อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 2031 แต่นั่นไม่น่าเป็นไปได้!
ไม่ช้า ทั้งคู่ก็มายืนอยู่หน้าห้องลับห้องหนึ่ง หานเจี้ยนชิวนำตราสัญลักษณ์เจ้าสำนักของเขาออกมาเพื่อปลดปล่อยฉนวนที่อยู่รอบห้อง ก่อนจะเดินเข้าไป
ในห้องนั้นมีรูปปั้นเรียงรายเป็นแถว นับดูแล้วก็ตกราว 12 ชิ้น แต่ละตัวถือดาบไว้ในมือและกำลังสำแดงศิลปะเพลงดาบที่แตกต่างกันไป
“นี่คือเคล็ดวิชาเทพดาบเมฆเหิน?” จางเซวียนขมวดคิ้ว
“ใช่ เทคนิควรยุทธคือกุญแจที่นำไปสู่การทำความเข้าใจเจตจำนงของเพลงดาบของเทพเจ้า ซึ่งความลับอยู่ในรูปปั้นเหล่านี้แหละ” หานเจี้ยนชิวตอบ
จางเซวียนพิจารณารูปปั้นทั้ง 12 ตัวอย่างช้าๆ ทุกตัวยืนด้วยท่วงท่าแตกต่างกันไป ไม่มีอะไรที่บ่งบอกถึงการไหลเวียนของกระแสพลังปราณ ทำให้ยากจะเชื่อว่ามีเทคนิควรยุทธซ่อนอยู่ในรูปปั้น
“รูปปั้น 12 ตัวนี้สำแดงกระบวนท่าของเพลงดาบที่แตกต่างกันไป เป็นกระบวนท่าที่แปลกประหลาดมาก ขัดกับสภาวะร่างกายโดยปกติของมนุษย์ แต่หากคุณเคลื่อนไหวไปตามกระบวนท่าเหล่านี้ พลังปราณของคุณจะไหลเวียนและก่อตัวขึ้นเป็นเทคนิควรยุทธด้วยตัวเอง นี่แหละคือสิ่งที่พวกเราเรียกว่าเคล็ดวิชาเทพดาบเมฆเหิน มันไม่ได้เป็นแค่เทคนิควรยุทธระดับอมตะขั้นสูงที่เป็นสุดยอดของสำนักของเราเท่านั้น แต่ยังเป็นกุญแจที่นำไปสู่การสำเร็จวรยุทธขั้นกึ่งสรวงสวรรค์ด้วย” หานเจี้ยนชิวอธิบาย
เป็นอย่างที่หานเจี้ยนชิวบอก กระบวนท่าเพลงดาบของรูปปั้นเหล่านี้พิสดารมาก รูปปั้นทั้ง 12 ตัวบิดงอในมุมที่แปลกประหลาดอย่างไม่น่าเชื่อ ขัดกับสภาพร่างกายโดยปกติของมนุษย์ ดูคล้ายกับศิลปะแอบสแทรคมากกว่าจะเป็นการสำแดงศิลปะเพลงดาบ
“คุณควรเริ่มต้นจากการฝึกฝนกระบวนท่าแรกก่อน แต่ละกระบวนท่าจะยากขึ้นเรื่อยๆ ในครั้งนั้น ผมต้องใช้เวลา 3 วันเต็มกว่าจะฝึกฝนกระบวนท่าแรกให้เชี่ยวชาญได้สำเร็จ” หานเจี้ยนชิวพูดพร้อมกับยิ้มเจื่อนๆ
“3 วันเต็ม?” จางเซวียนทวนคำขณะจ้องมองรูปปั้นตัวแรก
กระบวนท่านั้นใช้การแอ่นตัวไปด้านหลัง และดาบจะพุ่งตรงไปเหนือศีรษะ แค่เห็นก็รู้สึกว่าประหลาดพิสดารแล้ว อย่าว่าแต่จะเลียนแบบ
