ตอนที่ 871: การต่อสู้เพื่อชิ้นส่วนแผนที่ (1)
เจี้ยนเฉินเอาแหวนออกมาจากนิ้วของชายชุดดำก่อนที่จะส่งหัวของเขาให้กับไคยะ เขาพูดพร้อมยิ้มเล็กน้อย “คุณหนูไคยะ ข้าได้ตัดหัวคนคนนั้นให้ท่านแล้ว ถือเสียว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณของท่านที่ท่านได้ให้เหรียญคริสตัลมา 100 เหรียญ”
ไคยะและองครักษ์ทั้งสิบสองคนจ้องไปที่เจี้ยนเฉินอย่างแข็งทื่อ ในขณะที่คลื่นอารมณ์ถาโถมภายในหัวใจของพวกเขา พวกเขารู้สึกไม่สงบเลย นักรบวิญญาณทะเล 14 ดาวถูกเจี้ยนเฉินสังหารไปได้อย่างง่ายดายและถูกตัดแม้กระทั่งหัว พวกเขาพบว่านี่มันเหลือเชื่อและพวกเขายังตั้งสติไม่ได้แม้จะผ่านมาสักพักแล้ว พวกเขาปฏิเสธที่จะยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าพวกเขา
“จอมยุทธผู้นั้นใช่คนที่ไม่มีเงินค่าธรรมเนียมที่จะเข้าไปในเมืองหรือไม่ ? ” ในตอนนี้ความคิดเหมือนเหมือนกันผุดขึ้นในใจของไคยะและองครักษ์ทั้งสิบสามคน ไม่มีใครกล้าที่จะเชื่อมโยงเจี้ยนเฉินคนที่ฆ่านักรบวิญญาณทะเล 14 ดาวได้อย่างง่ายดายกับบุคคลก่อนหน้านี้
เมื่อจ้องไปที่ศพที่ถูกตัดหัว ผู้อาวุโสจากเผ่าคาเลอร์ก็ตกใจมาก ชายชราชุดดำเป็นนักรบวิญญาณทะเล 14 ดาว แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในระดับสูงสุดแต่เขาก็ยังแข็งแกร่งมาก ในขณะเดียวกัน เจี้ยนเฉินยังสังหารชายชราคนนี้ไปได้อย่างง่ายดาย ความแข็งแกร่งนี้ทำให้ผู้อาวุโสตกตะลึงมาก
“ขั้นสูงสุดของ 14 ดาว คนคนนั้นที่เพิ่งโจมตีออกไปอยู่ในขั้นสูงสุดของ 14 ดาวแน่ ! เขาอาจจะเป็นแม้กระทั่งจอมยุทธ 15 ดาว ! ” ผู้อาวุโสคิด ใจของเขาเต็มไปด้วยความปลาบปลื้ม ถ้าเผ่าคาเลอร์สามารถดึงเอาจอมยุทธที่ทรงพลังแบบนี้เข้ามาได้ มันคงเป็นที่ดีมาก
ผู้อาวุโสเช็ดเลือดจากมุมปากของเขาและฝืนร่างที่บาดเจ็บหนักไปหาเจี้ยนเฉิน เขาพูดอย่างซาบซึ้ง “ข้าขอขอบคุณท่านนักรบมากที่ช่วยพวกเราไว้ เผ่าคาเลอร์ของพวกเราจะไม่ลืมบุญคุณที่ท่านแสดงออกมาเลย ข้าขอถามได้ไหมว่าท่านจะมาเยือนที่เผ่าคาเลอร์ของพวกเราในฐานะแขกเพื่อให้เราทำการขอบคุณท่านอย่างเหมาะสมได้หรือไม่ ? “
“มันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ไม่ต้องไปสนใจมันหรอก อีกทั้งคุณหนูไคยะยังช่วยพวกเราไว้ครั้งหนึ่งก่อนหน้านี้ ดังนั้นข้าต้องช่วยท่านในครั้งนี้อยู่แล้ว ท่านผู้อาวุโส ข้ายังมีเรื่องที่ต้องจัดการ ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถไปเยือนที่เผ่าของท่านได้” เจียนปฏิเสธหลังจากพูดวกวนไปมา เขาสุภาพมาก
ผู้อาวุโสรู้สึกอึดอัดใจ เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการที่จะเชิญเจี้ยนเฉินไปที่เผ่าของพวกเขาอย่างมากในฐานะแขก อย่างไรก็ตาม เจี้ยนเฉินนั้นแข็งแกร่งมาก พวกเขาจึงไม่กล้าที่จะรบกวนเขามากเกินไปจนเขาโกรธ ในตอนนั้น เขาคงได้ไม่คุ้มเสีย
“เจ้าเด็กบ้า เจ้ามัวจ้องเหม่ออะไรอยู่ ? ทำไมเจ้าไม่รีบชวนท่านนักรบไปที่เผ่าของพวกเราในฐานะแขกล่ะ ? ” ผู้อาวุโสส่งข้อความทางจิตใจไปที่ไคยะทันทีหลังจากที่ความคิดโผล่ขึ้นมาที่หัวของเขา
ไคยะยังคงลังเล ความสัมพันธ์ของนางกับเจี้ยนเฉินนั้นธรรมดามาก อีกทั้งนางสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนจากวิชาเบิกวิญญาณโดยกำเนิดของนางว่าเจี้ยนเฉินนั้นปฏิบัติต่อนางเหมือนคนธรรมดาที่ผ่านไปมาเท่านั้นโดยไม่มีจุดประสงค์อื่นเลยแม้แต่น้อย เหตุผลที่เขาช่วยนางในครั้งนี้เป็นเพราะเรื่องที่เขาต้องการที่จะชดใช้บุญคุณจากเหรียญคริสตัล 100 เหรียญที่เขาได้รับไป
“ลาก่อน คุณหนูไคยะ” เจี้ยนเฉินป้องมือไปที่ไคยะก่อนที่จะหันหลังจากไป
เมื่อได้เห็นว่าไคยะไม่ได้ทำตามคำแนะนำของเขา ผู้อาวุโสก็ควบคุมอารมณ์ไม่ได้อยู่ข้าง ๆ เขาเร่งอีกครั้ง “เด็กบ้า เจ้ามัวยืนทำอะไรอยู่ ทำไมเจ้าไม่รีบหยุดท่านนักรบเอาไว้ล่ะ ? ” เสียงของผู้อาวุโสเต็มไปด้วยความเร่งรีบ โอกาสอันดีอยู่ตรงหน้าของเขาแล้วในตอนนี้ที่จะรั้งจอมยุทธเอาไว้ เขาไม่ต้องการที่จะเสียโอกาสไป
ไคยะส่ายหน้าเบา ๆ และไม่ได้ทำอะไร นางรู้ว่าถึงนางจะพูดรั้งเพื่อให้เขาอยู่ต่อ มันก็คงไม่ได้ผล
“เฮ้อ” ผู้อาวุโสของเผ่าคาเลอร์ถอนหายใจอย่างฉุนเฉียวเพราะนางไม่ยอมที่จะทำตามที่เขาบอก ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเสียดายและโกรธเกรี้ยว
ในขณะที่นูบิสกับซี่หวังกำลังต่อสู้กัน พวกเขาก็เคลื่อนไหวไปเรื่อย ๆ พวกเขาอยู่ห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตรในตอนนี้
