เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1897 เข้าสู่ความฝัน
แดนศักดิ์สิทธิ์เจียนเป็น
วังขนาดใหญ่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าไม้และเสียงจักจั่น
ประตูวังเปิดออก สาวใช้มนุษย์วิหคทั้งหมดคุกเข่าลงทักทายเซี่ยชาที่เดินออกมาด้วยใบหน้ามืดครื้ม
นางทดลองใช้วิธีการต่างๆมานับไม่ถ้วนแต่ไม่มีวิธีใดทําให้นางสามารถก้าวข้ามระดับห้าเข้าสู่ระดับหก
ตอนนี้นางเหลือเพียงวิธีเดียว นั่นคือซื้อวิญญาณอมตะทะเลวิญญาณที่สองระดับหกจากฟางหยวน
เซียชาเคยเป็นผู้อมตะระดับแปด แต่นางถูกจับโดยฟางหยวนขณะที่มิดช่องว่างของนางถูกเขากลืนกิน
หลังจากได้รับการปล่อยตัว ฟางหยวนฉวยโอกาสขายวิญญาณทะเลวิญญาณที่สองให้นางเพื่อรีดไถทรัพยากรอมตะ
เซียชาสามารถบ่มเพาะอีกครั้ง ตอนนี้นางกลายเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับห้า แต่นางไม่สามารถก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ
ความพยายามของนางในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะล้มเหลวทั้งหมด
“เห้อ…” เซียชาถอนหายใจกับความจริงที่โหดร้าย
“เตรียมน้ําสะอาดให้ข้าอาบ นอกจากนี้กระจายข่าวว่าข้าออกมาแล้ว ขอให้ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองและสามมาที่นี่” เซียชาออกคําสั่งสาวใช้มนุษย์วิหคที่อยู่ด้านข้าง
อย่างไรก็ตามหลังจากรอเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองและสามกลับไม่ปรากฏตัว ทั้งสองบอกว่าพวกเขามีเรื่องสําคัญที่ต้องจัดการ พวกเขาไม่สามารถมาได้
“สารเลว!” เซี่ยชาสาปแช่ง ความรู้สึกเย็นเยียบพุ่งเข้าโจมตีหัวใจของนาง
แม้นางจะตระหนักอย่างชัดเจนว่าไม่ช้าก็เร็ววันนี้จะต้องมาถึง แต่เมื่อมันมาถึงจริงๆ นางยังรู้สึกหวั่นใจ
นางเคยเป็นศูนย์กลางของอํานาจมาก่อน นางเสียสละทุกอย่างเพื่อตระกูลเซีย แต่ตอนนี้นางเป็นเพียงผู้ใช้วิญญาณระดับห้าที่ต้องอดทนต่อการดูหมิ่นของผู้อื่น
ในอดีต ผู้อาวุโสสูงสุดล่าดับที่สองและสามของตระกูลเซียต้องให้ความเคารพนางในฐานะผู้นํา แท้จริงแล้วการขึ้นสู่สถานะปัจจุบันของคนทั้งสองล้วนมาจากความช่วยเหลือและการเลี้ยงดูของเซี่ยชาทั้งสิ้น
“ดูเหมือน…คนเลวเหล่านี้ต้องการปลดปล่อยตนเอง” เซียชามองไปยังห้องโถงที่ว่างเปล่าและถอนหายใจ
นางไม่รู้สึกโกรธมากนัก ส่วนใหญ่เป็นความรู้สึกหมดหนทางและความเศร้า
นางไม่สามารถกล่าวว่าพวกเขาเนรคุณได้เต็มปาก ในความเป็นจริงเชียชาเข้าใจทางเลือกของผู้อมตะตระกูลเซี่ยเหล่านี้อย่างชัดเจน
เพราะนาง ตระกูลเซียจึงถูกฟางหยวนกรรโชกทรัพย์อย่างรุนแรง สมบัติในคลังของพวกเขาลดลงอย่างมาก พวกเขาใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อสร้างรากฐานของตระกูลตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่มันกลับถูกมอบให้กับฟางหยวน
แม้เซียชาจะสามารถฟื้นฟูการบ่มเพาะ แต่นางก็ต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ทรัพยากรที่นางต้องใช้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย
แล้วพวกเขาควรมอบทรัพยากรให้เซี่ยชาหรือเก็บไว้เพื่อตนเอง?
