เฉินโม่พาหลินหยุนทั้งสามคนเดินไปข้างหน้า แต่ว่าจู่ๆหลินหยุนทั้งสามคนได้ไปขวางตรงหน้าของเฉินโม่ แล้วคุกเข่าลง
เฉินโม่มองทั้งสามคนอย่างเงียบๆ เหมือนจะรู้ความคิดของทั้งสามคน
หลินหยุนพูดอย่างจริงใจ “ผู้อาวุโส เมื่อกี้เราเห็นศักดาของคุณแล้ว ทำให้เราทั้งสามคนเข้าใจเรื่องหนึ่ง เราสามคนที่ความสามารถต่ำต้อย การมาครั้งนี้เท่ากับมาหาที่ตายโดยไม่ต้องสงสัย โชคดีที่ได้รับการดูแลจากผู้อาวุโส ไม่เช่นนั้นเราคงไม่สามารถมาถึงตรงนี้อย่างปลอดภัย”
“โชคดีที่ผู้อาวุโสให้คัมภีร์ยุทธ์สองเล่มนี้แก่เรา เราไม่กล้าหวังสมบัติข้างในอีกต่อไป ดังนั้นเราต้องการกลับออกไปตอนนี้ ทุ่มเทให้กับการฝึกฝน โดยหวังว่าสักวันหนึ่งจะสามารถแย่งสำนักคืนมาได้ ”
“จะขออำลาตรงนี้!” หลินหยุนพูดจบ ทั้งสามคนก็โขกหัวให้กับเฉินโม่
เฉินโม่พูดอย่างราบเรียบ “ฉันเข้าใจความรู้สึกของพวกเธอ แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่โอกาสที่พวกเธอจากกลับไป กลับไปตอนนี้คนพวกนั้นก็ต้องเดาว่าพวกเธอนั้นได้ของล้ำค่าแล้ว เกรงว่าพวกเธอก็คงจะมีชีวิตได้อีกไม่นาน”
“เออ………..” หลินหยุนทั้งสามคนคิดเรื่องนี้ ก็เข้าใจในทันทีว่าคำพูดของเฉินโม่นั้นถูกต้อง ถ้าพวกเขาย้อนกลับกลางทาง คนอื่นต้องสงสัยว่าพวกเขานั้นได้ของล้ำค่าไปแล้ว
หลินหยุนตกใจจนเหงื่อออก โขกหัวซ้ำอีกครั้ง “ขอบคุณคำชี้แนะของผู้อาวุโส ฉันเกือบพลาดครั้งใหญ่แล้ว”
“ไม่เป็นไร พวกเธอก็ติดตามฉันต่อไปเถอะ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว ฉันจะบอกพวกเธอเอง” เฉินโม่พูดอย่างราบเรียบ
“ขอบคุณผู้อาวุโส!” หลินหยุนทั้งสามคนก็ขอบคุณจากใจจริง
มุ่งหน้าเดินต่อไป ก็เห็นตำหนักขนาดใหญ่ลอยอยู่ข้างหน้า ตำหนักแห่งนี้สร้างจากน้ำแข็งทั้งหมด และดูสวยงามราวกับที่คริสทัลพาเลซในตำนาน
พื้นที่ว่างด้านหน้าของตำหนัก ยืนอยู่ด้วยคนนับร้อย จากพลังของพวกเขาสามารถสัมผัสได้ว่า แข็งแกร่งกว่ากลุ่มคนที่มาพร้อมกับเฉินโม่ในก่อนหน้านี้มาก
ถึงขนาดที่ว่า เฉินโม่ที่อยู่ตรงหน้าคนกลุ่มนี้ ยังสัมผัสได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งของแดนเทพหลายคน
“ดูแล้วทางเข้าของจวนน้ำแข็งน่าจะไม่ได้มีทางเดียว คนพวกนี้ต้องเข้ามาจากทางเข้าอื่นอย่างแน่นอน”
ด้านหลังของเฉินโม่ นักบู๊เหล่านั้นที่เห็นภาพนี้ ก็อุทานด้วยความตกใจในทันที “ที่แท้ก็มีคนเข้ามาที่จวนน้ำแข็งแล้ว อีกทั้งยังมาถึงก่อนพวกเราด้วย!”
“ฉันเห็นศิษย์พี่ร่วมสำนักแล้ว ดีมากเลย ตอนนี้เราไม่ต้องกลัวไอ้หนุ่มนั่นแล้ว!” มีนักบู๊พูดอย่างดีใจ
“มายก๊อด นั่นมันคนของหกสำนักใหญ่ไม่ใช่เหรอ? ฉันเห็นคนของสำนักคุนชาง และคนของสำนักจิ่วหวา ยังมีคนของสำนักอู่ซาน……..”
“ตอนนี้เป็นไงล่ะ หกสำนักใหญ่ต่างก็มาแล้ว ต่อให้จะเป็นเฉินไต้ซือของโลกฝึกบู๊ พวกเราโลกบู๊โบราณก็ไม่ต้องกลัวแล้ว!”
“ไป รีบไปรวมตัวกับพวกเขา!”
เฉินโม่พาหลินหยุนทั้งสามคนค่อยๆเดินเข้าไป คนพวกนั้นเมื่อเห็นเฉินโม่และทั้งสามคนที่อายุยังน้อย ก็ไม่ได้สนใจมากนัก แค่มองไปแวบหนึ่ง ก็เอาความสนใจไปอยู่ตรงหน้าตำหนัก
เฉินโม่เดินมองไปยังแหล่งพลังที่แข็งแกร่งตามความรู้สึกตัวเอง และมองพวกเขาไปแวบหนึ่ง
คนพวกนั้นเหมือนจะรู้สึกว่าเฉินโม่กำลังแอบมองพวกเขา และได้มองเฉินโม่เช่นกัน แต่เหมือนกับว่าจะไม่สามารถมองเห็นพลังบำเพ็ญของเฉินโม่ได้ แต่ละคนต่างก็ขมวดคิ้ว
นักบู๊ที่เดินอยู่ด้านหลังของเฉินโม่มาโดยตลอด รีบเดินอ้อมเฉินโม่ไปหาคนที่ตัวเองสนิท แล้วกระซิบพูดอะไรบางอย่าง
ในไม่ช้า เรื่องที่เฉินโม่ได้ของล้ำค่าจากหอยา ก็ถูกแพร่กระจายไปยังเหล่านักบู๊
สายตาของทุกคน มารวมบนตัวของเฉินโม่อีกครั้ง
ชายชราที่สวมชุดเต๋าและไว้เคราคนหนึ่ง ค่อยๆเดินไปตรงหน้าของเฉินโม่ มองสำรวจเฉินโม่ โค้งคำนับกล่าว “ได้ยินมาว่าท่านสามารถทำลายพลังประตูต้องห้าม ไม่ทราบว่าใช่เรื่องจริงหรือเปล่า?”
“เขาคือนักพรตชิงซงของสำนักอู่ซาน! คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้สำนักอู่ซานจะส่งเขามานำทีม!” มีนักบู๊พูดขึ้น
เฉินโม่มองชายชราเต๋า เขาก็คือหนึ่งในคนที่เฉินโม่สัมผัสได้ถึงพลังแดนเทพ
จากเสียอุทานของนักบู๊พวกนั้น เฉินโม่ยังรู้ว่าชายชราเต๋าเหมือนจะเป็นคนของหกสำนักใหญ่