เมื่อมองไปดูทั้งสองที่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดอยู่ เจี้ยนเฉินก็พูดออกมา “นูบิส อย่าเสียเวลามากไปที่นี่”
“ฮ่าฮ่าฮ่า เข้าใจแล้ว เจ้าหนูซี่หวัง ข้า ปู่นูบิสที่ยิ่งใหญ่ของเจ้าจะไม่ล้อเล่นอีกต่อไปแล้ว” นูบิสหัวเราะมาแต่ไกล เขาใช้กำลังเต็มที่ของเขาและโจมตีอย่างรุนแรงไปที่ร่างของซี่หวังหลายครั้ง ซึ่งทำให้เขาลอยถอยไปและกระอักเลือดออกมา
“เจ้าหนูซี่หวัง มาหาข้าตอนที่เจ้าสำเร็จ 15 ดาวแล้ว เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าในตอนนี้” เสียงที่เย่อหยิ่งของนูบิสสั่นสะเทือนไปรอบ ๆ และได้ยินดังไปไกล เขาไม่สนใจซี่หวังที่บาดเจ็บหนักอีกต่อไป และหลังบินไปหาเจี้ยนเฉิน
“ข้าไม่ได้ใช้เวลามากเกินไปใช่หรือไม่ ? ” นูบิสยิ้มเล็กน้อยต่อหน้าเจี้ยนเฉิน เขาไม่รู้สึกกดดันเลยแม้แต่น้อยในการต่อสู้กับซี่หวัง เขายังไม่ได้ใช้กำลังเต็มที่เลยแม้แต่น้อย ในฐานะที่เขาเป็นอสรพิษทองริ้วเงิน ความสามารถในการต่อสู้ของนูบิสนั้นไม่ใช่สิ่งที่ทรงพลังที่สุด แต่เป็นพิษที่เป็นที่รู้จักกันอย่างดีบนทวีปเทียนหยวน
“พวกเขาออกจากรัศมีของข้าไปแล้ว พวกเราช้ากว่านี้ไม่ได้แล้ว” เจี้ยนเฉินพูดก่อนที่พวกเขาจะมาถึงตรงหน้าผู้นำเผ่าแห่งความกล้าด้วยกัน เขาพูด “ท่านผู้นำเผ่า พวกเราไปกันเถอะ”
“อ่า อะไรนะ ! ไป ไป ไป” ผู้นำเผ่าที่นิ่งอึ้งอยู่ก็กลับมาตั้งสติและพยักหน้าอย่างไม่รู้ตัว ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจและความเหลือเชื่อในระดับสูงสุด เขาเข้าใจความสามารถในการต่อสู้ของเจี้ยนเฉินและนูบิสอย่างแท้จริงในการต่อสู้ครั้งนี้แล้ว
นูบิสได้ต่อสู้กับซี่หวังผู้มีชื่อในทางร้ายด้วยตัวเขาเองและทำให้เขาได้รับบาดเจ็บอย่างง่ายดายในขณะที่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บเลย ในขณะเดียวกัน เจี้ยนเฉินก็ได้ต่อสู้กับเซียนผู้คุมกฎ 4 คนด้วยตัวของเขาเองและทำลายวิญญาณของนักรบวิญญาณทะเล 14 ดาวลงได้ในไม่กี่อึดใจ ในขณะที่นักรบวิญญาณทะเล 13 ดาวอีก 3 คนหนีไปได้โดยได้รับบาดเจ็บหนัก ผู้นำเผ่าแห่งความกล้ารู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาเมื่อเขาได้เห็นทั้งหมดนี้ เผ่าแห่งความกล้าที่เล็ก ๆ ของเขาจะกลัวอะไรถ้ามีจอมยุทธแบบนี้คอยหนุนหลังอยู่ ?
