ตอนที่ 978 เปิดโปงพวกเขา

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

เมื่อรู้ความจริงนี้แล้ว พวกเขาก็อดที่จะเห็นใจมู่เฉียนซีไม่ได้

ชายหนุ่มผู้นี้แข็งแกร่งมาก แต่กลับต้องมาโชคร้ายเช่นนี้

หญิงสาวอสรพิษกล่าวเสียงขรึมว่า “สาวน้อย เจ้ารังแกกันเกินไปแล้ว”

มู่เฉียนซีกล่าว “หากเจ้าทำตัวเชื่อฟัง และเล่าทุกอย่าง ข้าก็จะรั้งมือไม่ทำเจ้า!”

“เจ้าฝันไปเถอะ ข้าจะไม่พูดอันใดทั้งสิ้น ข้าไม่มีทางหักหลังพี่ใหญ่”

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจเจ้าแล้ว”

ตูม ปัง ปัง!

ในตอนนี้เอง มีคนกล่าวขึ้นด้วยความตกใจว่า “เจ้าหนุ่มผู้นั้นไม่ใช่ผู้ฝึกวรยุทธ์เหรอ เหตุใดถึงได้กลายเป็นผู้บำเพ็ญภูตไปได้ล่ะ!”

“ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก! ห่างชั้นกันเป็นขั้น แต่ยังสามารถรับมือกับสัตว์ประหลาดนั่นได้ ฝีมือเยี่ยมยอดจริง ๆ”

“……”

ปัง!

ถึงแม้ว่าบนร่างของหญิงสาวอสรพิษจะมีเกล็ดสีดำอยู่ เกล็ดนี้เป็นเหมือนดั่งเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเสื้อเกราะมากนัก แต่ทว่าก็ยังคงถูกพลังของมู่เฉียนซีโจมตีจนยับเยินเฉกเช่นเดิม

คนอื่น ๆ ของจวนเจ้าเมืองได้ถูกกู้ไป๋อี อู๋ตี้และเสี่ยวหงโจมตีจนพ่ายแพ้ยับเยินแล้ว

มู่เฉียนซีกล่าว “หญิงสาวอสรพิษ จะตายอยู่แล้วเจ้ายังจะต่อสู้ดิ้นรนอีกอย่างนั้นเหรอ?”

หญิงสาวอสรพิษกล่าว “สาวน้อย เจ้าลำพองใจเร็วเกินไปแล้วกระมัง”

นางพุ่งเข้าหามู่เฉียนซีโดยพลัน แววตาเต็มไปด้วยความโหดร้าย

“เจ้าวิปริตมาก ข้ายอมรับว่าข้าสู้เจ้าไม่ได้ แม้แต่พิษข้าก็สู้เจ้าไม่ได้ แต่ว่า…”

เส้นผมสีดำขลับโบกสะบัดขึ้นอย่างรุนแรง พลังของหญิงสาวอสรพิษกำลังเพิ่มขึ้น

สีหน้าของกู้ไป๋อีพลันเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก เขากล่าวขึ้นว่า “คุณหนูใหญ่ นาง…เกรงว่านางจะระเบิดตัวเอง”

มู่เฉียนซีก็คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้หญิงสาวอสรพิษจะเลือกที่จะระเบิดตัวเองอย่างไม่ลังเล คิดจะขวางนางก็ไม่ทันแล้ว

มู่เฉียนซีกล่าว “ทุกคนถอยไปให้หมด ถอยออกไปให้ไกลที่สุด มีอันตราย!”

“เสี่ยวไป๋ เจ้าก็รีบถอยไป เร็วเข้า!”

เขารู้ดีว่ามู่เฉียนซีนั้นมีอาวุธวิญญาณเป็นเกราะป้องกันตัว ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นกังวลอยู่ แต่เขาก็รีบถอยออกไปอย่างรวดเร็ว

นางไม่มีทางเอาชีวิตของตัวเองมาล้อเล่นอย่างแน่นอน!

เห็น ๆ กันอยู่ว่าตนเองนั้นกำลังจะระเบิดตัวเอง เห็น ๆ กันอยู่ว่ากำลังจะแผดเผาให้เป็นเถ้าธุลีแล้ว แต่เหตุใดนางยังคงนิ่งเฉยอยู่เช่นนี้

ไร้ซึ่งความกลัว และไร้ซึ่งความอ้อนวอนขอความเมตตาจากนาง หญิงสาวอสรพิษมองมู่เฉียนซีด้วยความประหลาดใจ

มู่เฉียนซีกล่าว “กว่าจะจับเจ้าได้มันไม่ง่ายเลย ถามอันใดไปก็ไม่ได้คำตอบ ช่างน่าเสียดาย แต่ตราบใดที่สำนักขวางโซ่วของพวกเจ้ายังกล้าเคลื่อนไหวในทุ่งรกร้าง ข้าก็จะขุดมันออกมา”

หญิงสาวอสรพิษยิ้มพลางกล่าว “สาวน้อย เจ้าพูดจาใหญ่โตปานนี้เลยเหรอ เจ้ากำลังจะถูกทำลายกลายเป็นเถ้าธุลีอยู่แล้ว ยังจะคิดสู้กับสำนักขวางโซ่วอีก”

มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าทำไม่ได้!”

