ตอนที่ 858: เทพเจ้าของเผ่าทะเล

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 858: เทพเจ้าของเผ่าทะเล

วัตถุเซียนสั่นไหวอย่างรุนแรงในมือของหลิงหยางซี มันต้องการที่จะสลัดให้หลุด แต่ไม่ว่ามันจะพยายามสักแค่ไหนก็ไม่สำเร็จ มือของหลิงหยางซีดูเหมือนกับกรงเล็บเหล็กที่จับวัตถุเซียนเอาไว้แน่น

หลิงหยวนซีที่กระเซอะกระเซิงจ้องอย่างดุร้ายไปที่วัตถุเซียนในมือ เขาหัวเราะออกมาเสียงดัง “ข้าไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะมีสมบัติที่สามารถเก็บคนมีชีวิตไว้ด้านในได้ จากนี้เป็นต้นไป สมบัตินี้เป็นของข้า เจี้ยนเฉิน เจ้าทำให้วิญญาณดั้งเดิมของข้าบาดเจ็บ ข้าจะเอาสมบัติของเจ้าไปเป็นการแลกเปลี่ยน”

ฮึ่ม !

การสั่นไหวของวัตถุเซียนรุนแรงขึ้น มันเริ่มที่จะเปล่งประกายแสงสีทองสว่างมากขึ้นแต่มันก็ไร้ประโยชน์ แม้ว่าวัตถุวิญญาณจะมีความแข็งแกร่งถึงขั้นเซียนจักรพรรดิภายในมิติของวัตถุเซียน แต่ความสามารถด้านนอกมิติของมันก็อ่อนแอเกินไปเนื่องจากขีดจำกัดโดยกำเนิด แม้แต่เซียนผู้คุมกฎยังสามารถกักขังมันได้ อย่าว่าแต่เซียนราชาขั้นสูงเลย

“เจี้ยนเฉิน ยอมแพ้ซะ ข้าอยากจะดูว่าเจ้าจะหนีข้ายังไงคราวนี้ เมื่อข้านำเจ้ากลับไปที่ตระกูล ข้าจะหาวิธีทุกอย่างในโลกเพื่อจัดการกับเจ้า” หลิงหยวนซีเหยียดออกมา เขาปกคลุมไปด้วยพลังเซียนที่ทรงพลัง เขายึดวัตถุเซียนเอาไว้ที่ฝ่ามือของเขาก่อนที่จะเหวี่ยงมันไปที่มืออีกหนึ่งข้าง เขาแหวกมิติและสร้างประตูมิติขึ้นมา และเขากำลังจะจากไป

ในตอนนี้เอง พลังที่กว้างใหญ่ไร้ขอบเขตได้ปรากฏขึ้นมาอย่างทันที มันพุ่งไปที่หลิงหยวนซีอย่างดุร้ายด้วยกลิ่นอายแห่งการทำลายล้าง

การปรากฏตัวของพลังงานนี้มาอย่างกะทันหัน มันพุ่งมาอย่างรวดเร็วและป้องกันไม่ให้หลิงหยวนซีหนีได้เลยแม้แต่น้อย มันยังพุ่งเป้าหมายไปที่พลังแห่งการมีอยู่ของหลิงหยวนซี เขาไม่สามารถหลบได้เลย

ในขณะเดียวกัน พลังงานที่น่ากลัวจากวิญญาณก็แทรกซึมในท้องฟ้าและพังทลายประตูมิติที่หลิงหยวนซีเปิดออก

หลิงหยวนซีคำรามออกมา เขาไม่สามารถกดอาการบาดเจ็บและโจมตีด้วยทุกอย่างที่เขามีไปยังทิศทางที่มีพลังงานมหาศาลที่พวยพุ่งออกมา

อาวุธเซียนของเขาระเบิดออกสว่างวาบและคลื่นพลังที่ยิ่งใหญ่ก็กระจายไปรอบ ๆ หลังจากนั้น เขาก็หลบคลื่นพลังนั้น การโจมตีที่น่ากลัวนี้ทำให้มิติถูกทำลายและรอยความมืดออกมา

ตู้ม !

