บทที่ 749 เปิดเผยตัวตนอีกครั้ง

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

เมื่อเทียบกับอี้ลั่วเอ๋อ ร่างกายของหลงเฉิงนั้นเปลี่ยนแปลงไปมากกว่าหลายเท่า!

หลังจากดื่มซุปไปจนหมดถ้วย ร่างของหลงเฉินก็กลายเป็นมังกรและขนาดของร่างเขาก็ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่เขาไม่สามารถควบคุมได้เลย

มันคงจะไม่เป็นอะไรหากเขามีผิวหนังเหมือนคนทั่วไป แต่โชคร้ายที่เขาคือมังกร ซึ่งมีเกล็ดอยู่เต็มทั่วร่าง ดังนั้นเมื่อร่างกายของเขาขยายใหญ่ขึ้นเกล็ดของเดิมก็เริ่มหลุดออกและเกล็ดชุดใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมก็พุ่งทะลุชั้นผิวหนังออกมาแทนที่ของเก่า

การผลัดเกล็ดอย่างรวดเร็วแบบนี้มันทำให้หลงเฉินเจ็บปวดจนแทบเจียนตาย

จากนั้นผ่านไปอีกสักพัก ไม่เพียงแค่เกล็ดเท่านั้นที่งอกออกมาใหม่ แต่บนหน้าผากของเขากลับมีเขาอันแหลมคมค่อย ๆ งอกขึ้นมาอีก 1 เขาอีกต่างหาก

หลิงตู้ฉิงพยักหน้าอย่างพึงพอใจและพูดว่า “เจ้านี่ช่างโชคดีจริง ๆ มา! มาเอาซุปไปดื่มอีกถ้วย!”

หลิงตู้ฉิงส่งซุปให้หลงเฉินกินอีกถ้วย ซึ่งคราวนี้ร่างกายของหลงเฉินยิ่งเปลี่ยนแปลงเร็วมากขึ้นกว่าเดิม

เขาบนหน้าผากของเขายิ่งงอกเร็วขึ้น แถมในตอนนี้ที่หลังของเขากลับค่อย ๆ มีปีก 2 ปีกงอกออกมาด้วยอีกต่างหาก

เมื่อเวลาผ่านไปพักใหญ่ หลิงตู้ฉิงก็มองไปที่หลงเฉินที่ในตอนนี้ร่างกายของเขาหยุดการเปลี่ยนแปลงแล้ว ซึ่งเขาบนหน้าผากของเขาได้งอกออกมาอย่างสมบูรณ์และปีกทั้งสองก็งอกออกมาจนมีความกว้างข้างละ 8 เมตรด้วยความพึงพอใจ

หลงเฉินที่รู้สึกได้ว่าร่างกายของตัวเองเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดนี้ก็พูดกับหลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าหดหู่ว่า “นายท่าน ตอนนี้ข้ากลายเป็นสัตว์ประหลาดอะไรไปแล้ว? มันเป็นไปได้ยังไงที่มังกรอย่างข้าจะมีปีกงอกออกมาได้แบบนี้? แถมยังเขาบนหน้าผากนี่อีก มันคืออะไรกันนายท่าน?”

หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “สัตว์ประหลาดอะไรกัน? เจ้านั้นช่างโชคดีมาก ๆ ต่างหาก ตอนนี้เจ้าได้กลายร่างเป็นมังกรครามที่แท้จริงเรียบร้อยแล้ว เอาล่ะตอนนี้เจ้าจงลองทดสอบพลังของทั้งเขาและปีกใหม่ของเจ้าดูซะ!”

ทางด้านของคนอื่น ๆ ที่เห็นการเปลี่ยนแปลงของอี้ลั่วเอ๋อและหลงเฉินที่มหัศจรรย์ขนาดนี้ พวกเขาก็เริ่มอดใจไม่ไหวและพากันกินซุปในชามเร็วขึ้น

เสี่ยวเยว่เฟิงสูดหายใจลึกและแข็งใจกระดกซุปหมดในรอบเดียว เพราะนางกลัวว่าการค่อย ๆ กินอาจจะทำให้สายเลือดฟีนิกซ์ของนางไม่ถูกกระตุ้น

แต่แล้วเมื่อนางกระดกซุปจนหมด ร่างกายของนางก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน

บนร่างกายของเสี่ยวเยว่เฟิงค่อย ๆ มีขนนกสีทองอมแดงงอกออกมาเล็กน้อย ซึ่งมันทำให้ร่างกายของนางในตอนนี้ดูประหลาดเป็นอย่างมาก

หลิงตู้ฉิง เมื่อเห็นเช่นนี้ก็หัวเราะและพูดว่า “เฟิงเจ้าไม่ต้องรีบมากก็ได้ ไม่เช่นนั้นเจ้าได้มีขนนกปกคลุมเต็มทั่วร่างและมีขนหางงอกออกมาแน่นอน”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเสี่ยวเยว่เฟิงกลายเป็นประหม่าในทันที

หากร่างของนางมีขนหางงอกออกมาจริง ๆ สภาพของนางมันคงจะแปลกประหลาดกลายเป็นคนก็ไม่ใช่นกก็ไม่เชิงแน่นอน!

หลิงตู้ฉิงยิ้มและส่ายหัว จากนั้นเขาก็เริ่มดื่มซุปปลาบ้าง

เนื่องจากเขามีประสบการณ์กับการกินของพวกนี้อยู่แล้ว ดังนั้นหลิงตู้ฉิงจึงสามารถระงับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายเขาได้อย่างรวดเร็ว และใช้พลังชีวิตที่เพิ่มเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับร่างกายของเขาเอง

เขารู้ดีว่าในร่างของเขาตอนนี้มีสายลือดทั้งของฟีนิกซ์ มังกร และมนุษย์ผสมรวมกันอยู่ หากเขาไม่ระงับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตนเอง เขาคงจะกลายเป็นตัวประหลาดที่ดูไม่เหมือนมนุษย์แน่นอน

ส่วนบรรดาคนอื่น ๆ ที่มีสายเลือดมนุษย์เพียงอย่างเดียว เมื่อพวกเขากินซุปเข้าไป ทั้งใบหน้าและผิวพรรณของพวกเขาก็ดูอ่อนเยาว์ลงเรื่อย ๆ อย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นเช่นนี้ จ้าวเหมิงลู่ หลิวเฟ่ยเฟ่ย และโม่หยูถังก็รีบหยุดกินในทันที เนื่องจากพวกเขากลัวว่าหากกินไปมาก ๆ ร่างกายของพวกเขาอาจย้อนวัยลงจนกลายเป็นเด็กก็ได้

ในทางกลับกัน ร่างกายของหลิงฟ่างหัวและหลิงเทียนหยุนนั้นกลับไม่มีความเปลี่ยนที่เห็นได้อย่างชัดเจนมากนัก นอกจากที่พวกดูอ่อนเยาว์ลงเล็กน้อย

“เอาล่ะทุกคนทำทุกอย่างให้เป็นปกติ อีกเดี๋ยวข้าจะให้พวกคนที่รออยู่ด้านนอกเข้ามาแล้ว!” หลิงตู้ฉิงสั่งขึ้น

อันที่จริงเหล่าคนของสำนักเงามายาได้มายืนรออยู่ที่หน้าทางเข้าสวนอยู่นานแล้ว

หากไม่ใช่เพราะหยูเจิ้นไห่และหยูคงหมิงคอยกันเอาไว้ พวกเขาคงเข้ามาหาหลิงตู้ฉิงไปนานแล้ว

หลังจากทุกคนจัดแจงตัวเองเสร็จสรรพเรียบร้อย และหลิงตู้ฉิงเองก็เก็บซุปที่ยังเหลืออยู่ลงในแหวนมิติเสร็จ เขาก็ส่งสัญญาณให้หยูเจิ้นไห่และหยูคงหมิงปล่อยให้คนที่รออยู่ด้านนอกเข้ามา.

เมื่อเหล่าผู้อาวุโสสำนักเงามายาเห็นว่า หยูเจิ้นไห่และหยูคงหมิงอนุญาตให้พวกเขาเข้ามาหาหลิงตู้ฉิงได้แล้ว พวกเขาก็รีบพุ่งตัวเข้ามาในสวนด้านหลังอย่างรวดเร็วในทันที และพูดกับหลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าตื่นตระหนก “คุณชายหลิง ตอนนี้สถานการณ์ที่ด้านนอกเรือนเริ่มจะไม่ค่อยดีแล้ว พวกเผ่าปลาเจ็ดสีรู้เรื่องการตายของพวกมันเองแล้ว และพวกมันขู่ว่าจะส่งข่าวเรื่องนี้ไปให้กับพวกของมันที่อยู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้รับรู้ ข้าเกรงว่าถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปเมื่อพวกปลาเจ็ดสีที่อยู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ออกมาคิดบัญชีกับท่านจริง ๆ ถึงเวลานั้นชีวิตของท่านจะตกอยู่ในอันตรายเป็นอย่างมาก”