“ใช่ และนี่คือกระบวนท่าที่ง่ายที่สุด” หานเจี้ยนชิวพยักหน้า “สำหรับกระบวนท่าที่ 2 ผมต้องใช้เวลาถึง 10 วัน ส่วนกระบวนท่าที่ 3 ใช้เวลา 1 ปีเต็ม รวมแล้ว…ผมใช้เวลา 15 ปีในการฝึกทั้ง 12 กระบวนท่านี้จนเชี่ยวชาญ”
ในเมื่อมันเป็นเทคนิควรยุทธขั้นสุดยอดที่ผู้ก่อตั้งสำนักดาบเมฆเหินทิ้งไว้ ก็ถือเป็นวีรกรรมน่าทึ่งแล้วที่เขาสามารถฝึกฝนจนเชี่ยวชาญได้ภายในเวลา 15 ปี ถือว่าหานเจี้ยนชิวเป็นเจ้าสำนักที่ปราดเปรื่องที่สุดคนหนึ่งตลอดประวัติศาสตร์ของสำนักดาบเมฆเหินเลยทีเดียว
ส่วนจางเซวียนก็ประหลาดใจกับระยะเวลาที่อีกฝ่ายใช้…15 ปี…นั่นเท่ากับสามในสี่ของอายุของเขาตอนนี้เลยทีเดียว!
เห็นจางเซวียนทำหน้าประหลาด หานเจี้ยนชิวสาธยายอย่างวางมาด “คุณอย่าสบประมาทความยากของเทคนิควรยุทธนี้นะ ตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนานของสำนักของเรา วีรกรรมของผมในการฝึกฝนทั้ง 12 กระบวนท่าจนเชี่ยวชาญ ได้ภายใน 15 ปีนั้นทำให้ผมก้าวเข้าสู่ 1 ใน 10 สุดยอดเจ้าสำนักเลยทีเดียว”
มีแต่นักดาบที่ปราดเปรื่องที่สุดเท่านั้นที่จะได้เป็นเจ้าสำนักดาบเมฆเหิน กฎเกณฑ์ต่างๆของสำนักดาบก็ได้กำหนดไว้แล้ว หากเขามีความเก่งกาจไม่มากพอ ก็คงไม่มีโอกาสได้รับตำแหน่งนี้
15 ปีอาจดูยาวนานสำหรับการฝึกฝนเทคนิควรยุทธเพียงเทคนิคเดียว แต่ในเมื่อมันคือเคล็ดวิชาเทพดาบเมฆเหิน ความสำเร็จครั้งนี้จึงถือเป็นวีรกรรมอันน่าทึ่ง
“อย่างนั้นหรือ?” จางเซวียนย้อนถามขณะชักดาบถงซังออกมา
เขาแอ่นตัวไปด้านหลังจนขนานกับร่างกายส่วนล่าง ก่อนจะชูดาบขึ้นมา ในชั่วพริบตา จางเซวียนก็เลียนแบบท่วงท่าของรูปปั้นตัวแรกได้เหมือนเป๊ะ
หานเจี้ยนชิวเลิกคิ้ว
เมื่อครู่นี้ เขาเพิ่งบอกว่าเขาใช้เวลา 3 วันเต็มกว่าจะเชี่ยวชาญกระบวนท่าแรก ก็พอดีกับที่อีกฝ่ายเลียนแบบมันได้ครบถ้วนในทันที เรื่องนี้ทำให้เขาเกิดลางสังหรณ์เลวร้ายขึ้นมา
หานเจี้ยนชิวกระแอมให้ลำคอโล่ง ก่อนจะพยายามกลบเกลื่อนความภาคภูมิใจของตัวเอง “กระบวนท่าแรกเป็นกระบวนท่าที่ง่ายที่สุดในบรรดา 12 กระบวนท่า สำหรับผู้ที่ทำความเข้าใจเจตจำนงของเพลงดาบของเทพเจ้าได้สำเร็จอย่างคุณ ก็เป็นธรรมดาที่จะฝึกฝนมันได้ทันที แต่กระบวนท่าที่เหลือคงไม่ง่ายแบบนี้…”
