ตอนที่ 880: กุญแจปริศนา
จอมยุทธทั้งสี่ของเผ่าเมิ่งหวงถูกบังคับให้ต้องมอบแหวนมิติให้กับนูบิสและจากไปพร้อมอาการบาดเจ็บของพวกเขา
เจี้ยนเฉินไม่ได้เอาชีวิตของพวกเขาและดึงพลังบรรพกาลออกจากพวกเขาทั้งสาม ถึงแม้ว่าจะไม่สนใจเรื่องที่พวกเขาไม่ได้มีความเกลียดชังอะไรในตัวพวกนั้น เผ่าเมิ่งหวงก็ยังมีคนที่เป็นส่วนหนึ่งของศาลาเทพเจ้าอสรพิษ การสังหารคนพวกนี้อาจจะสร้างปัญหาได้
เจี้ยนเฉินมาที่อาณาจักรทะเลเพื่อที่จะลี้ภัยและให้เวลากับตัวเองในการเพิ่มพลัง เขาไม่ปรารถนาที่จะให้บางอย่างแบบนั้นเกิดขึ้น
“ท่านผู้นำเผ่า ในเมื่อเรื่องที่เกี่ยวกับเผ่าเมิ่งหวงได้ถูกแก้ไขแล้ว พวกเราก็เสร็จภารกิจของพวกเราแล้ว พวกเราขออำลา” เจี้ยนเฉินพูดอย่างเฉยเมยพร้อมป้องมือไปที่ผู้นำเผ่าแห่งความกล้าหลังจากที่กลุ่มของเผ่าเมิ่งหวงจากไป
“ท่านนักรบ ท่านต้องเหนื่อยมากเป็นแน่จากการต่อสู้ก่อนหน้านี้ ทำไมพวกท่านไม่พักผ่อนอยู่ที่เผ่าของข้าต่ออีกสักสองสามวันล่ะ ข้าจะได้ขอบคุณเรื่องที่พวกท่านช่วยเหลือพวกเราอย่างเหมาะสม ? ” ผู้นำเผ่ารีบเอ่ยปากรั้งตัวพวกเขาไว้
เจี้ยนเฉินส่ายหัวของเขา “ข้าขอบคุณท่านผู้นำเผ่าในความปรารถนาดีนี้ แต่พวกเรามีเรื่องสำคัญที่ต้องไปจัดการจริง ๆ พวกเราชักช้าไม่ได้แล้ว”
เจี้ยนเฉินและนูบิสจากไปทันทีหลังจากที่ปฏิเสธผู้นำเผ่า พวกเขามาที่อาณาจักรทะเลเพื่อที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของพวกเขาและไม่ได้มาเล่น ๆ พวกเขาไม่สามารถที่จะเสียเวลามากเกินไปกับเรื่องทั่วไปได้
ผู้นำเผ่าลอบถอนใจในขณะที่เขาดูเจี้ยนเฉินและนูบิสจากไป เขาพึมพำ “มันจะดีแค่ไหนกันถ้ามีนักรบที่ทรงพลังทั้งสองคนแบบนี้อยู่ที่เผ่าของเราตลอดไป ? น่าเสียดายที่เผ่าที่อ่อนแอของพวกเราไม่สามารถดึงพวกเขาเข้ามาได้”
ผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่าเดินไปข้าง ๆ ผู้นำเผ่า “ท่านผู้นำเผ่า นักรบทั้งสองได้ทำให้ทูตทั้งสี่ได้รับบาดเจ็บจากศาลาเทพเจ้าอสรพิษได้รับบาดเจ็บ เจ้าคิดว่าศาลาจะโกรธหรือไม่ ? ” ผู้อาวุโสสูงสุดกังวล
ผู้นำเผ่าส่ายหน้า “การต่อสู้ระหว่างทูตและเผ่าเองนั้นได้เป็นการแหกกฎของศาลาอยู่แล้ว มันจะเป็นโชคดีสำหรับพวกเขามากถ้าพวกเขาไม่โดนทำโทษเมื่อพวกเขากลับไป ทำไมศาลาจะต้องมาทำโทษพวกเราด้วยเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ด้วยล่ะ ? “
“เผ่านั้นก็เหมือนประชาชนของศาลา ศาลาจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวหรือไม่เห็นด้วยในข้อพิพาทระหว่างประชาชนเว้นเสียแต่ว่าจะเป็นเรื่องราวใหญ่โต พวกเขาจะไม่เลือกข้างโดยปกติแล้ว”
..
