บทที่ 508

หม่าหลันนั้นทรุดลง

สองล้านที่เอาไปเล่นพนันก็ไม่ได้คืน สร้อยข้อมือราคาสี่ห้าล้านก็โดนตัวเองทำขาดซะนี่ ความสูญเสียของตนนี่มันช่างน่าสมเพชเสียจริง!

เธอหันไปมาหนิวกุ้ยหมิ่นแล้วด่าอย่างบ้าคลั่งว่า “หล่อนไม่ได้บริจาคเงิน!หล่อนต้องเอาเงินมาคืนฉัน! เอาเงินทั้งหมดที่หล่อนมีมาให้ฉันซะ ไม่งั้นฉันจะฆ่าหล่อน!จะฉีกเป็นชิ้นๆเลย!”

หนิวกุ้ยหมิ่นคุกเข่าลงบนพื้นด้วยความตกใจร้องไห้ขอร้อง “พี่ใหญ่ ฉันเป็นแค่คนจนอนาถา เงินฝากรวมก็มีแค่หกหมื่นกว่าหยวนเอง แต่ถ้าพี่ต้องการจริงๆ ฉันก็จะให้ทั้งหมดเลย…”

หม่าหลันขึ้นไปตบปากหล่อนสองสามทีและพูดอย่างโกรธๆว่า “ฉันไม่เชื่อหรอกนะ เปิดบัญชีในโทรศัพท์มาให้ฉันดูเดี๋ยวนี้!”

หนิวกุ้ยหมิ่นร้องไห้และพูดว่า “ฉันไม่มีเงินจริงๆจ่ะพี่ ฉันมีรายได้สองพันกว่าหยวนต่อเดือนเอง ถ้าไม่ได้เป็นเพราะไม่มีเงินจริงๆ ฉันก็คงไม่มาร่วมมือกับเหอเหลียนทำร้ายคนหรอก…..”

ขณะที่พูด หล่อนก็เปิดเงินในบัญชีให้ดู ในนั้นมีแค่หกหมื่นสามพันหยวนจริงๆ

หม่าหลันใกล้จะแตกสลายแล้วจริงๆ

เงินหกหมื่นกว่าหยวนจะเอาไปทำอะไร!

ตนสูญเสียเงินไปมากกว่าหกล้าน

ในเวลานี้ เธออดไม่ได้ที่จะมองไปที่เย่เฉิน พูดอย่างโกรธๆว่า “ทั้งหมดนี้ต้องโทษแก! โทษแก!ไอ้คนไร้ประโยชน์ แกพูดมาสิ!ทำไมแกต้องให้พวกเขาเอาเงินไปบริจาคด้วย!ทำไมไม่ให้พวกเขาโอนเงินให้ฉัน?!”

เย่เฉินขมวดคิ้วและพูดเบาๆว่า “แม่ ผมช่วยชีวิตแม่นะ นี่มันควรจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสิ!”

“ฉันล่ะถุ้ย!” หม่าหลันกระโดดไปมาด้วยความโกรธ “ฉันไม่ได้ต้องการให้แกมาช่วยชีวิตฉัน!ฉันอยากให้แกช่วยเงินฉัน!ถ้าไม่มีเงิน ชีวิตฉันก็หมดความหมายแล้ว!แกเอาเงินคืนมาให้ฉัน!คืนมาให้ฉัน!”

เย่เฉินมองไปที่เธอด้วยสายตาที่เย็นชา ขี้เกียจที่จะต้องมาให้ความรู้กับเธอ

ทำให้เธอเสียเงิน ถือเป็นสิ่งที่ตนเจตนา เพื่อที่จะให้บทเรียนกับเธอ

ไม่เช่นนั้น ครั้งหน้าเธออาจนำปัญหามามากมายกว่านี้

มันไม่ได้สำคัญว่าเธอจะตายหรือไม่

เพียงแต่กลัวว่ามันจะทำร้ายจิตใจของเซียวชูหรัน

ท่านหงห้ามองไปที่หม่าหลันด้วยใบหน้าที่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขารู้สึกไม่ยุติธรรมแทนเย่เฉิน

นี่เป็นแม่ยายประสาอะไร? ช่วยชีวิตหล่อนแล้ว ทำไมหล่อนถึงยังอัปยศอยู่?

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เขาจึงตะโกนออกไปว่า “ฉันขอเตือนคุณไว้ก่อนเลยนะ อย่าคิดว่าตัวเองเป็นแม่ยายของท่าอาจารย์เย่ แล้วจะมาไม่เคารพเขานะ ถ้ามันมากเกินไป ฉันจะส่งคุณไปเหมืองถ่านหินดำกับพวกนั้น!”

หม่าหลันผงะ ความเย่อหยิ่งของหล่อนนั้นลงลดไปทันทีอล้วพูดด้วยน้ำเสียต่ำๆว่า “เมื่อเป็นเรื่องของครอบครัวเรา แกเกี่ยวอะไรด้วย?”

หลังจากพูดจบก็ชี้ไปที่เย่เฉินและพูดว่า “รู้ไหมว่าชายคนนี้มันก็เป็นชายโกหกไร้สาระ?ตอนนี้แกถูกเขาหลอกอยู่ รอวันที่สติของนายนั้นกลับมา นายจะเป็นคนแรกที่อยากจะสับเขาเป็นชิ้นๆ”

ท่านหงห้านั้นรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก เขาเงื้อมมือตบพร้อมกับด่าว่า “ถ้ายังกล้ามายั่วยุความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับท่านอาจารย์เย่อีกล่ะก็ ฉันจะฆ่าเธอซะ!”

หม่าหลันจึงไม่กล้าที่จะหยิ่งผยองอีกต่อไป

เธอรู้วิธีการของท่านหงห้า หากไปหาเรื่องเขาล่ะก็ ตนจะไปรับมือไหวได้ยังไงกัน?

ดังนั้นหล่อนจึงได้แต่ถอยหลังไป ไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก

ตอนนี้ท่านหงห้ามาที่ด้านหน้าของเย่เฉิน เขาคุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้นแ้ล้วพูดด้วยใบหน้าที่เศร้าสร้อยว่า “ท่านอาจารย์เย่ ผมรู้สึกไม่ยุติธรรมแทนท่านจริงๆ บางคำก็กลัวว่าพูดออกไปแล้วจะทำให้ท่านโกรธ แต่หงห้าก็ต้องพูดออกไป!”

หลังจากพูดแล้วเขาก็เพิ่มระดับเสียงขึ้นเล็กน้อยและโพล่งออกมา “ท่านเป็นคนที่มีความสามารถ เป็นคนพิเศษถึงเพียงนี้ ทำไมจะต้องไปเป็นลูกเขยของคนปากร้ายแบบนี้?แม่ว่าท่านกับคุณนายเย่จะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน แต่ก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีแม่ยายแบบนี้ให้มาสะดุดตานะครับ แถมเธอยังดูหมิ่นท่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า น่าจะฆ่าไปได้ตั้งนานแล้ว!”