“เจ้าต้องการจะซื้อ? เจ้ารู้งั้นเหรอว่ามันคืออะไร?” หลิงตู้ฉิงพูดกับหลิงฟ่างหัว “ของที่นี่ส่วนใหญ่มันแฝงไปด้วยอันตรายทั้งนั้น ดังนั้นหากเจ้าไม่รู้ว่ามันคืออะไรเจ้าก็ไม่ควรที่จะซื้อมันมาครอบครองมั่ว ๆ แบบนี้!”
หลังจากตำหนิหลิงฟ่างหัวเรียบร้อย หลิงตู้ฉิงก็เริ่มตรวจสอบผลไม้ของเจียงหวงอย่างละเอียด
หลังจากผ่านไปพักใหญ่ หลิงตู้ฉิงจึงถามขึ้นว่า “นี่เจ้าได้ใช้พลังวิญญาณของเจ้าในการตรวจสอบมันแล้วรึยัง?”
ตามความเข้าใจของหลิงตู้ฉิง ถึงแม้ว่ามนุษย์ต้นไม้จะดูไม่ต่างอะไรจากต้นไม้ แต่วงจรชีวิตของพวกมันนั้นแตกต่างจากต้นไม้โดยสิ้นเชิง
ดังนั้นการที่มันมีผลออกมาแบบนี้ มันจึงนับว่าเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก
เจียงหวงพยักหน้า “แน่นอนว่าพวกข้าได้ใช้พลังวิญญาณตรวจสอบด้านในมันหลายรอบแล้ว แต่สิ่งที่พวกเราพบมันกลับมีแต่ความว่างเปล่าด้านใน ซึ่งมันแปลกมาก ๆ ถ้าหากมันเป็นผลไม้ที่ด้านในกลวงไม่มีอะไรแล้วทำไมมันกลับทำให้ปู่ของข้าปวดหัวได้ก็ไม่รู้”
“หากเจ้าไม่ว่าอะไร ข้าขอใช้พลังวิญญาณของข้าตรวจสอบมันได้รึเปล่า?” หลิงตู้ฉิงถามขึ้น
“ได้เลย!” เจียงหวงพยักหน้า
จากนั้นหลิงตู้ฉิงจึงลองส่งพลังวิญญาณของเขาทะลวงเข้าไปด้านในผลไม้ของเจียงหวง และสิ่งที่เขาสัมผัสได้ก็คือพลังวิญญาณของเขาทะลุออกไปอีกด้านของผลไม้ในทันทีราวกับว่ามันไม่มีอะไรอยู่ด้านในจริง ๆ
แต่ด้วยประสบการณ์ของหลิงตู้ฉิง เขารู้สึกได้ทันทีว่าผลไม้นี้ไม่ธรรมดาเป็นอย่างมากเพราะพลังวิญญาณของเขาทะลุผ่านมันง่ายจนเกินไป มันง่ายจนไม่ใช่แค่เหมือนไม่มีอะไรด้านในผลไม้ แต่มันเหมือนกับว่าผลไม้นี้ไม่มีตัวตนต่อพลังวิญญาณด้วยซ้ำ
เมื่อคิดได้เช่นนี้ หลิงตู้ฉิงหัวเราะทันทีและพูดว่า “เอาล่ะ ข้าตกลงแลกเปลี่ยนกับเจ้า สำหรับผลไม้นี้ด้วยโอสถวิญญาณบริสุทธิ์ 2 เม็ด! แต่ว่าข้าจะบอกเอาไว้ก่อนว่าอาการบาดเจ็บของเจ้านั้นแค่โอสถวิญญาณบริสุทธิ์คงไม่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บของเจ้าให้หายสนิทได้หรอก แต่เดี๋ยวข้าจะถ่ายทอดวิชาพลังชีพหวนคืนให้เจ้าเพิ่ม ซึ่งวิชานี้ต่างหากที่จะทำให้เจ้าสามารถหายจากอาการบาดเจ็บได้”
เนื่องจากหลิงตู้ฉิงประเมินค่าผลไม้ของเจียงหวงแล้วว่ามันมีมูลค่าสูงกว่าโอสถวิญญาณบริสุทธิ์ 2 เม็ดแน่นอน และด้วยหลักการแลกเปลี่ยนอันเท่าเทียมของเขา เขาจึงถ่ายทอดวิชาพลังชีพหวนคืน ซึ่งมีอำนาจในการรักษาที่ค่อนข้างดีให้กับเจียงหวงเพื่อชดเชยมูลค่าที่ขาดไป
ทางด้านเจียงหวงก็ส่งผลไม้ให้กับหลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าแปลกประหลาด เนื่องจากนางไม่เคยเจอใครที่จู่ ๆ ก็บวกราคาเพิ่มให้กับของที่เขากำลังจะซื้อด้วยตัวเองแบบนี้ และอีกอย่างวิชาพลังชีพหวนคืนนั่นมันจะรักษาอาการบาดเจ็บของนางได้จริง ๆ เหรอ?
เมื่อตกลงกันเสร็จ ผู้อาวุโสของสำนักเงามายาก็เป็นผู้จ่ายโอสถวิญญาณบริสุทธิ์ให้กับเจียงหวง เพราะเขาได้ลั่นวาจาเอาไว้ก่อนหน้านี้เขาจะเป็นคนจ่ายค่าของให้กับหลิงตู้ฉิงทั้งหมด ทั้ง ๆ ที่เขาเองก็รู้สึกสงสัยเหมือนกันว่าผลไม้นี้มันคืออะไรกันแน่?
จากเขตรอบนอกของตลาด ยิ่งกลุ่มของหลิงตู้ฉิงเดินลึกเข้าไปยังใจกลางตลาดมากเท่าไหร่ พวกเขาก็ได้เจอกับเหล่าผู้เชี่ยวชาญที่เป็นทั้งคนซื้อและคนขายแข็งแกร่งขึ้นมากเท่านั้น
แน่นอนว่าถ้าหากไม่มีความแข็งแกร่งเพียงพอ พวกเขาก็คงไม่กล้าเดินลึกเข้ามาด้านในตลาด
เหตุผลว่ากลัวจะถูกรังแกนั้นเป็นเรื่องรองเพราะตลาดแห่งนี้มีกฎห้ามรังแกผู้ที่อ่อนแอกว่าอยู่ ซึ่งเหตุผลหลักที่พวกผู้เชี่ยวชาญระดับต่ำไม่กล้าเดินลึกเข้ามาด้านในก็เพราะว่าพวกเขากลัวจะโดนลูกหลงจากการต่อสู้ของบรรดาผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ง
แค่เพียงเศษเสี้ยวของคลื่นพลังวิญญาณที่ผันผวนจากการปะทะของผู้เชี่ยวชาญระดับสูงนั้นมันก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้เชี่ยวชาญระดับล่าง ๆ ตายได้อย่างง่าย ๆ
“ของสิ่งนี้น่าจะเป็นหัวใจของสิ่งมีชีวิตบางอย่างใช่ไหม?” หลิงตู้ฉิงถามผู้เชี่ยวชาญระดับเหนือล้ำผู้หนึ่งที่กำลังนั่งขายของอยู่
ผู้เชี่ยวชาญระดับเหนือล้ำมองมาที่หลิงตู้ฉิง จากนั้นก็มองไปที่เหล่าผู้คนที่อยู่ด้านหลังหลิงตู้ฉิงและพูดว่า “ข้าแน่ใจว่ามันจะต้องเป็นสมบัติที่ล้ำค่า แต่ข้าเองก็ไม่รู้ว่ามันเป็นหัวใจของตัวอะไร อันที่จริงข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นหัวใจรึเปล่า แต่สำหรับข้ามันก็ดูเหมือนหัวใจอยู่เหมือนกัน พื้นผิวของมันแข็งเป็นอย่างมากแถมยังมีความทนทานต่ออำนาจการกัดกร่อนของสายเลือดต่าง ๆ ได้อีกต่างหาก นี่คือทั้งหมดที่ข้ารู้เกี่ยวกับมัน นอกนั้นข้าก็ไม่แน่ใจว่ามันทำอะไรได้อีก”
“ข้าขอดูมันได้ไหม?” หลิงตู้ฉิงถามขึ้น
“ข้าต้องการแลกเปลี่ยนมันกับโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ถ้าเจ้ามีโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์ ข้าถึงจะให้เจ้าตรวจสอบมัน!” ผู้เชี่ยวชาญระดับเหนือล้ำพูดขึ้น
เมื่อได้ยินราคาที่สูงขนาดนี้ ผู้อาวุโสสำนักเงามายาก็ยิ้มอย่างขมขื่นในทันที เขาเริ่มหวั่นใจแล้วว่าถ้าหากหลิงตู้ฉิงยังคงไล่ซื้อของแบบนี้ต่อไปมีหวังสำนักของเขาคงจะขาดทุนหนักแน่นอน
หลิงตู้ฉิงเหลือบมองไปที่ผู้อาวุโสสำนักเงามายาที่กำลังแสดงสีหน้าขมขื่น จากนั้นเขาหันกลับมาที่คนขายและแสดงโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองออกไปแทน
เมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงมีโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์จริง ผู้เชี่ยวชาญระดับเหนือล้ำซึ่งเป็นคนขายก็ยื่นหัวใจปริศนามาให้กับหลิงตู้ฉิงเพื่อตรวจสอบ
หลิงตู้ฉิงตรวจสอบหัวใจปริศนาอยู่พักใหญ่ จากนั้นเขาก็พยักหน้าให้กับคนขายและพูดว่า “ข้าตกลงจะซื้อมัน!”
แต่ก่อนที่หลิงตู้ฉิงจะได้ทันยื่นโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์ให้กับคนขาย จู่ ๆ ก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นขัดขวางเขาในทันที “หยุดเดี๋ยวนี้ไอ้เจ้ามนุษย์! ข้าต้องการหัวใจนั่น จงส่งมันมาให้ข้าซะ!”
