บทที่947 ดูใครจะเล่นใครตาย

Mars เจ้าสงครามครองโลก

Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่947 ดูใครจะเล่นใครตาย
ชั่ววูบเดียวนั้น เซียวเทียนเฉิงคิดอะไรขึ้นมาในใจหลายเรื่อง

นี่คือเลือดเทพแห่งซวนหยวนของเย่เซิ่งเทียนกำลังใกล้จะตื่นภวังค์

หากถ้าตระกูลเซียว ชิงตัดหน้าก่อนสรวงสวรรค์ รวบเอาทั้งหมดนี้อยู่ในมือ อนาคตตระกูลเซียว ยาวไกลไม่มีที่สิ้นสุด

ไม่ว่าจะตระกูลลี้ลับ ไม่ว่าจะสรวงสวรรค์ ขอเพียงตระกูลเซียวได้มีเทพหนึ่งตน โลกทั้งใบก็ยังต้องอยู่ใต้ฝ่าเท้าตระกูลเซียว

ปีนั้นที่หักหลังเผ่าซวนหยวน ก็เพราะต้องการให้ตระกูลเซียวก้าวสูงขึ้นไปอีกก้าวไม่ใช่หรือ?

เวลานี้เย่เซิ่งเทียนนำพาความหวังนี้มา จะต้องอย่าให้สรวงสวรรค์รู้ได้

“เทียนเอ๋อร์ ที่คุณพูดนี่เป็นเรื่องจริงหรือ?”

เซียวเทียนเฉิงถามออกไปอย่างร้อนรน

แม้สรรพนามที่ใช้เรียก ยังเปลี่ยนไปจนดูใกล้ชิด

สายตาที่มองเย่เซิ่งเทียน ก็เหมือนกำลังมองลูกของตัวเอง

เหล่าเฟิงส่งเสียงกระแอมออกมาเบา ๆ

เซียวเทียนเฉิงจึงได้รู้สึกตัวในทันทีนั้น ตัวเองดูจะร้อนรนเกินไปแล้ว เดี๋ยวพาเอาเย่เซิ่งเทียนเกิดสงสัย

จึงรีบพูดเสริมว่า “เทียนเอ๋อร์ แกรู้ไหมว่าทำไมสรวงสวรรค์จึงได้ลงมือทำกับเผ่าซวนหยวนกับตระกูลเย่ของแก?”

เย่เซิ่งเทียนทำเป็นโกรธแค้นขึ้นมาพูดว่า “ท่านลุง ฉันพอรู้มาบ้าง พวกมันต้องการกระตุ้นเอาเลือดประหลาดตระกูลเย่และเลือดเทพแห่งซวนหยวนในตัวของฉันให้ตื่นภวังค์ เท็จจริงจะทำอะไรนั้นฉันไม่รู้ แต่คงไม่ใช่เรื่องดีเป็นแน่ ฉันก็ได้รู้สึกว่าเลือดเทพแห่งซวนหยวนในตัวของฉันส่อทีท่าว่าจะตื่นภวังค์ จึงได้เข้ามาหาท่านลุงเพื่อขอความช่วยเหลือ พูดด้วยสัตย์จริง ฉันยังไม่รู้เลยว่าจากนี้ไปจะทำยังไงดี”

เซียวเทียนเฉิงพูดอย่างอ่อนโยนว่า “เด็กดี ฉันรู้ว่าในใจแกเจ็บปวดมาก ฉันบอกคุณได้ ที่สรวงสวรรค์ทำแบบนี้ ก็เพื่อการสำเร็จป็นเทพ รอถึงทันทีที่เลือดประหลาดตระกูลเย่และเลือดเทพแห่งซวนหยวนในตัวของแกตื่นภวังค์ขึ้นมา เลือดทิพย์สองชนิดผสมผสานเข้ากัน ก็จะปรากฏสัญญาณการบรรลุเทพขึ้น นั้นจึงจะกลายเป็นเลือดเทพที่แท้จริง แล้วจะปรากฏเป็นมวลสารทิพย์ นั้นคือปัจจัยสำคัญของการบรรลุเทพ”

“ห้าเทพอาวุโสแห่งสรวงสวรรค์ พวกเขาถึงแม้จะมีพลังฝีมือเหนือชั้น กำลังจะก้าวข้ามก้าวสุดท้าย แต่ด้วยข้อจำกัดของแดนฟ้ากับดิน ภายในร่างกายไม่สามารถผลิตมวลสารทิพย์ที่ทำให้มนุษย์หลุดพ้นอย่างถึงที่สุดได้ ด้วยเหตุนี้ ฝ่ายสรวงสวรรค์นั้นจึงได้ใช้เผ่าซวนหยวนกับคนตระกูลเย่มาเป็นหนูทดลอง เพื่อทำมวลสารทิพย์นี้แหละ”

“ตามที่ฉันเคยรู้มา ก่อนตัวคุณนี้ ฝ่ายสรวงสวรรค์นั้นได้เคยทำการทดลองเลือดเทพสองชนิดที่เกิดในตัวคนคนเดียวแล้ว แต่พวกตัวทดลองเหล่านั้นไม่ว่าจะทำยังไงต่างก็มีอายุได้ไม่เกินสิบแปดปี เฮ้อ ล้วนเป็นกลุ่มเด็กที่น่าสงสาร มีแต่ตัวคุณที่ได้ผลสำเร็จ ตอนนี้คุณก็รู้สึกได้ว่าเลือดเทพแห่งซวนหยวนใกล้จะตื่นภวังค์แล้ว นี่แหละคือสิ่งที่พวกสรวงสวรรค์ต้องการ”

“คุณจะต้องระวังตัว อย่าแพร่งพรายเรื่องเลือดเทพแห่งซวนหยวนกำลังจะตื่นภวังค์ออกไป ถึงแม้จะเป็นคนใกล้ชิดที่สุดก็ไม่ได้ เครือข่ายสายสืบพวกสรวงสวรรค์มีอยู่ทุกซอกทุกมุม เป็นไปได้อย่างมากที่คนใกล้ชิดมากที่สุดข้างตัวคุณ จะเป็นคนของสรวงสวรรค์ ในเมื่อคุณบอกให้ฉันรู้แล้ว ย่อมแสดงว่าคุณเชื่อถือฉัน ฉันก็จะปกป้องคุณอย่างดี ปล่อยให้คุณได้มีการตื่นภวังค์อย่างต่อเนื่องต่อไป”

“ฉันก็อยากจะถล่มสรวงสวรรค์ให้ล่มสลายไป แก้แค้นให้กับเผ่าซวนหยวนพวกเรา แต่กองกำลังของเราไม่อำนวย อีกทั้งตัวฉันเองก็มีโรคร้ายขั้นสุดท้าย ก็จึงได้แต่อดกลั้น แต่คุณวางใจได้ ฉันจะช่วยคุณให้คุณตื่นภวังค์ได้ถึงที่สุด เรื่องตำราวิชาก็ไม่ต้องห่วง ฉันเตรียมไว้ให้คุณอยู่ก่อนแล้ว”

พูดจบ ก็มองไปที่เหล่าเฟิง สั่งไปว่า “เหล่าเฟิง แกไปเอาตำราที่ฉันเตรียมไว้ให้เทียนเอ๋อร์มาหน่อย”

เหล่าเฟิงเข้าใจถึงความนัย พูดด้วยความซึ้งใจว่า “คุณชายเย่ ท่านคงยังไม่รู้ เจ้าบ้านท่านได้เตรียมตำราวิชานี้ให้ท่านก่อนหน้านี้นานแล้ว เพียงแต่รอวันที่ท่านมาถึง”

ถ้าไม่ใช่ทางด้านตระกูลเหย้เล่าให้ฟังถึงเรื่องที่ตระกูลเซียวทำอะไรไว้ในปีนั้น เย่เซิ่งเทียนคงจะรู้สึกประทับใจกับพฤติกรรมของเซียวเทียนเฉิงแล้ว

คำพูดทั้งหมดนั้นพูดได้อย่างจริงจังจับใจ ขนาดทำให้เขายังเกือบจะรู้สึกว่าตระกูลเหย้ตั้งใจจะใส่ความยุแหย่ให้หมางใจกัน

ถ้าไม่เป็นเพราะเซียวเทียนเฉิงแสดงออกอย่างร้อนรนเกินไป เขาก็เกือบจะเชื่อไปแล้ว

น่าเสียดาย ไอ้แก่นั่นใจร้อนเกินไป

เย่เซิ่งเทียนทำตาแดง ๆ แสดงออกเหมือนประทับใจ พูดอย่างเสียงแหบแห้งว่า “ท่านลุง ท่านมีน้ำใจจริง ๆ หลานจะฝังใจไว้ไม่รู้คลาย”

มาถึงขั้นนี้แล้ว เย่เซิ่งเทียนรู้เลย เซียวเทียนเฉิงเชื่อตัวเขาเองเต็มร้อยแล้ว

อีกทั้งเซียวเทียนเฉิง ยังวาดฝันไว้ว่าจะควบคุมตัวเขาเอาไว้ใช้ได้

เฮอะ ๆ

ไอ้เฒ่าเอ๋ย คอยดูนะว่าใครจะเล่นให้ใครตายกัน