“เช่นนั้น ข้าจะทำให้เจ้าดู!” หญิงสาวอสรพิษจ้องมองมู่เฉียนซีอย่างโหดร้าย

ตูม! เสียงดังสนั่นขึ้น ร่างของหญิงสาวอสรพิษระเบิดขึ้น พลังอันน่าสะพรึงกลัวได้ทำลายจวนเจ้าเมืองและบริเวณรอบจวนเจ้าเมืองราบเป็นหน้ากลอง

ผู้คนที่พากันมามุงดูเหล่านั้น ผู้ที่วิ่งช้าล้วนแต่ได้รับผลกระทบจากพลังนี้จนได้รับบาดเจ็บสาหัส

ชายหนุ่มรูปงามที่อยู่ท่ามกลางการระเบิดผู้นั้น เกรงว่าคงตายไปอย่างไร้ซากศพแล้ว

ภายในควันดำที่ระเบิดนั้น แสงสีฟ้าแสงหนึ่งได้ห่อหุ้มร่างของมู่เฉียนซีเอาไว้ มู่เฉียนซีไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย

หญิงอัปลักษณ์ระเบิดตัวเอง มู่เฉียนซีก็คิดว่านางคงจะตายจนไร้ซากศพแล้ว

แต่เมื่อพลังวิญญาณของนางแผ่ซ่าน นางกลับรู้สึกว่าบริเวณรอบ ๆ มีกลิ่นอายที่คุ้นเคยอยู่กลิ่นหนึ่ง

บนพื้นมีงูสีดำตัวหนึ่งเลื้อยหนีออกไป ดูเหมือนว่าจะเป็นงูที่หญิงสาวอสรพิษเลี้ยงไว้

อีกอย่าง ก่อนที่งูตัวนั้นจะเลื้อยหนีไป มันยังจ้องมองมู่เฉียนซีด้วยสายตาที่มืดทึมน่ากลัวอีกด้วย

มู่เฉียนซีตกใจผงะไปครู่หนึ่ง เป็นไปไม่ได้! เช่นนี้แล้วยังไม่ตายอีกเหรอ?

ร่างชุดม่วงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มู่เฉียนซีรีบตามไป จะต้องถอนรากถอนโคนให้ได้

ตามไปจนถึงนอกเมืองเจ้านั่นก็หายตัวไปเสียแล้ว

มู่เฉียนซีกล่าว “ชิงมู่ นี่มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่?”

ชิงมู่กล่าว “นายท่านทายถูกแล้ว หลังจากที่หญิงสาวอสรพิษผู้นั้นได้ระเบิดตัวเอง นางยังไม่ตาย นางได้แปลงร่างเป็นสัตว์ก่อนที่จะระเบิดตัวเอง ก็แค่ทำลายร่าง พวกเขาได้ฝึกทักษะมารที่คนผู้นั้นสร้างขึ้นมา หลังจากที่ทำลายร่างของสัตว์ ดวงจิตก็สามารถย้ายไปเข้าร่างสัตว์ตัวอื่นชนิดเดียวกันได้”

สีหน้าของมู่เฉียนซีเคร่งขรึมลง “สิ่งนี้ คนผู้นั้นศึกษาออกมาได้อย่างไรกัน?”

ชิงมู่กล่าว “ข้อนี้ ข้าก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน ในครานั้น คนผู้นั้นมีใจที่จะท้าทายฝ่าบาท ในตอนนั้นพรสวรรค์ของเขาก็แข็งแกร่งมากเหมือนกัน น่าเสียดายกลับเอามาใช้ในทางที่ชั่วร้ายเช่นนี้”

เมื่อไม่เจอตัว มู่เฉียนซีก็ทำได้เพียงแค่กลับเข้าเมือง

นางได้แปลงร่างกลับมาเป็นสตรีดังเดิม และในตอนนี้ผู้คนเมืองเทียนอวิ่นล้วนแต่ตื่นตระหนกเป็นอย่างยิ่ง

จวนเจ้าเมืองได้หายไปอย่างสมบูรณ์ และกล่าวได้ว่าเมืองได้ขาดผู้นำไปแล้ว

“คุณหนูใหญ่แห่งจวนเจ้าเมืองเป็นตัวประหลาด!”

“ตัวประหลาดนั่นถูกยอดฝีมือโจมตีพ่ายแพ้จนต้องระเบิดทำลายตัวเอง ช่างน่าเสียดาย เจ้าหนุ่มผู้รูปงามผู้นั้นได้เสียชีวิตไปแล้ว”

“อีกอย่าง…”

เหล่าบรรดาผู้ที่มาประลองยุทธ์หาคู่ ทั้งนายน้อยที่มาจากต่างเมืองและเหล่าบรรดาอัจฉริยะคนอื่น ๆ เนื่องจากได้รับผลกระทบจนบาดเจ็บสาหัส พวกเขาจึงโกรธแค้นเป็นอย่างยิ่ง

มู่เฉียนซีกล่าว “การที่หญิงสาวอสรพิษระเบิดทำลายตัวเองในครานี้ ก็ทำให้สำนักขวางโซ่วของพวกมันโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเช่นกัน ควรจะเติมไฟสักหน่อยแล้ว”

“เสี่ยวไป๋เราต้องรีบกลับไปที่เมืองเหลยแล้ว”

กู้ไป๋อีพยักหน้าพลางกล่าว “ขอรับ!”