หลิงหยวนซีเทียบไม่ได้เลยเมื่อการโจมตีทั้งสองได้ปะทะกัน เขาได้รับบาดเจ็บอย่างมากอีกครั้งและเขาลอยกระเด็นไปพร้อมกับกระอักเลือด ท่าทีของเขาน่ากลัวมาก และในตอนนี้เขาก็อ่อนแอมากเช่นกัน

วัตถุเซียนใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ในการหลุดจากการจับของหลิงหยวนซี มันเปลี่ยนไปเป็นแสงสีทองและหายไปที่มหาสมุทรกว้างใหญ่ด้านล่าง

หลิงหยวนซีตกตะลึง คนที่โจมตีเขาอย่าลับลับนั้นน่ากลัวมาก ความแข็งแกร่งนั้นเหนือกว่าเขาซึ่งทำให้เขาตกใจมาก

หลิงหยวนซียากที่จะลอยอยู่กลางอากาศ เขาดึงชิ้นหยกออกมาจากแหวนมิติของเขาอย่างรวดเร็วก่อนที่จะบีบมันแตกละเอียดอย่างไม่ลังเล จากนั้นเขาก็ผ่อนคลายลงอย่างมาก

“ข้าอยากรู้ว่าใครกันที่โจมตีอย่างลับ ๆ ออกมาและต่อต้านพวกเราตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบและทำลายสิ่งที่พวกเรากำลังทำอยู่” หลิงหยวนซีเริ่มมีความมั่นใจและตะโกนออกมาอย่างยากลำบาก

ไป่ยี่เฟยมาถึงตรงหน้าหลิงหยวนซีพร้อมกับไป่เจียน เขามองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง คนที่โจมตีมาอย่างลับ ๆ นั้นทรงพลังเกินไป แม้ว่าเขาจะอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด ไป่ยี่เฟยก็ไม่มั่นใจในชัยชนะที่แน่นอนได้ อย่าว่าแต่สภาพในตอนนี้เลย

ในตอนนี้เอง ร่างจาง ๆ ได้ปรากฏขึ้นร้อยเมตรห่างออกไปจากพวกเขาทั้งสาม นางเป็นหญิงที่สูงและผอมเพรียวในชุดสีฟ้าและดูเหมือนจะอายุยี่สิบกว่ากว่า ผมสีฟ้าของนางนั้นเหมือนน้ำตกที่ไหลไปที่เท้าของนาง หน้าของนางนั้นเบลอและเป็นภาพลวงตาทำให้ถูกเห็นได้ไม่ชัดเจนนัก ทั้งหมดทั้งมวล นางเปล่งกลิ่นอายเฉพาะตัวที่เป็นธรรมชาติออกมา มันเต็มไปด้วยความสูงส่งและศักดิ์สิทธิ์เหมือนว่านางไม่สามารถถูกแตะต้องได้ มันไม่ยอมให้ผู้อื่นวางท่าไม่เคารพนางจากก้นบึ้งของจิตใจได้

ทั้งไป่ยี่เฟยและหลิงหยวนซีตกตะลึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5 นี้เป็นเพราะหญิงที่เป็นปริศนาทำให้พวกเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกอยากยอมศิโรราบ

มันทำให้พวกเขาทั้งสองตกใจมากที่รู้สึกแบบนี้ แม้ว่าพวกเขาจะเผชิญหน้ากับเซียนจักรพรรดิอย่างเช่นมารราคะหรือจักรพรรดิเสือแลงคีรอส พวกเขาก็ไม่รู้สึกบางอย่างเหมือนแบบนี้

“เจ้าเป็นใครกัน ! ? ” หลิงหยวนซีตะโกนออกมา ความมั่นใจของเขาเริ่มที่จะหดหายไป เขารู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งและความน่ากลัวของหญิงปริศนานี้

“มนุษย์ เจ้าได้รุกล้ำเข้ามาในอาณาเขตของพวกเรา เผ่าพันธุ์ทะเล ออกไปเดี๋ยวนี้” ฟันที่เหมือนไข่มุกของหญิงที่เป็นภาพลวงตาเคลื่อนไหวเล็กน้อย เสียงของนางสงบและเยือกเย็นโดยไร้ความรู้สึกใดใด

หลิงหยวนซีตกตะลึง เขาถามด้วยเสียงแหบห้าว “เจ้าคือเซียนจักรพรรดิของเผ่าพันธุ์ทะเลอย่างนั้นหรือ?”

