ตอนที่ 857: เซียนราชาที่บาดเจ็บหนักทั้งสอง

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 857: เซียนราชาที่บาดเจ็บหนักทั้งสอง

“เทพจุติ ! “

ในตอนนี้เอง คำสองคำก็ถูกเอ่ยออกมาอย่างช้า ๆ จากเจี้ยนเฉิน น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความลึกลับที่ไม่มีที่สิ้นสุดและก้องกังวานไปในโลก เสียงเรียบ ๆ ของเขาทะลุผ่านสวรรค์ 9 ชั้นและเหนือยิ่งไปกว่านั้น

คลื่นพลังที่มองเห็นได้ขยายไปรอบทิศทางอย่างรวดเร็วโดนมีเจี้ยนเฉินเป็นศูนย์กลาง ที่ใดที่พลังผ่าน มิติก็จะถูกหยุดทันที แม้แต่เซียนราชา 2 คน ไป่ยี่เฟยและหลิงหยวนซียังขยับเขยื้อนไม่ได้

นอกเหนือจากทั้งสองคน นูบิสและเจี้ยนเฉินก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน พวกเขาก็ติดอยู่ในมิติพันธนาการและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

ในตอนนี้ ทุก ๆ อย่างเงียบสงัด อากาศหยุดเคลื่อนไหว เวลาหยุดเดิน แม้แต่คลื่นทะเลด้านล่างยังเงียบสงัด

แสงสีขาวในท้องฟ้าสว่างขึ้นสว่างขึ้นและแสบตามากขึ้นเรื่อย ๆ ความกดดันมากมายเกิดขึ้นรอบ ๆ เหมือนว่ามันมาจากสวรรค์ชั้น 9 ความกดดันนี้ดูเหมือนจะมาจากเทพเจ้าที่ลงมาจากท้องฟ้าพร้อมกับกลิ่นอายที่สูงส่ง มันทำให้เซียนราชา 2 คนตกใจอย่างมาก

อ๊าก ! “

เสียงโหยหวนปกคลุมไปรอบรอบ ไป่ยี่เฟยและหลิงหยวนซีใช้ร่างกายที่ทรงพลังของพวกเขาเพื่อที่จะให้หลุดจากพันธนาการ พวกเขาไม่ออมแรงแม้แต่น้อยและพุ่งไปที่เจี้ยนเฉินด้วยพลังที่พวยพุ่ง พวกเขาต้องการที่จะขัดการร่ายทักษะ

ในตอนนั้นเอง เสาแสงสีขาวใหญ่ก็ลดลงมาจากท้องฟ้า มันปกคลุมไปทั่วรัศมี 50 กิโลเมตรและกฎแห่งธรรมชาติในเขตนี้ก็เริ่มที่จะสั่นไหวอย่างรุนแรง ในเวลานั้นเอง ทั่วบริเวณถูกปกคลุมไปด้วยเสาแสงเหมือนกับว่าถูกแยกออกเป็นอีกโลกหนึ่ง

ท่าทางของทั้งไป่ยี่เฟยและหลิงหยวนซีเปลี่ยนไปอย่างมาก พวกเขารู้สึกสูญเสียพลังของเซียนราชาไปโดยสิ้นเชิง การควบคุมความลึกลับของมิติและพลังธรรมชาติของพวกเขาดูเหมือนจะหายไปอย่างสมบูรณ์ในตอนนี้ พวกเขารู้สึกถึงพวกมันไม่ได้เลย นอกเหนือไปจากนั้น พวกเขายังถูกพันธนาการอีกครั้ง ครั้งนี้ พันธนาการไม่ใช่มิติแต่เป็นพลังอย่างที่อธิบายไม่ได้ เหมือนว่าเป็นกฎของพลังที่พวกเขาไม่คุ้นแคย

เจี้ยนเฉินหลับตาและยังคงผนึกมือเอาไว้และลอยอยู่กลางอากาศเหมือนก่อนหน้านี้ ในตอนนี้ วิญญาณของเขาเหยียดขยายออกไปไม่สิ้นสุดและรวมเข้ากับมิติที่ปกคลุมอยู่ในเสาแสงสีขาว ความรู้สึกมหัศจรรย์พุ่งขึ้นมาจากก้นบึ้งของจิตใจของเขาเหมือนว่าเขากลายเป็นพระเจ้า เทพเจ้าที่โดดเด่นและมีอำนาจทุกอย่างที่สามารถควบคุมชีวิตที่อยู่ภายในเขตมิตินี้ได้ เขาเป็นผู้คุมกฎอย่างสมบูรณ์ในโลกนี้

ตู้ม !

