มู่เฉียนซีกล่าว “ในเมื่อพวกมันต้องการตามล่าข้า เช่นนั้นพวกเราก็เล่นกับพวกมันเสียหน่อย”

การไล่ล่าครั้งนี้ต้องเป็นเงินก้อนโตอย่างแน่นอน

นอกจากจักรพรรดิแห่งภูตระดับสูงและมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับต่ำแล้ว ยังมีมหาจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่ห้าสองคนซ่อนตัวอยู่อย่างลับ ๆ

พวกเขาคิดว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาเหนือกว่ามู่เฉียนซีและกู้ไป๋อี ดังนั้นในการซ่อนตัวอยู่อย่างลับ ๆ พวกนางย่อมไม่มีทางพบพวกเขาอย่างแน่นอน

พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าแม้มู่เฉียนซีและกู้ไป๋อีจะแข็งแกร่งน้อยกว่าพวกเขา แต่พลังจิตวิญญาณของพวกนางก็สามารถบดขยี้พวกเขาได้โดยสิ้นเชิง

มู่เฉียนซีกล่าวกับกู้ไป๋อีว่า “เสี่ยวไป๋ รีบมาช่วยเร็วเข้า”

กู้ไป๋อีมองมู่เฉียนซีที่หลบการไล่ล่าพลางวางกับดักต่าง ๆ ในป่า

พิษที่แปลกประหลาดมากมายถูกนางใช้ไปทั้งหมด แน่นอนว่ามันจะต้องทำให้คนตายอย่างแน่นอน

ถ้าผู้อื่นเห็นสิ่งนี้ด้วยตาของตัวเอง จะต้องรู้สึกว่าสาวน้อยผู้นี้ช่างใจดำอำมหิตเป็นแน่

แต่ในสายตาของกู้ไป๋อี เขารู้สึกว่าคุณหนูใหญ่ของเขาชอบเล่นสนุกเป็นอย่างมาก

“ตามไป อยู่ด้านนั้น!”

“ไป!”

“……”

แม้ว่ายอดฝีมือทั้งสองจะสังเกตเห็นการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ของมู่เฉียนซีแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่เข้าใจว่านางกำลังทำอะไรอยู่? และไม่ได้เก็บมาใส่ใจ

ถ้าคนเหล่านั้นไม่สามารถจัดการกับสองคนนี้ได้ พวกเขาก็จะโจมตีอีกครั้ง

“อ๊า อ๊า อ๊า!” แต่เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงร้องโหยหวนของคนเหล่านั้น พวกเขาก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ

ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เคยมาที่ป่าแห่งนี้มาก่อน เดิมทีก็ไม่ได้มีกับดักอันตรายอะไร แต่ทำไมคนของพวกเขาถึงเกิดเรื่องกันหมด

“ปัง ปัง ปัง!”

ผู้คนหลายร้อยคนที่มาไล่ล่าพวกเขาถูกกับดักและหลุมพิษต่าง ๆ จนตกอยู่ในสภาพที่น่าสังเวช มีทั้งตายและได้รับบาดเจ็บ

และเป้าหมายที่พวกเขาตามล่า ดูเหมือนจะยังไม่ได้ลงมือจริง ๆ

มหาจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่ห้าทั้งสองนั้นรู้สึกว่าไม่สามารถถ่วงเวลาได้อีกต่อไปแล้ว นี่จะทำให้พวกเขาสูญเสียหนักไปมากกว่านี้

“ไป!” พวกเขากล่าวขึ้น พร้อมกับพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

ทันทีที่พวกเขาพุ่งเข้าไป อาวุธลับอย่างเข็มพิษที่พุ่งออกมาจากทุกทิศทุกทางก็ล้อมรอบพวกเขาเอาไว้ราวกับสายฝน สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก

ถูกพบเข้าแล้ว!

ปัง ปัง ปัง!

มู่เฉียนซีและกู้ไป๋อีที่ถูกตามล่ามานั้นสงบนิ่ง แต่คนที่ตามล่าเหล่านั้นกลับเหมือนได้ต่อสู้กับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงถึงสามร้อยรอบก็มิปาน

มู่เฉียนซีหัวเราะ “มันดึกมากแล้ว ถึงเวลานอนได้แล้ว ข้าไม่เล่นกับพวกเจ้าละ”

เล่น! พวกเขาเองก็ตะลึงงันเช่นกัน พวกเขากำลังตามล่าพวกนางอยู่ แต่นางกลับบอกว่าเป็นการเล่นงั้นรึ?

ชายชราผู้หนึ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดุร้ายว่า “ข้าจะส่งเจ้าไปนอนพักยาว ๆ เจ้ารอข้าก่อนเถอะ!”