หลังจากสิ้นเสียงพูด ทุกคนก็เห็นว่ามีกลุ่มที่ถูกนำโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีปีกสีดำงอกอยู่ที่แผ่นหลังพร้อมกับผู้ติดตามที่เป็นเผ่าปีศาจจอมเขมือบปรากฏตัวขึ้น
หนึ่งในปีศาจจอมเขมือบหัวเราะขึ้นอย่างน่ารังเกียจและพูดว่า “นายน้อยโม่หยุนแห่งเผ่าปีศาจสวรรค์ต้องการหัวใจนั่น พวกเจ้าจงยอมปล่อยมันไปซะดี ๆ ไม่อย่างนั้นข้าจะกินพวกเจ้าซะ!”
หลิงตู้ฉิงขี้เกียจจะใส่ใจกับพวกตัวตลกพวกนี้ เขาหันกลับมาที่คนขายและโยนโอสถรัศมีธาตุศักดิ์สิทธิ์ออกไปพร้อมพับพูดว่า “หัวใจนี้เป็นของข้าแล้ว”
คุณสมบัติของหัวใจดวงนี้มันเหมาะกับหมิงยู่เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะถ้าหากเขาเอามันมาสร้างเป็นสมบัติให้กับหมิงยู่ได้ใช้ นางจะยิ่งมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัวเลยทีเดียว
แต่แล้วก่อนที่ผู้ขายจะได้ทันพยักหน้าตอบตกลง โม่หยุนก็จ้องไปที่คนขายและพูดว่า “เจ้าคือ หลิวกัง เป็นคนของเผ่าแมงป่องใช่ไหม? ข้าขอแนะนำให้เจ้ายกเลิกการค้านี้กับไอ้มนุษย์ซะ และนำมันมาขายให้กับข้าแทน!”
“อะไรของเจ้ากัน? เจ้าคิดว่าเผ่าปีศาจสวรรค์ของเจ้ายิ่งใหญ่มากจนสามารถแทรกแซงการค้าในตลาดหมื่นสายพันธุ์ได้งั้นเหรอ? และตระกูลหลิวของข้าก็ไม่ได้เกรงกลัวพวกเจ้าเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นข้ามีสิทธิ์ที่ขายของของข้าให้ใครก็ได้ที่ข้าต้องการ!” หลิวกังพูดขึ้นด้วยสีหน้าเย้ยหยัน
โม่หยุนยิ้มและตอบกลับ “มันก็จริงของเจ้าที่เผ่าของข้าไม่มีอำนาจที่จะควบคุมการค้าในตลาดแห่งนี้ แต่ข้าแน่ใจว่าเผ่าของข้ามีอำนาจในการกดดันตระกูลของเจ้าแน่นอน! ข้าได้ยินว่ามาเผ่าของเจ้าก็จะส่งตัวแทนเข้าร่วมการคัดเลือกเพื่อเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วยถูกต้องไหม? ว่าแต่เจ้ารู้รึเปล่าว่าบรรพบุรุษของข้าได้รับหน้าที่ดูแลการคัดเลือกในครั้งนี้ด้วย? ดังนั้นถ้าหากเจ้าทำให้เผ่าของข้าไม่พอใจแล้วล่ะก็…. คนเผ่าของเจ้าอาจจะไม่โชคดีสักเท่าไหร่ในการคัดเลือกก็ได้นะ อ๋อ เจ้าด้วยนะ อุลบา เจ้าเองก็อย่าทำตัวน่ารำคาญมากนัก ไม่เช่นนั้นเจ้าเองก็อาจจะเผชิญกับโชคร้ายด้วยเหมือนกัน!…ฮ่าฮ่าฮ่า”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของหลิวกังเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดในทันที เนื่องจากแน่นอนว่าเผ่าของเขาต้องการส่งคนเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ และถ้าหากสิ่งที่โม่หยุนพูดเป็นเรื่องจริง ถ้างั้นโอกาสที่คนเผ่าของเขาจะได้เข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ยิ่งลดน้อยลงเข้าไปใหญ่อีก
เมื่อคิดได้เช่นนี้ หลิวกังก็รีบหันกลับมาหาหลิงตู้ฉิง และพูดว่า “ข้าไม่ขายให้เจ้าแล้ว เอาหัวใจนั่นคืนมาให้ข้า!”
ไม่เพียงแค่หลิวกังที่มีท่าทีแบบนี้ แต่สีหน้าของผู้อาวุโสสำนักเงามายาก็เปลี่ยนเป็นน่าเกลียดเช่นกันและพูดว่า “คุณชายหลิง ข้าคิดว่าท่านลืมของชิ้นนี้ไปซะเถอะ หากการคัดเลือกครั้งนี้เป็นเผ่าปีศาจสวรรค์ที่เป็นผู้ดูแลการคัดเลือกจริง ๆ พวกเราก็ไม่ควรที่จะไปมีเรื่องขัดแย้งกับพวกเขา!”