ทั้งสามคนออกไปจากบริเวณนั้น ในขณะที่กลุ่มของไคยะยังอยู่ที่เดิมและจ้องไปยังทิศทางที่เจี้ยนเฉินหายไป
“สองคนนั้นเป็นใครกันนะ ? และอีกคนหนึ่งเป็นใครกัน ? แม้แต่ซี่หวังที่มีชื่อเสียงในทางร้ายยังสู้เขาไม่ได้เลย เขาอาจจะเป็นนักรบ 15 ดาวหรือเปล่า ? ” ผู้อาวุโสของเผ่าคาเลอร์พึมพำ ความเสียดายในใจของเขาเพิ่มมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม ถ้าเขาดึงจอมยุทธทั้งสองคนนั้นมาได้ ความแข็งแกร่งของเผ่าของเขาก็คงเพิ่มขึ้นอย่างมาก
กลุ่มของเจี้ยนเฉินหยุดหลังจากที่เดินทางไปได้หลายร้อยกิโลเมตร หลังจากนั้นเขาก็หันไปหาผู้นำเผ่าและพูด ” ท่านผู้นำเผ่า พวกเราทั้งสองมีบางอย่างสำคัญที่ต้องไปจัดการ ดังนั้นพวกเราจึงจะจากไปชั่วคราวก่อน เมื่อพวกเราจัดการเรื่องเสร็จแล้ว พวกเราจะกลับไปช่วยเผ่าแห่งความกล้าได้หรือไม่ ? “
ผู้นำเผ่าครุ่นคิดก่อนที่จะตอบกลับ “จอมยุทธทั้งสามของเผ่าเมิ่งหวงได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ดังนั้นพวกเขาคงไม่มีพลังพอที่จะมาต่อสู้กับเผ่าของข้าในเวลาที่จะมาถึงนี้ เอาล่ะ ท่านนักรบ ถ้าเช่นนั้นพวกท่านไปจัดการเรื่องของพวกท่านก่อน ข้าจะรอท่านกลับมา” ผู้นำเผ่าอาจจะซื่อแต่เขาก็ไม่ได้โง่แม้แต่น้อย กลับกัน เขานั้นหัวไว เขาสามารถบอกได้เพียงแค่มองปราดเดียวว่าพวกเขาทั้งสองจะลองเสี่ยงโชคในการแย่งชิงเอาชิ้นส่วนแผนที่แผ่นดินทั้งแปดมา
เมื่อล่ำลาผู้นำเผ่าแล้ว เจี้ยนเฉินและนูบิสก็ไม่ได้ลังเลแม้แต่น้อย พวกเขาพุ่งออกไปไกลทันทีด้วยความเร็วดุจสายฟ้า พวกเขาหายไปในพริบตา
ในตอนนี้เองหลายหมื่นกิโลเมตรออกไป ตระกูลฮัวได้มุ่งตรงไปที่ดินแดนของศาลาวิญญาณสวรรค์พร้อมกับชิ้นส่วนของแผนที่แผ่นดินทั้งแปดและไปพร้อมกับเจด นักรบวิญญาณทะเล 16 ดาว เซียนราชาไม่สามารถที่จะเปิดมิติออกได้ในอาณาจักรทะเล พวกเขาได้แต่เดินทางได้โดยการบินเท่านั้น
ในตอนนี้เอง เสียงประหลาดก็ดังออกมาทั่วทุกทิศทาง
“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าควรจะทิ้งชิ้นส่วนแผนที่สุดท้ายนี้ไว้ซะ ข้า หยุนเฟิง จะเอามันไปเอง” หลังจากเสียงหายไป ชายวัยกลางคนร่างกำยำก็ปรากฏออกมาจากที่ใดไม่รู้ตรงหน้าเส้นทางของกลุ่มและขวางพวกเขาเอาไว้ ทันใดนั้นเอง มิติโดยรอบก็ถูกพันธนาการและกลายเป็นบางอย่างที่แข็งเหมือนก้อนน้ำแข็งทันที มันพันธนาการจอมยุทธของตระกูลฮัวเอาไว้ ทำให้พวกเขาขยับเขยื้อนไม่ได้
“จอมมารหยุนเฟิง ! “
ท่าทางของจอมยุทธหลายคนของตระกูลฮัวเปลี่ยนไป สายตาของพวกเขาที่มองไปที่หยุนเฟิงนั้นเต็มไปด้วยความหวาดหลัว
