ในเมื่อราชาเทพมารหกปรารถนาเป็นผู้เฝ้าประตูทางเข้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นหลิงตู้ฉิงจึงต้องวางแผนให้รัดกุมกว่าเดิมเพื่อไม่ให้ตัวตนของเขาถูกเปิดเผย

และด้วยความบังเอิญที่อุลบาจะเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์พอดี ดังนั้นเขาจึงเห็นช่องทางที่จะให้อุลบาช่วยเขา

เมื่อเห็นสีหน้าอันทะนงตนของอุลบา หลิงตู้ฉิงจึงหัวเราะและพูดว่า “เจ้าทึ่มเอ้ย ต่อให้เจ้าจะมีสายเลือดของมนุษย์หินและปีศาจยักษ์ ซึ่งมันทำให้เจ้าได้เปรียบในเรื่องของความแข็งแกร่งทางด้านร่างกาย แต่เจ้าก็มีจุดอ่อนที่ใหญ่มากก็คือเจ้าไม่สามารถบ่มเพาะได้ หากเจ้าไม่ได้รับความช่วยเหลือจากข้า เจ้าก็ไม่มีทางที่จะมีคุณสมบัติพอที่จะได้เข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์หรอก ข้าบอกเจ้าเอาไว้เลยว่าข้านี่แหละที่จะสามารถช่วยให้เจ้าแก้ปัญหาร่างกายของเจ้าได้จนทำให้เจ้าสามารถบ่มเพาะได้อย่างไม่มีปัญหา!”

อุลบาขมวดคิ้วและถามขึ้น “ข้าจะเชื่อสิ่งที่เจ้าพูดได้ยังไง?”

หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “ข้าสามารถบอกได้ว่าตอนนี้ที่เจ้าพึ่งพาแต่ความแข็งแกร่งของร่างกาย เจ้าจะมีพลังทัดเทียมกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภา ถูกต้องไหม?”

อุลบาเงียบไปสักพัก จากนั้นเขาพูดว่า “เรื่องนี้ใคร ๆ ก็รู้กันอยู่แล้ว! งั้นเอาแบบนี้ ถ้าเจ้าสามารถชนะข้าได้ ข้าจะยอมเชื่อคำพูดของเจ้าตกลงไหม?”

หลิงตู้ฉิงยิ้มอย่างขมขื่นและตอบว่า “เฮ้อ เอาแบบนั้นก็ได้!”

อุลบาไม่มีความตั้งใจจะออมมือแม้แต่น้อย เขาเปิดใช้พลังสายเลือดของเขาจนมัดกล้ามเปล่งแสงสีดำเงาทันที และจ้องไปที่หลิงตู้ฉิง “เจ้าจงระวังตัวเอาไว้ให้ดี หากพลาดขึ้นมาด้วยร่างกายมนุษย์อันอ่อนแอแบบของเจ้า เจ้าอาจจะถูกหมัดของข้าสังหารเอาได้ง่าย ๆ!”

หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “เข้ามาเถอะ! ถึงแม้ว่าร่างกายของเจ้าจะแข็งแกร่ง แต่ข้าก็มีวิธีเป็นหมื่นที่จะเอาชนะเจ้า”

อุลบาพ่นลมออกจมูกด้วยความไม่พอใจ จากนั้นเขาพุ่งตัวเข้าไปหาหลิงตู้ฉิงทันที

แต่แล้วในวินาทีที่อุลบาขยับ หลิงตู้ฉิงก็โบกมืออย่างแผ่วเบาสร้างสนามแรงดึงดูดลงไปยังพื้นที่ระหว่างเขาและอุลบา

อุลบาที่พุ่งเข้ามาอยู่ในสนามแรงดึงดูดรู้สึกได้ทันทีว่าร่างกายของเขาในตอนนี้มันเหมือนกับว่ามีภูเขาทับอยู่บนบ่า ซึ่งมันทำให้เขาไม่อาจเคลื่อนไหวต่อไปได้อีกเลยแม้แต่ก้าวเดียว!

