บทที่ 1835 คุณหนูหวันหวั่นคือคุณเหรอ
เมื่อเห็นสืออี เยี่ยหวันหวั่นก็ชะงักไปเล็กน้อย เดิมทีคิดว่าสืออีน่าจะออกจากตระกูลซือไปนานแล้ว แต่นึกไม่ถึงว่าสืออีจะยังอยู่ที่นี่…
“อาจารย์…คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!”
สืออีจ้องเยี่ยหวันหวั่นด้วยสีหน้าตื่นตกใจ กระทั่งว่าไม่ค่อยอยากเชื่อ
“หึ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะให้พวกแกมารำลึกความหลังกันที่นี่” หัวหน้าบอดี้การ์ดลับมองเยี่ยหวันหวั่นกับสืออีพลางหัวเราะเสียงเย็น
เวลานี้สายตาของเยี่ยหวันหวั่นตกลงบนตัวของหัวหน้าบอดี้การ์ดลับ อีกฝ่ายพาสืออีมาทำไม…
“หึๆ คุณหนูเยี่ย พวกผมก็รู้ว่าสืออีเป็นคนที่คุณสั่งสอนมากับมือ เท่ากับว่าเขาเป็นลูกศิษย์ของคุณ ความสัมพันธ์ของศิษย์อาจารย์นี้ไม่น่าอ่อนแอเท่าไรมั้ง…ถ้าคุณหนูเยี่ยร่วมมือกับพวกเรา และบอกพวกเราว่าซือเยี่ยหานอยู่ที่ไหน และล่อซือเยี่ยหานออกมา ผมก็รับประกันความปลอดภัยพวกคุณรวมไปถึงสืออีได้…ว่ายังไง” หัวหน้าบอดี้การ์ดลับเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม
แต่สีหน้าของเยี่ยหวันหวั่นกลับไร้อารมณ์ หลังจากผ่านไปชั่วครู่ก็จ้องหัวหน้าบอดี้การ์ดลับและเอ่ยด้วยเสียงเย็นชา “แล้วถ้า…ฉันบอกว่าฉันไม่ยอมร่วมมือล่ะจะทำยังไง”
“ไม่ยอมเหรอ?”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่น ดวงตาของหัวหน้าบอดี้การ์ดก็มีแววเย็นเยียบวาบผ่าน ชั่วพริบตานั้นก็คว้าลำคอของสืออี “ถ้าคุณหนูเยี่ยไม่เต็มใจให้ความร่วมมือ…งั้นผมก็จะฆ่าศิษย์ของคุณก่อน อย่าบอกนะว่าคุณหนูเยี่ยอยากเห็นสืออีตายไปต่อหน้าคุณ!”
“น่าสนใจดีนี่…”
เวลานี้ในดวงตาของเยี่ยหวันหวั่นวาบประกายเย็นเยือก “ยังไม่เคยมีใครกล้าข่มขู่ฉันมาก่อน”
“อาจารย์…ไม่ต้องห่วงผม…”
สืออีมองเยี่ยหวันหวั่นด้วยใบหน้าบวมแดง
ยังไม่รอให้สืออีเอ่ยอะไร เยี่ยหวันหวั่นก็ส่งสัญญาณสายตาให้กับชีซิงที่อยู่ตรงหน้า
ทันใดนั้นชีซิงก็ลุกขึ้น แล้วก็ไม่เห็นว่าชีซิงเคลื่อนไหวยังไง วินาทีถัดมาทั้งร่างของบอดี้การ์ดลับก็ลอยขึ้นฟ้า ร้องเสียงโหยหวนออกมา จากนั้นทั้งร่างก็กระแทกกำแพงด้านหนึ่งอย่างรุนแรง
เมื่อเห็นดังนั้นสืออีก็เผยสีหน้าแปลกใจออกมา ดวงตาปรากฏแววงุนงง
ไม่นานประตูใหญ่ของห้องสอบสวนก็ถูกเปิดออก เสียงที่ดังสนั่นภายในห้องดึงดูดบอดี้การ์ดลับกว่าสิบคนของตระกูลซือให้กรูกันเข้ามา
“หัวหน้า!”
เมื่อเห็นสีหน้าอันทรมานของหัวหน้าบอดี้การ์ด ทั้งร่างขดเป็นวงกลม บอดี้การ์ดลับหลายคนก็ก้าวขึ้นมาด้านหน้า แล้วพยุงตัวหัวหน้าบอดี้การ์ดขึ้นมา
“จะ…จับพวกมันไว้!”