“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่!” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้น “หากเรื่องของข้ามันดังไปทั่วดินแดนศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ ข้าจะได้ไม่ต้องยุ่งยากส่งอุลบาเข้าไปส่งข้อความ!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ผู้อาวุโสสำนักเงามายาก็รู้สึกกระอักกระอ่วนอยู่ในใจและอยากจะพูดว่า ‘นี่ท่านรู้รึเปล่าว่าคนที่อาศัยอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้นแข็งแกร่งขนาดไหน? ถ้าพวกเขาออกมาจริง ๆ ลืมเรื่องส่งข้อความอะไรนั่นไปได้เลย แค่เอาตัวรอดให้ได้ก่อนก็พอ!’

แต่แล้วเมื่อเขาคิดถึงความสามารถอันพิสดารของหลิงตู้ฉิง เขาก็เลือกที่จะไม่พูดคำที่เขาคิดในใจและเปลี่ยนไปพูดอีกเรื่องว่า “คุณชายหลิงยังมีอีกเรื่อง ตอนนี้พวกผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันทั้งหลายที่ท่านเจอในตลาด พวกเขาต่างยกขบวนมารอท่านที่หน้าเรือนอยู่ด้วยเช่นกัน”

หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและพูดว่า “งั้นข้ารบกวนท่านไปเชิญพวกเขาเข้ามาหน่อย และสำหรับการที่ข้ายืมใช้สถานที่ของท่าน เดี๋ยวข้าจะแบ่งเนื้อปลาเจ็ดสีให้สำนักท่าน 5,000 กิโลกรัม”

เขาไม่มีวันมอบซุปที่ตนเองทำขึ้นมาให้กับคนอื่น

ซุปของเขานั้นทำมาจากส่วนผสมที่ล้ำค่ามากเกินไป ดังนั้นเขาจะให้มันแต่กับคนของเขาเท่านั้น

เมื่อได้ยินว่าหลิงตู้ฉิงจะแบ่งเนื้อปลาให้กับสำนักของเขาแค่ 5,000 กิโลกรัม ผู้อาวุโสสำนักเงามายาก็ยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “เอ่อ…คุณชายหลิงมอบให้พวกเราเพิ่มอีกสักหน่อยได้ไหม หรือไม่ท่านพอจะให้พวกเราแลกเปลี่ยนได้รึเปล่า”

เมื่อพูดถึงเรื่องการแลกเปลี่ยนแล้วน้อยครั้งมากที่หลิงตู้ฉิงจะปฏิเสธ ซึ่งครั้งนี้เขาก็ไม่ปฏิเสธเช่นกัน เขายอมให้ผู้อาวุโสสำนักเงามายาเอาวัสดุล้ำค่าต่าง ๆ มาแลกกับเนื้อปลาเจ็ดสี ซึ่งในท้ายที่สุดผู้อาวุโสสำนักเงามายาก็แลกเนื้อปลาไปได้ถึง 20,000 กิโลกรัม และจากนั้นเขาก็แลกเปลี่ยนเนื้อปลากับเหล่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันทั้งหลายที่มารอจนสุดท้ายเขาก็เหลือเนื้อปลาเก็บไว้กับตัวแค่ 100,000 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งเขาก็หยุดแลกเปลี่ยนและบอกใก้ทุกคนกลับไปในทันที

หลังจากเสร็จสิ้นการแลกเปลี่ยนเนื้อปลาเป็นที่เรียบร้อย หลิงตู้ฉิงก็พูดผู้อาวุโสสำนักเงามายาว่า “เอาล่ะตอนนี้ท่านก็ควรที่จะพาลูกสาวของข้าไปส่งที่อาณาเขตนภาได้แล้ว เพื่อให้นางนำเอาเลือดทรราชสวรรค์มาที่นี่โดยเร็วที่สุด เพื่อที่อุลบาจะได้มีเวลาเหลือพอได้บ่มเพาะก่อนการคัดเลือกจะเริ่มขึ้น”