นูบิสและเจี้ยนเฉินเดินทางไปในระดับ 1,000 เมตร นูบิสหัวเราะไปเรื่อยในขณะที่เขาเล่นกับแหวนมิติทั้งแปด เขากำลังเดาว่ามีเหรียญผลึกมากแค่ไหนในนั้น
ตลอดทาง ทั้งสองคนเผชิญกับกลุ่มเซียนผู้คุมกฎและแม้แต่เซียนราชาที่ค้นหา พวกเขากำลังหาร่องรอยของชิ้นส่วนของแผนที่แผ่นดินทั้งแปด พวกเขาจะหยุดที่มนุษย์ที่เป็นเซียนผู้คุมกฎและสัตว์อสูรระดับ 7 เมื่อพวกเขาผ่านไปเห็นเข้าและจะถามคำถามกับพวกเขา เซียนราชาบางคนยังเลือกที่จะใช้แม้แต่วิธีที่รุนแรงและเอาแหวนมิติของคนอื่นมาตรวจดู
เจี้ยนเฉินและนูบิสถูกหยุดไว้หลายครั้งเช่นกันแต่พลังแห่งการมีอยู่ของพวกเขานั้นเป็นของเผ่าพันธุ์ทะเล ดังนั้นจึงมีน้อยคนนักที่เขามาตั้งใจหาเรื่อง อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ได้ผ่านกลุ่มของเซียนผู้คุมกฎที่ไร้เหตุผลหลายคนที่ต้องการที่จะบังคับค้นแหวนมิติของพวกเขาและนี่เกือบทำให้เกิดเรื่อง
เจี้ยนเฉินและนูบิสเดินทางไปตลอดทั้งวันก่อนที่พวกเขาจะหยุดอยู่ที่แนวภูเขาที่โดดเดี่ยวในที่สุด พวกเขาขุดถ้ำไปในส่วนลึกของแนวภูเขาและอยู่ที่นี่ชั่วคราว พกวเขาต้องการที่จะใช้เวลาในช่วงต่อไปเพื่อที่จะฝึกฝน
เจี้ยนเฉินไม่เร่งรีบในเรื่องการตามหาแผนที่แผ่นดินทั้งแปด มีจอมยุทธอยู่เต็มไปหมดที่กำลังหาชิ้นส่วนของแผนที่ในตอนนี้ ดังนั้นถ้าจอมยุทธคนอื่นพบว่าพวกเขาเป็นหนึ่งที่ครอบครองชิ้นส่วนแผนที่อยู่ พวกเขาทั้งคู่คงถูกตามล่าโดยทุกทุกคน ในตอนนั้น การที่จะเก็บรักษามันไว้คงเป็นเรื่องที่ยากมาก
เจี้ยนเฉินฝังไข่มุกราตรีเอาไว้ที่เพดานถ้ำและความมืดมิดก็หายไปเล็กน้อย ในอีกด้านหนึ่ง นูบิสนั่งยอง ๆ อยู่ข้าง ๆ และเริ่มที่จะมองเข้าไปในแหวนมิติทั้งแปด
นูบิสได้สิ่งของมาเยอะมากในครั้งนี้ มีเหรียญผลึกอยู่เป็นจำนวนมากรวมแล้ว 30 ล้านเหรียญ เช่นเดียวกับสิ่งของอื่น ๆ ที่อยู่ในแหวน ปริมาณของมันทำให้คนทั้งสองตกตะลึง
ในนั้นยังมีวิธีการฝึกฝนเชิงลึกอีกด้วย เช่นเดียวกับทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ 2 ชิ้น อย่างไรก็ตาม พวกมันมีประโยชน์กับเฉพาะเซียนสวรรค์เท่านั้นและไม่มีความหมายกับพวกเขา ดังนั้นนูบิสจึงโยนมันออกไปอีกข้างหนึ่ง
ในตอนนี้เอง พลังงานที่ถูกปิดบังเอาไว้จำนวนมากได้เปล่งรัศมีออกมาจากกองวัตถุ มันฉุดความยากรู้อยากเห็นของนูบิส ดังนั้นเขาจึงเทสิ่งของในแหวนมิติออกมาก่อนที่จะเริ่มขุดคุ้ยหาในนั้น
กล่องเหล็กสี่เหลี่ยมขนาดกว้างยาวประมาณ 30 เซนติเมตรที่ดูธรรมดาถูกดึงออกมาในไม่ช้า นู
บิสตรวจดูมันอย่างสงสัยและพูดออกมา “ของข้างในนี้ต้องมีค่ามากแน่แน่” จากนั้นเขาก็เปิดมันออกอย่างช้า ๆ
กล่องเหล็กถูกทำมาจากวัตถุดิบพิเศษ เห็นได้ชัดว่า มันสามารถแยกและป้องกันคลื่นพลังงานจากสิ่งของข้างในเอาไว้ได้ มันยากมากที่จะค้นพบพลังงานใดใดก็ตามที่เปล่งออกมาจากในนั้นเมื่อกล่องถูกปิดอยู่ แต่ทันทีที่เขาเปิดมันขึ้นมา พลังงานก็เริ่มที่จะแพร่หระจายไปรอบ ๆ
พลังงานนั้นทรงพลังและยิ่งใหญ่มาก เหมือนพลังของจักรพรรดิของโลก การปรากฏตัวของมัน ทำให้พลังงานธาตุน้ำที่อยู่ในรัศมีหลายสิบกิโลเมตรสงบลงเหมือนว่ามันกำลังกลัวอยู่ มันเหมือนว่าพวกมันได้พบผู้ปกครองของมันและพวกมันยอมคำนับเพื่อรับใช้
“นั่นมันเด่นชัดมากเกินไป มันจะดึงดูดความสนใจจากจอมยุทธคนอื่น เร็วเขา รีบเข้าไปในวัตถุเซียน” เจี้ยนเฉินคำรามออกมา ก่อนที่เขาจะดูที่วัตถุในกล่องอย่างใกล้ ๆ แสงสีทองก็ถูกยิงออกมาจากหว่างคิ้วของเขาและกลายเป็นหอคอยสีทอง หลังจากนั้น มันก็ดูดพวกเขาทั้งสองเข้าไปในวัตถุเซียนพร้อมกับกล่องเหล็กนั้น
หญิงคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ หลังจากที่พวกเขาถูกดูดเข้าไป นางสวยงามและใบหน้าของนางก็ถูกปกคลุมเอาไว้ด้วยผ้าคลุม ถ้าเจี้ยนเฉินและนูบิสเห็นนางเข้า พวกเขาก็คงจำนางได้เพราะนางเป็นหญิงลึกลับที่ได้ให้ไข่มุกจิตวิญญาณน้ำกับพวกเขามา
ตาของหญิงคนนั้นเป็นประกายเย็นชา นางพึมพำ “ไม่คิดเลยว่าจะมีเซียนจักรพรรดิบางคนบุกเข้าไปที่ทะเลแห่งความสิ้นหวังและได้เอาผลึกอเวจีมาและตีมันให้กลายเป็นกุญแจ เจ้าคิดว่าพวกเจ้าจะสามารถหาข้าได้ด้วยกุญแจนั้นงั้นหรือ ? “
เจี้ยนเฉินและนูบิสปรากฎตัวขึ้นทันทีที่กึ่งกลางของห้องโถงในวัตถุเซียน กลิ่นอายที่เย็นชาเริ่มที่จะขยายออกมาทุกทิศทางโดยมีพวกเขาเป็นศูนย์กลาง มันเติมเต็มบริเวณโดยรอบด้วยพลังงานธาตุน้ำที่หนาแน่น
“นายท่าน นั่นคืออะไรกัน ? ” วัตถุจิตวิญญาณปรากฏขึ้นอย่างเงียบ ๆ ข้าง ๆ เจี้ยนเฉิน สายตาของเขาเป็นประกายด้วยความสงสัยในขณะที่เขาจ้องไปยังวัตถุที่อยู่ในกล่องด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เจี้ยนเฉินและนูบิสจ้องเขม็งไปที่สิ่งของที่อยู่ในกล่อง ในตอนนี้ กล่องนั้นถูกห่อหุ้มไปด้วยแสงบอลน้ำสีฟ้า พวกเขาสามารถเห็นกุญแจขนาดเท่าฝ่ามือลาง ๆ วางอยู่ข้างใน แสงจ้าทั้งหมดนั้นเกิดมาจากกุญแจอันนั้น
เจี้ยนเฉินยกกุญแจขึ้นมาอย่างระมัดระวังเพื่อตตรวจดูมัน แสงสีฟ้าส่องไปที่หน้าของพวกเขาและย้อมหน้าของพวกเขาไปเป็นสีฟ้า พวกเขาดูเหมือนปีศาจในตอนนี้
“มันเป็นกุญแจจริง ๆ นี่ใช่กุญแจไปสู่สมบัติสักที่หรือเปล่า ? ” นูบิสเดา
เจี้ยนเฉินครุ่นคิดเกี่ยวกับกูญแจก่อนที่จะเก็บมันกลับเข้าไปในกล่อง เขาปิดฝาช้าช้าและคำรามออกมา “กุญแจนี้ต้องใช้เปิดบางอย่างที่สำคัญมาก มันจะเป็นสิ่งที่ไม่สำคัญไปไม่ได้ ข้าสงสัยว่าของนี่เป็นของทูตเองหรือเป็นของศาลาเทพเจ้าอสรพิษกันแน่ ถ้าเป็นของทูต มันก็คงเป็นเรื่องง่าย แต่มันคงจะเป็นปัญหาถ้านี่เป็นของศาลา”
“เจี้ยนเฉิน ดูเหมือนว่าพวกเราจำเป็นต้องหาที่อื่นที่ไกลออกไปก่อนที่เราจะฝึกฝนทำสมาธิกัน เผื่อไว้ว่าคนของศาลาเทพเจ้าอสรพิษจะมาตามหาพวกเรา” นูบิสแนะนำ
เจี้ยนเฉินพยักหน้า “วัตถุจิตวิญญาณ ข้าจะทิ้งกล่องเอาไว้ที่นี่กับเจ้าในตอนนี้ ดูแลมันให้ข้าด้วย”
“ขอรับ นายท่าน ! ” วัตถุจิตวิญญาณตอบอย่างรวดเร็ว
เจี้ยนเฉินออกไปจากมิติของวัตถุเซียนพร้อมกับนูบิสหลังจากนั้น พวกเขากลับมายังถ้ำ พวกเขาไม่ต้องการที่จะอยู่ที่นี่อีกต่อไป พวกเขากวาดกองสิ่งของกลับเข้าไปในแหวนมิติและจากไปทันที พวกเขาบินออกไป
ในเวลาเดียวกันนั้น ทูตทั้งสี่รวมทั้งเยิ่นเซินได้กลับไปที่ศาลาเทพเจ้าอสรพิษในสภาพที่ย่ำแย่ พวกเขาอธิบายสิ่งที่พวกเขาได้เผชิญมากับผู้อาวุโสประจำศาลา
ผู้อาวุโสประจำศาลาเป็นชายร่างกำยำและใส่เสื้อไม่มีแขน ใบหน้าของเขาดุร้ายและเผยกลิ่นอายโหดร้ายออกมา ทูตทุกคนตัวสั่นตอ่หน้าเขาในขณะที่พวกเขารู้สึกหวาดกลัวลึกลงไปในจิตวิญญาณของพวกเขา นี่เป็นความกดดันที่มาจากสายเลือด ปรากฎการณ์ที่ผู้อ่อนแอเจอกับผู้ที่แข็งแกร่ง
“อะไรนะ! เจ้าเสียมันไปจริง ๆ หรือ ! ? ” ผู้อาวุโสประจำศาลาโกรธเกรี้ยวเมื่อเขาได้ยินว่าพวกทูตทั้งสี่เสียแหวนมิติของพวกเขาไป ดวงตาของเขาหรี่เล็กและจ้องเขม็ง มันกลายเป็นเหมือนดาบสองเล่มที่ทำให้มิติสั่นไหวเมื่อแทงออกไป
ทูตทั้งสี่คุกเข่าลงที่พื้นในขณะที่ตัวสั่นเทา พวกเขาหวาดกลัวมาก
“เจ้าพวกไร้ค่า! เหตุผลที่พวกเราให้พวกเจ้าทั้งสี่ไปนำมันกลับมาเป็นเพราะเพื่อมันจะได้หลอกลวงคนอื่นได้ ! เจ้าพวกผู้อาวุโสที่น่าสงสารพวกนั้นไม่ได้บอกพวกเจ้าหรอว่าของนั่นสำคัญต่อศาลาเทพเจ้าอสรพิษเช่นไรก่อนที่พวกเจ้าจะจากไป ? ไม่เพียงแต่พวกเจ้าจะไปยั่วยุคนอื่นเมื่อเจ้าเก็บสิ่งของที่สำคัญไว้กับตัวเท่านั้น เจ้ายังเสียมันไปในตอนท้ายอีกด้วย ! มีเหตุผลที่ข้าต้องเก็บพวกเจ้าเอาไว้ไหม ! ? ” ชายวัยกลางคนแผดเสียงออกมา เขาเหวี่ยงหมัดไปที่คนทั้งสี่ทันทีที่เขาพูดถึงคำสุดท้าย
“ชาลี ใจเย็นเย็น ! ” เสียงชราดังระเบิดขึ้นมา ทันใดนั้นเอง ฉากแสงสีห้าก็ปรากฎขึ้นมาและปกคลุมทูตทั้งสี่เอาไว้
ในขณะที่หมัดของชายนั่นปะทะเข้ากับฉากสีห้า มันเริ่มที่จะสั่นไหวอย่างรุนแรงก่อนที่จะแตกกระจายในตอนสุดท้าย พลังงานที่เหลืออยู่กระแทกเจ้าไปที่ทูตทั้งสี่อย่างไม่ปราณีทำให้พวกเขาทั้งหมดกระอักเลือดออกมา พวกเขาพุ่งถอยไปเหมือนลูกปืดใหญ่และกระแทกเข้ากับพนังด้านหลังอย่างรุนแรง
ชายชราเดินอย่างไม่เร่งรีบพร้อมไม้เท้า ชายร่างกำยำจ้องอย่างเย็นชาไปที่เขาแล้วคำรามออกมา “ดู ‘ลูกศิษย์รัก’ ที่เจ้ารับมา เขาได้เสียของที่สำคัญไป เจ้าร่าจะรู้ว่าสิ่งของนั้นสำคัญกับท่านเจ้าศาลายังไง ไม่มีใครในพวกเราที่สามารถทนความโกรธเกรี้ยวของท่านเจ้าศาลาได้”
ชายชราตอบกลับอย่างใจเย็น “ชาลี ของก็ได้ถูกเอาไปแล้ว แม้ว่าเจ้าจะฆ่าคนทั้งสี่นี้ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไร เรื่องที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการเอามันกลับมาก่อนที่ท่านเจ้าศาลาจะออกมาจากการฝึกฝน พวกเราต้องแก้ไขข้อผิดพลาดของพวกเรา”