ตอนที่ 862: เหรียญผลึกชั้นยอด 10 ล้านเหรียญ

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 862: เหรียญผลึกชั้นยอด 10 ล้านเหรียญ

เจี้ยนเฉินและนูบิสทั้งคู่ครุ่นคิดถึงคำพูดของหญิงร่างมายาที่ยังดังก้องอยู่ในหัวของพวกเขา อย่างไรก็ตาม พวกเขายังสงสัยถึงตัวตนของนาง

แต่พวกเขารู้ดีว่าเมื่อหญิงผู้นั้นกล้าที่จะพูดอย่างอาจหาญว่านางสามารถช่วยพวกเขาในการกันพวกจอมยุทธจากทวีปเทียนหยวนและทวีปสัตว์เทวะ ความแข็งแกร่งของนางนั้นต้องยอดเยี่ยมแน่ ยิ่งไปกว่านั้น นางยังดูเหมือนจะมีฐานะที่สูงส่งภายในเผ่าพันธุ์ทะเลอีกด้วย

“เจี้ยนเฉิน เจ้าคิดว่าคำพูดจากหญิงที่ปิดหน้าปิดตานั้นเชื่อถือได้ไหม? เจ้าคิดว่าไข่มุกจิตวิญญาณน้ำที่นางให้มาจะเป็นอันตรายกับเราหรือไม่ ? ” นูบิสหันไปหาเจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินจ้องไปที่ไข่มุกทั้งสองสักครู่ “มันไม่เกี่ยวว่าเรื่องที่หญิงลึกลับนั้นพูดจะเป็นจริงหรือไม่ เมื่อนางต้องการความช่วยเหลือจากข้า นางก็น่าจะไม่ทำร้ายพวกเรา มากินไข่มุกเข้าไปและมาดูว่ามันมีคุณสมบัติมหัศจรรย์อย่างที่นางอธิบายหรือเปล่า” หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็หยิบไข่มุกที่ลอยอยู่ข้างหน้าเขาเข้ามาและกลืนมันลงไป

เมื่อไข่มุกจิตวิญญาณน้ำไหลลงไปในคอของเขาแล้ว เจี้ยนเฉินรู้สึกถึงความเย็นที่ส่งผ่านไปทุกซอกมุมของร่างกายของเขา เขาไม่พบว่ามันอึดอัดเลยแม้แต่น้อย

เจี้ยนเฉินหลับตาและสำรวจสภายร่างกายของเขา เมื่อเขาพบว่าไม่มีอะไรผิดปกติ เขาก็ลืมตาขึ้นช้า ๆ เขาพูดกับนูบิส “มันน่าจะปลอดภัยนะ”

นูบิสจ้องไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความประหลาดใจและอุทานออกมา “เจี้ยนเฉิน ข้ารู้สึกว่าพลังแห่งการมีอยู่ของเจ้าเปลี่ยนไป มันเป็นพลังแห่งการมีอยู่ที่เหมือนคนของเผ่าพันธุ์ทะเล ดูเหมือนว่าหญิงลึกลับผู้นั้นจะไม่ได้หลอกพวกเรา ไข่มุกจิตวิญญาณน้ำสามารถเปลี่ยนพลังแห่งการมีอยู่ของคนนอกได้จริง ๆ ” นูบิสหยิบไข่มุกที่อยู่ตรงหน้าเขามาทันทีและกลืนลงไปอย่างไม่ลังเล

ในขณะที่ไข่มุกเข้าไปในท้องของเขานั้น เจี้ยนเฉินรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าพลังแห่งการมีอยู่ของนูบิสได้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว พลังแห่งการมีอยู่ที่เป็นสัตว์อสูรของเขาได้หายไปและถูกแทนที่ด้วยพลังแห่งการมีอยู่ที่เหมือนคนของเผ่าพันธุ์ทะเล

เจี้ยนเฉินอดไม่ได้ที่จะยิ้มมุมปากอย่างมีความสุขหลังจากที่เห็นสิ่งนี้ “นูบิส พลังแห่งการมีอยู่ของเจ้าก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ข้าสัมผัสถึงพลังแห่งการมีอยู่ที่เป็นสัตว์อสูรไม่ได้เลยในตัวของเจ้า ด้วยความแข็งแกร่งของข้าในตอนนี้ มันเยี่ยมมาก ความกังวลใจก่อนหน้านี้ของพวกเราได้ถูกกำจัดไปแล้ว พวกเราสามารถเดินไปท่ามกลางพวกเผ่าพันธุ์ทะเลได้โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาได้มากแล้ว”

