เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1189

ลู่ฝานอ้าปากค้าง เขาไม่ได้คิดถึงจุดนี้

มีเงินแล้วอวดรวยตามใจชอบจริงๆ!

คนเยอะแยะขนาดนี้เบียดกันจนจะท้องแล้ว พวกเขายังสามารถเหลือที่ไว้เพราะไม่อยากให้ใครรบกวน

ลู่ฝานลุกขึ้นอย่างกระอักกระอ่วน คารวะแล้วพูดว่า “ขอโทษด้วย ฉันไร้เหตุผลเอง!”

พูดจบ ลู่ฝานรีบไปอย่างรวดเร็ว เขาเบียดเข้ามาในกลุ่มคนอีกครั้ง

ผู้หญิงกัดฟันพูดว่า “ไอ้หมอนี่คือใคร ความสามารถไม่แย่เลย โดนฝ่ามือของฉันไป คิดไม่ถึงว่าจะไม่ได้ผลอะไรเลย”

ผู้อาวุโสก็แววตาวูบไหวเช่นกัน “เป็นเด็กที่เก่งจริงๆ! คุณหนู ดูเหมือนยอดฝีมืออายุน้อยของประเทศอู่อาน ไม่ได้มีแค่พวกคนที่กำลังแข่งขันกันอยู่”

ผู้หญิงพยักหน้าพูดว่า “แบบนี้สิดี เห็นได้ชัดว่าการเดินทางครั้งนี้ไม่สูญเปล่า!”

ลู่ฝานหลบซ้ายหลบขวา ในที่สุดก็เบียดกลุ่มคนมาถึงด้านหน้าสุด

ปล่อยปราณชี่ออกมาบนตัวเล็กน้อย แยกกลุ่มคนรอบตัวออกเล็กน้อยโดยอัตโนมัติ ในที่สุดลู่ฝานถึงกับถอนหายใจออกมา

ตรงนี้เป็นตำแหน่งที่ยอดเยี่ยมมาก จากความสามารถในการมองเห็นของลู่ฝาน เห็นทุกรายละเอียดบนสนามบู๊อย่างชัดเจน

ในสนามบู๊ การต่อสู้ของถานไถเก๋อกับนักบู๊คนนั้น เข้าสู่ช่วงสุดท้ายแล้ว

ไม่เสียแรงที่ถานไถเก๋อเป็นผู้สืบทอดของสิบตระกูลใหญ่อย่างตระกูลถานไถ ฝีมือพัดเมฆเพลิงถึงจุดสูงสุดของความสมบูรณ์แบบ โจมตีจนนักบู๊แดนปราณดินคนที่อยู่ข้างหน้า ไม่มีโอกาสได้โจมตีกลับเลย!

โจมตีติดต่อกันสามกระบวนท่า หงส์เพลิงบินออกมาจากพัดเมฆเพลิง แผดเผาจนเกราะปราณของคู่ต่อสู้แตกกระจาย ไหม้เกรียมทั้งตัว

ฝ่าเท้าหมุนวนกลางอากาศ ถานไถเก๋อลอยลงมาบนพื้นอย่างสง่างามมาก เรียกเสียงเชียร์จากทุกคนเพิ่มขึ้นอีก

ลู่ฝานก็ปรบมือเบาๆ เช่นกัน วิทยายุทธของถานไถเก๋อไม่เลวจริงๆ

หลังจากนั้นนักบู๊คนอื่นก็พากันเข้ามาในสนาม

ในบรรดานั้นมีคนที่ลู่ฝานเคยได้ยิน อย่างเช่น คนในสิบตระกูลใหญ่อย่างสือเฉิน สุ่ยสือฉวน หลิ่วเจิน สิ่งที่แสดงให้เห็นไม่ธรรมดาเลย

ส่วนคนบางส่วนที่ลู่ฝานไม่เคยได้ยินมาก่อน อย่างเช่น เฟิงเสี่ยวชี่ ถังชิง ก็เก่งมากเหมือนกัน

เมื่อเข้าสู่รอบที่สาม ยอดฝีมือที่เก่งกาจอย่างแท้จริง ต่างพากันปรากฏตัวออกมาสินะ

ลู่ฝานมองแล้วยิ้มตาหยี นี่สิถึงจะทำให้เขารู้สึกถึงบรรยากาศของการคัดเลือกจริงๆ การต่อสู้ก็ต้องอารมณ์ดุเดือดไม่ใช่หรือไง!

ไม่รู้ดูอยู่นานแค่ไหน จู่ๆ หัวหน้าองครักษ์เกราะทองตะโกนว่า “รอบสุดท้าย หมายเลข 124 สู้กับหมายเลข 107 อู่จุนแห่งโลกจู๋หลงสู้กับหลั่งหย่งเขตสุยหยาง!”

ขณะนั้นเอง เจดีย์เสวียนเก้ามังกรโผล่ออกมา ตะโกนพูดเสียงดังว่า “โลกจู๋หลง เมื่อกี้มีคนตะโกนชื่อโลกจู๋หลงใช่ไหม! เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ ไอ้เลวแห่งโลกจู๋หลงตามมาฆ่าเหรอ รีบหนีเร็ว!”

ลู่ฝานพูดในใจอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ดูท่าทางไม่เอาไหนของแกสิ โลกจู๋หลงคืออะไร”

เจดีย์เสวียนเก้ามังกรรีบตอบว่า “เจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ เจ้านายลืมเรื่องที่สือฟางพูดกับเจ้านายตอนนั้นแล้วเหรอ โลกจู๋หลงไง พวกคนที่ฆ่าสือฟางตายไง!”

ลู่ฝานขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็คิดออก

ใช่แล้ว ตอนอยู่ที่สถาบันสอนวิชาบู๊ ตอนที่เซียนสือฟางถ่ายทอดทุกอย่างให้เขา เคยพูดถึงโลกจู๋หลงด้วย เหมือนเคยพูดชื่อใครสักคนออกมาด้วย บอกให้เขาฆ่าให้ตาย

“ฉันจำได้ เซียนสือฟางบอกให้ฉันฆ่าคนที่ชื่อว่าอู่ชิงเฉิงใช่ไหม!”

เจดีย์เสวียนเก้ามังกรพูดว่า “ใช่ เจ้านาย ที่แท้เจ้านายก็ยังไม่ลืม!”

ขณะกำลังพูด วัยรุ่นที่ชื่ออู่จุนเด้งตัวลงมาจากเจดีย์สูง ลงมาในสนามบู๊ ทักทายรอบๆ ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม อีกทั้งยังส่งจูบไม่หยุดด้วย ดูหลงตัวเองมาก

พูดแบบไม่มีอคติ อู่จุนรูปร่างหน้าตาไม่เลวเลย รูปร่างกำยำ หน้าตาดูดีเหมาะสม ดูมีพลังแข็งแกร่ง มีดาบยาวอยู่ที่เอวหนึ่งเล่ม ด้านบนสลักคำว่าจู๋หลง มีความแวววาวส่องออกมาเล็กน้อย ดูเหมือนไม่ใช่อาวุธวิเศษธรรมดาๆ