เสียงดังอื้ออึงรุนแรง ไป่ยี่เฟยและหลิงหยวนซีหลุดออกจากพันธนาการด้วยกำลังของพวกเขาอีกครั้ง พวกเขาล้อมรอบไปด้วยพลังเซียนที่มหึมาและทรงพลัง พวกเขาโจมตีอย่างดุร้ายไปที่เจี้ยนเฉินด้วยฝ่ามือของเขา

เจี้ยนเฉินลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ ในตอนนี้ เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงความยิ่งใหญ่ของเขาเหมือนว่าเขารวมกับเทพเจ้าจริง ๆ มันทำให้เขารู้สึกว่าเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5 สองคนที่ไม่ใช่คนที่จะจัดการไม่ได้

เจี้ยนเฉินยกมือขวาขึ้นอย่างช้า ๆ และดันไปข้างหน้าอย่างอ่อนโยน คลื่นที่มองเห็นสีขาวได้สั่นไหวมิติและขยายไปยังทิศทางของไป่ยี่เฟยและหลิงหยวนซี

การโจมตีไม่ใช่จากพลังบรรพกาล มันไม่ได้มาจากพลังที่เขาควบคุมได้ แต่มันเป็นพลังพิเศษของกฎในโลกที่แยกออกมานี้

กฎของพลังปะทะเข้ากับมือของไป่ยี่เฟยและหลิงหยวนซีและมันก็เกิดเสียงอื้ออึงรุนแรงออกมาทันที ท่าทางของพวกเขาเปลี่ยนไปทันทีและพวกเขาพุ่งถอยกลับไปดุจความเร็วสายฟ้า บนผ่ามือของพวกเขา รอยแดงเลือดได้ปรากฏขึ้นมา พวกเขาบาดเจ็บจากกฎของพลัง

เจี้ยนเฉินจ้องอย่างเย็นชาไปที่พวกเขาทั้งสอง เขารู้สึกเหมือนเขาหลอมรวมกับเทพเจ้าจริง ๆ และได้รับความแข็งแกร่งที่น่ากลัวมา ตอนนี้เขาควบคุมทุกสิ่ง เขายื่นนิ้วออกไปที่พวกเขาทั้งสองและพึมพำออกมาเบา ๆ “ทำลาย”

เพียงแค่คำเดียว เสื้อของไป่ยี่เฟยและหลิงหยวนซีก็กลายเป็นฝุ่นผงทันที รอยแยกปรากฏขึ้นที่ผิวของพวกเขาพวกเขาเลือดออกสีแดงสด พวกเขาแตกออกเหมือนเครื่องดินเผา

ทั้งคู่ตกใจอย่างมาก พวกเขาไม่ออมแรงแม้แต่น้อยและคำรามออกมาอย่างรุนแรง พลังเซียนจำนวนมากไหลออกมาจากร่างของพวกเขา พลังที่แข็งแกร่งป้องกันการทำลายล้างจากกฎของพลังเอาไว้ ในตอนนี้ พวกเขาได้เข้ามาอยู่ในโลกที่แยกออกมา โดยไม่มีความสามารถของเซียนราชา ทั้งหมดที่พวกเขาสามารถใช้ได้มีเพียงพลังเซียนที่พวกเขาไม่ได้ใช้มานาน

“เทพจุตินี้น่ากลัวมาก ถ้าเป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 1 หรือ 2 คงต้องมาจบชีวิตที่นี่แน่ พวกเขาคงพบกับหายนะ ไป่ยี่เฟย พวกเรามาโจมตีเจี้ยนเฉินเต็มพลังด้วยกัน เขาคงทนได้อีกไม่นาน” หลิงหยวนซีคำราม หลังจากนั้นไม่นาน ดาบโค้งที่กว้างเท่าฝ่ามือก็ปรากฏขึ้นที่มือของเขาและเขาโจมตีเจี้ยนเฉินด้วยดาบนั้น เขาใช้อาวุธเซียนของเขา