ด้วยร่างกายของเขาที่เป็นหิน มันจึงยิ่งทำให้สนามแรงดึงดูดเล่นงานเขาได้ผลมากยิ่งขึ้น

“อ้ากกก!” อุลบากู่ร้องลั่นและเปิดใช้งานพลังสายเลือดของเขาจนเกินขีดสุด ซึ่งมันส่งผลให้มัดกล้ามของเขายิ่งขยายใหญ่ขึ้นและแสงสีดำก็แผ่ออกมาจากร่างกายอย่างเห็นได้ชัด

เมื่อใช้พลังสายเลือดจนเกินขีดสุด อุลบาก็เริ่มที่จะก้าวไปหาหลิงตู้ฉิงได้อีกครั้ง

หลิงตู้ฉิงแสดงสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย และพูดว่า “นี่ข้าไม่นึกเลยนะเนี่ยว่าเจ้าจะสามารถทนแรงดึงดูดร้อยเท่าได้? นี่เจ้าคงจะใช้พลังสายเลือดของเจ้าจนเกินขีดจำกัดเลยใช่ไหม? ข้าแนะนำให้เจ้าหยุดซะดีกว่า ไม่เช่นนั้นร่างกายของเจ้าอาจจะเสียหายได้ และอีกอย่างข้าเองก็สามารถเพิ่มแรงดึงดูดได้มากกว่าตอนนี้อีกหลายเท่า ดังนั้นเจ้าอย่าขัดขืนอีกเลย”

“ไว้เจ้าชนะข้าได้ก่อนค่อยโม้จะดีกว่า!” อุลบาตะคอกกลับ

หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “เอาแบบนั้นก็ได้! ผืนทราย!”

เมื่อสิ้นเสียงของหลิงตู้ฉิง จู่ ๆ พื้นดินที่อุลบาเหยียบอยู่ก็กลายเป็นหลุมทรายในทันที และกลืนกินร่างของเขาไปครึ่งร่าง

“เอาล่ะ ตอนนี้เจ้าขยับไม่ได้ด้วยซ้ำ ถึงแม้ว่าเจ้าจะมีร่างกายที่แข็งแกร่ง แต่ถ้าหากเจ้าไม่สามารถเข้าถึงตัวศัตรูของเจ้าได้ เจ้าจะเอาชนะยังไง?” หลิงตู้ฉิงหัวเราะ

ด้วยความเข้าใจในกฎต่าง ๆ ที่หลิงตู้ฉิงมี การเอาชนะอุลบานั้นจึงเป็นเรื่องที่ง่ายพอ ๆ กับกระดิกนิ้ว

ผ่านไปสักพัก หลิงตู้ฉิงก็สลายพลังของเขาออก ซึ่งเมื่ออุลบารู้สึกว่าร่างกายของเขาไม่หนักอีกแล้ว เขาจึงกระโดดขึ้นจากหลุมทรายในทันที

หลังจากที่เขากระโดดออกมาจากหลุมทราย เขาจ้องเขม็งไปที่หลิงตู้ฉิง และตะคอกว่า “แบบนี้ไม่นับ เจ้าโกงข้า!”

หลิงตู้ฉิงยิ้มและตอบกลับ “โอ้เจ้ายังไม่ยินยอมสินะ? ถ้างั้นเรามาเริ่มกันใหม่อีกรอบก็ได้!”

“มาเลย!” อุลบาเตรียมต่อสู้อีกรอบทันที

แต่แล้วในรอบนี้ ในทันทีที่เขาตั้งท่า จู่ ๆ ร่างของเขาก็ถูกอักขระนับร้อยลอยเข้ามาผนึกจนเขาไม่สามารถขยับร่างได้เลย

“เจ้าแพ้อีกแล้ว!” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้น “ต่อให้เจ้าจะทึ่ม แต่เจ้าก็ควรจะรู้ว่าถ้าหากเจ้าไม่สามารถขยับได้มันก็เหลือแค่เวลาที่ข้าจะบดขยี้ร่างกายของเจ้าให้แหลกสลายได้ในเวลาสั้นหรือยาว!”

