ตอนที่ 876: ทูตของศาลาเทพเจ้าอสรพิษ (1)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 876: ทูตของศาลาเทพเจ้าอสรพิษ (1)

เมื่อกลืนไข่มุกจิตวิญญาณน้ำลงไปแล้ว พลังแห่งการมีอยู่ของพวกเขาก็กลับกลายไปเป็นของเผ่าพันธุ์ทะเล พวกเขาออกมาพร้อมกัน

เจี้ยนเฉินและนูบิสลบพลังแห่งการมีอยู่ของตัวเองออกไปและมุ่งหน้าไปที่เผ่าแห่งความกล้า

พลังแห่งการมีอยู่ยิ่งใหญ่หลายคนอยู่ที่ด้านหลังของเขาในตอนนี้ มันคือเจด หยุนเฟิง และคนอื่น ๆ ที่กำลังพุ่งเข้ามาเหมือนสายฟ้าฟาด พวกเขามุ่งไปทางเจี้ยนเฉินและนูบิส

ทั้งคู่เริ่มกังวลทันที พวกเขาไม่มีความสามารถพอที่จะหนีไปจากเซียนราชาถึง 6 คนได้ โดยเฉพาะหนึ่งในนั้นเป็นถึงชั้นสวรรค์ที่ 6 ด้วย

“ใจเย็นและทำตัวปกติ” เจี้ยนเฉินหยุดและส่งข้อความทางจิตใจให้นูบิส ถ้าพวกเขาหนีตอนนี้ มันก็ยิ่งทำให้น่าสงสัยมากยิ่งขึ้น

เซียนราชาทั้งหกคนมาถึงตรงหน้าเขาอย่างรวดเร็ว พวกเขาตรวจสอบดูเจี้ยนเฉินและนูบิส ก่อนที่จะไม่ใส่ใจเป็นพิเศษในตัวพวกเขาเมื่อเห็นว่าพวกเขาเป็นเพียงเซียนผู้คุมกฏ 2 คน

“ผู้อาวุโส มีอะไรที่พวกเราสามารถช่วยท่านได้หรือไม่ ? ” เจี้ยนเฉินป้องมือไปที่พวกเขาและถามอย่างสุภาพ

“เจ้าเห็นหญิงที่อยู่ในชุดฟ้าครามบินผ่านมาหรือเปล่า ? ” หยุนเฟิงถามอย่างวางตัวในขณะที่เขาจ้องอย่างเย่อหยิ่งไปที่พวกเขาทั้งสอง

“ไม่” เจี้ยนเฉินตอบกลับไปอย่างเคร่งเครียด

เจดดูเหมือนจะตระหนักบางอย่างได้ในขณะที่ตาเขากระพริบปริบ ๆ “ข้าจำพวกเข้าทั้งสองได้ เข้าใช่คนที่อยู่ในการประมูลเมืองแจ๊สหรือเปล่า ? ทำไมเจ้าถึงได้มาอยู่ที่นี่ ? “

คนอื่น ๆ มองไปที่เจี้ยนเฉินและนูบิสในขณะที่สายตาของพวกเขาเป็นประกายเย็นชา พวกเขาเผยท่าทีที่สงสัยออกมา

ใจของทั้งนูบิสและเจี้ยนเฉินตกไปอยู่ตาตุ่ม พวกเขาไม่คิดเลยว่าเจดจะจำผู้เยาว์ทั้งสองคนได้ เขาเพิ่งเคยพบกันเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ถ้าเจี้ยนเฉินไม่อธิบายเรื่องนี้อย่างเหมาะสมละก็ มันก็คงทำให้เกิดความสงสัย จุดผิดพลาดเล็ก ๆ ในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้สามารถทำให้พวกเขาเสี่ยงถึงชีวิตได้เลย

“ผู้อาวุโส หลังจากที่พวกเราออกจากเมืองแจ๊สมา พวกเราก็สัมผัสได้ถึงจอมยุทธจำนวนมากกำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกัน ดังนั้นพวกเราจึงออกมาตรวจดูว่าเกิดอะไรขึ้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเราถึงได้มาอยู่ที่นี่” เจี้ยนเฉินคิดเหตุผลขึ้นมาและหวังที่จะหลอกพวกเขา

“มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่พวกเขาจะมาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ด้วยความแข็งแกร่งที่อ่อนด้อยของพวกเขา ? หยุนเฟิง พวกเราไปตามหาฉิงยี่หยวนเร็วเข้า อย่ามาเสียเวลาที่นี่อีกเลย” ชายชราชั้นสวรรค์ที่ 3 พูดอย่างเย่อหยิ่ง เขาดูถูกพวกเจี้ยนเฉินทั้งสองคน