“ใช่ จากนี้ไป ข้าสามารถทำกร่างเมื่อข้าเดินไปท่ามกลางพวกเผ่าพันธุ์ทะเลได้แล้ว อ้อ ใช่ เจี้ยนเฉิน ไม่ใช่ว่าเจ้าต้องการเหรียญผลึกจำนวนมากหรอกหรือ ? พวกเราสามารถช่วยเผ่าแห่งความกล้าในการขับไล่การรุกรานของเผ่าเมิ่งหวงได้นะ เมื่อเผ่าแห่งความกล้ามีสายแร่วิญญาณที่สามารถผลิตเหรียญผลึกได้ พวกเขาต้องร่ำรวยมากเป็นแน่ พวกเราจำเป็นใช้เรื่องนี้เป็นข้อได้เปรียบแล้วก็เอาเงินมา” นูบิสพูด

ทันทีที่พวกเขาพูดคุยกันเรื่องธุรกิจ รอยยิ้มของเจี้ยนเฉินก็ค่อย ๆ หายไป เขาก้มหัวลงคิดและพูด “ข้าได้ยินคนที่ผ่านไปมาพูดว่า เผ่าเมิ่งหวงนั้นมีนักรบวิญญาณทะเล 13 ดาวอยู่ 3 คนและ 14 ดาวอยู่ 1 คน อ้างอิงจากการแบ่งระดับพลังของทวีปเทียนหยวน นักรบวิญญาณทะเล 13 ดาวน่าจะเป็นเซียนผู้คุมกฎที่ต่ำกว่าชั้นสวรรค์ที่ 5 ในขณะที่นักรบวิญญาณทะเล 14 ดาวน่าจะเป็นเซียนผู้คุมกฎที่เหนือกว่าชั้นสวรรค์ที่ 5 ถ้าเผ่าเมิ่งหวงมีพลังแค่นั้นจริง ๆ พวกเราคงรับมือมันได้ง่าย ๆ “

“พวกเราควรจะไปตรวจสอบความแข็งแกร่งของเผ่าเมิ่งหวงมากกว่านี้และมาดูกันว่าพวกเขามีเซียนราชาด้วยหรือเปล่า ตราบใดที่พวกเขาไม่มีเซียนราชาอยู่เคียงข้างพวกเขา มันก็ไม่มีปัญหา” นูบิสพูด

“ข้าเห็นด้วย เมืองแจ๊สเป็นเมืองใหญ่ ดังนั้นน่าจะมีที่ซึ่งมีนายหน้าขายข้อมูลอยู่ พวกเราไปดูกันว่ากำลังเต็มที่ของเผ่าเมิ่งหวงนั้นมีขนาดไหนกันก่อน” เจี้ยนเฉินพูดก่อนที่จะออกจากโรงเตี้ยมไปพร้อมกับนูบิส

เจี้ยนเฉินและนูบิสเดินทางผ่านถนนไปและหลังจากที่ได้ตรวจสอบมา พวกเขาก็พบที่ขายข้อมูลลับ

มันเป็นศาลาเล็ก ๆ ที่มีชื่อว่า ‘เครือข่ายโลก’ ศาลานั้นสร้างมาจากหินและมีร่องรอยตามกาลเวลา เห็นได้ชัดว่ามันมีอยู่มานานมากแล้ว

ไม่เย็นและหดหู่มากภายในศาลาพร้อมกับการตกแต่งที่แสนธรรมดา ไม่มีใครอยู่ที่นั่นเลยนอกจากเจี้ยนเฉินและนูบิส

“ท่านนักรบ พวกท่านต้องมาเพื่อข้อมูลสำหรับการประมูลในครั้งนี้แน่ โปรดอดทนหน่อย มีบางคนที่มาเพื่อข้อมูลเกี่ยวกับการประมูลในสองสามวันที่ผ่านมา ในตอนนี้ คนที่เกี่ยวข้องกำลังต้อนรับแขกอยู่ที่ชั้นบนอยู่” เสียงดังออกมาจากโต๊ะต้อนรับใกล้ ๆ

