บทที่ 2977 ทรมาน 2
ส่วนฟั่นเชียนซื่อก็ต้องอยู่ที่นี่ไปทั้งภพทั้งชาติ ดื่มด่ำไปกับความทรมานจากการโดนลมพัดแดดเผา
ฟั่นเชียนซื่อฉลาดยิ่งนัก ย่อมฟังความหมายที่แฝงอยู่ของเขาออก เขาหรี่ตาลงนิดๆ ยิ้มเยียบเย็น “ความหมายของเจ้าคือ พวกเจ้าก็ออกไปจากที่นี่ไม่ได้งั้นหรือ?”
ตี้เฮ่าดีดนิ้วเปาะ “ถูกต้อง!”
ฟั่นเชียนซื่อไม่เชื่อ สายตาเขาหันเหไปที่ร่างของมังกรประทีปชมพู ยิ้มอย่างสบายใจแวบหนึ่งแล้วกล่าวว่า “ถ้าหากเปิ่นจุนเดาไม่ผิดล่ะก็ ตาค่ายของเขตแดนทะเลทรายนี้ต้องอยู่บนร่างของฟักอ้วนลูกนี้เป็นแน่ ถ้าฆ่ามันเสีย เขตแดนนี้ย่อมจะพังทลายลง”
เพื่อป้องกันไม่ให้เสี่ยวเฮยอาละวาด ในขณะที่ฟั่นเชียนซื่อเอ่ยประโยคนี้ออกมา ก็ได้ส่งกระแสเสียงหาเสี่ยวเฮยไปด้วย ‘เปิ่นจุนเพียงจะขู่ขวัญพวกเขา ไม่อนุญาตให้ตัวสารเลวอย่างเจ้ามาขัดขวางเปิ่นจุน!’
ด้วยเหตุนี้ เสี่ยวเฮยจึงอดทนไม่อาละวาด เพียงก้มหัวชิดอกลดความมีตัวตนของตัวเองลง
นับตั้งแต่มังกรประทีปชมพูจำความได้ก็ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่แล้ว ถึงแม้จะเคยพบเจอผู้คนมามากมาย แต่ก็ไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตร่วมเผ่าพันธุ์อย่างเสี่ยวเฮยที่อยู่ตรงหน้ามาก่อน มันจึงนึกไปว่ามังกรประทีปทั้งหมดล้วนมีรูปร่างไม่ต่างไปจากมัน
ดังนั้นทันทีที่ได้เห็นเสี่ยวเฮยที่ทั้งผอมทั้งเพรียวตัวนี้ มันจึงรู้สึกไปตามสัญชาตญาณว่าเสี่ยวเฮยอัปลักษณ์นัก! ค่อนข้างดูแคลนมันยิ่ง
ตอนนี้จู่ๆ พอได้ยินเจ้านายของอีกฝ่ายเรียกมันว่า ‘ฟักอ้วน’ มันจึงตะลึงงันไปแวบหนึ่ง มันไม่เคยเห็นลูกฟักมาก่อน ย่อมไม่ทราบว่าฟักอ้วนเป็นตัวเยี่ยงใด เพียงแต่ยังคงทราบว่ามิใช่ถ้อยคำที่ดีแน่นอน ดังนั้นมันจึงโต้แย้ง ‘เจ้าน่ะสิฟักอ้วน! ยังมีอีก เจ้าสังหารข้าไม่ได้หรอก! ข้าอยู่ที่นี่มาหลายแสนปีแล้ว โดดเดี่ยวจนอยากตาย เคยฆ่าตัวตายนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ล้วนไม่เป็นผล แล้วเจ้าจะสังหารข้าได้ยังไง?’