ไป่ยี่เฟยกวัดแกว่งอาวุธเซียนของเขาในเวลาเดียวกัน ความแข็งแกร่งของเขาในฐานะที่เป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5 กระหน่ำออกมาอย่างไม่หยุด และพุ่งไปที่เจี้ยนเฉินดุจสายฟ้า

เจี้ยนเฉินยังคงไม่แสดงท่าทีใดใด ทั้งหมดที่เขาทำเพียงยื่นนิ้วออกไปและแสงที่ไม่สิ้นสุดก็รวมอยู่รอบ ๆ นิ้วทันมี มันคือกฎของพลังทั้งหมด

เจี้ยนเฉินชี้อย่างนุ่มนวล 2 ครั้ง จุดแสงสองจุดถูกยิงออกไปยังทั้งคู่ด้วยความเร็วแสง แสงเหล่านี้เกิดมาจากกฎของพลัง

จุดแสงสีขาวพุ่งผ่านอาวุธเซียนของพวกเขาและทะลุผ่านการป้องกันจากพลังเซียนของพวกเขาและพุ่งเข้าไปโจมตีโดยตรงที่ร่างกายของพวกเขา มันผ่านร่างของทั้งสองไปและทิ้งรูขนาดเท่าหัวแม่มือซึ่งมีเลือดพุ่งออกมา

พวกเขาได้รับบาดเจ็บจากกฎของพลัง การบาดเจ็บของเขาไม่ได้เล็กน้อยเหมือนอย่างตาเห็น พวกเขากระอักเลือดออกมาทันทีและตัวซีดเผือด

“บ้าเอ้ย การโจมตีนั้นเหมือนจะไม่มีตัวตนแต่ก็มี มันเป็นไปไม่ได้ที่จะป้องกันมันเลย ทักษะนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว” ไป่ยี่เฟยร้องออกมา เขาเริ่มสับสนและไม่วางตัวเหมือนเดิมได้อีกต่อไป

ในตอนนี้ จุดของกฎแห่งพลังก็ถูกยิงออกมาจากมือของเจี้ยนเฉินและพุ่งตรงไปที่หว่างคิ้วของพวกเขาทั้งสอง

ท่าทีของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก หว่างคิ้วเป็นที่ที่วิญญาณดั้งเดิมอยู่ มันเป็นจุดที่สำคัญที่สุด ถ้าจุดนั้นได้รับบาดเจ็บ พวกเขาคงทรมานจากการโจมตีนั้นเช่นกัน

หน้าผากของไป่ยี่เฟยและหลิงหยวนซีเต็มไปด้วยเหงื่อ พวกเขาใช้กำลังทั้งหมดเพื่อที่จะหนีแต่ในช่วงเวลาที่สำคัญนั้น พวกเขาขยับไม่ได้จากพลังที่มองไม่เห็นของกฎอีกครั้ง

พรวด !

กฎแห่งพลังทำลายผ่านการป้องกันภายนอกของพวกเขาและโจมตีเข้าไปที่หว่างคิ้วของพวกเขาอย่างแม่นยำ หลังจากนั้น มันก็ทะลุออกมาทางท้ายทอยของพวกเขาและเจาะสมองของพวกเขาเป็นรู

“อ๊าก ! “

ทั้งสองร้องเสียงหลงออกมา พวกเขากุมหัวแน่นด้วยมือของพวกเขา หน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

วิญญาณดั้งเดิมของเซียนราชานั้นแข็งแกร่งมาก การที่จะกำจัดมันนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ กฎแห่งพลังได้ทะลุผ่านหว่างคิ้วของพวกเขาและทำให้วิญญาณดั้งเดิมของพวกเขาได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง แต่มันก็ไม่ได้ถูกกำจัดไป

การบาดเจ็บของวิญญาณดั้งเดิมของพวกเขาทำให้พวกเขาเจ็บปวดอย่างมาก เมื่อพวกเขาไม่ได้ควบคุม พลังเซียนที่ป้องกันร่างของพวกเขาก็หายไปอย่างช้า ๆ

เมื่อไม่มีพลังเซียน กฎแห่งพลังก็ดูเหมือนจะสามารถทำลายทุกอย่างได้ก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง มันทำลายล้างร่างกายของพวกเขาอย่างไม่ปราณีและทำให้ทุกส่วนของพวกเขาแตกออกทันที พวกเขาปกคลุมไปด้วยเลือด