เจี้ยนเฉินและนูบิสมองไปและเห็นชายหนุ่มที่ดูฉลาดเฉลียวนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานและกำลังมองมาที่พวกเขาทั้งสอง ชายหนุ่มคนนี้ตัวเล็กมาก เขาสูงแค่ 1 เมตรเท่านั้น

เจี้ยนเฉินเดินไปที่โต๊ะต้อนรับแล้วพูดกับชายหนุ่ม “เห็นได้ชัดว่า เจ้ารู้ทุกอย่างที่นี่ มันจริงหรือไม่ ?”

“ท่านนักรบ ดูเหมือนท่านจะยังไม่เข้าใจในความสามารถของเครือข่ายโลก พวกเรามีสมาชิกจำนวนมากที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วมหาสมุทร แม้ว่าพวกเราจะไม่ใช่พวกที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ก็ไม่มีใครกล้าท้าทายกับพวกเราในเรื่องของข้อมูลที่พวกเรารู้ในอาณาเขตทะเล” ชายหนุ่มยืนยัน เขามั่นใจมาก

“เอาล่ะ ข้าอยากรู้เกี่ยวกับความแข็งแกร่งที่เผ่าเมิ่งหวงมี” เจี้ยนเฉินพูด

ชายหนุ่มที่ฉลาดเฉลียวอดไม่ได้ที่จะสำรวจดูเจี้ยนเฉินและนูบิสอย่างใกล้ ๆ เขาเริ่มแสดงท่าทางเคารพและพูดออกมาอย่างไม่เร่งรีบ “ท่านนักรบที่เคารพ พวกท่านคงต้องการที่จะช่วยเผ่าแห่งความกล้าแน่ ข้ารู้เรื่องของเผ่าเมิ่งหวงทั้งหมดมาพอดี ดังนั้นข้าจะเป็นคนที่บอกมันกับท่านนักรบทั้งสองเอง อย่างไรก็ตาม ตามกฎแล้ว พวกท่านจำเป็นจะต้องจ่ายเหรียญผลึกชั้นดี 10 เหรียญมาเป็นการแลกเปลี่ยน”

ครึ่งชั่วยามถัดมา เจี้ยนเฉินและนูบิสได้ออกมาจากศาลา พวกเขาได้เข้าใจในรายละเอียดของเผ่าเมิ่งหวงจาก ‘เครือข่ายโลก’ ท้ายที่สุด มันก็เหมือนกับที่คนผ่านไปผ่านมาพูดกันยกเว้นบางอย่างที่แตกต่างออกไป

เผ่าเมิ่งหวงมีเซียนผู้คุมกฎ 3 คนที่ต่ำกว่าชั้นสวรรค์ที่ 5 และมีอีก 1 คนที่เหนือกว่า พวกเขาไม่ใช่อะไรที่เจี้ยนเฉินให้ความสนใจ กลับกัน คนที่เจี้ยนเฉินและนูบิสให้ความสนใจคือสมาชิกที่มีพรสวรรค์คนหนึ่งของเผ่าที่เป็นทูตของศาลาเทพเจ้าอสรพิษ เขาเป็นลูกศิษย์ของผู้อาวุโสขององค์กรและมีตำแหน่งที่สูงในศาลา

เผ่าแห่งความกล้าใกล้กับเมืองแจ๊สมากกว่า พวกเขาอยู่ห่างราวราวหมื่นกิโลเมตรออกไป เขามุ่งหน้าไปที่นั่นพร้อมกับนูบิสหลังจากที่รู้ตำแหน่งที่แน่นอนจากเมืองแจ๊ส

เผ่าแห่งความกล้าเป็นเผ่าขนาดกลางที่มีผู้คนนับหมื่นคน มันตั้งอยู่บนที่ราบเรียบและมีสิ่งก่อสร้างเล็ก ๆ จำนวนมากที่ทำจากหินตั้งอยู่รอบ ๆ ตรงกึ่งกลางมีสิ่งปลูกสร้างที่เหมือนปราสาทที่กินพื้นที่ไปหลายพันตารางเมตร