ตูม!

เงาสีขาวพุ่งออกไป กู้ไป๋อีลงมือแล้ว

“อู๋ตี้ เสี่ยวหง ออกมา!”

ถูกมู่เฉียนซีหลอกในครั้งนี้ จำนวนคนของพวกเขานั้นก็มิได้เหลือความได้เปรียบอยู่สักเท่าไรแล้ว จากนี้ไปก็ต้องยืมการที่ฟ้าดินและผู้คนเป็นใจเท่านั้นแล้ว ส่วนผู้ที่ไล่ล่าตามฆ่านางแต่ละคนได้ค่อย ๆ ถูกจัดการไปทีละคน

จักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่ห้าทั้งสองคนที่เหลือนั่นกลายเป็นผู้บัญชาการทันที “พวกเจ้า…พวกเจ้า…”

พวกเขามองชายหญิงตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ ทั้งที่พวกเขาแข็งแกร่งกว่าคนทั้งสองนี้มาก แต่ตอนนี้กลับต้องกลัวจนคิดจะถอยหนี

มู่เฉียนซีมองสำรวจพวกเขาแล้วกล่าวว่า “พวกเจ้าบอกว่าพวกเจ้าเป็นคนของสำนักขวางโซ่ว คนของสำนักขวางโซ่วสามารถแปลงเป็นสัตว์ได้ รีบแปลงร่างเป็นสัตว์เร็วเข้า! มิเช่นนั้นวันนี้พวกเจ้าคงจะหนีไม่พ้น”

พวกเขาทั้งสองยิ้มอย่างขมขื่น พวกเขาจะได้เคล็ดวิชาที่ชั่วร้ายนั่นได้อย่างไร!

“เจ้าคิดจริง ๆ เหรอว่าพวกเราจะกลัวเจ้า?“

ดวงตาของพวกเขาฉายแววอำมหิตและเริ่มลงมือกับมู่เฉียนซีและกู้ไป๋อีทันที

กู้ไป๋อีต่อสู้แบบตัวต่อตัวส่วนมู่เฉียนซีนั้นถูกสัตว์พันธสัญญาทั้งสองตัวรุมโจมตี

ภายใต้ปราณกระบี่ของกู้ไป๋อี จักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่ห้าก็มิอาจต้านทานได้

อู๋ตี้และเสี่ยวหงใช้ร่างกายที่แข็งแกร่ง ระเบิดพลังอย่างบ้าคลั่ง

ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ! มู่เฉียนซีมีหน้าที่ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ที่สุด นางใช้เข็มยาพุ่งเข้าโจมตีจากทุกทิศทาง

ร่างสีม่วงพุ่งไป ฉวยโอกาสใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้ามและระเบิดตราประทับโยวหลัวพุ่งเข้าใส่เขา

ตูม!

ปัง ปัง ปัง!

ไม่ว่าความแข็งแกร่งจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน แต่พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะทนต่อการโจมตีที่วิปริตของคนทั้งสองนี้ได้ ทั้งสองนักฆ่าจึงได้รับบาดเจ็บสาหัสและล้มลงไปกับพื้น

เมื่อเห็นหนุ่มสาวสองคนนี้ที่ไร้ความปราณีและโหดเหี้ยม พวกเขาก็หวาดกลัวเป็นอย่างมาก

“อย่าฆ่าพวกเราเลย? มีอะไรก็คุยกันได้” พวกเขารีบพูดขึ้นทันที

“ข้าไม่มีอารมณ์จะคุยดีกับคนของสำนักขวางโซ่ว คนของสำนักขวางโซ่วมันบ้าไปแล้ว ควรจะฆ่าทิ้งเสียดีกว่า”

พวกเขากำลังจะร้องไห้ออกมาแล้ว ปลอมเป็นใครไม่เป็น ทำไมพวกเขาถึงได้มาปลอมเป็นคนของสำนักขวางโซ่วกัน

“พวกเราไม่ใช่คนของสำนักขวางโซ่วจริง ๆ ถ้าใช่ละก็ พวกเราคงกลายเป็นสัตว์ไปแล้ว และไม่มีทางที่จะถูกพวกเจ้าทุบตีจนไม่มีช่องว่างให้ตอบโต้ได้เช่นนี้?”

“ใช่! พวกเราไม่ใช่จริง ๆ!” อีกคนรีบเสริม

มู่เฉียนซีกล่าว “พวกเจ้าไม่ใช่คนของสำนักขวางโซ่ว แล้วเป็นใครกัน? นอกจากสำนักขวางโซ่วแล้ว ยังมีคนคิดอยากจะฆ่าพวกเราอีกหรือ?”

