่างงั้นเขาก็สมควรตาย เพราะว่าการที่นักรบที่แข็งแกร่งปรากฏตัวนั้นก็มาจากการต่อสู้ประสบการณ์มากมาย ที่ต่อสู้จนเกิดการเติบโตและพัฒนา”

เทวทูตจื่อเยียนพูดเอ่ยช้า “แต่ว่าที่ข้าพูดไม่ดีก็แค่ตอนแรก ถ้าหากมีคนไม่ทำตามกฎเกณฑ์ล่ะก็ ข้าจะบดขยี้ฆ่าเขาสะ การที่จะอยู่รอดต่อไปของเผ่าพันธุ์มนุษย์ ”

“เป็นเช่นนี้เอง ถ้าอย่างงั้นข้าผู้อาวุโสที่แก่ขนาดนี้จะไปดูด้วยตนเอง”

เจ้าแดนหลิวยิ้มเจื่อนๆ ก่อนที่จะเดินออกจากสำนัก ก่อนที่จะใช้มือโบกสะบัดเพื่อเปิดดูข้อความ ก่อนที่จะออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์

ก่อนที่จะปิดกั้นตัวเอง ตลอดระยะเวลาครึ่งเดือน หลิวซิวก็ได้ฆ่าเจ้ายุทธจักรแห่งเผ่าหงส์ไปอีกสามคน

โดยหนึ่งคนนั้นคือเจ้ายุทธจักรขั้นปลาย และอีกสองคนคือจยุทธจักรขั้นกลาง

จนถึงตอนนี้ คนของเผ่าหงส์ที่ถูกฆ่าด้วยน้ำมือของเขานั้น รวมๆกันแล้วเกือบสิบกว่าคนแล้ว

เมื่อจักรพรรดิหงส์ได้ทราบเรื่องก็โกรธแค้นเป็นอย่างมาก ก่อนจะออกคำสั่งให้ไปไล่ล่าฆ่าหลัวซิว

หลัวซิวรู้ดีว่าเขานั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้ายุทธจักรหงส์ ดังนั้นเขาจึงได้แต่หาที่หลบซ่อนตัวอยู่บนภูเขาป่าทึบ ถึงแม้เจ้ายุทธจักรหงส์จะมีความสามารถมากมายขนาดไหน ก็ยากที่จะหาเขาพบ

เขานั้นเชี่ยวชาญวิชาเวทมนตร์ต่างๆเป็นอย่างมาก ก่อนที่เขาจะหาสถานที่ที่หลบซ่อนดีๆในกลางป่า ก่อนที่จะร่ายเวทมนตร์บัง ถ้าหากใครจะมาหาเขาหละก็ ก็ราวๆเท่ากับว่างมเข็มในมหาสมุทร

ในวันนี้ หลัวซิวนั้นได้ทำการเปิดปากถ้ำที่มีกฎความตายดั้งเดิม

ก่อนที่เขาจะรู้สึกแปลกๆและหวาดกลัวก่อนจะลืมตาขึ้นมา จากนั้นจึงแสดงอารมณ์ออกมาอย่างเคร่งขรึมก่อนรู้สึกถึงคลื่นอันอ่อนแอ

ในตอนที่เขาลืมตาขึ้นไม่รู้ว่ามีเงาตอนไหน ที่มาอยู่ภายเบื้องหน้าของเขาแล้ว

ในตอนนี้ หลัวซิวเขาก็ได้รู้สึกถึงขนทั้งตัวของเขาตั้งตรงขึ้น ไม่คิดว่าจะมีใครที่ไม่ส่งเสียงส่งสารที่พยายามแหวกเวทมนตร์รุกเข้ามาได้ในที่ของตน อีกทั้งยังมาอยู่ตรงหน้าอีกด้วย?

ไม่ว่าอย่างไรตอนที่หลัวซิวกำลังมองไปที่ใบหน้าของคนผู้นี้ อดไม่ได้ที่จะแสดงสีน่าตกใจ“ผู้อาวุโส ท่านมาได้อย่างไร?”

สายตาของหลัวซิวที่ถูกดึงดูด คือชายชราที่มีรูปร่างที่แข็งแกร่ง ที่ออกมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ ที่มาหาหลัวซิวเจ้าแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์โดยเฉพาะ เจ้าแดนหลิว

“หึ เจ้าเด็กน้อยที่เจ้าใกล้จะทำให้บนท้องฟ้ากลายเป็นหลุมถ้ำอยู่แล้ว ข้าจะมาไม่ได้หรือยังไง”เจ้าแดนหลิวพูดอย่างเคืองๆ

แต่ทว่าในเวลานี้ เข้าได้สังเกตเห็นถึงว่าหลัวซิวนั้นได้ฝึกวิชาจนสามารถที่จะไปแดนแดนมหายุทธ์ได้แล้ว อีกทั้งยังมีออร่าของกฎบนตัวเขานั้นได้เกิดความแปนปรวนไปเป็นอย่างมาก

“ตั้งแต่ออกมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ประมาณปีกว่าๆ เจ้าเด็กนี่ทำไมถึงได้พัฒนาได้เร็วขนาดนี้?”เจ้าแดนหลิวตกใจมาก อีกทั้งในตอนที่ยังไม่เคยเข้าไปในดินแดนมหายุทธ์ พลังของหลัวซิวสามารถที่จะต่อสู้ตีเสมอกับเจ้ายุทธจักรในขั้นแรกได้ ถ้าหากวันนี้สามารถไปถึงแดนมหายุทธ์ ไม่แปลกใจหากเขาจะสามารถฆ่าเจ้ายุทธจักรขั้นปลายได้