เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1215

ผู้หญิงยิ้มอย่างได้ใจ “แค่โชคดีได้มันมาเท่านั้น วิชาปลอมตัวบนตัวนาย ฉันเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก การปลอมตัวของคนอื่นจะเน้นปลอมตัวที่ใบหน้าที่เสื้อผ้า แม้การปลอมตัวดีมาก แต่ยังไงก็เปลี่ยนแค่เปลือกนอกเท่านั้น ถ้าเจอยอดฝีมือที่ตรวจสอบลมหายใจได้ การปลอมตัวแบบนี้ก็ไร้ประโยชน์ แต่การปลอมตัวของนาย สามารถเปลี่ยนแปลงบุคลิกคุณสมบัติพิเศษได้ด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะสายตาฉันดี อีกทั้งนายไม่ได้เปลี่ยนแปลงใบหน้าตัวเอง ถึงฉันจำนายได้ แต่ก็ยังไม่กล้ายืนยันอยู่ดี ฉันชื่อหานเยียน ยินดีที่ได้รู้จัก คุณชายลู่ฝานโปรดจำลักษณะของฉันเอาไว้ด้วย ห้ามลืมเด็ดขาด”

ลู่ฝานขมวดคิ้วมองหานเยียน คิดในใจว่าทำไมฉันต้องจำลักษณะของเธอเอาไว้ด้วย

แต่เขาไม่ได้พูดประโยคนี้ออกมา พยักหน้าแล้วพูดว่า “วันนี้ขอบคุณที่นั่งของคุณหานเยียนเอาไว้ก่อน”

หานเยียนพูดด้วยรอยยิ้ม “แค่ที่นั่งเอง คุณชายลู่ฝานไม่จำเป็นต้องเกรงใจ”

พูดจบ ประกายประหลาดผุดขึ้นมานัยน์ตาหานเยียน มองลู่ฝานอย่างประเมิน

ผู้อาวุโสด้านหลังขยับริมฝีปากเบาๆ ส่งเสียงพูดว่า “คุณหนู จะทดสอบเขาไหม”

หานเยียนส่งเสียงกลับไปว่า “ไม่จำเป็น ยังไม่ถึงเวลาให้ฉันลงมือ!”

ลู่ฝานสัมผัสได้ว่าหานเยียนที่อยู่ข้างๆ เอาแต่มองตัวเองด้วยสายตาที่จับจ้องเป็นพิเศษ แต่เขาไม่ได้สนใจ ถือว่าเจอผู้หญิงที่ตามเขาด้วยความเลื่อมใสศรัทธาแล้วกัน เรื่องแบบนี้คนที่หน้าด้านขึ้นเรื่อยๆ อย่างเขารับได้อยู่แล้ว

สายตามองไปในสนาม ลู่ฝานเพ่งสมาธิไปที่การแข่งขันรอบต่อไป

“สือเฉินตระกูลสือสู้กับหลิ่วเจินตระกูลหลิ่ว!”

หัวหน้าองครักษ์เกราะทองเพิ่งพูดจบ กระตุ้นอารมณ์ของผู้ชมทันที

เริ่มการต่อสู้ระหว่างสิบตระกูลใหญ่เร็วขนาดนี้เลยเหรอ!

“คุณชายสือเฉิน ฉันรักนาย!”

“คุณชายหลิ่วเจิน นายเก่งสุดยอด!”

เสียงตะโกนต่างๆ นานาดังขึ้นข้างหูลู่ฝาน

ฟังจากเสียงแล้ว ผู้สนับสนุนทั้งสองคนสูสีพอกันเลย

ไม่นาน สือเฉินกับหลิ่วเจินเดินออกมา

เมื่อทั้งสองคนปรากฏตัวออกมา เสียงกรี๊ดดังขึ้นในสนามทันที เจ้าบ้านตระกูลสือ เจ้าบ้านตระกูลหลิ่วนั่งอยู่บนที่นั่งผู้ชม ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ผู้สืบทอดของตระกูลตัวเองมีชื่อเสียงขนาดนี้ แน่นอนว่าพวกเขาต้องมีความสุขอยู่แล้ว!

ทั้งสองยืนประจันหน้ากันอยู่ในสนาม

หลิ่วเจินยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “สหายสือ คิดไม่ถึงว่าเราต้องปะทะกันเร็วขนาดนี้ ดูเหมือนนี่คงเป็นโชคชะตา!”

สือเฉินพูดว่า “ฉันไม่คิดว่านี่คือโชคชะตา หลิ่วเจิน นายควรคิดดูดีๆ ว่าใครกันแน่ที่ไม่อยากให้นายไปต่อ”

หลิ่วเจินค่อยๆ ดึงอาวุธของตัวเองออกมา นั่นเป็นกระบี่ใบหลิว มีความมันแววสีเขียวแก่ ระหว่างเคลื่อนไหวกระบี่ แสงสีเขียวเหมือนป่าไผ่แกว่งไปมา งดงามสะดุดตา

“สหายสือ ฟังจากที่นายพูด วันนี้ฉันคงต้องแพ้แน่ๆ ใช่ไหม”

สือเฉินไม่พูดอะไรสักคำ เกราะปราณค่อยๆ รวมตัวขึ้นบนตัว

นั่นเป็นเกราะที่แข็งแกร่งทนทานมาก หุ้มบนตัวสือเฉินเหมือนกระดองเต่า อักษรยันต์ด้านบนมากมายเหมือนดวงดาวเต็มฟ้า อักษรยันต์แต่ละชนิดมีกระแสลมเล็กๆ ป้องกันเหมือนโล่

โล่นับไม่ถ้วนทับซ้อนกัน ราวกับมีเกราะชั้นหนึ่งอยู่ด้านนอกเกราะปราณ ดูแข็งแกร่งทนทานอย่างเห็นได้ชัด ยากจะทำลายได้

นี่คือวิชาชี่เต่างูดำที่มีชื่อเสียงของตระกูลสือ เป็นที่เลื่องลือว่าเป็นวิชาป้องกันอันดับหนึ่ง!

ล่างเท้าของหลิ่วเจินก็เริ่มมีกระแสลมปรากฏออกมา ชี่ที่หมุนเหมือนน้ำวน หมุนเอาเศษหินล่างเท้าขึ้นมา กระบี่ใบหลิวเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นเงากระบี่นับไม่ถ้วน

ทั้งสองไม่ได้ปล่อยพลานุภาพออกมา ต่างเก็บงำเอาไว้ด้านใน

ทันใดนั้น หลิ่วเจินเป็นฝ่ายเคลื่อนไหวก่อน