ตอนที่ 861: หญิงลึกลับ
“อะไรนะ? เจ้าเจอวัตถุดิบอื่น ? ” เจี้ยนเฉินดีใจและเขาก็เร่งฝีเท้าไปข้างหน้าทันที
เมื่อเดินทางไป 10 กิโลเมตร เจี้ยนเฉินก็มาถึงหน้าปราสาทใหญ่ เขารู้ว่าวัตถุดิบที่ใช้ทำกระบี่ม่วงฟ้าอยู่ข้างในนี้จากคำบอกกล่าวของจื่อหยิง
“นี่มันการประมูลของเมืองแจ๊ส ! ” เขาจ้องไปที่ตัวหนังสือใหญ่บนปราสาท เจี้ยนเฉินตะหนักว่าวัตถุดิบที่ใช้ทำกระบี่ม่วงฟ้าดูเหมือนจะถูกขายในการประมูลครั้งนี้
วัตถุดิบทุกอย่างที่ใช้ทำกระบี่ม่วงฟ้านั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะเจาะจงและหายากมาก มันยากที่จะทำลายวัตถุดิบเหล่านั้น นอกเหนือจากนั้นวัตถุดิบยังมีคุณสมบัติพิเศษ ใช้ได้เบ็ดเตล็ด นอกจากนั้นยังเป็นวัตถุที่ไม่สามารถใช้ได้โดยคนในโลกนี้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความหายากและคุณสมบัติเฉพาะตัวของมัน พวกมันจึงมีค่าและถูกเก็บไว้ในฐานะสมบัติสำหรับใครหลาย ๆ คน
“นายท่าน นี่คือน้ำศักดิ์สิทธิ์ของทะเลวิญญาณ ของเหลวนี้เกิดมาจากทะเลวิญญาณหลังจากที่ผ่านมาเนิ่นนานนับปีไม่ถ้วนและมันมีคุณสมบัติมหัศจรรย์มาก เมื่อคนที่ต่ำกว่าระดับเซียนราชาดื่มมันเข้าไป มันจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้คนนั้นอย่างมาก มันยังช่วยขัดเกลาวิญญาณอีกด้วย” เสียงจื่อหยิงดังขึ้นมา เขาอธิบายรายละเอียดของการใช้น้ำศักดิ์สิทธิ์
“จื่อหยิง ทำไมข้ารู้สึกว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นอะไรที่ใช้เพิ่มความแข็งแกร่ง ไม่ใช่สำหรับหลอมอาวุธ ? ” เจี้ยนเฉินถามอย่างอยากรู้
“นายท่าน ท่านอาจจะยังไม่รู้ว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์นั้นเต็มไปด้วยแก่นแท้ของธรรมชาติ เมื่อท่านหลอมกระบี่ คุณภาพจะเพิ่มขึ้นอย่างมากถ้าท่านเติมน้ำศักดิ์สิทธิ์เข้าไป มันยังสามารถเพิ่มคุณภาพของกระบี่ม่วงฟ้าโดยตรงจากระดับอมตะขั้นต่ำไปยังขั้นสูงสุด” จื่อหยิงอธิบาย
เจี้ยนเฉินเข้าใจในที่สุดและคิด “น้ำศักดิ์สิทธิ์นี้มีประโยชน์จริง ๆ สำหรับเซียนผู้คุมกฎ จะต้องมีหลายคนที่แข่งกันอยากได้มันแน่ ข้าจะต้องหาเงินของที่นี่มาหน่อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ข้าจะให้ใครคนอื่นชนะในการประมูลน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปไม่ได้ ถ้ามีคนได้ดื่มมันไปแล้ว นั่นหมายความว่าข้าจะพลาดโอกาสในการได้มันไปอย่างนั้นหรือ ? “
แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะมีเหรียญม่วงจำนวนมาก แต่มันก็ไม่มีประโยชน์ที่เผ่าพันธุ์ทะเล พวกมันไร้ค่าที่นี่
“เจี้ยนเฉิน เจ้ามัวยืนเหม่ออะไรอยู่ ? ” นูบิสอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสงสัยหลังจากที่เห็นเจี้ยนเฉินยืนนิ่งอยู่
เจี้ยนเฉินมองไปที่ศูนย์กลางการประมูล “มีบางอย่างที่ข้าต้องการอยู่ในนั้น ข้าต้องหาทางเอาเหรียญผลึกมาก่อน”
“นั่นมันไม่งายเลยนะ เจ้าอาจจะเข้าไปในที่ว่าง ๆ แล้วไปปล้นบางคนมา” นูบิสพูดอย่างองอาจ
หลังจากฟังจบ เจี้ยนเฉินก็หลุดหัวเราะออกมา “นูบิส แค่เจ้าเป็นจักรพรรดิงูที่ยิ่งใหญ่ก็มากโขแล้ว หากเจ้าต้องการจะทำอะไรแบบนั้น เจ้ายังจะเป็นสัตว์อสูรระดับ 7 ที่น่าประทับใจอีกหรือ”
นูบิสเกาหัวและหัวเราะคิกคักออกมา ” ไม่ใช่แค่ว่าคนแข็งแกร่งกลืนกินคนที่อ่อนแอกว่างั้นหรือ ? นี่เป็นหลักการเอาตัวรอดในโลกนี้ ไม่มีอะไรที่น่าอายเกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย แต่การที่ไปปล้นเอาเหรียญผลึกจากคนอื่นเป็นเรื่องที่น่าอายจริงด้วยฐานะของพวกเรา อย่างไรก็ตาม เจี้ยนเฉิน เจ้าว่ายังไง เจ้ามีวิธีที่จะหาเงินหรือเปล่า ? “
หลังจากที่คิดไปสักพัก เจี้ยนเฉินก็พูด “ยังมีเวลาอีกครึ่งเดือนกว่าจะถึงการประมูล พวกเรายังมีเวลา พวกเราหาที่พักแล้วค่อยคิดที่เรื่องวิธีที่จะได้เหรียญผลึกมา ถ้าถึงเวลาจริง ๆ ข้าจะประมูลสมบัติสวรรค์ที่มีค่าในแหวนมิติของข้าออกไป” เจี้ยนเฉินไม่ต้องการที่จะขายของในแหวนมิติออกไปเว้นเสียแต่เขาจำเป็นต้องทำ นี่เป็นเพราะบางทีเฉพาะสมบัติสวรรค์หมื่นปีและหญ้าน้ำลายมังกรหลายต้นเท่านั้นที่เผ่าพันธุ์ทะเลจะรับเนื่องจากความมีค่าของมัน การขายมันเป็นอะไรที่ค่อนข้างน่าเสียดาย
สำหรับแกนอสูร พวกมันไม่มีประโยชน์กับเผ่าพันธุ์ทะเลเมื่อเทียบกับมนุษย์ พวกมันมีค่าไม่มากและพลังงานในแกนอสูรหลายอันก็เป็นของแข็งและรั่วออกไป ดังนั้นค่ามันก็ยิ่งน้อยไปอีก
ในตอนนี้ บทสนทนาจากคนที่เดินผ่านไปมาทำให้เจี้ยนเฉินสนใจ
“เผ่าแห่งความกล้าเละแน่คราวนี้ พวกเขาไปทำให้เผ่าเมิ่งหวงโกรธ เผ่าเมิ่งหวงเป็นที่รู้จักกันดีในรัศมีแสนกิโลเมตรนี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีนักรบวิญญาณทะเล 13 ดาวอยู่ 3 คน”
