ภาค 7 ความผันผวนในใต้หล้าเป็นยุคของข้า บทที่ 674 กวาดล้าง! กวาดล้าง!

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

เทพเจ้าสามพิสุทธิ์ ผู้สูงส่งแห่งสำนักเต๋า

ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีคนจำนวนนับไม่ถ้วนที่บ้างมีปณิธานสูงส่ง บ้างมักใหญ่ไฝ่สูง ต่างเคยลองวิธีการฝึกของสามพิสุทธิ์

แต่ว่าตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน บ้างก็ล้มเหลว บ้างก็ยอมแพ้ไปเอง บ้างก็เข้าใจอย่างถ่องแท้

คนที่ยืนหยัดบนเส้นทางนี้ต่อได้ มีน้อยยิ่งกว่าน้อย

เพราะว่ายากเย็นเกินไป

ก่อนที่เยี่ยนจ้าวเกอจะฝึกฝนคัมภีร์สังหารเซียน ก็เคยลองถามตัวเองดูว่าตนต้องเดินบนเส้นทางนี้จริงๆ หรือไม่

ทว่ามีคัมภีร์นภาไร้ขีดจำกัดซึ่งเป็นวิชาอันดับหนึ่งของสายหยกพิสุทธิ์ ก็ได้พิสูจน์ถึงความราบรื่นของเส้นทางในอนาคตของตนเองแล้ว

ขอแค่ไม่ตายไปเสียก่อน จะต้องไปถึงระดับที่คนจำนวนมากเฝ้าปรารถนาแน่

หากตนไม่ยอมเสี่ยงอันตราย แล้วเดินบนเส้นทางที่ยากเย็นกว่า จะเป็นการวางอุปสรรคที่ลำบากให้ตัวเองเสียเปล่าๆ

ถึงขั้นที่อาจจะอุดเส้นทางในการพัฒนาของตัวเองด้วยซ้ำ เหมือนพ่นไหมใส่ตัวเอง

หลังจากใคร่ครวญแล้ว คำตอบของเยี่ยนจ้าวเกอก็คือ เดินหน้า!

ตนเป็นคนที่มีความภาคภูมิใจปลอมๆ เต็มเปี่ยม แต่ครั้งนี้กลับไม่ใช่ทำเพราะเติมเต็มความภาคภูมิใจปลอมๆ นั้น

ทุกคนล้วนนิยมความสมบูรณ์แบบ มีความใคร่ มีความคิดที่สวยงามยามอยากได้ผลสำเร็จมากๆ

เยี่ยนจ้าวเกอก็มี แต่ว่าครั้งนี้กลับไม่ได้ทำเพราะสิ่งเหล่านี้

สาเหตุเพียงเป็นเพราะ แม้เส้นทางจะยากกว่ามาก แต่กลับเดินไปสู่ระดับที่อยู่สูงได้มากกว่า

เพราะวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ วังเทพจึงกลายเป็นฝุ่นละอองของประวัติศาสตร์

เรื่องนี้ฝังอยู่ในก้นบึ้งจิตใจของเยี่ยนจ้าวเกอมาตลอด ไม่เคยลืมเลือน เป็นแรงขับเคลื่อนให้เขามุ่งไปด้านหน้าและพัฒนาไม่หยุดยั้ง ไม่ยอมหยุดกระหาย ไม่มีวันเหนื่อยล้า

เขาในตอนนี้เป็นจอมยุทธ์คนหนึ่ง และเคยชินกับการเป็นจอมยุทธ์คนหนึ่งมาตั้งแต่แรก

จอมยุทธ์จะทำลายเป้าหมายที่อยู่สูงกว่าเสมอ ในขณะที่ท้าทายกับศัตรู ก็ท้าทายตัวเองไปด้วย

บางทีอาจจะสลัดความเคยชินไม่หลุด แต่เยี่ยนจ้าวเกอชื่นชอบวิธีการเช่นนี้

ดังนั้น เขาต้องเดินหน้าต่อไป!

เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกได้ถึงการสั่นสะเทือนของหลักการแห่งฟ้าดิน เนื่องจากตนเลื่อนเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ จึงดึงดูดปราณวิญญาณของฟ้าดินที่อยู่รอบๆ ให้เข้าสู่ร่างกาย เพื่อชำระล้างร่างกาย

เส้นทางที่ยากลำบากเส้นนี้ การเลื่อนจากขั้นบรรลุธรรมเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่จุดจบ ไม่ใช่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่

เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น เส้นทางต่อจากนี้มีแต่จะยากขึ้น ยิ่งมายิ่งยากขึ้นเท่านั้น

ชายหนุ่มเข้าใจข้อนี้ดี แต่ว่าจิตใจสงบนิ่งผิดปกติ

ตนไม่แน่ว่าจะเป็นคนโชคดี ตนไม่แน่ว่าจะเป็นคนที่ชนะได้ตลอดกาล ตนไม่แน่ว่าจะเป็นคนที่สำเร็จเป็นคนสุดท้าย

แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้ส่งผลให้ตนเป็นคนที่มั่นใจคนนั้น เป็นคนที่ทะนงตนคนนั้น

จะว่าใจร้อนก็ดี ไร้เดียงสาก็ดี แต่เส้นทางนี้ เขากล้าเดินหน้าต่อไป

เวลาชั่วลมหายใจที่สิบสองมาถึงแล้ว

ทว่ากระบี่รุ้งพร่างพราวกลับมาอยู่ในมือของเยี่ยนจ้าวเกออีกครั้ง เขาฟันออกมาทั้งที่อยู่ไกลออกไป ปราณกระบี่สีขาวบริสุทธิ์สายหนึ่งพุ่งใส่หนงอวี่ซวนตรงๆ!