ถ้าพวกเขาไม่ใช่เซียนราชาที่ทรงพลังและเป็นแค่เซียนผู้คุมกฎแทน พวกเขาคงไม่สามารถที่จะต่อต้านหลังทำลายล้างที่น่ากลัวนี้ได้เลยแม้แต่น้อย พวกเขาคงกลายเป็นฝุ่นผงในทันทีและถูกทำลายไป มันเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะทนได้นานขนาดนี้

ผิวร่างของไป่ยี่เฟยและหลิงหยวนซีแตกออกไปหมด เนื้อของพวกเขาเปลี่ยนไปเป็นฝุ่นผงและถูกกัดเซาะไปทีละเล็กละน้อย

“อ๊าก ! เจี้ยนเฉิน ข้าจะทำลายเทพจุติของเจ้า ! ทักษะการต่อสู้ระดับเซียน ดัชนีค้ำจุนสวรรค์ ! ” หลิงหยวนซีคำรามออกมาอย่างเจ็บปวด พลังเซียนภายในเขาพุ่งพวยขึ้นอย่างรวดเร็ว และรวมอยู่ที่นิ้วชี้ข้างขวาของเขา หลังจากนั้นเขาก็ชี้มันออกมา

ทันใดนั้นเอง นิ้วใหญ่ยาว 10 เมตรก็ปรากฏขึ้นมาทันที มันเปล่งประกายไปด้วยคลื่นพลังที่ทรงพลังซึ่งทำให้มิติที่เกิดจากทักษะธาตุแสงต้องห้ามสั่นไหวอย่างรุนแรง มันดูเหมือนว่ามันกำลังจะแตกออกเพราะมันไม่สามารถทนกับแรงกัดดันจากนิ้วได้

ทันทีที่นิ้วใหญ่ควบรวมเสร็จ มันก็พุ่งไปที่เจี้ยนเฉินด้วยพลังที่หยุดไม่ได้ ที่ใดที่มันพุ่งผ่าน โลกสีขาวหิมะก็แตกออกทันทีและเผยให้เห็นรอยแยกสีดำสนิทในมิติ

พลังของนิ้วนั้นเพียงพอที่จะทำลายโลกนี้ได้ มันเกิดกว่าขีดจำกัดที่เขตมิตินี้จะทนได้ และกำลังจะทำลายมัน

นิ้วใหญ่พุ่งเป้าไปที่การมีอยู่ของเจี้ยนเฉินและปกคลุมบริเวณรอบรอบเอาไว้ เจี้ยนเฉินหนีไม่ได้ ทั้งหมดที่เขาจะทำได้ทีเพียงทุ่มกำลังทั้งหมดเพื่อที่จะต่อต้านมัน เขาเคร่งเครียดและใช้ทุกอย่างในการควบคุมกฎแห่งพลังเพื่อที่จะต่อต้านทักษะการต่อสู้ระดับเซียนที่ถูกร่ายโดยหลิงหยวนซี

ตู้ม !

หลังจากการปะทะกันของกฎกับนิ้ว เสียงอื้ออึงดังก็สั่นไปทั่วทั้งเขต ในตอนนั้นเอง เขตมิติกลายเป็นความมืดมิดและทักษะพลังเซียนธาตุแสงของเจี้ยนเฉินก็ถูกทำลายไปด้วยจากนิ้วนั้น เขาลอยกระเด็นถอยไปและกระอักเลือดออกมา ในขณะที่พลังงานมหาศาลที่มาจากเทพจุติก็หายไปด้วย

เมื่อทักษะถูกทำลาย มิติรอบ ๆ ก็กลับมาเป็นเหมือนที่มันเคยเป็นมาก่อน พลังงานที่รุนแรงจากทักษะการต่อสู้ระดับเซียนได้ทำลายล้างอยู่กลางอากาศ ทำให้เกิดลมรุนแรงพักไปทั่ว สึนามิที่บ้าคลั่งเกิดขึ้นมาที่ผิวทะเล และทำให้เกิดคลื่นสูงหลายร้อยเมตร

“เจี้ยนเฉิน ! “

เมื่อได้เห็นเจี้ยนเฉินลอยไปไกล นูบิสก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ เขาบินออกไปเพื่อที่จะจับเจี้ยนเฉินทันที