“เอาใหม่!” อุลบาตะโกนกลับ

จากนั้นเมื่อเริ่มกันใหม่อีกรอบ หลิงตู้ฉิงก็ใช้ค่ายกลจับอุลบาเอาไว้ ซึ่งแน่นอนว่าอุลบาก็แพ้ไปอีกรอบ

“เอาใหม่!”

“……”

หลังจากที่ลองกันไปเกือบ 10 รอบ อุลบาก็ยังคงไม่ยอมแพ้อยู่ดี เขาเอาแต่พูดว่าหลิงตู้ฉิงโกงเขาและเขาไม่อาจยอมรับได้

หลิงตู้ฉิงยิ้มอย่างเหนื่อยใจ และพูดว่า “เจ้าเอาแต่พึ่งพาร่างกายของเจ้าเพียงอย่างเดียว แต่…”

ในขณะที่พูด หลิงตู้ฉิงก็ควักเอากระบี่ระดับสวรรค์ออกมาจากแหวนมิติ และแทงไปที่แขนของอุลบา

“เอาล่ะ เจ้าเห็นรึยัง? นี่แค่กระบี่ระดับสวรรค์ธรรมดา ๆ เท่านั้นนะที่ข้าใช้แทงเจ้า แค่นี้มันก็สามารถแทงเจ้าจนทะลุได้อย่างง่ายดายแล้ว!” หลิงตู้ฉิงพูดต่อ “เจ้ารู้ใช่ไหมว่าอาวุธระดับสวรรค์นั้นหาง่ายแค่ไหน? แล้วเจ้าคิดเหรอว่าในอนาคตศัตรูของเจ้าจะแลกหมัดกับเจ้าทุกคน? บรรดาคนที่เข้าร่วมการคัดเลือกของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ส่วนใหญ่ก็มีแต่พวกอัจฉริยะจากสำนักและเผ่าต่าง ๆ มากมายทั้งนั้น ซึ่งแน่นอนว่าคนระดับพวกเขาจะต้องมีอาวุธที่ดีกว่าระดับสวรรค์แน่นอน และเมื่อถึงเวลานั้นเจ้าจะทำยังไง? ทีนี่เจ้ารู้แล้วรึยังว่าคุณสมบัติอย่างเจ้านั้นไม่มีทางที่จะได้เข้าไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์หรอก!”

ในเวลานี้บรรดาผู้คนของสำนักเงามายาที่ดูอยู่รอบ ๆ ต่างก็นิ่งเงีย บรวมไปถึงผู้พิทักษ์เต๋าของอุลบาเช่นกัน

หลิงตู้ฉิงได้แสดงจุดอ่อนของอุลบามากมายที่ทำให้พวกเขาไม่สามารถปฏิเสธได้ ซึ่งถึงแม้ว่าวิธีการของหลิงตู้ฉิงบางอย่างมันจะพิสดารจนพวกเขาเองก็ไม่คิดว่าจะมีใครทำได้แบบนั้น

แต่มันก็ไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่าศัตรูที่อุลบาจะต้องเผชิญในอนาคตนั้นจะไม่รู้วิธีการแบบนี้ ถ้าหากอุลบาดันโชคร้ายไปเจอคนที่รู้หนึ่งในวิธีการแบบเดียวกับที่หลิงตู้ฉิงแสดง มันก็คงไม่พ้นที่ฝันในการเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของอุลบาจะต้องสูญสลาย

และที่สำคัญที่สุด หลิงตู้ฉิงยังแสดงจุดอ่อนใหญ่ของอุลบาที่ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการแปลก ๆ อะไรเลยด้วยซ้ำ ซึ่งนั่นก็คือเรื่องอาวุธวิเศษ!

แน่นอนว่าการคัดเลือกทูตศักดิ์สิทธิ์ของเมืองศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นงานสำคัญที่มีแต่พวกโอรสสวรรค์จากทั่วทุกที่มาเข้าร่วม และด้วยสถานะของเหล่าโอรสสวรรค์พวกนั้นมันจะเป็นไปได้ยังไงที่พวกเขาจะไม่พกอาวุธวิเศษที่แข็งแกร่งของตัวเองมาใช้ในงานที่สำคัญเช่นนี้?

เมื่อคิดได้เช่นนี้ พวกเขาก็เริ่มเห็นแล้วว่าความหวังของอุลบานั้นริบหรี่แค่ไหน

ในเวลานี้อุลบาก็ยืนเหม่อลอยไม่อาจเถียงอะไรได้อีกต่อไป

หลิงตู้ฉิงมองไปที่อุลบาที่กำลังยืนเหม่อลอยและพูดว่า “หากเจ้าตกลงรับเงื่อนไขของข้า ข้าจะช่วยให้เจ้าสามารถเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้แน่นอน!”

หนึ่งในผู้พิทักษ์เต๋าของอุลบาเอ่ยถามหลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าสงสัย “คุณชายหลิง ท่านพอจะบอกได้ไหมว่าท่านจะใช้วิธีไหนในการทำให้อุลบาสามารถเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้?”

สำนักเงามายานั้นรู้แค่ว่าด้วยร่างกายของอุลบาที่แข็งแกร่ง เขาจะต้องกลายเป็นตัวตนที่น่ากลัวแน่นอนในอนาคต แต่สิ่งที่พวกเขาจนปัญญาก็คือพวกเขาไม่รู้วิธีชี้แนะอุลบาให้บ่มเพาะร่างกายนี้ได้ยังไง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องส่งอุลบาเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์

ในเขตแดนอุดรทมิฬนั้นมีเผ่าพันธุ์ที่หลากหลายอยู่แล้ว ดังนั้นผู้ที่มีสายเลือดผสมเหมือนอุลบาจึงมีอยู่เต็มไปหมด และทุกครั้งที่พวกเลือดผสมได้มีโอกาสเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เมื่อพวกเขาออกมาปัญหาของพวกเขาทั้งหมดล้วนได้รับการแก้ไขจนหมดทุกคน และด้วยเหตุผลนี้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จึงเป็นที่หมายปองต่อทุกเผ่าพันธุ์ที่อยากจะเข้าไปให้ได้สักครั้งหนึ่ง

ซึ่งมันก็จะติดปัญหาใหญ่อีกอย่างก็คือพวกเขาต้องรอให้เมืองศักดิ์สิทธิ์ประกาศคัดเลือก และพวกเขาต้องแข่งขันกันให้ได้สิทธิ์เข้าไป

หลิงตู้ฉิงมองไปที่กลุ่มคนของสำนักเงามายา และพูดว่า “วิธีการที่ข้าจะทำนั้นเป็นเรื่องระหว่างข้ากับเขาเท่านั้น แต่พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร ข้าไม่ทำอันตรายต่อเขาแน่นอนเพราะข้ายังคงต้องให้เขาช่วยข้าแก้ปัญหาบางอย่างเช่นกัน อ๋อ ข้าขอเตือนพวกเจ้าเอาไว้ก่อนเลยว่าอย่าได้คิดเล่นตลกอะไรกับข้า ก่อนที่ข้าจะเดินทางมาเจอพวกเจ้าและมาถึงที่นี่ ข้าได้ถล่มสำนักไปหลายสำนักแล้ว หากไม่จำเป็นข้าก็ไม่อยากจะให้สำนักของพวกเจ้าเป็นรายต่อไป!”