สามวันต่อมา ณ เรือนหวงฝู่เย่าเย่ว์
ท่าป๋าหั่นหลินนอนหลับตา นอนสงบอยู่บนเตียงไม้แกะสลักหลังใหญ่ของหวงฝู่เย่าเย่ว์
หวงฝู่เย่าเย่ว์ฟุบอยู่ด้านข้างด้วยความง่วง ใบหน้าเหนื่อยล้า
ขณะที่ท่าป๋าหั่นหลินวิ่งชนต้นไม้ใหญ่ ล้มลงไปนั้น ใจของนางเจ็บปวดเหลือเกิน เจ็บปวดเสียยิ่งกว่าแท้งลูก หันหลัง วิ่งเข้าไปหาเขาอย่างเสียสติ ใช้มือกุมบาดแผลของเขาไว้ พยายามหยุดเลือดที่ไหลออกมา น้ำตาอาบแก้ม ตะโกนร้องด้วยความตระหนก “ท่านแม่ รีบช่วยเขาที รีบช่วยเขาเร็ว!”
ทุกคนได้สติกลับมา พร้อมกันนั้นก็วิ่งมาทางเขา
“ชิงหลวน กลับไปเอากล่องยาที่เรือนมา!”
เมิ่งเชี่ยนโยวรีบสั่ง
ชิงหลวนตอบรับ วิ่งไปด้วยความรวดเร็ว
เลือดสดของท่าป๋าหั่นหลินไหลออกมาเปื้อนเสื้อผ้า ชายเสื้อของหวงฝู่เย่าเย่ว์ก็แปดเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงสด
มองสีหน้าตื่นตระหนกของหวงฝู่เย่าเย่ว์ เห็นท่าทางทีนางพยายามกุมแผลห้ามเลือดท่าป๋าหั่นหลินเอาไว้ อ๋องฉีและพระชายานิ่งเงียบ
กล่องยาถูกนำมา เมิ่งเชี่ยนโยวสั่งให้หวงฝู่เย่าเย่ว์นำมือออก ราดยาหยุดเลือดลงบนแผลของท่าป๋าหั่นหลิน จากนั้นสั่งให้คนแบกร่างเขาไปห้องรับรองแขก
“แบกไปที่ห้องข้า!”
หวงฝู่เย่าเย่ว์มองท่าป๋าหั่นหลินไม่คลาดสายตา กล่าวอย่างรีบร้อน
บ่าวรับใช้มองเมิ่งเชี่ยนโยว
เมิ่งเชี่ยนโยวพยักหน้า
สามวันแล้ว ที่แม้แต่กินข้าว หวงฝู่เย่าเย่ว์ก็ยังกินข้างเตียง นำมือไปวางที่ใต้จมูกของเสมอ กลัวว่าเวลาใดที่นางไม่ระวัง ท่าป๋าหั่นหลินจะจากนางไป
วันนี้ ต่อสู้กับความง่วงต่อไปไม่ไหวแล้วซบนอนข้างเตียง
ขนตาของท่าป๋าหั่นหลินขยับเล็กน้อย ราวจะฟื้นขึ้น หวงฝู่เย่าเย่ว์ง่วงเป็นที่สุด ยังคงนอนซบอยู่ด้านข้างไม่รู้สึกตัว
ผ่านไปอีกครู่หนึ่ง ท่าป๋าหั่นหลินลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้า เห็นภาพคุ้นตาตรงหน้า พูดไม่ออก
มีเสียงหายใจดังลอยมา
ท่าป๋าหั่นหลินหันศีรษะของตนอย่างเชื่องช้า มองไปทางต้นเสียง ใบหน้าหวงฝู่เย่าเย่ว์นอนตะแคงอยู่ด้านข้างเขา
ปากมีรอยยิ้ม อดไม่ได้ที่จะยื่นมือสั่นเทาออกมา หวังจะลูบใบหน้าของนาง แต่กลับหยุดเมื่อห่างนางเพียงหนึ่งนิ้ว ภาพหวงฝู่เย่าเย่ว์ที่เสียการควบคุม กรีดร้องอย่างเสียสติปรากฏออกมาตรงหน้าเขา
รอยยิ้มบนใบหน้าหายไป มือที่ยื่นออกไปหดกลับมา ใจของท่าป๋าหั่นหลินเจ็บปวดเหลือเกิน เขารู้ดีว่าหวงฝู่เย่าเย่ว์เกลียดเขา แต่คิดไม่ถึงเลยว่านางจะเกลียดตนจนอยากให้ตนไปตาย บางทีตอนที่เขาบังคับให้นางกินยาขับเลือดลงไป เย่ว์เอ๋อร์อาจจะมีความคิดเช่นนี้แล้วก็ได้ คราวนี้เขาตายไม่สำเร็จ ใจของนางคงผิดหวังมาก
คิดถึงตรงนี้ จึงได้ถอนใจยาวเหยียด
หลายวันติดกัน ท่าป๋าหั่นหลินยังคงไม่ฟื้นขึ้นมา หวงฝู่เย่าเย่ว์พยายามตื่นตัวตลอด แต่วันนี้ง่วงเหลือเกิน จึงได้ผล็อยหลับไป