เจี้ยนเฉินและนูบิสบินไปที่นั่นจากเมืองแจ๊ส พวกเขาไม่ได้เข้าไปทางทางเข้าหลักและบินตรงเข้าไปที่จุดกึ่งกลางของเผ่าแทน และหยุดตรงหน้าสิ่งก่อสร้างที่เหมือนปราสาท

พวกเขาเป็นใครกัน ! ? “

“เรียกยามรักษาการมา ! “

คนสองคนโบกธงใหญ่เพื่อเตือนคนทั้งเผ่าทันที ทันใดนั้นเอง คนหลายคนที่มีความแข็งแกร่งเท่าเซียนสวรรค์ก็บินเข้ามาจากทุกทิศทาง และล้อมรอบแขกที่ไม่ได้รับเชิญทั้งสองเอาไว้พร้อมกับเซียนปฐพีบางคนด้วย

“นักรบ ? พวกเจ้าเป็นใครกัน ? บอกจุดประสงค์ของพวกเจ้ามา” เซียนสวรรค์ชราคำรามออกมา เขาเคร่งเครียดเหมือนว่าเขากำลังเผชิญหน้าอยู่กับศัตรู

คนอื่น ๆ ก็ดูระมัดระวังเช่นกัน พวกเขาจ้องไปที่สองคนนั้นแต่พวกเขาก็ไม่ได้ทำอะไรเกินไป

นูบิสกอดอกและเหยียดหยามในขณะที่เขาสำรวจผู้คนรอบ ๆ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหยิ่งยโส

เจี้ยนเฉินยังคงเหมือนปกติ เขามองไปที่คนรอบ ๆ และพูดอย่างสงบ “ที่นี่ใช่เผ่าแห่งความกล้าหรือไม่ ? “

“ถูกต้อง นี่คือเผ่าแห่งความกล้า นักรบ ข้าขอถามได้ไหมว่าพวกเจ้าเป็นใคร ? ” คนที่พูดยังคงเป็นชายชราจากก่อนหน้านี้ แต่ในตอนนี้เขาดูเหมือนจะตระหนักได้ว่าพวกเขาทั้งสองไม่ใช่ศัตรู ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะผ่อนคลายเสียงลงเล็กน้อย

“พวกเรามาเพื่อช่วยพวกเจ้าในการขับไล่เผ่าเมิ่งหวงไป นี่เป็นวิธีที่ใช้ต้อนรับคนที่มาช่วยพวกเข้าอย่างนั้นหรือ ? ” เจี้ยนเฉินจ้องตรงไปที่ชายชราและพูดอย่างไม่ตั้งใจ

หลังจากได้ยินดังนั้น ชายชราก็ดีใจ ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปอย่างมากและเขาพูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม “ดังนั้นท่านนักรบก็เป็นแขกที่มีค่าสำหรับเผ่าแห่งความกล้าของข้าเองงั้นหรือ ? กรุณาเข้ามา ท่านนักรบ กรุณาเข้ามา ก่อนหน้านี้พวกเราคิดว่าพวกเจ้าเป็นคนที่มาจากเผ่าเมิ่งหวง ถ้าพวกเราทำให้พวกท่านโกรธ ก็ได้โปรดให้อภัยพวกเราด้วย”

ชายชราไม่ได้ยกเรื่องที่เจี้ยนเฉินและนูบิสบุกรุกเข้ามาในเผ่าแห่งความกล้าขึ้นมาพูด และนำพวกเขาไปที่ปราสาทอย่างนอบน้อม

ภายในปราสาทใหญ่ เจี้ยนเฉินก็ได้พบกับผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่าแห่งความกล้า เขาเป็นเซียนสวรรค์ด้วยเช่นกันและอยู่ในขั้นสูงสุดของชั้นสวรรค์ที่ 6 เขาห่างอีกเพียงแค่นิดเดียวในการที่จะเป็นเซียนผู้คุมกฎ ในเผ่าแห่งความกล้า ตำแหน่งของเขาเป็นที่สองรองจากหัวหน้าตระกูล

