บทที่ 1817 ขอแต่งงานในที่สาธารณะ
มองเงาด้านหลังที่จากไปของชิวหลีควน ใบหน้าของโจวเทาก็ฉายแววดูถูกและเย็นชา
เล่นอะไรกัน รองประธานของบริษัทผุๆ ก็กล้ามาข่มขู่อวดอำนาจใส่เขาถึงที่นี่ ถ้าไม่เห็นแก่หน้าเถ้าแก่ใหญ่ ไม่ได้นัดหมายก็แจ้นมาแล้วละก็ แม้แต่หน้าเขาก็จะไม่ได้เจอด้วยซ้ำ
ตอนนี้เถ้าแก่ใหญ่ยังไม่ได้ยอมรับความสัมพันธ์กับกู้เยว่เจ๋อ ก็กล้าคิดว่าตัวเองเป็น ‘ลูกเขย’ แล้วเหรอ?
ขอให้เถ้าแก่ใหญ่อย่าเป็นเหมือนข่าวลือที่ว่าถูกใจกู้เยว่เจ๋อคนอย่างนั้นเข้าจริงๆ …
…
ในวันเดียวกันนั้น สำนักงานใหญ่ของซิงเฉินกรุ๊ป เยี่ยหวันหวั่นกำลังเปิดประชุมเบื้องบน
ซิงเฉินนี้เป็นอุตสาหกรรมภายใต้การบริหารของผู้อาวุโสรอง เดิมทีเยี่ยหวันหวั่นไม่อยากเข้ามายุ่งมากนักแต่ผู้อาวุโสรองก็โทรมาหาหลายครั้ง อยากให้เธอไปที่สำนักงานใหญ่ให้ได้ ต่อให้ไม่ทำอะไรแค่โผล่หน้าไปก็พอ ราวกับเธอไปซิงเฉินสักรอบ เขาก็เหมือนได้หน้ามากยังไงยังงั้น
เยี่ยหวันหวั่นหมดหนทางจึงจำต้องไปเปิดการประชุมที่สำนักงานใหญ่
ระหว่างการประชุมทุกอย่างปกติดี แต่สีหน้าของกรรมการผู้จัดการบางสาขากลับแปลกไปอยู่บ้าง พวกเขามองเธอและมีท่าทางเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ยังลังเล
“มีเรื่องอะไรก็พูดมาตรงๆ เถอะ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
“แค่ก…” สุดท้ายก็เป็นกรรมการผู้จัดการโจวที่ก่อนหน้านี้รับหน้าที่ต้อนรับเยี่ยหวันหวั่นเรียบเรียงคำพูดก่อนที่จะเอ่ยว่า “เถ้าแก่ครับ ช่วงนี้ทางฝั่งของกู้กรุ๊ปคะยั้นคะยอจะติดต่อสานสัมพันธ์กับเรา เหมือนมีเจตนาจะร่วมมือ ไม่ทราบว่าเถ้าแก่คิดเห็นยังไงครับ”
ความจริงคือช่วงนี้มีข่าวลือแพร่สะพัดไปต่างๆ นานา พวกเขาก็ไม่รู้ว่าควรเชื่อใครดี
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “หลายวันก่อนฉันไม่ได้ประกาศไปแล้วเหรอ หรือว่ายังต้องให้ฉันประกาศอีกรอบ?”
เหล่ากรรมการผู้จัดการที่นั่งอยู่ต่างมองหน้าสบตากัน หรือว่าแฟนของเถ้าแก่คือท่านนั้นของตระกูลซือจริงๆ?
ถึงแม้เยี่ยหวันหวั่นจะพูดไปแล้ว คนที่นั่งอยู่ก็ยังคงไม่กล้าแน่ใจนัก ยังไงเสียเรื่องของความรู้สึกก็ซับซ้อน ถึงแม้เถ้าแก่จะเป็นเถ้าแก่ของพวกเขา แต่ก็เป็นผู้หญิง ใครจะรู้ว่าเธอเป็นอย่างที่กู้เยว่เจ๋อพูดจริงหรือเปล่า กำลังงอนอยู่หรือเปล่า
ดังนั้นพวกเขายังคงต้องรอดูอีกหน่อยดีกว่า…
ไว้ทางฝั่งตระกูลกู้มั่นคงก่อนค่อยว่ากัน ไม่งั้นถ้าล่วงเกินไปแล้ว ผลลัพธ์สุดท้ายกลับกลายเป็นลูกเขยของพวกเขาจริงๆ งั้นก็ไม่ซวยแย่เหรอ
…
เยี่ยหวันหวั่นไม่สนใจความคิดในใจของคนพวกนั้น ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่อย่างใจลอย
สุดท้ายรอจนจบการประชุม เยี่ยหวันหวั่นก็ไปที่จูเสินสือไต้หนึ่งรอบ
เพิ่งมาถึงบริษัท กงซวี่ก็รีบร้อนพุ่งเข้ามาหาเธอ บอกว่าสืบถามได้ข่าวล่าสุดเกี่ยวกับกู้เยว่เจ๋อมา
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยถาม “ข่าวอะไร”
กงซวี่จึงเล่าอย่างเร็วปร๋อ “พี่เยี่ย ผมสืบถามได้ความว่าหลายวันมานี้กู้เยว่เจ๋อแอบลับๆ ล่อๆ ติดต่อกับบริษัทจัดงานแต่งแห่งหนึ่ง ผมยังสืบได้ว่าเขานัดพบกับเถ้าแก่ของโรงแรมแกรนด์ข่ายตี๋ แล้วก็ๆ ผมสืบได้ว่าเขาช่วงนี้เขาสั่งแหวนเพชรราคาแพงหูฉี่จาก CL ด้วย!”