“เจ้าพูดถูก การตามหาฉิงยี่หยวนเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในตอนนี้” หยุนเฟิงพยักหน้าก่อนที่จะบินออกไปก่อนเป็นคนแรก

เซียนราชาคนอื่นอีก 4 คนตามหยุนเฟิงไปอย่างใกล้ชิด แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เป็นมิตรกัน แต่ทุกคนก็มีจุดประสงค์เดียวกัน ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจที่จะร่วมมือกันเพื่อจัดการกับฉิงยี่หยวน นางแข็งแกร่งเกินไปและนางยังมีผู้ช่วยที่ทรงพลังมากอีกด้วย มันคงจะยากเกินไปถ้าพวกเขาไปกับเพียงตัวคนเดียว

หลังจากที่หยุนเฟิงจากไป เจดก็ไม่ได้รบกวนคนทั้งสองอีกต่อไป เขาบินจากไปอีกทิศทางหนึ่ง

หัวใจที่เต้นแรงของเจี้ยนเฉินและนูบิสกลับมาสงบลงในขณะที่พวกเขาดูกลุ่มคนพวกนั้นจากไป พวกเขามุ่งหน้าไปที่เผ่าแห่งความกล้าหลังจากนั้นอย่างไม่ลังเล

เมื่อพวกเขาไปถึง ข่าวเรื่องที่ฉิงยี่หยวนแปดสุดยอดจอมยุทธมนุษย์ได้เอาชิ้นส่วนแผนที่แผ่นดินทั้งแปดไปได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วเหมือนไฟลามทุ่งไปทั่วทั้งศาลาเทพเจ้าอสรพิษ มันทำให้เกิดความวุ่นวายค่อนข้างมาก จอมยุทธของเผ่าพันธุ์ทะเลที่ตะกละหลายคนเริ่มที่จะร่วมมือกันเพื่อหาร่องรอยของฉิงยี่หยวน

เซียนราชาของตระกูลฮัวพาเอาร่างที่บาดเจ็บของเขากลับไปที่อาณาเขตศาลาวิญญาณสวรรค์ เขาไม่กลับบ้านทันทีและมุ่งหน้าไปที่กึ่งกลางของอาณาเขตแทน

ที่จุดกึ่งกลาง มีโถงศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่ลอยคว้างอยู่กลางอากาศ และเติมเต็มรอบ ๆ ไปด้วยความกดดันที่ยิ่งใหญ่

เซียนราชาเข้าไปที่โถงอย่างไม่โดนขัดขวางอะไรและถูกพาเข้าไปที่โถงประชุมใหญ่ภายใต้การนำขององครักษ์

ชายชราชุดดำนั่งสูงอยู่ในโถงประชุม เขาเตี้ยและสูงเพียงเมตรเดียวเท่านั้นแต่ตาของเขาลุกโชนไปด้วยจิตวิญญาณ ความกดดันที่ยิ่งใหญ่เปล่งออกมาจากร่างของพวกเขา และควบคุมโถงทั้งหมด

เขาเป็นผู้อาวุโสประจำศาลาของศาลาวิญญาณสวรรค์ หนึ่งในคนที่น่านับถือที่สุดของศาลารองจากเจ้าศาลา

เซียนราชาของตระกูลฮัวสุภาพทันทีที่อยู่ต่อหน้าเขาและไม่ได้แสดงท่าทางเย่อหยิ่งแต่อย่างใด เขาป้องมือไปที่ผู้อาวุโสประจำศาลา “ฮัวต้าขอคารวะท่านผู้อาวุโสประจำศาลา”

ผู้อาวุโสประจำศาลาจ้องไปที่เซียนราชาอย่างสงบและถาม “เจ้ามีธุระอะไร ? “

“ท่านผู้อาวุโสประจำศาลาที่เคารพ ข้าได้ซื้อชิ้นส่วนของแผนที่มาได้สำเร็จแต่มันถูกเอาไปโดยฉิงยี่หยวนระหว่างทางกลับมา ฉิงยี่หยวนเป็นคนนอกแต่นางก็ยังมายุ่งกับเรื่องของเผ่าพันธุ์ทะเล นางออกนอกลู่นอกทางไปและไม่สามารถยกโทษให้ได้ อย่างไรก็ตาม ตระกูลฮัวของข้าไม่มีกำลังมากพอที่จะจัดการกับแปดจอมยุทธมนุษย์ได้ ข้าหวังว่าผู้อาวุโสประจำศาลาที่เคารพจะอยู่ข้างตระกูลฮัวของข้าและเอาสิ่งที่เป็นของเรากลับคืนมา” เซียนราชาพูดอย่างไม่พอใจ