เจ้าเมืองของเมืองแจ๊สยืนอยู่ด้านหน้ากลุ่มและจ้องไปที่หยุนเฟิงแล้วเย้ยออกมา “หยุนเฟิง ปกติแล้วเจ้าเคลื่อนไหวอยู่ในดินแดนศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ทำไมเจ้าถึงมาที่อาณาเขตของพวกเรา ? อีกทั้งยังมีรูปแบบที่ทรงพลังที่ล้อมรอบภายนอกของโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดเอาไว้อีก เมื่อเจ้าบรรลุถึงระดับ 15 ดาวแล้ว เจ้าก็จะไม่สามารถเข้าไปได้ เจ้าเป็นคนสันโดษ ดังนั้น เจ้าจะเอาชิ้นส่วนแผนที่ไปทำไม ? ยังไงเจ้าก็เข้าไปไม่ได้อยู่แล้ว” ในขณะที่เจดพูด ร่างของเขาก็กระตุกเล็กน้อยและมิติที่พันธนาการเขาอยู่ก็กระจายออกกลับเป็นสภาพเดิม
หยุนเฟิงหัวเราะออกมาเสียงดัง “เจ้าพูดถูก ข้าไม่สามารถเข้าไปในโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดได้จริงแต่ก็มีคนยื่นข้อเสนอที่ข้าไม่สามารถปฏิเสธได้มาอยู่ มันคงจะยากที่จะไม่ให้ข้าเข้ามายุ่งเมื่อมีสิ่งที่ข้าต้องการอยู่”
“ข้าไม่คิดเลยว่าจอมมารที่สันโดษและภาคภูมิอย่างเจ้าจะช่วยคนอื่นทำเรื่องแบบนี้ แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าที่อยู่ในขั้นสูงสุดของ 15 ดาว เจ้าอาจจะยังไม่ใช่คู่มือของข้า” เจดพูด
“ผู้อาวุโสเจด ไม่ได้มีแต่ข้าที่ต้องการยุ่งเรื่องนี้ ข้าเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่โลภอยากได้ชิ้นส่วนแผนที่ที่อยู่กับเจ้านอกเหนือไปจากข้า” หยุนเฟิงหัวเราะดัง หลังจากนั้น เขาก็กวาดตามองไปรอบ ๆ แล้วพูด “ทุก ๆ คนเลิกซ่อนตัวได้แล้ว ออกมาซะ”
ทันทีที่หยุนเฟิงพูดจบ ร่างมากกว่าร้อยก็ปรากฏขึ้นมาจากที่ใดไม่รู้จากที่ที่ว่างเปล่า ทุก ๆ คนเป็นเซียนผู้คุมกฎและยังมีแม้แต่เซียนราชา
คนของตระกูลฮัวรู้ว่าถูกตามมานานแล้ว พวกเขาไม่ได้ตกใจที่เห็นคนปรากฏขึ้นมา ในขณะที่เจดที่ยืนอยู่ด้านหน้ามองไปรอบ ๆ “ทุก ๆ คน ชิ้นส่วนแผนที่แผ่นดินทั้งแปดถูกประมูลชนะด้วยราคาแพงมากไปโดยตระกูลฮัว ถ้าเจ้าต้องการที่จะขโมยมันไป อย่าโทษว่าข้าไม่มีความปรานีล่ะ”
“เจด เจ้าเป็นเจ้าเมืองแจ๊สของศาลาเทพเจ้าอสรพิษ ทำเจ้าถึงช่วยคนจากตระกูลฮัวของศาลาวิญญาณสวรรค์กันเล่า ? ” เซียนราชาผู้หนึ่งถาม
“มันไม่ใช่เรื่องของเจ้าที่จะมาสนใจว่าทำไมข้าถึงทำแบบนี้ ในไม่ช้า ข้าจะใช้พลังทั้งหมดของข้าเพื่อช่วยตระกูลฮัวในการปกป้องชิ้นส่วนแผนที่ ถ้ามีใครกล้าที่จะเอามันไป อย่าหาว่าข้าโหดร้ายล่ะ” เจดพูดด้วยเสียงแหบห้าว ตาของเขาจ้องเขม็งและจิตสังหารที่ทรงพลังก็เปล่งออกมาจากเขา มันทำให้อุณหภูมิโดยรอบดิ่งลงอย่างรวดเร็วเหมือนกับว่ารอบ ๆ ได้หลายเป็นถ้ำน้ำแข็งเยือกเย็น