“ข้าเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่าแห่งความกล้า ลอร์เจสค์ ข้าขอต้อนรับท่านนักรบที่มาเพื่อช่วยเผ่าแห่งความกล้าของพวกเราในการต่อต้านเผ่าเมิ่งหวง ข้าจะเรียกท่านนักรบทั้งสองว่าอย่างไรดี ? ” ผู้อาวุโสสูงสุดยิ้มให้กับเจี้ยนเฉินและนูบิส อย่างไรก็ตาม ตาของเขาเป็นประกายด้วยความสนใจและกำลังศึกษาคนทั้งสองเหมือนว่าเขากำลังมองพวกเขาทะลุเข้าไป

“ข้าคือหยางยู่เทียน คนที่อยู่ข้าง ๆ ข้าคือเพื่อนรักของข้า นูบิส ท่านผู้อาวุโสสูงสุด ข้าอยากรู้ว่าเผ่าแห่งความกล้าของพวกท่านจะจ่ายค่าตอบแทนมากเท่าไรในการขับไล่เผ่าเมิ่งหวงไป ? ถ้ามันน้อยไป…..” เจี้ยนเฉินตรงเข้าประเด็นโดยไม่พูดจาอ้อมค้อม

ผู้อาวุโสสูงสุดไม่ใส่ใจความตรงไปตรงมาของเจี้ยนเฉิน เขายิ้ม “อย่าห่วงไปนักรบ ในการที่จะปกป้องเผ่าของเราไม่ให้ถูกเผ่าเมิ่งหวงกลืนกินไป เผ่าของข้าจะจ่ายอย่างงาม ตราบใดที่พวกเจ้าสามารถต่อต้านการโจมตีและทำให้พวกเผ่าเมิ่งหวงได้รับบาดเจ็บอย่างหนักได้ เผ่าของข้าจะยกเหรียญผลึกให้ทั้งหมด”

“ข้าหวังว่าท่านผู้อาวุโสสูงสุดจะบอกจำนวนที่แน่นอนกับพวกเราได้” เจี้ยนเฉินพูดพร้อมรอยยิ้ม

ผู้อาวุโสสูงสุดหัวเราะคิกคักแล้วตอบกลับ “ในตอนนี้ เผ่าของข้ามีเหรียญผลึกชั้นยอดอยู่ 10 ล้านเหรียญ 10 ล้านเหรียญนี้จะจ่ายตามความแข็งแกร่งและการทำงานของนักรบที่ช่วยเผ่าแห่งความกล้าของข้า ยิ่งพวกเขาแข็งแกร่งมากเท่าไร พวกเขาก็จะได้รับเหรียญเพิ่มมากขึ้นเท่านนั้น”

เจี้ยนเฉินและนูบิสมองหน้ากันและกัน พวกเขาอึ้งในความร่ำรวยของเผ่าแห่งความกล้า แม่ว่าพวกเขาจะเพิ่งมาถึงอาณาเขตของเผ่าพันธุ์ทะเล แต่พวกเขาก็มีความเข้าใจในค่าของเหรียญผลึกเป็นอย่างดี

เหรียญผลึกชั้นยอด 1 เหรียญมีค่าเท่ากับเหรียญผลึกชั้นดี 100 เหรียญ เหรียญผลึกชั้นกลาง 10,000 เหรียญ และเหรียญผลึกชั้นต่ำ 1,000,000 เหรียญ

ในขณะเดียวกัน องค์กรขนาดใหญ่เหมือนเผ่าแห่งความกล้าจะถูกพิจารณาว่ามั่งคั่งถ้าพวกเขามีเหรียญผลึกชั้นยอด 5 ล้านเหรียญ แต่เผ่าแห่งความกล้ามีถึง 10 ล้านเหรียญ พวกเขาอดไม่ได้ที่จะเรียกเผ่าแห่งความกล้าว่ามั่งคั่งมาก

เหรียญผลึกชั้นยอด 10 ล้านเหรียญเป็นปริมาณที่เยอะมากในเผ่าพันธุ์ทะเล มันเทียบเท่าได้กับความมั่งคั่งของเผ่าใหญ่บางเผ่า

“ท่านผู้อาวุโสสูงสุด พวกเราจะขอรับทั้ง 10 ล้านเหรียญผลึกชั้นยอดจากเผ่าแห่งความกล้าจากพวกท่าน” นูบิสพูดอย่างองอาจ