หลังจากตื่นตระหนกและลังเล ในที่สุดกลุ่มผู้อมตะของตระกูลเซียก็เริ่มมีข้อตกลงร่วมกันโดยไม่แจ้งให้เซียชาทราบ
ตําแหน่งผู้อาวุโสสูงสุดล่าดับที่หนึ่งของตระกูลเซียยังว่าง การบ่มเพาะระดับห้าของเซี่ยชาไม่อนุญาตให้นางเข้าแทรกแซงสถานการณ์ในโลกของผู้อมตะ
เซียชาครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนที่นางจะมอบวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้สาวใช้มนุษย์วิหคเพื่อให้นางนําไปส่งมอบให้กับผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สอง
แต่ในตอนเย็นค่าตอบจากผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองกลับท่าให้เซี่ยชาโกรธอีกครั้ง
“แม้แต่ตําแหน่งผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งก็ไม่มีค่าอีกต่อไปแล้ว” เซียชากัดฟันแน่น
ปรากฏว่านางยื่นข้อเสนอให้กับผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองว่านางยินดีมอบตําแหน่งผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งให้เขา เขาสามารถนั่งบนบัลลังก์ของผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งที่เคยเป็นของเซี่ยชาได้อย่างถูกต้อง เพื่อแลกกับทรัพยากรในการบ่มเพาะจํานวนหนึ่ง
แต่ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองของตระกูลเซียกลับไม่รับข้อเสนอ เขาปฏิเสธนางอย่างสุภาพ
เห็นได้ชัดว่าเขาบรรลุข้อตกลงกับผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สามเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองกําลังจะทําให้เซี่ยชาเป็นหุ่นเชิดของพวกเขาและปล่อยให้นางเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งต่อไป
สถานการณ์ของตระกูลเซียไม่เหมือนตระกูลปา
ปาชื่อปาของตระกูลปาอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเชียชา แต่เขาถูกผลักลงจากตําแหน่งผู้อาวุโสสูงสุดลําดับ ที่หนึ่งและถูกแทนที่โดยปาเต่อซึ่งกลายเป็นผู้อมตะระดับแปดคนใหม่ของตระกูล
สําหรับผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองและสามของตระกูลเซีย พวกเขาเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ด ขณะเดียวกัน ในฐานะฝ่ายธรรมะ พวกเขาไม่กล้าจัดการเซียชาที่เป็นผู้มีพระคุณของตนเอง พวกเขายินดีให้เชียชาอยู่ในตําแหน่งผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งต่อไปเพื่อรักษาชื่อเสียงของพวกเขาเอาไว้
เซียชารู้ว่าอิทธิพลของนางที่มีต่อตระกูลเซียมาถึงจุดอันตราย มันกําลังจะหลุดลอยไป
นางต้องก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะโดยเร็วที่สุด มิฉะนั้นนางจะถูกผลักออกจากสังคมระดับสูงของตระกูลอย่างสิ้นเชิง