ผ่านไปไม่นาน เมื่อหัวหน้าบอดี้การ์ดลับได้สติก็ตะโกนด้วยเสียงโกรธแค้น
แต่เยี่ยหวันหวั่นกับพวกชีซิงและเป่ยโต่วกลับไม่ได้ขัดขืน ปล่อยให้พวกบอดี้การ์ดลับโยนพวกเขาเข้าไปในคุก
…
ภายในคุกทั้งมืดสลัวและอับชื้น สืออีมองเยี่ยหวันหวั่นอย่างรู้สึกผิด “อาจารย์…ผมผิดเอง…”
เยี่ยหวันหวั่นยิ้มน้อยๆ “ไม่เกี่ยวอะไรกับนายหรอก”
คุกของตระกูลซือ ถ้าพวกเธอต้องการก็สามารถออกไปได้ทุกเมื่อ
“อาจารย์ คุณบอกว่าออกจากประเทศจีนแล้วไม่ใช่เหรอ…ทำไมคุณถึงกลับมาอีก…” สืออีมองเยี่ยหวันหวั่นขณะเอ่ยถาม
ได้ยินดังนั้น เยี่ยหวันหวั่นก็พยักหน้าน้อยๆ เรื่องพวกนี้ยุ่งยากเกินกว่าจะอธิบาย
“จริงสิ…อาจารย์ คุณเจอ…หัวหน้าตระกูลหรือยัง” สืออีมองเยี่ยหวันหวั่นพลางเอ่ยถาม
“ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัด” เยี่ยหวันหวั่นตอบ
“ไม่มั้งครับ…อาจารย์ พวกเขาบอกว่าการที่หัวหน้าตระกูลหายตัวไปมีความเป็นไปสูงว่าอาจตายอยู่ข้างนอกแล้ว แต่ผมไม่เชื่อเด็ดขาด…หัวหน้าตระกูลจะตายได้ยังไง เรื่องนี้ไม่มีทางเป็นไปได้!” สืออีเอ่ยพลางขมวดคิ้ว
ยังไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยอะไรต่อ ที่มุมหนึ่งของคุกก็พลันมีเสียงอ่อนแอแกมตื่นเต้นเสียงหนึ่งดังขึ้น “คุณหนูหวันหวั่น…นั่นคุณเหรอ!”
——————————————————–
บทที่ 1836 ไร้หนทางโดยสิ้นเชิง
“เชี่ย มีคนอยู่ด้วยซะงั้น” เป่ยโต่วสะดุ้งโหยง
สีหน้าของเยี่ยหวันหวั่นชะงักนิ่ง เสียงนี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าเลยแม้แต่น้อย…
“สวี่อี้?”
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยถามพลางขมวดคิ้ว
“คุณหนูเยี่ย…เป็นคุณจริงๆ ด้วย…”
เสียงของสวี่อี้ดังขึ้นอีกครั้ง
“พ่อบ้านสวี่อี้ถูกขังอยู่ในอีกห้องขังหนึ่ง…” สืออีกระซิบ
ในใจของเยี่ยหวันหวั่นอดที่จะแปลกใจเล็กน้อยไม่ได้ ด้วยความเฉียบแหลมของสวี่อี้ หลังจากเกิดเรื่องในตระกูลซือก็น่าจะออกจากตระกูลซือได้อย่างว่องไว บวกกับอำนาจของตระกูลสวี่อี้ เดิมทีก็ไม่น่าเกิดเรื่องอะไรแน่ๆ แต่ตอนนี้ ทำไมถึงถูกจับได้กันล่ะ…
“คุณหนูหวันหวั่น ทำไมคุณหนูถูกพวกเขาจับมาได้ล่ะครับ…”
สวี่อี้ถูกขังมานานกว่าสองเดือนแล้ว ส่วนโลกภายนอกเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้แม้แต่น้อย
“นายไม่ได้ออกจากตระกูลซือแล้วเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นไม่ได้ตอบข้อสงสัยของสวี่อี้แต่กลับเอ่ยถาม
สวี่อี้ถอนหายใจออกมาทันที สาเหตุที่เขาถูกจับมาไม่ใช่เพราะเหตุการณ์ไม่คาดฝันของตระกูลซือ แต่เพราะตัวเองล่วงเกินพวกเบื้องบนของตระกูลซือจึงถูกขังอยู่ในคุกให้สำนึกความผิด ผ่านไปไม่กี่วันเขาก็ควรได้ออกไปแล้ว