อีกฝ่ายสีหน้าเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หมวกเกราะดาราเรืองรอง อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นต่ำบนร่างคล้ายกับมีแสงของดวงดาวมารวมตัวกันกลายเป็นเกราะอ่อน

แต่ว่าปราณกระบี่สีขาวบริสุทธิ์ เจาะหมวกเกราะดาราเรืองรองทะลุเหมือนหั่นเต้าหู้ ประกายแสงของมันดับลงในพริบตา!

หนงอวี่ซวนตกใจ ร่างกายไม่อาจเคลื่อนไหว ได้แต่ฝืนใช้ปราณดาบแสงทมิฬที่ตัวเองควบคุมได้ให้มารวมตัวกันเบื้องหน้า

ปราณกระบี่สีขาวหมุนครั้งหนึ่ง พุ่งใส่เพลิงมารสีดำที่ไร้รูปร่างนั้น

หนงอวี่ซวนครางหนักคำหนึ่ง ร่างกระเด็นออกไป

เฟิงอวิ๋นเซิงที่ถูกควันดำปกคลุมอยู่ เมื่อรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของปราณดาบแสงทมิฬ ก็ถอนใจโล่งอก แสงของอาทิตย์ยะเยือกในดวงตาค่อยๆ สลายไป

ถ้าหากเกิดเรื่องเหนือความคาดหมาย เยี่ยนจ้าวเกอทำไม่สำเร็จ นางต้องเสี่ยงชีวิต ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ต้องสนับสนุนต่อ

แต่ว่าในนาทีสุดท้าย ความล้มเหลวของหนงอวี่ซวนได้อธิบายแล้วว่า เยี่ยนจ้าวเกอทำสำเร็จแล้ว!

ที่กลางอากาศ เยี่ยนจ้าวเกอใช้หนึ่งกระบี่ทำให้หนงอวี่ซวนถอยไปก่อน

ส่วนจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์สำนักแสงสว่างคนอื่น ก็พุ่งมาถึงเบื้องหน้าตนแล้ว

พวกเขาคิดจะหยุดไม่ให้เยี่ยนจ้าวเกอเลื่อนจากขั้นบรรลุธรรมเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์

แต่กลับคิดไม่ถึงว่าชายหนุ่มจะทำสำเร็จไวขนาดนี้

ถูกต้อง ถ้าไม่ใช่เช่นนี้ แล้วจะกล้าก้าวเท้าสุดท้ายต่อหน้าศัตรูกลุ่มใหญ่หรือ?

เพียงแต่ความจริงที่ไม่น่าเชื่อเช่นนี้ ครั้นมาวางอยู่เบื้องหน้า กลับทำให้ทุกคนมีความรู้สึกว่าไม่เป็นความจริง

พวกเขาช้าไปแค่นิดเดียว ระยะที่ใกล้แค่ปลายจมูกนี้ กลับดูไกลสุดฟ้า

ตอนนี้พวกเขายังอยู่ในท่วงท่าพุ่งเข้าหาเยี่ยนจ้าวเกออยู่เลย!

ความกล้าของทุกคนอันตรธาน จิตใจรู้สึกเย็นเยียบ

เพียงรู้สึกว่าเหมือนพาตัวเองเข้าไปตาย เอาศีรษะถวายไปบนคมกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอ

เกิดเสียงดังตูมกลางอากาศ

ประตูวังฝูงมังกรถูกกระแทกเปิด เงาคนเงาหนึ่งพุ่งออกมาจากด้านใน

เป็นผู้อาวุโสสำนักแสงสว่างระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม ที่ถูกเยี่ยนจ้าวเกอจับขังไว้ก่อนหน้านี้นั่นเอง

ครั้นเขาปรากฏตัวขึ้นก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง พุ่งเข้ามาหาเยี่ยนจ้าวเกอก่อน

เมื่อเห็นผู้อาวุโสคนนี้ ในใจของจอมยุทธ์สำนักแสงสว่างที่เหลือก็เกิดความหวังขึ้นหลายส่วน

ทว่าทุกคนก็ล้วนกัดฟันกรอดเช่นเดิม โจมตีใส่เยี่ยนจ้าวเกออย่างดุดัน

คนหนุ่มตรงหน้าเพิ่งจะเลื่อนเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น

แต่จอมยุทธ์สำนักแสงสว่างที่อยู่รอบๆ ทั้งหมดต่างเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์!