“ข้าคือเทพเจ้าของเผ่าพันธุ์ทะเล” เสียงของหญิงนั่นสงบเหมือนอย่างเคย

“อะไรนะ! เทพเจ้าแห่งท้องทะเล ! ? “

ไป่ยี่เฟยและหลิงหยวนซีหน้าซีดไปด้วยความหวาดกลัว พวกเขาโซเซถอยหลังไป ในขณะที่คลื่นอารมณ์ถาโถมไปยังหัวใจของพวกเขา

“ออกไปจากอาณาเขตของเผ่าพันธุ์ทะเลใน 3 วินาที” หญิงคนนั้นขีดเส้นตายไว้ก่อนที่นางจะหายไป นางอยู่ที่ไหนก็ไม่เห็นได้ในตอนนี้

อย่างไรก็ตาม การออกมาปรากฏตัวของนางสร้างความตกใจอย่างมากกับทั้งไป่ยี่เฟยและหลิงหยวนซี มันทำให้พวกเขานิ่งอึ้งอยู่กับที่ จิตใจของพวกเขาก็ค้างไปด้วย เมื่อพวกเขาได้สติ พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะอยู่ต่อนานกว่านี้ แล้วเจี้ยนเฉินล่ะ ? แล้วพยัคฆ์ปีกเทวะล่ะ ? ความคิดที่ผุดขึ้นมาในหัวของพวกเขา พวกเขาหนีเอาชีวิตรอดจากไป

เทพเจ้าแห่งท้องทะเลเป็นคนที่สุดยอดที่เหนือกว่าเซียนจักรพรรดิขึ้นไป ในยุคปัจจุบันนี้ ใครจะไปเป็นศัตรูกับนางได้ ?

ไม่นานหลังจากนั้น หลิงหยวนซีก็รวมกับคนอื่นจากนิกายยิหยวน เขาอธิบายทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้กับผู้อาวุโสคนอื่น

“อะไรนะ ? เทพเจ้าแห่งท้องทะเลยังไม่ตาย ? “

เมื่อได้ยินหลิงหยางซีรายงาน ผู้อาวุโสทั้งหมดก็หน้าซีดไปด้วยความหวาดกลัว พวกเขาตกตะลึง ข่าวชิ้นนี้เป็นเหมือนฟ้าผ่ากับพวกเขา มันน่าเหลือเชื่อ

“พวกเรารีบกลับไปและเรียกตระกูลผู้พิทักษ์อื่นและเมืองทหารรับจ้างทันทีเพื่อให้มาพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้” คนจากนิกายออกจากมหาสมุทรไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับไป่ยี่เฟย

..

ในตอนนี้ วัตถุเซียนลอยอยู่หลางอากาศและเปล่งแสงสีทองอ่อนอ่อนในถ้ำมือ เมื่อวัตถุเซียนหนีออกมาจากหลิงหยวนซีได้ มันก็ลดระดับลึกลงมาในมหาสมทร ก่อนที่จะผ่านม่านพลังที่ทรงพลังและเข้ามายังอีกโลก หลังจากนั้นมันก็ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำ

แม้ว่าโลกนี้จะอยู่ให้ทะเล มันก็ถูกปกคลุมไปด้วยม่านพลังที่ทรงพลังที่กันน้ำทะเลออกไป มันสร้างมิติที่แยกออกมาจากสำหรับโลกใต้ทะเล

ภายในวัตถุเซียน เจี้ยนเฉินและนูบิสรับเอาพลังงานดั้งเดิมของพลังเซียนธาตุแสงจากวัตถุวิญญาณและกำลังฟื้นตัว ทั้งสองคนปกคลุมไปด้วยแสงสีขาวนวลในขณะที่อาการบาดเจ็บของพวกเขานั้นถูกรักษาอย่างรวดเร็ว

ในครั้งนี้ การโจมตีที่พวกเขาได้รับนั้นมาจากเซียนราชา อาการบาดเจ็บนั้นหนักมากและนูบิสก็ใช้เวลาทั้งวันในการฟื้นฟู สำหรับเจี้ยนเฉินนั้น ร่างกายของเขายังมีพลังงานที่เหลือค้างอยู่จากทักษะการต่อสู้ระดับเซียนที่เขาได้รับบาดเจ็บมา สภาพของเขานั้นแย่กว่าและยากที่จะฟื้นฟูตัวเอง

“ทักษะการต่อสู้ระดับเซียนนั้นทรงพลังมาก ถ้าท่านต้องการที่จะรักษาให้หายจากอาการบาดเจ็บที่เหลืออยู่ ท่านจำเป็นที่จะต้องใช้พลังงานดั้งเดิมหลายสาย แค่สายเดียวนั้นไม่พอ” วัตถุวิญญาณยื่นอยู่ข้างหน้าเจี้ยนเฉินและถ่ายเทพลังงานดั้งเดิมหลายสายติดต่อกันเข้าไปที่ร่างกายของเขา มันค่อย ๆ ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บที่เหลือทิ้งไว้อยู่จากทักษะการต่อสู้ระดับเซียน

พลังงานดั้งเดิมที่ถูกควบคุมโดยวัตถุวิญญาณนั้นทรงพลังมากว่าของเจี้ยนเฉินมากนัก ด้วยการช่วยเหลือของวัตถุวิญญาณ ผลลัพธ์ก็ออกมาดีมาก

หลังจากที่ดูดซึมไปหลายสาย เจี้ยนเฉินก็ฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม การสูญเสียพลังชีวิตของเขาไป 500 ปีจากการร่ายทักษะธาตุแสงต้องห้ามไม่สามารถเอาคืนมาได้ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหนก็ตาม

ดังนั้น ถึงเจี้ยนเฉินจะฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บแต่เขาก็ยังรู้สึกอ่อนแออย่างเห็นได้ชัด

“วัตถุเซียน สถานการณ์ด้านนอกเป็นยังไงบ้าง ? ” ทันทีที่เขาฟื้นตัว เจี้ยนเฉินก็ถามจิตวิญญาณวัตถุเซียนทันที

“นายท่าน พวกเราปลอดภัยแล้วในตอนนี้ พวกเรามาถึงที่เผ่าพันธุ์ทะเลแล้ว” จิตวิญญาณวัตถุเซียนกล่าว

เมื่อได้ยินดังนั้น เจี้ยนเฉินก็ผ่อนคลายเล็กน้อย เขาถอนหายใจยาวออกมา “น่าเสียดาย แม้ว่าข้าจะแลกชีวิตของข้า 500 ปีเป็นการแลกเปลี่ยนสำหรับ ‘เทพจุติ’ แต่ข้าก็ไม่สามารถสังหารคนทั้งสองนั้นได้”

“เจี้ยนเฉิน เจ้าควรจะรู้จักพอ พวกเขาทั้งคู่เป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5 และถูกทำให้ได้รับบาดเจ็บหนักจากเจ้า นอกเหนือจากนั้น วิญญาณดั้งเดิมของพวกเขายังได้รับบาดเจ็บซึ่งยากจะฟื้นฟูได้ พวกเขาได้สูญเสียอย่างมากในตอนท้าย เจ้ายังทำให้เจ้าแก่นั่นเข้าตาจนจนต้องร่ายทักษะการต่อสู้ระดับเซียนอีก” นูบิสพูด

“ถ้าไม่ใช่เพราะทักษะการต่อสู้นั้นทำลายเทพจุติของข้า ข้ามั่นใจว่าข้าต้องสังหารสองคนนั้นได้แน่ ถ้าข้าใช้ชีวิตของข้า 1,000 ปีในการแลกเปลี่ยน ข้ามั่นใจว่าข้าจะเอาชนะทักษะการต่อสู้ระดับเซียนนั้นได้และสังหารพวกเขาทั้งสองหลังจากนั้น” เจี้ยนเฉินพูดอย่างไม่มีความรู้สึก เขารู้สึกเสียดาย เขาใกล้จะฆ่าเซียนราชาได้ถึง 2 คนในครั้งนี้

“ชีวิต 1,000 ปี ! ” นูบิสกระโดดขึ้นมาทันทีและจ้องไปที่เจี้ยนเฉินตาโต “เจ้าหนูเจี้ยนเฉิน เจ้าคิดว่าชีวิตมันยาวเกินไปงั้นหรือ ? 500 ปีก็ยังน่ากลัวพอแล้วแต่เจ้ายังต้องการจะใช้ชีวิตถึง 1,000 ปีในการฆ่าเซียนราชา 2 คน ทำไมเจ้าถึงทำสิ่งที่ไม่คุ้มค่าขนาดนี้ ? ด้วยความสามารถของเจ้า เจ้าอาจจะได้เป็นถึงเซียนจักรพรรดิในอีกพันปีนี้ ในตอนนั้น เจ้าจะมีพลังที่จะจัดการได้แม้กระทั่งตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบ ทำไมเจ้าจะต้องไปทำแบบนั้นในตอนนี้ ? “

เจี้ยนเฉินยืนขึ้นแล้วพูด “นูบิส พวกเรายังไม่พูดถึงเรื่องนี้กันตอนนี้ดีกว่า ข้าวางแผนที่จะเก็บตัวฝึกฝนสักหน่อยหลังจากนี้”

“เอาล่ะ ข้าก็จะแยกตัวไปฝึกฝนด้วย เมื่อข้าดูดซับแกนลับของเจ้างูแก่ได้ทั้งหมด ข้าก็จะได้กลายเป็นเซียนราชาสักที” นูบิสพูด

ในตอนนี้ ท่าทางของวัตถุจิตวิญญาณเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาพูด “สัมผัสของเผ่าพันธุ์ทะเลนั้นทรงพลังมาก นายท่าน บางคนพบว่าพวกเราอยู่ที่นี่แล้วและกำลังรีบมาทางนี้”

หลังจากพูดจบ ใบหน้าของเจี้ยนเฉินก็มืดมนลงเล็กน้อย “ดูเหมือนจะไม่มีเวลาให้ฝึกฝนแล้วในตอนนี้”

“เจี้ยนเฉิน พวกเราไปกันก่อนเถอะ ความลับของวัตถุเซียนจะถูกเเพร่งพรายออกไปไม่ได้ พวกเราจะให้คนของเผ่าพันธุ์ทะเลรู้ว่ามันมีอยู่ไม่ได้ เมื่อข่าวรั่วไหลออกไป มันจะสร้างปัญหาให้พวกเราอย่างแน่นอน” นูบิสกล่าว

หลังจากนั้น นูบิสและเจี้ยนเฉินก็ออกมาปรากฏตัวด้านนอกพร้อมแสงแวบสีขาวในถ้ำที่มืดมัว เจี้ยนเฉินเก็บวัตถุเซียนไป ก่อนที่เขาจะอำพรางการมีอยู่ของพวกเขาไว้แล้วเดินมาข้างนอก

เมื่อมาถึงด้านนอกถ้ำ เจี้ยนเฉินมองไปข้างบนอย่างไม่รู้ตัว ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าซึ่งประกอบไปด้วยน้ำทะเลที่ถูกกันไว้จากม่านพลัง ม่านพลังส่องแสงสีฟ้าอ่อนซึ่งทอประกายไปทั่วทั้งโลกนี้ อาณาเขตของเผ่าพันธุ์ทะเลถูกย้อมไปด้วยแสงสีฟ้าของม่านพลัง

ที่ซึ่งเผ่าพันธุ์ทะเลอยู่ อุณหภูมิค่อนข้างต่ำ แสงแดดด้านนอกไม่อาจมองเห็นได้ในนี้แม้แต่น้อย ในขณะที่พลังงานของธาตุทั้งหกจางหายไป ธาตุน้ำกลับทรงพลังมากและหนาแน่นกว่าบนทวีปเทียนหยวนหลายเท่า ในขณะที่ธาตุอื่น ๆ นั้นอ่อนกว่ามาก ธาตุไฟไม่ปรากฎที่นี่เลยแม้แต่น้อย

“นี่คือโลกของเผ่าพันธุ์ทะเลอย่างนั้นหรือ?” เจี้ยนเฉินพึมพำในขณะที่เขามองไปยังโลกที่ไม่คุ้นเคย

แม้ว่านูบิสจะรู้ดีว่ามีเผ่าพันธุ์ทะเลอยู่จากความทรงจำทางสายเลือดขแงเขา แต่มันก็เป็นครั้งแรกที่เขามาที่นี่ เขานั้นอยากรู้อยากเห็นอย่างมากและเคลื่อนหัวไปมาอย่างต่อเนื่อง

ไกลออกไป ร่างมากกว่าสิบร่างก็ปรากฏขึ้นทันที พวกเขาเปล่งประกายไปด้วยแสงสีฟ้าครามในขณะที่เขาเร่งเข้ามาที่เจี้ยนเฉินและนูบิส พวกเขาอยู่ในอากาศด้วยพลังงานของธาตุน้ำ