“พวกเราเป็น…” ขณะที่กำลังจะโพล่งออกมา แต่อยู่ ๆ ก็หยุดชะงักไป

นี่เป็นข่าวที่จะสามารถรักษาชีวิตของพวกเขาไว้ได้ หากพูดไป คงไม่ถูกสองผู้นี้ฆ่าแน่

“เจ้าไว้ชีวิตพวกเรา แล้วพวกเราจะบอกเจ้า” พวกเขากล่าว

“ได้ ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า”

พวกเขาตัดสินใจที่จะเดิมพันและรักษาสัญญาของพวกเขา

“เป็นท่านเจ้าเมืองซีเจว๋ ท่านเมืองซีเจว๋ต้องการให้พวกเรามาฆ่าพวกเจ้า เขาไม่อยากให้เจ้ากลายเป็นผู้บัญชาการฝั่งตะวันตกของทุ่งรกร้าง”

เรื่องนี้ พวกเขาพอเดาได้

มู่เฉียนซีพยักหน้า “โอ้!”

“เช่นนั้นพวกเจ้าปล่อยพวกเราไปได้ไหม?”

“ไม่ได้อย่างแน่นอน!”

ในใจของพวกเขาเย็นเฉียบ แน่นอนว่าพวกนางยังต้องการจะฆ่าคนปิดปากอยู่!

มู่เฉียนซีหยิบยาพิษออกมาสองเม็ดแล้วกล่าวว่า “ยาพิษสองเม็ดนี้ จะไม่เป็นอันตรายต่อชีวิตของพวกเจ้าหรอก! แต่หากพวกเจ้าไม่เชื่อฟังละก็ จะต้องตายอย่างน่าเวทนาเป็นแน่”

“เจ้าจะควบคุมพวกเราหรือ?” พวกเขาตกใจและกล่าว

“ข้ากำลังขาดกำลังคน พวกเจ้ามาอยู่ตรงหน้าข้าด้วยตัวเองเช่นนี้ จะไม่ใช้ประโยชน์จากพวกเจ้าเสียหน่อยก็คงจะไม่ได้ พวกเจ้าว่าถูกหรือไม่?” มู่เฉียนซีหัวเราะ

“พวกเจ้าเลือกเอาเองเถอะ! ว่าจะตายหรือฟังข้า”

พวกเขาย่อมไม่อยากตาย และทำได้เพียงกินยาพิษนี้อย่างว่าง่าย

มู่เฉียนซีกล่าวว่า “พวกเจ้ากลับไปในเมืองแล้วบอกเจ้าเมืองซีเจว๋ว่าพวกเราถูกพวกเจ้าทำร้ายบาดเจ็บสาหัสจนหนีไปแล้ว จากนั้นก็คอยอยู่ในเมืองซีเจว๋ ดูว่าพวกเขาจะทำอะไรต่อไป?”

“ขอรับ!”

หลังจากที่พวกเขาออกไป ทั่วทั้งป่าก็ได้เงียบสงัดลง

มู่เฉียนซีกล่าว “เสี่ยวไป๋ เพื่อหลีกเลี่ยงการแหวกหญ้าให้งูตื่น คืนนี้เราจะไม่เข้าเมืองแล้ว หาที่พักผ่อนที่นี่เถอะ!”

“ได้!”

กู้ไป๋อีไม่คิดว่ามู่เฉียนซีจะหาต้นไม้สูงตระหง่านมาเพื่อพักผ่อนด้านบนเช่นนี้

ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่มู่เฉียนซีเอ่ยถาม “เสี่ยวไป๋ พื้นที่บนนี้เยอะมาก เจ้าไม่ขึ้นมาหรือ?”

กู้ไป๋อียืนตัวตรงอยู่ใต้ต้นไม้ “ไม่ ข้าจะเฝ้ายามให้คุณหนูใหญ่!”

“ป่าแห่งนี้ไม่มีแม้แต่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสาม มันไม่เป็นอะไรหรอก!”

“ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า คุณหนูใหญ่พักผ่อนเถอะ!”

เถียงสู้กู้ไป๋อีไม่ได้ มู่เฉียนซีจึงทำได้เพียงไปพักผ่อนเสียก่อน

ในเวลาเดียวกันนั้นเมื่อเจ้าเมืองซีเจว๋ได้ยินคนมารายงานแล้วจากนั้นก็กล่าวว่า “มีคนตายไปมากมายเช่นนี้ แต่กลับปล่อยให้หนีไปได้อีก พวกเจ้าจัดการกันเช่นไร?”

.

.