“อย่างนั้นหรือ? ขอผมลองหน่อย”
ร่างของจางเซวียนเริ่มโค้งงอทำมุมประหลาด ไม่ช้าเขาก็เลียนแบบกระบวนท่าที่ 2 ได้สำเร็จ
ตามด้วยกระบวนท่าที่ 3 ที่ 4 และที่ 5…
กว่าหานเจี้ยนชิวจะรู้สึกตัว จางเซวียนก็เลียนแบบไปถึง 10 กระบวนท่าแล้ว
หานเจี้ยนชิวแทบคลุ้มคลั่ง
เขานึกสงสัยว่าอาจเป็นเพราะมีคนแบบจางเซวียน นักรบดีๆจึงต้องลงเอยด้วยความสิ้นหวังและหันไปหาศิลปะการต่อสู้ที่ไม่เป็นไปตามครรลองเดิมๆ
เขาพออ้างได้ว่าที่จางเซวียนเลียนแบบกระบวนท่าแรกได้ในทันทีก็เพราะมันง่ายที่สุด แต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมหยุด และเลียนแบบกระบวนท่าอื่นต่อไปได้เรื่อยๆ
เป็นไปได้หรือเปล่าว่าชายหนุ่มเคยฝึกฝนกระบวนท่าเหล่านี้มาก่อน?
แต่นั่นไม่น่าเป็นไปได้!
เพราะนอกเสียจากเจ้าสำนักรุ่นต่างๆ ก็ไม่มีใครสามารถเข้าสู่ห้องลับแห่งนี้!
ขณะที่หานเจี้ยนชิวกำลังพยายามทำความเข้าใจสถานการณ์อันน่าหงุดหงิด จางเซวียนก็สำแดงอีก 2 กระบวนท่าที่เหลือได้อย่างไร้ที่ติ ราวกับเขาไม่อาจทำความเข้าใจว่าได้ว่าคนๆหนึ่งจะต้องใช้เวลายาวนานขนาดนั้นในการฝึกฝนเทคนิคเหล่านี้จนเชี่ยวชาญ จึงหันมาถามหานเจี้ยนชิว “คุณใช้เวลาถึง 15 ปีจริงๆหรือ?”
แล้วหานเจี้ยนชิวจะตอบอะไรได้?
เมื่อครู่ก่อนนี่เองที่เขาเพิ่งคุยโวว่าเขาใช้เวลาเพียง 15 ปีในการฝึกฝนทั้ง 12 กระบวนท่าจนเชี่ยวชาญ แถมยังเล่าต่ออย่างยินดีปรีดาว่าตัวเขาอยู่ใน 10 อันดับของสุดยอดเจ้าสำนัก แต่แล้วชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าก็ทำลายความสำเร็จของเขาจนหมดไม่มีเหลือภายในเวลาเพียง 15 อึดใจ!
หานเจี้ยนชิวเข้าใจทันทีว่าทำไมโลกนี้ถึงมีผู้ปลีกวิเวก เพราะในตอนนั้น เขาก็นึกอยากขุดหลุมขุดรูลงไปซ่อนตัวเหมือนกัน
ขณะที่กำลังครุ่นคิดว่าจะหนีไปให้พ้นจากสถานการณ์ตรงหน้าได้อย่างไร เสียงของชายหนุ่มก็ดังขึ้นอีกครั้ง “พูดก็พูดเถอะ ถ้าคุณฝึกฝนเทคนิควรยุทธนี้ถึง 15 ปีจริงๆ แล้วคุณรู้หรือเปล่าว่าการเรียงลำดับของเทคนิคมันผิดพลาด?”