‘ข้าเคยปล่อยให้แดดเผา ฝืนอยู่รองรับความหนาวในวันที่เหน็บหนาว ถึงขั้นที่เคยใช้กรงเล็บกรีดท้องตัวเอง แถมยังฟันหัวตัวเองมาแล้วด้วย…’ สุ้มเสียงของมังกรประทีปชมพูเริ่มโศกหมองบ้างแล้ว ‘อันที่จริงสถานที่ผุพังแห่งนี้ข้าอยู่มานานมากพอแล้ว! แต่ข้าจะไปก็ไปไม่ได้จะตายก็ตายไม่ได้! ผู้อื่นโดนแดดเผาตายได้ แข็งตัวจนกลายเป็นเศษซากได้ แต่ข้าทำไม่ได้เลย แดดเผาจนหนังลอกเป็นชั้น หนาวจนกลายเป็นปะติมากรรมน้ำแข็งเจ็บปวดเจียนตาย แต่พอน้ำแข็งละลายก็ยังคงมีชีวิตอยู่ ข้าตัดหัวตัวเองไม่ขาด ตัดได้ครึ่งเดียวก็สลบไป แต่พอฟื้นขึ้นมาอีกครั้งก็งอกขึ้นมาใหม่แล้ว ราวกับไม่เคยถูกตัดมาก่อน...’
ตี้เฮ่าไม่นึกเลยว่ามังกรประทีปชมพูจะเคยทำร้ายตัวเองมามากมายถึงเพียงนี้ ฟังแล้วตะลึงงันไปชั่วขณะเช่นกัน
เสี่ยวเฮยก็มีสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ พลางมีน้ำตาหยดเผาะๆ ลงมา เงยหน้ามองมังกรประทีปชมพู ‘เจ้า…ไยเจ้าถึงทำเช่นนี้?’
‘ไยจึงทำน่ะหรือ?!’ มังกรประทีปชมพูถลึงนัยน์ตากลมโต ‘เจ้าลองมาอยู่ในสถานที่ผุพังเช่นนี้เป็นแสนๆ ปีดูสิ! ไม่ได้กินไม่ได้ดื่ม ถึงขั้นที่ไม่มีผู้ใดมองเห็นเจ้าเลย เจ้าเหมือนอากาศธาตุ ความเป็นความตายของทุกคนไม่เกี่ยวข้องกับเจ้า ยังต้องใช้ชีวิตอย่างทุกข์ทรมานทุกวัน ถูกแดดเผาไม่ต่างกับไอ้หลานเต่า…’
ทุกคนรวมถึงเสี่ยวเฮยเงียบงันไปหมดแล้ว
ชีวิตเช่นนี้คิดๆ แล้วน่าหวาดผวามากจริงๆ เป็นการอยู่มิสู้ตายยิ่ง…
มังกรประทีปชมพูยิ่งพูดยิ่งฮึกเหิม มันย่างเท้าเข้าไปไม่กี่ก้าว พุ่งเข้าใส่ฟั่นเชียนซื่อ ‘เจ้าจะสังหารข้าใช่ไหม? มาสิ! มาเลย! ถ้าสังหารข้าไม่ได้เจ้าก็เป็นไอ้หลานเต่า!’
ฟั่นเชียนซื่อผงะไป
เขาพลันโบกแขนเสื้อ เกิดพายุกรรโชกขึ้น พัดมังกรประทีปชมพูตัวนั้นกลิ้งหลุนๆ “สารเลว! นึกว่าเปิ่นจุนจะไม่สังหารเจ้าจริงๆ งั้นหรือ?!”
เขาก้าวเข้าไป ยังไม่ทันได้ทำอันใด เสี่ยวเฮยก็พุ่งมาขวางอยู่ด้านหน้ามังกรประทีปชมพูแล้ว กางกรงเล็บสองขาหน้าออก เอ่ยด้วยสีหน้าระแวดระวัง ‘เจ้าจะทำอะไร?! ถ้าคิดจะสังหารมันก็ข้ามศพข้าไปก่อนเถอะ!’
ฟั่นเชียนซื่อตกตะลึง!
ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเยียบเย็นลง ไอ้สารเลวตัวนี้ท้าทายอำนาจของเขาต่อหน้าผู้อื่นหลายครั้งแล้ว คิดว่าเขาไม่มีทางทำอะไรมันจริงๆ สินะ?!