แต่ในตอนนี้ตระกูลซือ หัวหน้าตระกูลหายตัวไปหลายเดือนแล้ว สวี่อี้ก็ไม่ได้คิดอะไร หลังจากออกไปครั้งนี้ เขาก็น่าจะออกจากตระกูลซือได้แล้ว
“คุณหนูเยี่ย…คุณหนูไม่ควรกลับมานะครับ…”
หลังจากผ่านไปนาน สวี่อี้ก็ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ตระกูลซือตอนนี้ไม่ใช่ตระกูลซือเหมือนในอดีตอีกต่อไปแล้ว
ตอนนี้ตระกูลซือถูกคนของฉินรั่วซียึดครองอำนาจโดยสมบูรณ์แล้ว
ตอนที่คุณชายเก้ายังอยู่ เยี่ยหวันหวั่นแทบจะล่วงเกินเบื้องบนตระกูลซือทุกคนไปหนึ่งรอบ ฉินรั่วซียิ่งเกลียดเธอเข้ากระดูก ครั้งนี้เยี่ยหวันหวั่นกลับมา ฉินรั่วซีและคนพวกนั้นจะปล่อยเธอไปได้ยังไง
“อาจารย์ไม่รู้จริงๆ เหรอครับว่าหัวหน้าตระกูลอยู่ที่ไหน…ถ้าหัวหน้าตระกูลปรากฏตัวออกมา ฉินรั่วซีและเบื้องบนพวกนั้นจะกล้าอวดเบ่งแบบนี้ได้ยังไง หัวหน้าตระกูลต้องมีวิธียึดครองตระกูลซือใหม่อีกครั้ง ให้คนที่ต่อต้านพวกนั้นได้รับการลงโทษที่สาสมแน่!” สืออีรีบเอ่ยขึ้น
“จะเป็นไปได้ยังไง คุณชายเก้าหายตัวไปนานมากแล้ว อำนาจของตระกูลซือก็ถูกพวกเบื้องบนตระกูลซือกับฉินรั่วซีควบคุมไว้แล้ว ถึงตอนนี้คุณชายเก้าจะปรากฏตัวก็เกรงว่าคงไร้หนทางพลิกสถานการณ์แล้ว” น้ำเสียงของสวี่อี้นั้นเจือด้วยความจนปัญญาเล็กน้อย เขาจะไม่หวังให้คุณชายเก้ากลับมาได้ยังไง แต่น่าเสียดาย ที่ตระกูลซืออยู่ในกำมือของพวกฉินรั่วซีโดยสมบูรณ์แล้ว ถ้าคุณชายเก้ากลับมาแล้วอย่างไร ตระกูลซือไร้คนฟังคำสั่งของคุณชายเก้าแล้ว
“พ่อบ้านสวี่ นี่คุณกำลังส่งเสริมพลังคนอื่นแต่ดับพลังของตัวเองนะ! หรือว่าพ่อบ้านสวี่คิดว่า หัวหน้าตระกูลจัดการฉินรั่วซีกับเบื้องบนไม่ได้!” สืออีไม่พอใจเล็กน้อย
“สืออี ตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไงตัวนายก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้ หรือนายคิดว่าต่อให้คุณชายเก้ากลับมา ก็ยังจะมีวิธีอะไรที่สามารถควบคุมตระกูลซือตอนนี้ได้เหรอ” สวี่อี้เอ่ยอย่างจนใจ
“พ่อบ้านสวี่ ตอนนั้นตระกูลซือไม่ใช่ว่ากระจัดกระจายต่างคนต่างซ่องสุมกองกำลัง แต่หลังจากที่คุณชายเก้ากลับมาก็สามารถควบคุมตระกูลซือทั้งหมดได้เหมือนกัน!” สืออีแค่นเสียงหยัน
จากนั้นสืออีก็เอ่ยกับเยี่ยหวันหวั่น “อาจารย์ คุณต้องรู้ว่าคุณชายเก้าอยู่ที่ไหนแน่ บอกให้คุณชายเก้ากลับมาเถอะครับ…ขอแค่คุณชายเก้ากลับมา ตระกูลซือก็จะต้องกลับไปเป็นเหมือนเก่าแน่นอน!”
“สืออี ถึงได้บอกไงว่าด้วยสมองของนาย เมื่อก่อนตอนอยู่ในตระกูลซือถึงเป็นได้แค่หัวหน้าบอดี้การ์ดลับเท่านั้น” สวี่อี้หัวเราะเสียงเย็น
“พ่อบ้านสวี่หมายความว่ายังไงกันแน่ พ่อบ้านสวี่คิดว่าคุณชายเก้าจะจัดระเบียบตระกูลซือในตอนนี้ไม่ได้เหรอ” สืออีไม่พอใจเล็กน้อย
“ถึงไม่อยากยอมรับแต่ก็เห็นได้ชัดเจนอยู่แล้ว ตอนนี้ก็เป็นแบบนี้หรือว่าไม่ใช่เหรอ” สวี่อี้เอ่ย