“หนีเร็ว ! ” เจี้ยนเฉินหน้าซีดขาวราวหิมะ ท่าทีของเขาหมดแรงและเขาพูดออกมาอย่างยากลำบาก เขาพลาดที่จะร่ายเทพจุติได้อย่างสมบูรณ์ เพราะว่ามันถูกทำลายลงกลางคันด้วยพลังที่สุดยอด มันทำให้เจี้ยนเฉินได้รับผลสะท้อนกลับอย่างแรงเช่นกัน นอกเหนือไปจากนั้น เขายังถูกโจมตีเล็กน้อยจากทักษะการต่อสู้ระดับเซียนและบาดเจ็บอย่างรุนแรง

นูบิสไม่เสียเวลาพูดอีกต่อไป เขาหนีไปไกลพร้อมกับแบกเอาเจี้ยนเฉินไปด้วย

“เจี้ยนเฉิน เจ้าทำลายวิญญาณดั้งเดิมของข้าไปอย่างรุนแรงจนมันยากที่จะฟื้นฟูได้ในพันปีนี้ ข้าจะปล่อยให้เจ้าหนีไปได้ยังไง ? ” หลิงหยวนซีกระเซอะกระเซิงและเต็มไปด้วยเลือด ตอนนี้เขาดูกระเซอะกระเซิงไปหมด ความเกลียดชังเจี้ยนเฉินของเขาถึงระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เจี้ยนเฉินทำให้วิญญาณดั้งเดิมของเขาได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงและเป็นการยากมากที่จะฟื้นฟู เขาจะพัฒนาการไม่ได้อีกต่อไปแล้วในอนาคต การฝึกฝนของเขาต้องหยุดไปถ้าเขาไม่สามารถฟื้นคืนวิญญาณดั้งเดิมที่บาดเจ็บของเขาได้

“เจี้ยนเฉิน ข้าต้องการที่จะทำลายเจ้า ! ” ไป่ยี่เผยที่เต็มไปด้วยเลือดคำรามออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว พวกเขาพุ่งไปด้วยความบ้าคลั่ง ราวกับว่าเขาเสียสติไปแล้ว

ไป่ยี่เฟยไม่มีนิกายที่ยอดเยี่ยมเหมือนตระกูลทั้งสิบที่จะช่วยเหลือเขา ดังนั้นมันจึงยากขึ้นไปอีกทสำหรับเขาที่จะฟื้นฟูวิญญาณดั้งเดิมที่บาดเจ็บของเขา มันเป็นไปได้ที่เขาจะฟื้นฟูมันไม่ได้เลยตลอดชั่วชีวิตของเขา จากนี้ไป มันเป็นไปได้ที่เขาจะเป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5 ไปตลอดกาล

แม้ว่าพวกเขาทั้งคู่จะได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก แต่พวกเขาก็มีความแข็งแกร่งที่น่ากลัวมาก ทักษะธาตุแสงถูกทำลายแล้ว พวกเขาได้รับความสามารถในฐานะเซียนราชากลับมาและพวกเขาไล่ตามนูบิสไปทันที พวกเขาโจมตีไปที่ด้านหลังของนูบิสด้วยฝ่ามือทำให้เขากระอักเลือดออกมา

“เข้าไปในวัตถุเซียน” เสียงของเจี้ยนเฉินอ่อนแอมาก หลังจากนั้นไม่นาน แสงสีขาวก็ปรากฎขึ้นทันทีปกคลุมพวกเขาทั้งสองก่อนที่จะดูดพวกเขาเข้าไป หอคอยสีทองขนาดเท่าฝ่ามือลอยอยู่กลางอากาศ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นแสงสีทองแล้วบินออกไป

“มันไม่มีประโยชน์ไม่ว่าพวกเจ้าจะไปซ่อนที่ไหนก็ตาม ข้าจะเอาหอคอยนั่นกลับไปที่ตระกูลของข้า ข้าจะดูว่าเจ้าจะหนีออกมายังไงทีนี้” หลิงหยวนซีดูเหมือนราชสีห์ที่โกรธจัด เขาป้องกันไม่ไห้วัตถุเซียนหนีไปได้ด้วยการพันธนาการมิติรอบ ๆ ไว้ก่อนที่จะไปคว้ามันมา ไม่ว่าวัตถุเซียนจะพยายามแค่ไหน มันก็หลุดออกมาจากการจับของหลิงหยวนซีไม่ได้