“นักรบวิญญาณทะเล 3 คนที่มีระดับ 13 ดาวก็เพียงพอที่จะกวาดล้างองค์กรทั้งหมดที่อยู่ในบริเวณนี้ได้ พวกเขานั้นไร้เทียมทานและข้าได้ยินมาว่าผู้นำเผ่าคนก่อนก็ยังมีชีวิตอยู่ด้วย เขาถึงระดับ 14 ดาวมานานมากแล้วและเขาเป็นจอมยุทธที่อยู่ในเหนือคนอื่นในเขตนี้”
“ข้าก็ได้ยินมาว่าผู้นำเผ่าคนก่อนนั้นมีสัมพันธ์ทางการทูตอันดีกับศาลาเทพเจ้าอสรพิษ เผ่าใหญ่หลายเผ่าอื่นไม่กล้าที่จะไปแหยมกับเขา”
“เผ่าแห่งความกล้ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เป็นถึง 13 ดาว ข้าอยากจะเห็นว่าเขาจะขับไล่การโจมตีจากเผ่าเมิ่งหวงยังไง”
“ข้าได้ยินมาว่ามีสายแร่วิญญาณที่อุดมไปด้วยเหรียญผลึกในอาณาเขตของเผ่าแห่งความกล้า พวกเขาทำเหมืองและได้เหรียญผลึกมากมายจากมันและทำให้หลาย ๆ เผ่าในเขตรอบ ๆ เกิดอิจฉา เผ่าเมิ่งหวงดูเหมือนจะมองสายแร่วิญญาณของเผ่าแห่งความกล้าอยู่ตาเป็นมัน และพวกเขาต้องการที่จะแย่งชิงมันไป”
“ดูเหมือนสายแร่วิญญาณนี้จะตกไปอยู่ในมือของเผ่าเมิ่งหวงแล้วล่ะ”
“มันอาจจะไม่เป็นแบบนั้นก็ได้ ข้าได้ยินมาว่าเผ่าแห่งความกล้าได้ยื่นข้อเสนออย่างงามเพื่อจ้างคนที่ทรงพลังมา พวกเขาวางแผนที่จะสู้กับเผ่าเมิ่งหวงให้ตายกันไปข้าง”
“การไปเป็นศัตรูกับเผ่าเมิ่งหวงไม่ใช่อะไรที่ฉลาดเลย ข้าไม่คิดว่าจะมีใครรับข้อเสนอนั้นนะ”
..
เมื่อได้ยินดังนั้น เจี้ยนเฉินก็เริ่มครุ่นคิดในขณะที่สายตาของเขาเป็นประกาย
“เจี้ยนเฉิน เจ้าคงไม่ได้กำลังวางแผนที่จะช่วยเผ่าแห่งความกล้าในการขับไล่เผ่าเมิ่งหวงออกไปหรอกนะ ? ” นูบิสอดไม่ได้ที่จะถามหลังจากที่เห็นเจี้ยนเฉินทำท่าทางแบบนี้
“เผ่าแห่งความกล้ามีเพียงนักรบวิญญาณทะเล 13 ดาวเพียงคนเดียว พวกเขาน่าจะต่ำกว่าเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 5 และอ่อนแอกว่าเผ่าเมิ่งหวงมาก พวกเขากำลังมองหาจอมยุทธที่จะขับไล่เผ่าเมิ่งหวงออกไป ดังนั้นค่าจ้างต้องมากแน่ บางทีเราอาจจะลองดูและเรายังได้เหรียญผลึกในเวลาเดียวกันอีกด้วย” เจี้ยนเฉินพูดความคิดเห็นของเขาออกมา
“มันเป็นไปได้สูงที่พลังของพวกเราจะถูกเปิดเผยในตอนที่เราสู้กับเซียนผู้คุมกฎของเผ่าพันธุ์ทะเล ถ้าพวกเขารู้ว่าเราเป็นคนนอก เราอาจจะเจอปัญหาอื่นในอนาคตได้” นูบิสพูด
“พวกเราไปหาโรงเตี้ยมพักกันก่อน แล้วพวกเรามาคิดเรื่องนี้กันช้า ๆ” เจี้ยนเฉินแนะนำ