ในอาณาจักรทะเล ศาลาทั้งสามมีฐานะที่สูงส่งมาก พวกเขาเป็นผู้คุมกฎของอาณาจักรทะเลและมีดินแดนมากมาย ปกติแล้วพวกเขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันเมื่อมีองค์กรต่าง ๆ ต่อสู้กันในอาณาเขตของตัวเอง แต่พวกเขาจะไม่ทนถ้าคนนอกมาสร้างปัญหาที่อาณาจักรทะเล

ผู้อาวุโสประจำศาลาครุ่นคิดสักครู่ในขณะที่เขาหลับตาก่อนที่จะตอบกลับไป “ฮัวต้า ห้าในแปดจอมยุทธมนุษย์ได้สาบานที่จะจงรักภักดีกับหนึ่งในศาลาทั้งสามไปแล้ว ฉิงยี่หยวนเป็นคนของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ถ้าพวกเราต่อต้านฉิงยี่หยวน พวกเราจะพบกับการต่อต้านจากศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลแน่ มันอาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งได้ เจ้าคิดว่าพวกเรา ศาลาวิญญาณสวรรค์ จะปรารถนาที่จะเสี่ยงไปจัดการกับฉิงยี่หยวนด้วยเรื่องเล็กน้อยเช่นนั้นหรือ ? “

“อะไรนะ ! ? นางได้ให้คำสาบานว่าจะจงรักภักดีกับศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ? นางถูกสั่งมาให้ขโมยชิ้นส่วนแผนที่แผ่นดินทั้งแปดหรือเปล่า ? ” เซียนราชาถามอย่างตกใจ

ผู้อาวุโสประจำศาลาส่ายหัว “ไม่ต้องพูดเรื่องชิ้นส่วนแผนที่อีกต่อไปแล้ว ในตอนนี้ชิ้นส่วนทั้งแปดได้ปรากฎขึ้นมาแล้ว ซึ่งศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลมี 4 ชิ้น ศาลาเทพเจ้าอสรพิษมี 2 ชิ้น ในขณะที่พวกเราศาลาวิญญาณสวรรค์มี 2 ชิ้น ข้าเชื่อว่าการรวบรวมชิ้นส่วนแผนที่แผ่นดินทั้งแปดจะเกิดขึ้นในไม่ช้า”

“ชิ้นส่วนแผนที่แต่ละชิ้นสามารถจัดคน 20 คนเข้าไปได้ เมื่อการรวบรวมเริ่มต้นขึ้น ศาลาวิญญาณสวรรค์จะเจรจาเป็นการส่วนตัวกับอีกทั้งสองเผ่าเพื่อที่จะให้พวกเขาเลือกมา 20 คน ตระกูลละ 10 คน พวกเราจะใช้นักรบวิญญาณทะเลที่อยู่ในจุดสูงสุดของ 14 ดาวเพื่อที่จะให้มั่นใจว่าพวกเขาจะเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุด พวกเราต้องเก็บเกี่ยวรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดให้ได้”

..

ฉิงยี่หยวนที่หน้าซีดนั่งอยู่ที่ชั้นใต้ดินลับในอาณาเขตของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ใบหน้าของนางค่อนข้างมืดมนจากพิษ

พิษของอสรพิษทองริ้วเงินนั้นทรงพลังมากเกินไป แม้ว่านางที่มีความแข็งแกร่งอย่างท่วมท้น แต่นางก็ได้แต่กดมันได้เท่านั้นและไม่สามารถขับมันออกมาได้

ชายวัยกลางคนที่ดูโด่ดเด่นนั่งอยู่ตรงข้ามกับนาง หน้าของเขาเต็มไปด้วยร่องรอยของประสบการณ์ ในขณะที่เขาเปล่งรัศมีไปด้วยความสง่างาม

“เจ้าได้รับบาดเจ็บค่อนข้างหนัก ดูเหมือนว่าจะมีคนค่อนข้างมากที่มาเพื่อชิ้นส่วนของแผนที่นี้แต่มันก็คุ้ม เมื่อเจ้าได้วัตถุนั้นมา ความแข็งแกร่งของเจ้าก็จะพุ่งพรวดขึ้นอย่างมาก เจ้าจะไม่ต้องกลัวอะไรแม้แต่เจ้าจะต้องเผชิญหน้ากับเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 9 ก็ตาม” ชายนั่นยิ้ม ท่าทีของเขายินดีอย่างเก็บไว้ไม่อยู่

ฉิงยี่หยวนนั่งหน้าซีด นางพูด “ข้าอาจจะทำให้เจ้าผิดหวังถ้างั้น ชิ้นส่วนแผนที่ไม่ได้อยู่กับข้า”

ชายนั่นนิ่งอึ้งและนั่งตัวตรงทันที เขาร้องออกมาอย่างตกตะลึง “อะไรนะ ? เจ้าไม่ได้ชิ้นส่วนของแผนที่มา ? “