เสียงถอนใจของท่าป๋าหั่นหลิน ทำให้นางตื่นขึ้น เบิกตา ผงกหัวขึ้นทันที สิ่งแรกที่ทำคือยื่นมือออกไป วางบนจมูกเขาเพื่อดูว่ายังมีลมหายใจอยู่หรือไม่ คิดไม่ถึงว่า ยื่นมือออกไป ก็เห็นดวงตาสองดวงจ้องมองตนอยู่นิ่งๆ
ชะงักมือ อึ้งไป จ้องมองท่าป๋าหั่นหลิน
“เย่ว์เอ๋อร์”
ท่าป๋าหั่นหลินเรียกนาง เสียงแหบแห้ง
หวงฝู่เย่าเยว์ตกใจ ชักมือกลับ รีบลุกขึ้นยืน เดินออกไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นท่าทางของนาง ใจของท่าป๋าหั่นหลินร่วงลงไปอยู่ที่พื้น แววตามืดมนลง
คิดไม่ถึงว่า หวงฝู่เย่าเย่ว์ไม่ได้เดินออกจากห้อง แต่เดินไปที่โต๊ะ เทน้ำอุ่น นำมาข้างเตียง
แววตาของท่าป๋าหั่นหลินสว่างขึ้นอีกครั้ง มองนางเดินเข้ามาตาไม่กะพริบ
หวงฝู่เย่าเย่ว์เม้มปาก หยิบช้อนที่เตรียมไว้ก่อนแล้ว ตักน้ำขึ้นมาช้อนหนึ่งป้อนเข้าปากเขา
ดวงตาของท่าป๋าหั่นหลินมีน้ำตารื้นขึ้น น้ำเสียงสั่นเครือ “เย่ว์เอ๋อร์”
หวงฝู่เย่าเย่ว์ไม่ตอบรับ ยังคงวางช้อนไว้ตรงหน้าเขา
ท่าป๋าหั่นหลินยิ้มพร้อมอ้าปาก หวงฝู่เย่าเย่ว์ป้อนน้ำเข้าปากเขา จากนั้นก็อีกช้อน…
น้ำตาของท่าป๋าหั่นหลินหยดลงมาทีละเม็ด จนทำให้ผ้าคลุมอกเปียก บาดใจหวงฝู่เย่าเย่ว์ยิ่งนัก
เพล้ง!
หวงฝู่เย่าเย่ว์วางช้อนและแก้วชาลงบนโต๊ะข้างๆ ถลึงตามองเขา
ท่าป๋าหั่นหลินยื่นมือออกมา พยายามจับมือของนาง แต่เมื่อสัมผัสมือนาง ก็ถูกสะบัดทิ้ง
ซี๊ด!
ท่าป๋าหั่นหลินแผลฉีก จึงได้ร้องออกมาอย่าไม่ตั้งใจ
แววตาของหวงฝู่เย่าเยว์เผยความตระหนกออกมา รีบมาดูแผลของเขา
ท่าป๋าหั่นหลินใช้สุดกำลัง ยื่นมือทั้งสองออกมา โอบกอดนางไว้ น้ำตาเปียกปอนบนผมของนาง เรียกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เย่ว์เอ๋อร์ เย่ว์เอ๋อร์ เย่ว์เอ๋อร์…”
หวงฝู่เย่าเย่ว์ไม่ขัดขืน มุดหัวเข้าไปในอ้อมอกเขา น้ำตาไหลออกมาเงียบๆ
ครู่ใหญ่ ท่าป๋าหั่นหลินปล่อยมือ จับใบหน้าของหวงฝู่เย่าเย่ว์ขึ้นมา เช็ดน้ำตาให้นาง ยิ้มทั้งน้ำตาถามนางว่า “เย่ว์เอ๋อร์ ลืมตามาเห็นเจ้า ช่างดีเหลือเกิน”
“เจ้าอย่าคิดมากไป ข้าคิดเพียงแต่หากดูแลเจ้าไม่ดี เจ้าตายไป จวนอ๋องของเราจะเสียชื่อเสียง”
ในที่สุดหวงฝู่เย่าเย่ว์ก็เปิดปากพูด น้ำเสียงฟังดูฝืนและไม่เป็นตัวเอง
“ข้ารู้ๆ”
ท่าป๋าหั่นหลินเห็นด้วยกับนาง “ดังนั้น ข้าจึงไม่กล้าตาย ต้องมีชีวิตเพื่อชดใช้กรรม ชีวิตที่เหลือจะให้ข้าทำสิ่งใด ก็ตามแต่เจ้าจะสั่ง”
“ไม่ต้อง ข้ารับไม่ไหว เดี๋ยวอีกสองสามวัน เมื่อแผลเจ้าหายแล้ว ข้าจะส่งเจ้ากลับหนานเฉิงเอง”
หวงฝู่เย่าเย่ว์พูดไม่ตรงกับใจ
ท่าป๋าหั่นหลินยิ้มออกมา “เย่ว์เอ๋อร์ เจ้าไม่เคยได้ยินหรือว่าอ้อยเข้าปากช้าง ยากจะเอาคืน ข้าอุตส่าห์เข้ามาในห้องนอนของเจ้าได้ อย่าหวังเลยว่าข้าจะออกไป”
“เจ้า…!”