อย่างไรก็ตามนางไม่มีทางหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้เพราะนางไม่มีเงินทุนที่จะเจรจาหรือทําธุรกรรม
สถานการณ์ของเซียชาเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากทัศนคติของกองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้เริ่มเปลี่ยนไปแล้
บุคคลสําคัญที่ทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงก็คือวหยง
เขาอาศัยวังสวรรค์และทักษะทางการเมืองเพื่อยกระดับชื่อเสียงและอิทธิพลของตนเอง
การร่วงหล่นลงของเซี่ยชาและปาชื่อปาทําให้เขามีโอกาสที่หาได้ยาก
แม้ถั่วเว่ยหยินจะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว แต่ถ้ําสวรรค์คุณธรรมที่อยู่เบื้องหลังเขาเป็นศูนย์รวมมนุษย์เห็ด พวกเขาไม่ใช่มนุษย์ สิ่งนี้เป็นข้อเสียเปรียบทางการเมืองของลั่วเว่ยหยินที่วหยงสามารถใช้ประโยชน์
ลัวเว่ยหยินไม่สามารถหยุดรูหยงจากการก้าวขึ้นสู่บัลลังก์แห่งอานาจ
กองกําลังพันธมิตรของภาคใต้ถูกก่อตั้งขึ้นแล้วโดยมีวหยงเป็นแกนนํา เขาสนับสนุนให้กองกําลังพันธมิตรภาคใต้เผชิญหน้ากับฟางหยวนอย่างจริงจัง และหยุดยอมรับการกรรโชกทรัพย์จากฟางหยวน
สิ่งที่วหยงใช้เป็นเครื่องมือคือความเกลียดชังของผู้อมตะฝ่ายธรรมะที่มีต่อฟางหยวน
ในค่ําคืนอันมืดมิด กายาแห่งความฝันของฟางหยวนเดินทางไปพร้อมกับจอชิวหยู
ธุรกรรมลับเกี่ยวกับอาณาจักรแห่งความฝันพึ่งจบลง
“ท่านจอ เราควรแยกกันที่นี่” กายาแห่งความฝันของฟางหยวนยิ้ม
นี่เป็นร่างกายาแห่งความฝันชั่วคราวที่สร้างขึ้นจากอาณาจักรแห่งความฝัน มันเป็นกายาแห่งความฝันระดับหกและจะระเบิดตัวเองเมื่อเวลาผ่านไป
จ่อชิวหยูป้องหมัดและถอนหายใจ “ฟางหยวน ไม่ใช่ว่าข้าต้องการทําให้เรื่องยากขึ้น แต่ธุรกรรมนี้มีความเสี่ยงมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้สถานการณ์ค่อนข้างตึงเครียด หากเราถูกเปิดเผย ตระกูลจื่อของข้าจะพังพินาศ”
กายาแห่งความฝันก่นเสียงเย็น จื่อชิวหยูไม่พอใจกับราคาก่อนหน้าอีกต่อไป เหตุผลที่เขาใช้เป็นข้ออ้างก็คือท่าทีที่ก้าวร้าวมากขึ้นของกองกําลังพันธมิตรฝ่ายธรรมะภาคใต้
แน่นอนว่ามันเป็นเพียงข้ออ้างเพื่อขอขึ้นราคาเท่านั้น
ฟางหยวนต้องการอาณาจักรแห่งความฝัน แต่สถานการณ์ปัจจุบันการรีดไถฝ่ายธรรมะของภาคใต้กลายเป็นเรื่องยากลําบาก ดังนั้นธุรกรรมลับระหว่างจือชิวหยูกับฟางหยวนจึงกลับมาเป็นวิธีการหลักของเขาอีกครั้ง
ตระกูลพื่อเป็นผู้ดูแลอาณาจักรแห่งความฝัน ฟางหยวนสามารถขโมยอาณาจักรแห่งความฝันผ่านจอชิวหยู
“ข้าจะแจ้งเรื่องนี้กับร่างหลัก” กายาแห่งความฝันกล่าวและบินจากไป
จ่อชิวหยมองกายาแห่งความฝันบินหายไปด้วยใบหน้าเย็นชา
ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการโจมตีกายาแห่งความฝันแต่เขาไม่มีวิธีจัดการมัน นอกจากนั้นเขายังกังวลว่าร่างหลักของฟางหยวนอาจซ่อนตัวอยู่ในบริเวณนี้
ในความเป็นจริงร่างหลักฟางหยวนยังอยู่ที่ทะเลตะวันออก ธุรกรรมนี้อยู่ภายใต้การดูแลโดยอู่ส่วย
หากจ่อชิวหยูเคลื่อนไหว เขาจะไม่ได้รับผลลัพธ์ที่ดี
หลังจากไม่นานกายาแห่งความฝันก็กลับไปถึงวังมังกร
“เราไม่สามารถทําธุรกรรมกับตระกูลพื่อต่อไปเว้นเพียงเราจะอนุญาตให้เขาขึ้นราคา” กายาแห่งความฝันกล่าวขณะนํากายาแห่งความฝันอีกสองสามร่างออกมา “อาณาจักรแห่งความฝันกลุ่มนี้น่าจะเป็นกลุ่มสุดท้ายที่เราจะได้รับ
นี่เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้
ฟางหยวนกับจอชิวหยุไม่ได้ทําข้อตกลงใดๆต่อกัน
จ่อชิวหยสามารถขึ้นราคาโดยใช้ข้ออ้างเรื่องทัศนคติของผู้อมตะภาคใต้
“ศัตรูหลักของเรากําลังรออยู่ข้างหน้า หลังจากผ่านอุปสรรคนี้ ตระกูลจือจะไม่สําคัญอีกต่อไป” อู่ส่วยกล่าว
ตอนนี้อู่ส่วยยังไม่สามารถเคลื่อนไหว ยิ่งเขาเคลื่อนไหวมากเท่าใด วังสวรรค์ก็จะสังเกตเห็นความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขามากเท่านั้น
ท่าไม้ตายอมตะหมอกชวนฝันต้องเก็บไว้ใช้กับวังสวรรค์ การเปิดเผยมันโดยใช้กับจอชิวหยูเป็นการสูญเสียที่ไม่จําเป็น
หากเขาเปิดเผยไพ่ตายล่วงหน้า วังสวรรค์จะหัวเราะอย่างมีความสุขแม้แต่ในความฝัน
ความโลภเล็กๆน้อยๆจะทําลายแผนการใหญ่
นอกจากนี้การปล่อยให้ภาคใต้สามารถรักษาความแข็งแกร่งเอาไว้จะสร้างความเดือดร้อนให้วังสวรรค์มากขึ้นในอนาคต
การทําลายศัตรูโดยตรงอาจไม่ใช่วิธีที่จะทําให้ได้รับผลประโยชน์สูงสุด ตัวอย่างเช่นการปล่อยเซียชาและปาชื่อปา
ตอนนี้พวกเขาเริ่มถูกกีดกันจากตระกูลของตนเอง
บางทีฟางหยวนอาจลอบสนับสนุนพวกเขาในอนาคต
สถานการณ์ในปัจจุบันของพวกเขาอาจกล่าวได้ว่าเกิดจากฟางหยวน แต่นอกจากฟางหยวน พวกเขาก็ไม่สามารถพึ่งพาผู้อื่นได้อีก
ในทางตรงข้าม ฟางหยวนต้องการให้คนเหล่านี้ทําหน้าที่เป็นหูเป็นตาของเขา ซ่อนพวกเขาไว้ในกองกําลัง ฝ่ายธรรมะของภาคใต้เพื่อให้ได้รับอิทธิพลบางส่วน
ตอนนี้ฟางหยวนยังขาดวิธีการควบคุมพวกเขา เกี่ยวกับเรื่องนี้ร่างแยกกาลเวลากําลังทํางานอย่างหนักทั้งก ลางวันและกลางคืนเพื่ออนุมาน
“บีม บีม บีม…”
ด้วยเสียงระเบิดเป็นชุดติดต่อกัน กายาแห่งความฝันกลายเป็นกลุ่มก้อนของอาณาจักรแห่งความฝัน
ทั้งหมดเป็นอาณาจักรแห่งความฝันบนเส้นทางแห่งปฐพี
อู่ส่วยนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรขณะส่งดวงวิญญาณของตนเองเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน