หากเป็นเมื่อก่อน เพราะเจ้ายุทธจักรอัคคีหวูชิว ทำให้หลัวซิวรู้สึกดีต่อตระกูลยุทธ์อยู่บ้าง

แต่หลัวจากเรื่องม้วนหยกสีทอง ความรู้สึกที่เขามีต่อแดนศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ พูดได้ว่าไม่มีความรู้สึกดีใด ๆ เลย

ผู้ที่ค้นพบผลทิพย์แท้นั้นคือถังอันสองพี่น้อง พวกเขาจะเชื้อเชิญใคร หลัวซิวไม่มีความเห็นใด ๆ เลยสักนิด

ระหว่างทาง เนื่องจากทั้งสองพี่น้องได้คิดไปเองก่อนว่าผลการฝึกตนของหลัวซิวนั้นร้ายกาจมาก ดังนั้นจึงได้เรียกพี่หลัวซิวอยู่ตลอดเวลา ทำให้หลัวซิวอดไม่ได้ที่จะหัวเราะอยู่ในใจ เรื่องผลการฝึกตนไม่ต้องพูดถึง แค่จากอายุแล้ว อายุของทั้งสองคนนี้ ล้วนสูงกว่าหลัวซิวอีกมากนัก

สุดยอดอัจฉริยะสามารถฝึกตนบรรลุถึงแดนเจ้ายุทธจักรได้ภายในเวลานับสิบปี แต่เริ่มจากเจ้ายุทธจักร นับร้อยปีหรือแม้กระทั่งพันปีก็ยากที่จะฝึกตนบรรลุถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ได้ ดังนั้นผู้แข็งแกร่งเจ้ายุทธจักรจำนวนมากจึงได้ใช้เวลาฝึกตนอยู่หลายร้อยปี

โดยปกติแล้วผลการฝึกตนยิ่งสูง อายุก็จะยิ่งยืนยาว พรสวรรค์ของถังอันกับเหมียวยี่หรงไม่นับว่าดดีสักเท่าไร ฝึกตนมาสองร้อยกว่าปี ยังไม่บรรลุถึงแดนเจ้ายุทธจักรช่วงกลาง

จากที่ถังอันได้กล่าวมา ยอดฝีมือจากตระกูลยุทธ์ที่พวกเขาได้เชิญมานั้นฝึกตนอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งบนแดนดารานอก

สำหรับคนที่ได้ฝึกประสบการณ์อยู่ในแดนดารานอกเป็นเวลาหลายร้อยปีอย่างพวกเขา ล้วนมีความเข้าใจสภาพแวดล้อมในโลกล่มสลายแห่งนี้เป็นอย่างดี รู้ว่าสถานที่ปลอดภัยอยู่ที่ใด

“พี่ถัง สถานการณ์ของสถานที่ที่มีผลทิพย์แท้อยู่นั้น บอกให้ข้าฟังหน่อยได้หรือไม่?” ในระหว่างทาง หลัวซิวไปเอ่ยถามขึ้น

จากความสามารถของหลัวซิวในตอนนี้ เป็นธรรมดาที่ไม่ต้องเป็นกังวลว่าเจ้ายุทธจักรขั้นปฐมภูมิจะหลอกตนเอง แต่อีกฝ่ายังได้เชื้อเชิญยอดฝีมือจากตระกูลยุทธ์ท่านหนึ่ง ด้วยจิตใจที่ระมัดระวังรอบคอบ หลัวซิวจึงต้องลองซักถามดูก่อน เพื่อจะได้เตรียมแผนการไว้ในใจ

ถังอันไม่ได้คิดอะไรมาก และกล่าวออกมาโดยตรง: “สถานที่แห่งนั้นเต็มไปด้วยสายฟ้าและเพลิงพิภพ ข้าเรียกมันว่าถ้ำอัสนีเพลิง อยู่ในสถานที่ที่ค่อนข้างซับซ้อนหากไม่ใช่เพราะข้าพบเข้าโดยบังเอิญ คิดจะหามันเจอไม่ใช่เรื่องง่ายนัก”

ได้ยินดังนั้น หลัวซิวก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ถังอันอันผู้นี้ได้พูดเลี่ยงจุดสำคัญ เห็นได้ชัดว่าไม่ต้องการที่จะบอกความจริงกับเขา ไม่ได้ปฏิบัติต่อเขาด้วยความจริงใจ

หลัวซิวไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนักสำหรับเรื่องนี้ สองฝ่ายพึ่งจะพบกันเป็นครั้งแรก หากปฏิบัติอย่างจริงใจตั้งแต่แรกพบ นั่นถึงเป็นเรื่องแปลก

ดังนั้นหลัวซิวจึงไม่ได้ซักถามเรื่องถ้ำอัสนีเพลิงอีกต่อไป และเปลี่ยนการสนทนา: “ไม่ทราบทั้งสองท่านมีแผนที่ของแดนดารานอกหรือไม่? ข้ามาอย่างรีบร้อน ดังนั้นจึงไม่ได้นำมาด้วย”

แผนที่ของแดนดารานอก ไม่ใช่ความลับอันใด โดยทั่วไปแล้วเจ้ายุทธจักรที่มาฝึกประสบการณ์ในแดนดารานอก ต่างก็มีความสามารถที่จะหามันมาได้

จากอำนาจที่หลัวซิวมีในองค์กรนักล่ายุทธ์ ก็สามารถเอาแผนที่มาได้ผ่านทางเมืองศักดิ์สิทธิ์ เพียงแต่เขายังไม่ทันได้จัดเตรียม ก็ได้ถูกหลิวหงเทียนส่งมาที่นี่เสียแล้ว

มาวันนี้ได้อยู่ในโลกล่มสลายแห่งหนึ่ง เป็นธรรมดาที่เขาจะเอาแผนที่มาจากส่วนในของแก๊งไม่ได้

“พี่ซิวหลัวสามารถเคลื่อนไหวในแดนดารานอกนี้ได้เพียงลำพังโดยที่ไม่มีแผนที่ ช่างทำให้คนเลื่อมใสยิ่งนัก”

ถังอันยิ้ม จากนั้นก็พลิกมือเอาม้วนหยกชิ้นหนึ่งออกมา “พวกเราตำหนักอัคคีนภาเองก็ไม่มีแผนที่ที่ละเอียดนัก หวังว่ามันจะสามารถช่วยได้”

หลัวซิวกล่าวขอบคุณ และยื่นมือออกไปรับเอาม้วนหยกมา สำรวจด้วยตัวสำนึก พบว่าแผนที่ที่อยู่ด้านในนั้นไม่สมบูรณ์แบบ มีเพียงบางพื้นที่ของแดนดารานอก อย่างไรก็ตามพื้นที่ส่วนนี้ก็มีการระบุเอาไว้อย่างละเอียด แถมยังได้ระบุจุดกำเนิดของวัสดุและสมบัติวิเศษต่าง ๆ เอาไว้ด้วย

“ถึงแล้ว”

ในตอนนี้เอง จู่ ๆ ถังอันก็ได้กล่าวขึ้นมา และชี้ไปยังหุบเขาที่เกิดจากการสะสมของหินดำแห่งหนึ่ง

“บริเวณนี้มีค่ายกลอยู่ ข้าจะส่งข่าวให้กับพี่หวู” กล่าวไป ถังอันก็ได้หยิบเอาป้ายหยกชิ้นหนึ่งออกมา ใส่พลังจิตแท้เข้าไปด้านใน ป้ายหยกส่องแสงสีทองอ่อน ๆ ออกมา

“พรึบ!”