หวงฝู่เย่าเย่ว์ถลึงตามองเขาอย่างไม่คาดคิด ครู่หนึ่งจึงคิดออกมาได้คำหนึ่งว่า “หน้าไม่อาย!”
“เย่ว์เอ๋อร์ว่าไม่ผิด ข้าหน้าไม่อาย หากเจ้ากล้าส่งข้ากลับหนานเฉิง ข้าจะวิ่งเอาหัวชนก้อนหิน เจ้าเชื่อหรือไม่”
“เจ้า…!”
หวงฝู่เย่าเย่ว์กระทืบเท้าด้วยความโกรธ “เจ้าเป็นถึงฮ่องเต้ เหตุใดจึงทำตัวเหมือนพวกไม่มียางอายเช่นนี้ ข้า ข้า ข้าไม่สน ข้าจะให้เจ้าอดตาย”
พูดจบ ก็หันหลังเดินออกไป
ท่าป๋าหั่นหลินไม่ได้เรียกนาง ยิ้มพร้อมมองนางวิ่งออกไปราวกับสาวน้อยวัยแรกแย้ม ในใจถูกความรู้สึกบางอย่างเติมจนเต็ม
ในห้องเงียบสงัดลง ท่าป๋าหั่นหลินเหนื่อยแล้ว จึงปิดตาลง
มีเสียงฝีเท้าเบาๆ ดังขึ้น
ท่าป๋าหั่นหลินเปิดตาขึ้น หวงฝู่เย่าเย่ว์ถือถ้วยข้าวต้มเข้ามาด้วยสีหน้าไม่เป็นธรรมชาติ เดินมาข้างเตียง หยิบช้อนขึ้นมาอีกครั้ง ตักข้าวต้มป้อนมาตรงหน้าเขา
ท่าป๋าหั่นหลินยิ้มพร้อมกินจนหมด
วางชามบนโต๊ะน้ำชา หวงฝู่เย่าเย่ว์ยืนขึ้นห่มผ้าให้เขา “ข้าจะไปต้มยา เจ้านอนพักสักครู่ ยาต้มเสร็จแล้ว ข้าจะเรียกเจ้า”
ท่าป๋าหั่นหลินคว้ามือนางไว้ “ไม่ต้องหรอก ข้าไม่เป็นไร เจ้าขึ้นมานอนพักเป็นเพื่อนข้าดีกว่า”
ใบหน้าของหวงฝู่เย่าเย่ว์แดงขึ้นมาทันที กดเสียงต่ำลง กัดฟันพูดว่า “ท่าป๋าหั่นหลิน เจ้านี่ช่างได้คืบจะเอาศอกเสียจริง พวกเราแยกทางกันแล้ว ไม่มีความสัมพันธ์ต่อกันอีก เจ้า…”
หวงฝู่เย่าเย่ว์หวังจะขัดขืน แต่เมื่อขยับ ท่าป๋าหั่นหลินก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ซ้ำยังเอ่ยว่า “เจ็บนัก”
“สมควรแล้ว ควรเจ็บให้ตายไปเลย!”
หวงฝู่เย่าเย่ว์ดุเขา พร้อมกับหยุดท่าทีขัดขืน
ท่าป๋าหั่นหลินยิ้มภูมิใจ คว้ามือของนางเอาไว้ไม่ปล่อย “หากเจ้าสัญญากับข้าว่าจะนอนเป็นเพื่อนข้า เช่นนั้นข้าก็ไม่เจ็บแล้ว”
“ให้เจ้าเจ็บจนตายไปดีกว่า!”