หลังจากนั้น พวกเขาทั้งสองก็โรงเตี้ยมที่ค่อนข้างหรูหราที่จะพัก ทั้งคู่อยู่ในห้องใหญ่ที่สะดวกสบาย เพื่อที่จะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าจะเอายังไงต่อไป
พวกเขาเพิ่งมาถึงที่อาณาเขตของเผ่าพันธุ์ทะเล และเผ่าพันธุ์ทะเลเท่านั้นที่มีพลังพอที่จะขับไล่ตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบและทวีปสัตว์เทวะได้ ดังนั้น พวกเขาจึงต้องอยู่ที่นี่เป็นเวลาค่อนข้างนานแน่นนอน ดังนั้นพวกเขาต้องทำตัวไม่ให้เด่นเข้าไว้โดยไม่สร้างปัญหามากและไม่ให้ตัวเองกลายเป็นศัตรูกับคนทั้งหลาย
“คนของเผ่าพันธุ์ทะเลมีร่างกายที่คล้ายกับมนุษย์ สิ่งที่เป็นปัญหาคือพลังของพวกเรา ถ้าเราปิดบังมันไว้ เราก็คงไม่จำเป็นต้องทำตัวไม่ให้เด่นแบบนี้” เจี้ยนเฉินพึมพำ
เมื่อเจี้ยนเฉินคิดถึงจุดหนึ่ง ท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไปทันที เขาหันไปและมองไปที่ข้างหลังเขาอย่างรวดเร็วและตาของของก็หรี่เล็กลงทันที
เมื่อสัมผัสได้ถึงการกระทำของเจี้ยนเฉิน นูบิสก็มองไปที่ข้างหลังเขาด้วย ซึ่งทำให้ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปอย่างมากเช่นกัน ตาของเขาหรี่เล็กลงทันที ในขณะที่พลังงานในเขานั้นพลุ่งพล่าน เขาเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ได้ทุกเมื่อ
ร่างราง ๆ เริ่มที่จะรวมตัวในทิศทางที่พวกเขามองไป ร่างนั้นลอยอยู่ครึ่งเมตรเหนือพื้น
ร่างนั้นคือหญิงที่มีผมยาวสีฟ้าและใส่ชุดสีฟ้า นางมีร่างกายที่เหมือนปีศาจ ในขณะที่หน้าของนางถูกเบลอเอาไว้ โดยที่ไม่มีส่วนใดถูกเห็นได้เลย
“เจ้าเป็นใครกัน ? ” เจี้ยนเฉินคำรามออกมาอย่างเคร่งเครียด ถ้าไม่ใช่ว่าวิญญาณของเขาแข็งแกร่งขึ้นจากการที่ดูดซับพลังงานหยินหยางมา เขาคงไม่สามารถรับรู้การมีอยู่ของหญิงผู้นี้ได้เลยแม้แต่น้อย เขารู้สึกได้ชัดเลยว่าร่างนี้คือภาพที่ควบแน่นมาจากวิญญาณ
“เจี้ยนเฉิน ข้าเป็นใครนั้นไม่สำคัญ สิ่งที่เจ้าจำเป็นต้องรู้คือข้าไม่ได้มีเจตนาร้ายกับเจ้า” เสียงคารมคมคายชัดเจนดังขึ้นมาซึ่งฟังลื่นหูเหมือนเสียงร้องของนก
“เจ้ารู้ชื่อของข้าได้อย่างไร ? ” หน้าของเจี้ยนเฉินเริ่มน่ากลัว
ท่าทีของนูบิสก็เปลี่ยนไปอย่างมาก หญิงผู้นั้นเอ่ยชื่อเจี้ยนเฉินถูกตั้งแต่เริ่มต้น ไม่ได้หมายความว่าเขารู้เรื่องเกี่ยวกับเจี้ยนเฉินบนทวีปเทียนหยวนทั้งหมดเลยหรือ ?