ทุกคนจับมือกันรุมโจมตี ไม่เชื่อว่าจะจัดการคนที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหนึ่ง ขั้นรวมรูประยะต้นไม่ได้

ไม่ สมควรบอกว่า มีคนที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหนึ่งคนไหนที่พวกเขาจัดการไม่ได้บ้าง?

“ข้าเลื่อนเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์ ไร้ผู้ต่อต้านในใต้หล้า” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างสงบนิ่ง

เขายืดร่างขึ้น บินขึ้นไปบนท้องฟ้า ทิศทางที่คมกระบี่มุ่งไป ปราณกระบี่สีขาวหลายสายเคลื่อนที่กลางอากาศ

มีปราณกระบี่บางสาย เปลี่ยนรูปร่างอย่างรุนแรง ถึงกับมีจิตพลังของกลิ่นอายมารแสงทมิฬ ซึ่งเป็นพลังของพระราหูอยู่หลายส่วน

ปราณกระบี่ที่แฝงพลังกัดกร่อน พลันสั่นไหวแสงอาทิตย์สีทองกลางท้องฟ้า

มีปราณกระบี่บางสายรูปร่างเปลี่ยนแปลงเช่นกัน กลับปรากฏพลังแห่งพระเสาร์ กลายเป็นแสงสลัวที่เหมือนสายน้ำครึ่งหนึ่ง ครอบคลุมฟ้าดิน

ปราณกระบี่ที่แฝงพลังแห่งการกัดกร่อนอีกชนิดหนึ่งทำลายแสงจันทร์สีเงินยวง

สองกระบี่ประสาน สุริยคราสกับจันทราคราสเกิดขึ้นพร้อมกัน พลังแห่งการดับสลายพุ่งสู่จุดสูงสุด รับมือกับท่าฝ่ามือเทพอาทิตย์จันทราของสำนักแสงสว่างโดยเฉพาะ

มีปราณกระบี่บางสาย กลับกลายเป็นแสงอาทิตย์กับแสงจันทร์ที่โชติช่วงสุดขีด แก้ไขฝ่ามือกลืนตะวันกินจันทราของสำนักแสงสว่าง

มีปราณกระบี่บางสาย กลายเป็นหลุมดำ กลืนกินแสงสว่างไร้ขอบเขต รับมือฝ่ามือแสงสว่างไร้สิ้นสุดของสำนักแสงสว่างโดยเฉพาะ

มีปราณกระบี่บางสาย ลักษณะเหมือนกระแสเวลา กัดกินร่างแสงสว่างไร้วันดับที่ขึ้นชื่อเรื่องการป้องกันมากที่สุดของจอมยุทธ์สำนักแสงสว่าง

เวลาดุจสายน้ำ ไม่มีปราณี ต่อให้เป็นแสงสว่างที่เป็นอนันต์ ต่อหน้ากาลเวลา สุดท้ายก็มีวันดับสลัว

ปราณกระบี่สังหารเทพอันน่ากลัววนเวียน เปลี่ยนแปลงนับครั้งไม่ถ้วน มหัศจรรย์ไม่อาจต้านทาน ส่งทุกสิ่งทุกอย่างไปสู่จุดจบของตัวเองด้วยวิธีการต่างๆ นาๆ

ระหว่างนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงนับหมื่นนับพัน แต่สุดท้ายก็มีผลลัพธ์คล้ายกัน

จุดจบที่กลับไปอยู่ในเส้นทางเดียวกันมีเพียงหนึ่ง

นั่นคือความพินาศ!

เยี่ยนจ้าวเกอท่าทางสบายอารมณ์ โจมตีใส่ผู้อาวุโสสำนักแสงสว่างที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามหนึ่งกระบี่ จากนั้นก็โจมตีคนอื่นอีกหนึ่งกระบี่ ต่อมาก็โจมตีผู้อาวุโสสำนักแสงสว่างคนนั้นอีกหนึ่งกระบี่ จากนั้นถึงเปลี่ยนเป้าหมาย โจมตีจอมยุทธ์สำนักแสงสว่างคนอื่นต่อ

ภายใต้การโจมตีจากปราณกระบี่สังหารเทพอันน่าสะพรึง แม้จะเป็นพลังที่จับตัวจากการรวมร่าง รูป วิญญาณเป็นหนึ่งของผู้อาวุโสที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม ขั้นรวมรูประยะท้าย หากโดนเข้าจะต้องได้รับบาดเจ็บ ถ้าฝืนปะทะจะต้องพิการ

นอกจากผู้อาวุโสที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามคนนั้นแล้ว จอมยุทธ์สำนักแสงสว่างที่เข้าร่วมการรุมโจมตี ไม่มีใครต้านทานอานุภาพกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอได้!

อานุภาพที่ทำลายล้างทั่วบริเวณ ทำให้เงาของความตายทาบทับหัวใจของจอมยุทธ์สำนักแสงสว่างทุกคน!