หวงฝู่เย่าเย่ว์ดิ้นรนออกจากพันธนาการของเขา รีบลุกขึ้นมา
ครั้งนี้ ถูกแผลเข้าจริงๆ แต่ท่าป๋าหั่นหลินไม่ร้องออกมา ยังคงปั้นหน้ายิ้ม มองนาง
“หลับตา นอน!”
หวงฝู่เย่าเย่ว์สั่ง
รู้ดีว่านางไม่ยอมนอนเป็นเพื่อนตนแน่ ท่าป๋าหั่นหลินจึงไม่ฝืนต่อ หลับตานอนอย่างเชื่อฟัง
หวงฝู่เย่าเย่ว์ห่มผ้าให้เขา เดินออกไปต้มยาอย่างเงียบเชียบ
ได้ยินเสียงฝีเท้าไกลออกไป ท่าป๋าหั่นหลินลืมตามอง จากนั้นก็หลับไปอีกครั้ง หลับลงอย่างสบายใจ
ผ่านไปอีกหลายวัน แผลของท่าป๋าหั่นหลินดีขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างนี้ นอกจากเมิ่งเชี่ยนโยวมาเยี่ยมสองครั้ง เพื่อดูแผลของเขา ก็ไม่มีผู้ใดในจวนอ๋องมารบกวนพวกเขาอีกเลย
ยากที่ท่าป๋าหั่นหลินจะมีโอกาสอยู่ร่วมกับหวงฝู่เย่าเย่ว์สองคน เขาไม่อยากให้นางอยู่ห่างสายตาของเขาเลย
ตอนแรกหวงฝู่เย่าเย่ว์ขัดขืน แต่ถูกเขาเว้าวอนจนรำคาญ จึงตามใจเขา
ทางฝั่งไทเฮา เมิ่งเชี่ยนโยวส่งคนไปบอกข่าวแล้ว เมื่อรู้ว่าเขาสบายดี ทั้งยังได้พักอยู่ที่จวนอ๋อง ไทเฮาดีใจเสียจนยิ้มปากไม่หุบ และไม่มีทางเข้ามารบกวนทั้งสองเป็นแน่
ผ่านไปอีกครึ่งเดือน แผลของท่าป๋าหั่นหลินหายดีแล้ว ขณะที่เขากำลังคิดหาวิธี เพื่อจะอยู่ในเรือนหวงฝู่เย่าเย่ว์ให้นานขึ้น พระชายาและเมิ่งเชี่ยนโยวเข้ามาพอดี
ท่าป๋าหั่นหลินกำลังอาบแดดอยู่อย่างสบายใจ เมื่อเห็นทั้งสองเข้ามาในเรือน จึงได้รีบลุกขึ้น ทำความเคารพ “ท่านย่า ท่านแม่ยาย”
ทั้งสองไม่ตอบรับ เมิ่งเชี่ยนโยวมองเขา ถามว่า “หายดีแล้วหรือ”
ท่าป๋าหั่นหลินรีบตอบว่า “เรียนท่านแม่ยาย หายดีแล้วขอรับ”
“แล้วเจ้าคิดจะทำอย่างไรต่อ”
ท่าป๋าหั่นหลินชะงัก ตอบไม่ได้
เมิ่งเชี่ยนโยวขมวดคิ้ว “นี่มันสิ่งใดกันฮ่องเต้รัฐอิง อยู่ในเรือนของลูกสาวข้านานเพียงนี้ กลับไม่คิดจะรับผิดชอบนางหรือ”
ท่าป๋าหั่นหลินได้สติ ฉีกยิ้มกว้างถึงหู “ท่านแม่ยายมีเงื่อนไขเช่นไร ได้โปรดบอกมาขอรับ”
เมิ่งเชี่ยนโยวไม่กล่าว มองเขาครู่ใหญ่ จ้องเสียจนท่าป๋าหั่นหลินตัวชา รอยยิ้มหายไป จึงได้กล่าวว่า “ชิงหลวน จูหลี ไล่ออกไป!”
ทั้งสองตอบรับ เข้าโจมตี
ท่าป๋าหั่นหลินหน้าถอดสี ร้องพร้อมปัดป้อง ว่า “ท่านแม่ยาย ข้าผิดไปแล้ว ข้า…”
หวงฝู่เย่าเย่ว์มองดูทุกอย่าง ไม่มีคำขอร้องแทนเขาออกจากปากนาง