เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1216
กระแสลมด้านล่างเท้าแผ่ซ่านออกไป ทันใดนั้นเงาของหลิ่วเจินปรากฏรอบตัวสือเฉิน
จู่โจมด้วยกระบี่ แสงกระบี่ร่วงลงบนเกราะปราณของสือเฉิน
เสียงระเบิดดังขึ้นทันที แค่ฟังจากเสียง พลานุภาพกระบวนท่านี้ของหลิ่วเจินไม่ธรรมดาเลย แรงกระเพื่อมของปราณกระบี่ที่เหลือทำให้พื้นดินรอบๆ เกิดเป็นรอยแยกลึกนับไม่ถ้วน เหมือนมีคนเอากระบี่ขนาดใหญ่ฟาดฟันลงบนพื้นอย่างบ้าคลั่ง!
แต่ถึงวิชากระบี่แข็งแกร่งขนาดนี้ กลับไม่สามารถโจมตีเกราะปราณบนตัวสือเฉินได้สักนิด หวังให้วิชากระบี่ทิ้งร่องรอยสีขาวไว้บนเกราะปราณของสือเฉิน คงเป็นได้แค่ความเพ้อฝัน
สือเฉินไม่เคลื่อนไหว ปล่อยให้ปราณกระบี่ของหลิ่วเจินโจมตีอยู่อย่างนั้น เกราะปราณบนตัวเขาห่อหุ้มตัวเขาแน่นเหมือนเต่ามังกรหดตัวอยู่ในกระดองเต่า รอแค่การโจมตีอย่างรวดเร็วเพียงครั้งเดียว เพื่อจัดการคู่ต่อสู้
หลิ่วเจินรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ปราณกระบี่ดุดันขึ้นเรื่อยๆ
1 แยกเป็น 10 10 แยกเป็น 100 100 แยกเป็นนับไม่ถ้วน
ไม่นาน ในสนามเต็มไปด้วยเงาของหลิ่วเจิน!
ลู่ฝานมองอย่างละเอียด จู่ๆ เขาพบว่าเงาทุกเงาไม่ใช่ของปลอม มันมาจากความเร็วของหลิ่วเจินทั้งนั้น
วิชากายของเขา เร็วจนเหนือจินตนาการของคน ขนาดลู่ฝานยังตกใจ เวลาเพียงพริบตาเดียว อย่างน้อยจากสิบมุม เขาสามารถโจมตีด้วยกระบวนท่ากระบี่สิบกระบวนท่าที่ไม่เหมือนกัน เคล็ดวิชาบู๊ระดับนี้ ได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ!
“ดวงดาวร่วงหล่น!”
หลิ่วเจินแผดเสียงออกมาเบาๆ จู่ๆ เงานับไม่ถ้วนรวมตัวกัน
แสงกระบี่นับไม่ถ้วนรวมอยู่บนตัวสือเฉิน
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
เสียงระเบิดดังสะเทือนแก้วหู นักบู๊ทั้งหมดที่นั่งอยู่ในสนามพากันตกตะลึง
จู่ๆ ตัวของสือเฉินถูกระเบิดออกมาจากกลุ่มควัน
เกราะปราณบนตัวโดนทำลายเป็นแถบทันที!
“อะไรกัน”
เจ้าบ้านตระกูลสือพูดอย่างตกใจ “คิดไม่ถึงว่าหลิ่วเจินจะทำลายวิชาชี่เต่างูดำของสือเฉินได้”
ใบหน้าเจ้าบ้านตระกูลหลิ่วเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แล้วพยักหน้าเบาๆ
สือเฉินลุกขึ้นมาจากพื้นอย่างทุลักทุเล เขาพูดเสียงดังว่า “หลิ่วเจิน คิดไม่ถึงว่านายจะมีอาวุธวิเศษอยู่ในมือ!”
หลิ่วเจินหันมา สยบกระบี่ใบหลิวในมือตัวเอง
“กระบี่ชื่อฝูหลิ่ว โปรดชี้แนะด้วย!”
เมื่อพูดจบ คนนับไม่ถ้วนอุทานออกมาอย่างตกใจ
“กระบี่ฝูหลิ่วของตระกูลหลิ่วปรากฏออกมาแล้ว!”
“นี่คือกระบี่ฝูหลิ่วเหรอ นี่มันอาวุธวิเศษเลยนะ!”
“กระบี่ฝูหลิ่วแหลมคมเป็นอย่างมาก ฟาดฟันภูเขาตัดแม่น้ำ ครั้งนี้สือเฉินแย่แน่ๆ!”
สือเฉินค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วพูดว่า “มิน่าล่ะนายถึงมั่นใจขนาดนี้ ที่แท้มีกระบี่ฝูหลิ่วอยู่ในมือนี่เอง”
หลิ่วเจินพูดว่า “ไม่มีอาวุธวิเศษจะกล้าท้าทายสหายสือได้ยังไงล่ะ ยอมแพ้เถอะสหายสือ ความเร็วนายสู้ฉันไม่ได้ เกราะปราณก็ต้านทานกระบี่ฝูหลิ่วไม่ได้ นายต้องแพ้อย่างแน่นอน!”
พูดจบ หลิ่วเจินใช้กระบี่พุ่งเข้ามาฆ่าสือเฉินอีกครั้ง
ขณะนั้นสือเฉินโจมตีหมัดออกไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว เงาของหลิ่วเจินที่เพิ่งปรากฏออกมาโดนโจมตีจนแหลกสลาย
แต่เพียงพริบตาหลิ่วเจินปรากฏตัวด้านหลังสือเฉินอีก ใช้กระบี่ฟันลงบนเกราะปราณบนตัวสือเฉินจนเป็นรอย!
สือเฉินถอยหลังไปหลายก้าว สีหน้าเคร่งขรึม
หลิ่วเจินเอากระบี่ฝูหลิ่ววางไว้บนไหล่ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เป็นไง ยังไม่ยอมแพ้อีกเหรอ”
จู่ๆ สือเฉินหัวเราะร่า
“ฉันเนี่ยนะยอมแพ้ ตลก!”
จู่ๆ สือเฉินลูบเบาๆ ลงบนแหวน
โล่ที่เต็มไปด้วยหนามปรากฏขึ้นในมือเขา
“นายคิดว่ามีแค่นายเหรอที่มีอาวุธวิเศษ โล่เสวียนเจวี๋ยอยู่นี่แล้ว!”
ตึง!
สือเฉินเอาโล่มาวางข้างหน้า สีหน้าหลิ่วเจินเปลี่ยนไปทันที!