“ข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องอยากรู้หรอก ข้ามาช่วยเจ้าเป็นพิเศษในครั้งนี้” หญิงนั้นพูดอย่างสุภาพ หลังจากนั้น หญิงนั่นก็ไม่ได้เคลื่อนไหวและไข่มุกสีห้าขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือก็ปรากฎขึ้นมาทันทีและลอยอยู่กลางอากาศหน้าพวกเขา
“นี่คือไข่มุกจิตวิญญาณน้ำ มันถูกสร้างขึ้นมาโดยข้าจากเม็ดพลังของคนของเผ่าพันธุ์ทะเล เจ้าแค่กินมันเข้าไปและมันจะช่วยปิดปังพลังของเจ้าในฐานะคนนอกได้อย่างสมบูรณ์ พวกมันไม่มีอันตรายกับเจ้า”
“เจ้าเป็นใครกัน ? ทำไมเจ้าถึงช่วยพวกเรา ? ” เจี้ยนเฉินและนูบิสไม่ได้รับเม็ดพลังนั้นมาทันที พวกเขารู้สึกอยากรู้ในตัวตนของหญิงนั้นมาก
“เจ้าจะรู้ถึงตัวตนของข้าเองในอนาคต เจี้ยนเฉิน ข้าช่วยเจ้ามา 2 ครั้งแล้ว เจ้าจำเป็นต้องช่วยข้าในอนาคต” หญิงนั้นพูดออกมา
“เจ้าช่วยข้ามา 2 ครั้งแล้ว ? ” เจี้ยนเฉินสับสนมาก
“ถ้าไม่ใช่เพราะข้า เจ้าจะหนีมาจากจอมยุทธมนุษย์พวกนั้นได้อย่างไร ? นั่นเป็นครั้งแรกที่ข้าช่วยเจ้าและการมอบไข่มุกจิตวิญญาณน้ำจะเป็นครั้งที่ 2 ที่ข้าช่วยเจ้า”
“เจี้ยนเฉิน ตราบใดที่เข้ายังอยู่ที่เผ่าพันธุ์ทะเล ข้าจะช่วยเจ้ากันจอมยุทธของทวีปเทียนหยวนและทวีปสัตว์เทวะออกไป เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลไป ในอนาคต เมื่อเจ้าแข็งแกร่งเพียงพอแล้ว เจ้าต้องช่วยข้าบางอย่าง”
“เจ้าต้องการให้ข้าช่วยอะไร ? ถ้ามันเหนือกว่าความสามารถของข้า เจ้าอาจจะต้องผิดหวัง” เจี้ยนเฉินพูด
“ข้าหามาทั่วทั้งโลกแล้วและบางทีเจ้าอาจจะเป็นเพียงคนเดียวที่มีความสามารถนี้ ถ้าเจ้ายังทำไม่ได้ ก็อาจไม่มีใครในโลกนี้ที่ทำได้แล้ว เจ้าจะรู้เองในอนาคตว่าเจ้าต้องทำอะไร” น้ำเสียงของหญิงนั้นชัดเจนและมีวาทะศิลป์และยากหยั่งถึง
“อีกทั้ง ยังมีชิ้นส่วนของแผนที่แผ่นดินทั้งแปดอีก ชิ้นส่วนอื่นอีก 7 ชิ้นนั้นตกอยู่ในมือของเผ่าใหญ่ทั้งหมดแล้ว ชิ้นสุดท้ายอยู่ที่การประมูลในครั้งนี้ เจ้าต้องเอามันมาให้ได้ มันจะเป็นประโยชน์กับเจ้าอย่างมากในอนาคต”
“ตอนนี้เจ้าอยู่ในอาณาเขตของศาลาเทพเจ้าอสรพิษ เจ้าจะไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้ในอนาคต ไปที่ศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล เจ้าจะปลอดภัยที่นั่น”
“จำไว้ว่า เจ้าต้องเอาชิ้นส่วนของแผ่นที่แผ่นดินทั้งแปดมาให้ได้ ข้างในนั้นมีความมั่งคั่งของจักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปด…” หลังจากนั้น ร่างมายาของหญิงผู้นั้นก็หายไป