————————————————————————————-
บทที่ 2978 ทรมาน 3
เขาไม่เอ่ยวาจา ทำมุทราอยู่ในแขนเสื้อทันที อาคมอันซับซ้อนแขนงหนึ่งก่อตัวขึ้นที่ปลายนิ้วของเขาอย่างรวดเร็ว เขาลงมืออย่างว่องไว ฟาดฝ่ามือลงบนหน้าผากของเสี่ยวเฮยคราหนึ่ง!
เห็นได้ชัดว่าเสี่ยวเฮยคาดไม่ถึงว่าเขาจะลงมือกับตน รู้สึกเพียงว่าในสมองคล้ายมีเข็มเหล็กนับไม่ถ้วนเจาะทะลวงเข้ามา เจ็บปวดจนมันกรีดร้องโหยหวน จากนั้น ‘เข็มเหล็ก’ ก็เชื่อมประสานร้อยเรียงอยู่ในสมองของมัน ก่อร่างเป็นคำสั่ง…
เสียงของฟั่นเชียนซื่อแว่วเข้ามา “หมอบลง!”
สมองของเสี่ยวเฮยแจ่มใสดี แต่สูญเสียการควบคุมร่างกายไปแล้ว หมอบลงบนพื้นทรายทันที
พื้นทรายร้อนระอุ ลวกผิวท้องของมัน มันรับรู้ถึงความเจ็บปวด ทว่าไม่อาจลุกขึ้นมาได้
ถึงอย่างไรเสี่ยวเฮยก็ติดตามเขามานานขนาดนี้ มันคุ้ยเคยกับเวทวิชาของเขาดี ยามนี้ทราบกระจ่างแล้ว
ไม่น่าเชื่อว่าผู้เป็นนายจะใช้อาคมหุ่นเชิดกับมัน ควบคุมมันเสมือนหุ่นเชิด…
ยามนี้อวัยวะเดียวที่มันสามารควบคุมได้ก็คือดวงตา ดังนั้นถึงแม้ตอนนี้มันจะอยู่ในท่าทางหมอบก้มหัวลู่หูอยู่ตรงนั้น แต่ในดวงตากลับเผยแววไม่อยากจะเชื่อออกมา!
มันไม่คาดคิดเลยว่าผู้เป็นนายจะทำแบบนี้กับมันได้…
ฟั่นเชียนซื่อเบนสายตาไป จงใจไม่สบตามัน จ้องมังกรประทีปชมพูตัวนั้นอย่างเยียบเย็น “เปิ่นจุนยังคงไม่เชื่อว่าจะสังหารเจ้าอย่างแท้จริงไม่ได้!”
ในเมื่อมังกรประทีปชมพูตัวนี้ติดอยู่ที่นี่มาหลายแสนปีแล้ว ก็ยืนยันได้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับทะเลทรายผืนนี้อย่างลึกซึ้ง ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นกุญแจสำคัญในการทำลายเขตแดนทะเลทรายแห่งนี้ก็ได้!
เขาไม่คิดจะติดอยู่ที่นี่ไปตลอด จะต้องหาทางออกไปให้ได้!
ยามนี้อำนาจบนกายเขาแผ่ออกมาเต็มที่แล้ว รัศมีกดดันของเทพแกร่งกล้ายิ่ง เสี่ยวเฝิ่นตกอยู่ภายใต้อำนาจกดดันที่กล้าแกร่งถึงเพียงนี้ของเขา ก็ยืนไม่อยู่แล้ว หมอบลงบนพื้นเสียงดังตึง เมื่อเห็นฟั่นเชียนซื่อสร้างกระบี่ยาวสีแดงเพลิงเล่มหนึ่งขึ้นมาในฝ่ามือ ย่างเท้าเข้ามาหามันทีละก้าวๆ ในที่สุดดวงตาของมันก็ฉายแววพรั่นพรึงแล้ว หดกายทันที…
มันกลัวตาย!
ดวงตาของฟั่นเชียนซื่อจับจ้องมันอยู่ตลอด พอเห็นเช่นนี้ก็เชิดหน้าหัวเราะ “เจ้าโป้ปดจริงๆ ด้วย!”