“ผิดพลาด?” หานเจี้ยนชิวถึงกับจังงัง
หานเจี้ยนชิวงงงัน
ความยากของแต่ละกระบวนท่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อครั้งที่เขาฝึกฝนเทคนิควรยุทธนี้ด้วยตัวเอง ก็ไม่รู้สึกถึงความผิดแปลกในการไหลเวียนของกระแสพลังปราณหรือความไม่สบายตัวใดๆ ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งวรยุทธและความเข้าใจในศิลปะเพลงดาบของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วขณะฝึกฝน เทคนิควรยุทธดังกล่าว
ก็ในเมื่อเป็นอย่างนั้น ลำดับของมันจะผิดพลาดได้อย่างไร?
“ถ้าคุณสลับกระบวนท่าแรกกับกระบวนท่าที่ 7 ความเร็วในการขัดเกลาพลังปราณของคุณจะเพิ่มขึ้นอีกมาก ถ้าคุณสลับกระบวนท่าที่ 8 กับกระบวนท่าที่ 11 จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้เจตจำนงเพลงดาบของคุณได้ และถ้าคุณสลับกระบวนท่าที่ 6 กับกระบวนท่าที่ 3 การเพ่งสมาธิจะเฉียบคมขึ้นอีกหลายเท่า…” จางเซวียนพูดอย่างสบายๆขณะชี้นิ้วไป
หานเจี้ยนชิวงุนงง แต่ก็รีบฝึกฝนวรยุทธตามลำดับที่จางเซวียนสาธยาย
บึ้มมมม!
พลังปราณของเขาพุ่งพรวดราวกับแม่น้ำที่ไหลเชี่ยว พุ่งเข้าสู่บริเวณที่เขาไม่เคยฝึกฝนวรยุทธได้สำเร็จมาก่อน ในเวลาเดียวกัน ก็รู้สึกได้ว่าความเข้าใจในศิลปะเพลงดาบของตัวเองล้ำลึกขึ้นอีกมากในทุกกระบวนท่าที่สำแดงออกไป ทำให้เจตจำนงเพลงดาบของเขาเฉียบคมกว่าเดิม หานเจี้ยนชิวรู้สึกราวกับจะฟาดฟันมิติที่อยู่โดยรอบได้ด้วยการขยับดาบเพียงครั้งเดียว
“คุณพูดถูก…” หานเจี้ยนชิวถึงกับจังงัง
เขาฝึกฝนวรยุทธมากว่า 80 ปีแล้ว แต่ไม่เคยคิดสักครั้งว่าลำดับของเทคนิควรยุทธเหล่านี้จะผิดพลาด ที่เหนือจินตนาการไปกว่านั้นก็คือเพียงแค่สลับลำดับของมันเล็กน้อย เทคนิคเหล่านี้ก็ทรงพลังกว่าเดิมมาก…
ความเชี่ยวชาญในศิลปะเพลงดาบของเขาที่ชะงักงันมานานเริ่มพัฒนาขึ้นอีกครั้ง
ตอนนี้การพัฒนายังคงไม่โดดเด่นชัดเจน แต่เมื่อเวลาผ่านไป มันจะพอกพูนเหมือนลูกบอลหิมะและมีพลังมากขึ้น วันหนึ่งเขาอาจทำความเข้าใจเจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้าได้สำเร็จเหมือนชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า!
เมื่อหานเจี้ยนชิวฟื้นคืนจากความตื่นเต้นและตกตะลึง ก็ไม่อาจละสายตาจากจางเซวียนได้
เขาใช้เวลาถึง 15 ปีเต็มกว่าจะเชี่ยวชาญทั้ง 12 กระบวนท่า แต่อีกฝ่ายทำสำเร็จได้ภายในเวลาเพียง 15 อึดใจ…และราวกับเท่านั้นยังไม่พอ ชายหนุ่มยังระบุข้อบกพร่องที่อยู่ในเทคนิควรยุทธ และอธิบายวิธีแก้ไขที่ปฏิบัติจริงได้อย่างละเอียดด้วย
ไม่ว่าสิ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาจะเป็นอะไร ก็แน่นอนว่าย่อมไม่ใช่มนุษย์!