จากนั้นหลิงตู้ฉิงก็หันไปหาหลิงฟ่างหัว และส่งขวดหยกหลายขวดที่บรรจุซุปปลาให้นางและพูดว่า “เจ้าจงให้คนในครอบครัวของเราดื่มมันทุกคน แต่เจ้าต้องไม่ลืมที่จะเตือนพวกเขาให้ค่อย ๆ ดื่มทีละน้อย ๆ อ๋อ! และอีกอย่างเอากระดูกหยกชิ้นนี้ไปให้กับเจ้าหมานั่นด้วย มันชอบแทะกระดูกแบบนี้เป็นอย่างมาก”

หลิงฟ่างหัวพยักหน้า “ข้าจะรีบไปรีบกลับนะท่านพ่อ!”

หลังจากนั้นหลิงฟ่างหัวก็พาหยูเจิ้นไห่ตามผู้อาวุโสสำนักเงามายาเดินทางกลับไปที่สำนักเงามายา เพื่อใช้ประตูเคลื่อนย้ายของที่นั่นเดินทางกลับไปอาณาเขตนภา

เมื่อส่งหลิงฟ่างหัวออกไปเรียบร้อยแล้ว หลิงตู้ฉิงก็สั่งให้หยูคงหมิงเฝ้าทางเข้าสวนไว้เหมือนเดิม และจากนั้นเขาก็หยิบหัวใจรูปร่างแปลกประหลาดออกมาดู

หัวใจประหลาดนี้พื้นผิวของมันสามารถมองทะลุได้เหมือนกับผลึกแก้ว แต่นอกเหนือจากนั้นรูปร่างของมันก็เหมือนกับหัวใจปกติทั่วไป

หลิงตู้ฉิงตรวจสอบมันอยู่พักใหญ่ จากนั้นเขาก็เริ่มปรับแต่งมันให้กลายเป็นสมบัติวิเศษโดยใช้คุณสมบัติทนต่อการกัดกร่อนของเลือดให้เป็นจุดเด่นของสมบัติชิ้นนี้

แต่แล้วในระหว่างที่หลิงตู้ฉิงกำลังยุ่งอยู่กับหัวใจประหลาด อี้ลั่วเอ๋อก็เดินเข้ามานั่งข้าง ๆ และพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานว่า “นายท่าน ท่านสังเกตรึเปล่าว่าตอนนี้ร่างกายของข้ามีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง?”

หลิงตู้ฉิงมองสำรวจอี้ลั่วเอ๋อ จากนั้นเขาตอบกลับว่า “อืมเจ้าดูโตขึ้น”

อี้ลั่วเอ๋อเริ่มหน้าแดง จากนั้นนางหลบสายตาหลิงตู้ฉิง และพูดว่า “ข้าจำได้ว่าในอดีตนายท่านปฏิเสธข้าเพราะว่าข้าหน้าอกเล็ก แต่ว่าตอนนี้…หน้าอกของข้าใหญ่ขึ้นแล้วนะ นายท่านเห็นรึเปล่า…”

เมื่อพูดจบ อี้ลั่วเอ๋อก็นั่งแอ่นหลังแสดงให้หลิงตู้ฉิงเห็นว่าหน้าอกของนางในตอนนี้ใหญ่ขึ้นแล้วจริง ๆ

หลิงตู้ฉิงหัวเราะและพูดว่า “ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้น เอาเป็นว่าลั่วเอ๋อ เจ้าไม่ควรที่จะมามอบร่างกายให้ข้าแบบนี้ ไม่เช่นนั้นในอนาคตเจ้าจะต้องเสียใจแน่นอน และอีกอย่างข้ายอมรับตามตรงว่าสถานะของข้านั้นไม่ต่างอะไรกับเป็นผู้อาวุโสของเจ้า!”

อี้ลั่วเอ๋อพ่นลมหายใจ “นายท่านอย่ามาหลอกข้าแบบนี้ ท่านจะมีฐานะเป็นผู้อาวุโสเผ่าภูตนางฟ้าของข้าได้ยังไงกัน!”

“ก็ข้าเป็นเจ้านายของบรรพบุรุษผีเสื้อของเจ้า ดังนั้นข้าก็ไม่ต่างอะไรกับเป็นผู้อาวุโสของเจ้าจริงไหม?” หลิงตู้ฉิงยิ้ม