“นายท่าน พวกท่านกลับมาแล้ว” เย่เฉินเห็นมู่เฉียนซีกลับมาก็ดีอกดีใจเป็นอย่างยิ่ง

เดิมที นายท่านบอกว่าจะไปฝึกประสบการณ์ครึ่งปี เขาก็คิดว่าตนเองจะได้เป็นผู้นำแต่เพียงผู้เดียวครึ่งปีเสียอีก!

มู่เฉียนซีกล่าว “ได้โชคลาภมาโดยไม่คาดฝันน่ะ ก็เลยกลับมาก่อนกำหนด”

นางกล่าวถาม “มีความเคลื่อนไหวของสำนักขวางโซ่วหรือไม่?”

“พวกมันทำตัวแปลก ๆ ตอนนี้ยังตรวจสอบไม่เจออันใดเลยขอรับ”

“ในเมื่อตรวจสอบไม่เจอ เช่นนั้นก็ให้คนในทุ่งรกร้างเตรียมป้องกันพวกมันให้ดี! เรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองเทียนอวิ่น เจ้าก็คงรู้แล้ว รีบกระจายข่าวออกไป”

หลาย ๆ คนก็ได้เห็นหญิงสาวอสรพิษผู้นั้นแล้ว จะเป็นมนุษย์ก็ไม่ใช่ สัตว์ก็ไม่เชิง ตอนนี้ข่าวเรื่องสำนักขวางโซ่วได้ถูกกระจายออกไป ไม่มีผู้ใดสงสัยว่าเป็นเรื่องหลอกลวง

เมืองแต่ละเมืองล้วนแต่เตรียมการป้องกันอย่างแน่นหนา ตอนนี้ทุกคนต่างก็รู้ดีว่ามีสำนักที่ชั่วร้ายสำนักหนึ่งอยู่ นั่นก็คือสำนักขวางโซ่ว

คนของสำนักนี้สามารถใช้พิษควบคุมสัตว์ได้ มีความสามารถทำให้ความสามารถบางอย่างของสัตว์มาอยู่ในร่างมนุษย์ได้ ทำให้มนุษย์ไม่เหมือนมนุษย์ จะเป็นสัตว์ก็ไม่เชิง อีกทั้งยังสามารถเพิ่มพลังได้สูงอีกด้วย

พวกมันแอบควบคุมทุ่งรกร้างอยู่ในที่ลับ ควบคุมเมืองไปแล้วจำนวนไม่น้อย เมืองเทียนอวิ่นก็เป็นหนึ่งในนั้น บางทีก็อาจจะมีเมืองอื่นหลายเมืองแล้วที่ถูกควบคุม

ท่านเจ้าเมืองเมืองชางหมางก็ออกมายืนยันแล้วว่าพวกเขาเมืองชางหมางก็เคยถูกโจมตี หากไม่ใช่เพราะยอดฝีมือเป็นคนลงมือ เมืองของพวกเขาก็คงจะถูกสำนักขวางโซ่วควบคุมไปแล้ว

เดิมทีสำนักขวางโซ่วเตรียมพร้อมที่จะเติบโตอย่างลับ ๆ แต่ตอนนี้ทุ่งรกร้างล้วนแต่รู้แล้วว่ามีสำนักอย่างพวกเขาอยู่ ข่าวนี้ยิ่งแพร่งพรายออกไปมาก ก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้ตำหนักเป่ยหานรู้

ชายชุดดำผู้หนึ่งจ้องเขม็งไปที่งูที่อยู่ตรงหน้า และกล่าวว่า “เจ้าทำลายแผนการของข้าพังจนสิ้นแล้ว เจ้ายังมีหน้ากลับมาอีกเหรอ”

“ฮือฮือฮือ! พี่ใหญ่ ต้องโทษนังเด็กผู้นั้น ต้องโทษนาง! ข่าวที่แพร่งพรายออกไปต้องเป็นฝีมือของนังเด็กนั่นเป็นแน่ นางสมควรตายจริง ๆ!” เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นดังขึ้น

“เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เช่นนั้นก็ทำได้เพียงแค่รีบจัดการให้จบโดยเร็ว สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือจัดการกับสาวน้อยผู้แปลกประหลาดผู้นั้นเสียก่อน นางเป็นคนเมืองใด?” ชายชุดดำกล่าวถาม

“ครั้งแรกที่ข้าได้พบกับนาง ดูเหมือนว่านางอยู่ที่เมืองเล็ก ๆ ชื่อเมืองเหยียน”

ชายชุดดำเปิดดูแผนที่ และกล่าวเสียงขรึมว่า “เมืองเหยียนรึ เช่นนั้นก็เริ่มลงมือจากที่นั่นก็แล้วกัน”

.

.