เยี่ยหวันหวั่นตบไหล่กงซวี่เบาๆ แล้วเอ่ยอย่างเปี่ยมไปด้วยความจริงใจ “เบบี๋ซวี่ นายเปลี่ยนอาชีพไปเป็นปาปารัสซีได้แล้ว จริงๆ นะ ถ้านายเป็นศิลปินจะเสียความสามารถไปเปล่าๆ นะ”
กงซวี่ได้ยินดังนั้นกลับมีสีหน้าดีใจ “ของมันแหงอยู่แล้ว ผมเป็นคนที่มีความสามารถรอบด้านไง! พี่เยี่ยเซ็นสัญญากับผมได้กำไรก้อนโตแล้ว! เฮ้ย ไม่สิ พี่เยี่ยอย่านอกเรื่องสิ เดี๋ยวค่อยชมผมทีหลัง! คุยเรื่องหลักกับผมก่อนสิ!
ผมจะบอกพี่นะ ไม่ใช่แค่นั้น เจ้ากู้เยว่เจ๋อนั่นยังแอบนัดนักข่าวมีชื่อทั้งหมดในวงการ และเชิญพวกเขาไปที่โรงแรมแกรนด์ข่ายตี๋พรุ่งนี้ตอนเย็นเวลาสองทุ่มด้วย!”
เยี่ยหวันหวั่นอับจนคำพูดอยู่บ้าง “แล้วไง นายอยากจะพูดอะไรกันแน่”
กงซวี่เอ่ยอย่างตื่นเต้น “นี่ยังไม่ชัดเจนพออีกเหรอพี่เยี่ยของผม! เบาะแสต่างๆ บอกว่ากู้เยว่เจ๋อวางแผนมานานแล้วว่าจะขอพี่แต่งงานในที่สาธารณะพรุ่งนี้ตอนเย็นสองทุ่ม!”
————————————————————-
บทที่ 1818 น่าเบื่อจริงๆ
ในขณะเดียวกันกับที่กงซวี่กำลังเล่าข้ออนุมานเหล่านี้ของตัวเองกับเยี่ยหวันหวั่นอย่างน้ำไหลไฟดับนั้น ภายในคฤหาสน์แห่งหนึ่งในเมืองหลวง หลินเชวียก็กำลังพูดแบบเดียวกัน
หลินเชวีย “พี่เก้า สรุปว่ากู้เยว่เจ๋อเจ้าโง่นี่น่าจะเตรียมขอแฟนพี่เก้าแต่งงานนะ! นี่พี่ก็ทนได้เหรอ”
ถ้ายังทนได้ ก็ผิดปกติไปหน่อยแล้วมั้ง
ซือเยี่ยหานนิ่งเงียบ
…
เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วเล็กน้อย ขอแต่งงาน…? บ้าอะไรกัน!
ชั่วพริบตาที่สิ้นเสียงของกงซวี่ มือถือของเยี่ยหวันหวั่นก็ดังขึ้น และบังเอิญว่าเป็นกู้เยว่เจ๋อโทรมาพอดี
“พี่เยี่ย รีบรับเร็วๆ!” กงซวี่เร่งเร้าอย่างอยากรู้อยากเห็น ใบหน้าแทบจะขยับติดมือถือของเยี่ยหวันหวั่นแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นกดปุ่มรับสายและยกขึ้นมา “ฮัลโหล”
กู้เยว่เจ๋อเห็นเยี่ยหวันหวั่นรับสายก็อารมณ์ดีมาก จึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจในตัวเองว่า “หวันหวั่น คืนพรุ่งนี้สองทุ่ม ที่โรงแรมแกรนด์ข่ายตี๋ ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยกับเธอ”
กงซวี่ใช้ท่าทางขยับปากพูดกับเยี่ยหวันหวั่นทันที “เห็นไหมๆ ผมพูดถูกใช่ไหมล่ะ!”
ไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยตอบ กู้เยว่เจ๋อก็ตัดบทเธอ และพูดต่อว่า “อย่าปฏิเสธ หวันหวั่น เชื่อฉัน ฉันรู้ว่าเธอต้องการอะไร และฉันก็ให้เธอได้”
พูดจบกู้เยว่เจ๋อก็วางสายทันที สีหน้าท่าทางเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ
เยี่ยหวันหวั่นมองมือถือที่วางสายไปแล้วคล้ายกับกำลังยิ้มแต่ไม่ยิ้ม “หึ รู้ว่าฉันต้องการอะไรงั้นเหรอ”งล
กู้เยว่เจ๋อคงคิดว่า…เธออยากให้เขาแต่งงานกับเธออย่างถูกต้องตามประเพณี?
ถ้าเป็นเยี่ยหวันหวั่นเมื่อก่อนก็คงถูกจริงๆ ถ้ากู้เยว่เจ๋อยอมขอเธอแต่งงานอย่างยิ่งใหญ่อลังการ เธอคงจะดีใจจนเป็นลม
ดังนั้นกู้เยว่เจ๋อจึงคิดอย่างเป็นเรื่องปกติว่า ตัวเองคว้าหมับหัวใจของเยี่ยหวันหวั่นเอาไว้ได้แล้ว และเผย ‘ท่าไม้ตายพิชิตใจ’ ที่เตรียมไว้จัดการเธอออกมา
“พี่เยี่ย พี่จะไปไหม” กงซวี่กะพริบตาถาม
เยี่ยหวันหวั่นยิ้มตาหยีมองเขา “นายคิดว่าฉันว่างมากงั้นเหรอ”
แค่ขำๆ ก็ได้หรอก แต่เธอไม่มีเวลาที่จะอยู่เล่นเป็นเพื่อนอีกฝ่าย
“ไม่นะพี่เยี่ย พี่ไม่ว่างแต่ผมว่างนี่นา ไปเล่นๆ น่า! ปฏิเสธแล้วตบหน้าเจ้าผู้ชายโง่สารเลวนั่นจะฟินขนาดไหน” กงซวี่แนะนำอย่างตื่นเต้น
เยี่ยหวันหวั่นเหล่ตามองเขาอย่างเย็นชา “ได้ตบหน้าคนอย่างนั้นจะฟินมากงั้นเหรอ”
เธอไม่สนใจเรื่องที่ไร้ความท้าทายแบบนี้
“ก็ได้ๆ น่าเบื่อชะมัด…” กงซวี่เบะปากอย่างผิดหวัง
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “อย่าคิดแต่จะเล่นทั้งวัน ทำงานซะ”
กลับมาประเทศจีนครั้งนี้เธอยังมีภารกิจสำคัญอีกอย่างติดตัว ไม่มีเวลามากพอที่จะมาเสียไปกับเรื่องน่าเบื่ออย่างนี้
หลังจากนี้อีกไม่นานเธอยังต้องกลับไปยังรัฐอิสระ จึงต้องทำเวลาและจัดการเรื่องที่ฝั่งนี้ให้เสร็จสิ้น
เยี่ยหวันหวั่นไม่ได้สนใจกงซวี่ ได้แต่เดินตรงไปที่ห้องทำงานของเฟ่ยหยาง ผลักประตูเข้าไปและเอ่ยกำชับ “พี่หยาง เตรียมงานแถลงข่าวเสร็จหรือยังคะ”
ช่วงนี้เกิดเรื่องขึ้นมากมาย เบื้องบนของหวงเทียนก็เปลี่ยนวาระ รวมไปถึงการกลับมารวมตัวกันอีกครั้งของจูเสินสือไต้ และยังมีชุดความร่วมมือทางกลยุทธ์กับซิงเฉินเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ทั้งหมดนี้จำเป็นต้องจัดแถลงการณ์ต่อหน้านักข่าวอย่างเป็นทางการสักหน่อย
เฟ่ยหยางเงยหน้าขึ้นจากจอคอมพิวเตอร์แล้วเอ่ยว่า “โอเคแล้วครับ สถานที่จัดงานคือห้องประชุมโกลด์ของศูนย์จัดประชุมอวิ๋นฟาน ผมกำลังจัดทำรายชื่อแขกอยู่ครับ”
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “โอเคค่ะ ลำบากพี่แล้ว”
หลังจากเฟ่ยหยางจัดทำรายชื่อผู้ที่ได้รับเชิญเสร็จ ก็เชิญสื่อใหญ่ต่างๆ และนักข่าวมาร่วมงานแถลงข่าว ส่วนเยี่ยหวันหวั่นก็ไปหาเยี่ยมู่ฝานเพื่อปรึกษาลำดับขั้นตอนและรูปแบบของงานแถลง
……………………………………..