พลันแกว่งกระบี่ยาวในมือ เงากระบี่นับไม่ถ้วนวูบไหวรายล้อมรอบกายเขา พุ่งเข้าหามังกรประทีปชมพูปานพายุฝนโหมกระหน่ำ!
นี่คือกระบวนท่าหนึ่งที่มีแต่เทพผู้สร้างโลกอย่างเขาเท่านั้นถึงจะสามารถสำแดงออกมาได้ อานุภาพมหาศาล พบเทพสังหารเทพ พบมารประหารมาร ต่อให้เป็นตี้ฝูอีอยู่ที่นี่ด้วยในตอนนี้ก็ยังไม่แน่ว่าจะสามารถต้านรับเอาไว้ได้ นับประสาอะไรกับมังกรประทีปชมพูกลายพันธุ์ตัวนี้!
สีหน้าตี้เฮ่าแปรเปลี่ยนเล็กน้อย ตอนนี้ถึงแม้พลังยุทธ์ของเขาจะไม่เต็มเปี่ยม แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นเจ้าแห่งลิขิตสวรรค์ ความรู้ลึกซึ้งกว้างขวางยิ่ง มองกระบวนท่าของฟั่นเชียนซื่อแวบเดียวก็รู้แล้วว่าเขาคิดจะจะลงมือสังหารจริงๆ!
ถึงแม้ว่าเขาก็อยากออกไปยิ่งนักเช่นกัน แต่ลางสังหรณ์ของเขาบอกว่าคิดจะทำลายเขตแดนทะเลทรายไม่ได้ง่ายถึงเพียงนี้ ถ้าสังหารมังกรประทีปชมพูไปจริงๆ เกรงว่าจะชักนำเภทภัยที่ใหญ่หลวงกว่าเดิม!
ยิ่งไปกว่านั้นคือเขาอยู่กับมังกรประทีปชมพูมานานขนาดนี้ มีความผูกพันบางอย่างแล้ว ย่อมไม่อยากเห็นมันถูกสังหารไปเช่นนี้…
เขาพลันตัดสินใจ กดปลายนิ้วเข้าที่หว่างคิ้ว ทั้งร่างพลันปลดปล่อยแสงรุ้งอันเจิดจ้าออกมา!
แสงรุ้งราวกับโล่ทรงกลม เข้าปกป้องรอบๆ มังกรประทีปชมพู
เงากระบี่สีแดงฉานกระจายตัวแล้วพุ่งเข้ากระทบโล่…
เกิดเสียงกึกก้องปานฟ้าจะถล่มดินจะทลาย โล่แตกกระจายเป็นผุยผง เงากระบี่สีแดงฉานก็หักเบี่ยงออกไปแล้วเช่นกัน…
ดวงหน้าน้อยๆ ของตี้เฮ่าซีดเผือดไปหมด ร่างกายเล็กๆ ถูกพายุพัดโหมปานจะหักโค่นลง กระเด็นออกไปไกลเจ็ดแปดจั้ง เขายืนไม่อยู่แล้ว พ่นโลหิตสดๆ ออกมาคำหนึ่ง ทรุดนั่งลงบนพื้นเสียงดังตุบ หน้ามืดเป็นพักๆ หัวใจก็เย็นวาบ!
วรยุทธ์ของฟั่นเชียนซื่อสูงส่งกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้!
ไม่น่าเชื่อว่ากระบวนท่าเฉพาะของเจ้าแห่งลิขิตสวรรค์ที่เขาฝืนรีดเค้นออกมาจะถูกเอาชนะได้อย่างง่ายดาย!
สีหน้าของฟั่นเชียนซื่อก็แปรเปลี่ยนไปแวบหนึ่งเช่นกัน ไม่น่าเชื่อว่ากระบวนท่านี้ของตี้เฮ่าจะปราบท่าไม้ตายของเขาลงได้!
ถึงแม้เขาจะไม่ได้ถอยหลังไป แต่ก็รู้สึกได้ว่าเลือดลมในทรวงอกพลุ่งพล่าน เห็นได้ชัดว่ากระบวนท่านี้ของตี้เฮ่าทรงพลังยิ่ง!
————————————————————————————-