เขาเคยคิดว่าโชคคงเข้าข้างชายหนุ่ม ทำให้อีกฝ่ายทำความเข้าใจเจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้าได้สำเร็จ แต่ด้วยหลักฐานที่ยืนยันชัดเจนอยู่ตรงหน้า ความแตกต่างระหว่างตัวเขากับจางเซวียนไม่ได้อยู่ที่โชคชะตา แต่เป็นความสามารถ ชายหนุ่มมีความปราดเปรื่องในศิลปะเพลงดาบอย่างเหลือเชื่อจริงๆ!
อันที่จริง ก็คงไม่เกินเลยหากจะบอกว่าอีกฝ่ายสามารถเทียบชั้นได้แม้แต่กับหัวหน้าหอนิรันดร์
เมื่อหลายพันปีก่อน หัวหน้าหอนิรันดร์ปรากฏตัวขึ้นจากที่ไหนสักแห่ง และภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน ก็เอาชนะทั่วทั้งทวีปที่ถูกลืมได้และกลายเป็นบุคคลผู้ไร้เทียมทาน จากนั้นเขาก็บุกเดี่ยวเข้าไปที่หอเทพเจ้าและฉกฉวยตัวอักษรคำว่า ‘เทพเจ้า’ จากที่นั่น นำไปสู่การก่อตั้งหอนิรันดร์
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่มีใครเทียบชั้นความสำเร็จของหัวหน้าหอนิรันดร์ได้ แต่ดูเหมือนบางอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป!
หากเป็นอย่างนี้เมื่อถึงเวลาที่สะพานเบื้องบนเปิดออกอีกครั้งและเหล่าอัจฉริยะของ 6สำนักใหญ่มารวมตัวกัน**สำนักดาบเมฆเหินของเราก็น่าจะได้ตำแหน่งที่ดีที่สุด หานเจี้ยนชิวคิด ความตื่นเต้นฉายระริกในดวงตา
ในอดีต แม้สำนักดาบเมฆเหินของพวกเขาจะได้รับครึ่งหนึ่งของตัวอักษรคำว่า ‘เทพเจ้า’ มา แต่ก็ไม่อาจรวบรวม 6 สำนักใหญ่ให้เป็นหนึ่งเดียวได้เพราะมีพละกำลังจำกัด แต่เมื่อมีจางเซวียนอยู่ด้วย พวกเขาน่าจะชักนำให้อีก 5 สำนักใหญ่มาอยู่ใต้สังกัดได้!
หานเจี้ยนชิวหันไปมองจางเซวียนอย่างตื่นเต้น แต่ก็เห็นอีกฝ่ายยืนนิ่งงัน ราวกับเพิ่งได้รับแรงบันดาลใจบางอย่าง
รู้ดีว่าแรงบันดาลใจไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาง่ายๆ หานเจี้ยนชิวออกจากห้องลับแห่งนั้นไปอย่างเงียบๆ
เป็นอย่างที่เขาคิดไว้ จางเซวียนเพิ่งได้รับแรงบันดาลใจจริงๆ
น่าเสียดายที่เคล็ดวิชาเทพดาบเมฆเหินไม่ได้มีประโยชน์ต่อเขามากนักในการฝ่าด่านวรยุทธไปสู่การเป็นนักรบอมตะขั้นสูง แต่มันทำให้เขาควบคุมเจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้าได้ดีขึ้น
จางเซวียนใช้หน้าหนังสือสีทองที่ได้จากการรับตั้นเฉี่ยวเทียนเป็นศิษย์สายตรงมาสกัดกั้นเจตจำนงเพลงดาบไว้ เขาสามารถทำความเข้าใจเจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้าทั้งหมดได้สำเร็จ แต่เพราะขีดจำกัดของระดับวรยุทธและจิตวิญญาณ จึงไม่อาจดึงประสิทธิภาพสูงสุดของมันออกมาได้