ตาของฉิงยี่หยวนที่สดใสเต็มไปด้วยจิตสังหารที่เยือกเย็นทันที นางกัดฟันของนางแน่นและเอ่ยว่า “ในตอนแรกข้าได้ขโมยชิ้นส่วนของแผนที่มาแล้ว แต่ข้าไม่ทันระวังตัวและถูกซุ่มโจมตีจากผู้เยาว์ 2 คนในขณะที่ข้าได้รับบาดเจ็บสาหัส พวกเขาก็เอามันไปจากข้า”

“ผู้เยาว์ ? พวกเขาแข็งแกร่งขนาดไหนกัน ? ” ตาของชายผู้นั้นเป็นประกายไปด้วยความตกตะลึงในขณะที่เขาจ้องเขม็งไปที่ฉิงยี่หยวน

“พวกเขาไม่ใช่เซียนราชา” ฉิงยี่หยวนตอบกลับอย่างเย็นชา จิตสังหารที่ทรงพลังและโทสะเปล่งรัศมีออกมาจากร่างของนางอย่างควบคุมไม่ได้ ทำให้อุณหภูมิในห้องลดฮวบลงอย่างรวดเร็ว

ภาพที่ชิ้นส่วนแผนที่หลุดไปพร้อมกับเสื้อเอี้ยมของนางแวบเข้ามาในหัวของนาง มันทำให้โทสะและจิตสังหารของนางยิ่งพุ่งเพิ่มมากไปกว่าเดิม

“ผู้เยาว์ 2 คนที่ไม่ได้เป็นแม้แต่เซียนราชาสามารถเอาบางสิ่งบางอย่างไปจากเจ้าได้ ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า นะ นี่…” ชายคนนั้นยากที่จะเชื่อมันได้

ฉิงยี่หยวนนั่งลงทันทีและจ้องไปทีชายนั่นด้วยสายตาที่กดดัน นางงึมงำออกมา “นั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้น เจ้าจะเชื่อมันหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเจ้า พิษกระจายไปค่อนข้างมากแล้ว ดังนั้นข้าจำเป็นที่จะต้องกลับไปที่ศาลาทันที ข้าจะไปแล้ว” ฉิงยี่หยวนหันและหายกลายเป็นควันไป

“ฉิงยี่หยวน ตามข้อตกลงของพวกเรานั้น ข้าไม่สามารถให้มันกับเจ้าได้เมื่อเจ้าไม่สำเร็จภารกิจ” ชายวัยกลางคนพูดขึ้นมา

ฉิงยี่หยวนอึกอักเล้กน้อยก่อนที่จะออกไปจากห้อง นางคิด “ข้าจะกลับไปเอาชิ้นส่วนแผนที่หลังจากที่ข้าหายดีแล้ว เจ้าหนู ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่ ข้าจะฆ่าเจ้าแม้ว่าข้าจะต้องไล่ตามเจ้าไปสุดขอบโลกก็ตาม”

ฉิงยี่หยวนพูดประโยคนั้นออกไปก่อนที่จะจากไป “ชิ้นส่วนแผนที่ไม่ได้อยู่ที่ข้า มันถูกเอาไปโดยเซียนผู้คุมกฎและสัตว์อสูรระดับ 7”

ในขณะที่คำพูดของนางกระจายออกไป มันก็ทำให้เกิดความวุ่นวายใหญ่โต ฉิงยี่หยวน หนึ่งในแปดจอมยุทธมนุษย์ที่เป็นที่รู้จักกันดี ได้ถูกปล้นไปจากเซียนผู้คุมกฎอ่อนแอ 2 คน นี่ทำให้เกิดความเหลือเชื่อมากมาย

แม้ว่าคนจะไม่เชื่อกัน คนที่ตามหาชิ้นส่วนของแผนที่ก็ยังจดจำไว้ในใจ นอกเหนือจากฉิงยี่หยวนแล้ว พวกเขาก็ยังรวมเซียนมนุษย์และสัตว์อสูรที่เป็นเซียนผู้คุมกฎรวมเข้าไปในการค้นหาด้วย พวกเขาจะหยุดและถามมนุษย์และสัตว์อสูรทุกคนที่เป็นเซียนผู้คุมกฎที่พวกเขาผ่านไปพบ ทำให้เกิดคำบ่นและการประท้วงนับไม่ถ้วนจากทั้งสองเผ่าพันธุ์ อย่างไรก็ตาม พวกเขาจะทำอะไรได้ ?

ผู้นำเผ่าคนก่อน ผู้นำเผ่าคนปัจจุบัน และผู้อาวุโสทั้งสองของเผ่าเมิ่งหวงรวมกันอยู่ที่ห้องสูงสุดในหอคอยของเผ่าของพวกเขา แต่ละคนเคร่งเครียดมาก