หลิงตู้ฉิงกวาดตามองไปที่เหล่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชัน ซึ่งแข่งกันตะโกนเสนอแลกเปลี่ยนสิ่งของกับเขาด้วยสายตาแปลกประหลาด

นี่มันก็แค่เนื้อปลาเจ็ดสีไม่ใช่เหรอ? ทำไมต้องอยากได้อะไรกันมากขนาดนี้?

“บนโลกนี้ไม่มีปลาเจ็ดสีเหลืออยู่แล้วรึไงกัน?” หลิงตู้ฉิงอดไม่ได้จึงถามขึ้น “ถ้าพวกเจ้าอยากกินนักก็ไปล่าพวกมันมากินเองกันสิ!”

ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันผู้หนึ่งถอนหายใจและพูดว่า “เดี๋ยวนี้พวกเราฆ่ามันไม่ได้ง่าย ๆ เหมือนเมื่อก่อนแล้วนี่นา! ไม่นานมานี้พวกเผ่าปลาเจ็ดสีบางส่วนถูกคัดเลือกให้ได้เข้าไปอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งส่งผลให้เผ่าปลาเจ็ดสีแข็งแกร่งและมีอิทธิพลเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ดังนั้นหากพวกเราโจมตีพวกมันมั่ว ๆ แล้วล่ะก็พวกเราจะถูกพวกปลาเจ็ดสีที่อยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ออกมาล้างแค้นแน่นอน แต่ว่าตอนนี้เจ้ากลับฆ่ามันไปแล้ว ซึ่งถ้าหากพวกข้าซื้อเนื้อของมันจากเจ้า มันจะนับไม่ได้ว่าพวกข้าทำความผิดต่อพวกมันเพราะพวกข้าแค่ซื้ออาหารต่อจากเจ้าก็แค่นั้นไม่ใช่เป็นคนฆ่าด้วยตัวเอง เอาล่ะเจ้าพอจะแบ่งขายให้ข้าบ้างได้ไหม ข้าไม่ได้กินเนื้อพวกมันมาหลายปีจนจะคลั่งตายอยู่แล้ว!”

เมื่อเห็นท่าทีของพวกผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันที่อยู่รอบ ๆ แบบนี้ กลุ่มคนของหลิงตู้ฉิงก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

เนื้อปลาเจ็ดสีมันอร่อยขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ?

หลิงตู้ฉิงมองไปที่เหล่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันนับสิบด้วยสีหน้าเหนื่อยใจและพูดว่า “พวกเจ้ามีกันเยอะเกินไป ข้าแลกเปลี่ยนกับพวกเจ้าได้ไม่หมดทุกคนหรอก เอาเป็นว่าเดี๋ยวข้าจะแบ่งเนื้อปลาให้กับพวกเจ้าคนละ 100 กิโลกรัมก็แล้วกันเพื่อเป็นสินน้ำใจ แต่ถ้าหากพวกเจ้าคิดว่าตัวเองมีสมบัติที่ล้ำค่าจริง ๆ และอยากจะแลกเปลี่ยนมันกับข้า หลังจากนี้พวกเจ้าค่อยไปหาข้าที่เรือนของสำนักเงามายาที่อยู่ในเมืองนี้ก็แล้วกัน จนกว่างานคัดเลือกจะเริ่มขึ้น ข้าจะอยู่ที่นั่นตลอดเวลา แต่ถ้าหากพวกเจ้าอยากจะชิงเนื้อปลาไปจากข้าแล้วล่ะก็ ข้าก็ไม่มีปัญหาอะไรหากจะต้องสังหารพวกเจ้าทิ้งเหมือนกัน”

เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงก็แบ่งเนื้อปลาให้กับเหล่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันทั้งหลายคนละ 100 กิโลกรัม

หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันมองดูเนื้อปลาในมือและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนว่า “ 100 กิโลกรัมมันไม่ช่วยให้ข้าหายอยากลงหรอก อย่างน้อย ๆ มันก็ต้อง 20,000 กิโลกรัม เอาเป็นว่าข้าขอแลกเปลี่ยนกับเจ้าตอนนี้เลยไม่ได้เหรอ?”

หลิงตู้ฉิงยิ้มและตอบกลับ “ค่อยมาแลกเปลี่ยนกับข้าทีหลัง!”

หลังจากพูดจบ หลิงตู้ฉิงก็ไม่คิดที่จะเดินตลาดต่ออีกแล้ว เขาพากลุ่มคนของเขากลับไปที่เรือนของสำนักเงามายาทันที

ในระหว่างทางกลับ จ้าวเหมิงลู่ก็อดไม่ไหวและถามว่า “สามี เนื้อปลาเจ็ดสีมันอร่อยมากเลยงั้นเหรอ?”

“เนื้อของมันมีประโยชน์อะไรบ้าง?” หลิวเฟ่ยเฟ่ยถามขึ้นเสริมเช่นกัน

หลิงตู้ฉิงยิ้มและตอบกลับ “แน่นอนว่าเนื้อของมันมีประโยชน์มาก! พวกปลาเจ็ดสีนั้นเป็นเผ่าที่อาศัยอยู่ในทะเลหยกวิญญาณ ซึ่งที่นั่นทีพลังธาตุวารีหนาแน่นที่สุดในเขตแดนอุดรทมิฬ ด้วยสภาพแวดล้อมที่ดีแบบนั้นเนื้อของพวกปลาเจ็ดสีจึงมีคุณสมบัติทำให้พลังชีวิตของผู้ที่กินเนื้อของพวกมันเข้าไปแข็งแกร่งมากขึ้น”

“อันที่จริงเมื่อครู่ข้าจงใจเดินเข้าไปหาปลาตัวนี้เองน่ะ เพราะข้าสัมผัสได้ว่ามันมีเจตนาร้ายต่อข้า ซึ่งข้าเองก็อยากได้เนื้อของมันตั้งแต่แรกเห็นอยู่แล้ว ดังนั้นข้าเลยเล่นไปตามแผนของมันเพื่อให้มันกับข้ามีปัญหากันและข้าจะได้ฆ่ามันได้โดยมีเหตุผลเพียงพอ เอาล่ะ ไว้พวกเรากลับไปถึงเรือนเมื่อไหร่ ข้าจะเคี่ยวซุปเนื้อปลาเจ็ดสีให้กับพวกเจ้าทุกคนได้กิน”

อันที่จริงยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่หลิงตู้ฉิงไม่ได้พูดก็คือ นอกเหนือจากเนื้อปลาแล้วเขายังอยากได้สาหร่ายมัดนั้นอีกด้วย

หลังจากที่พวกเขากลับถึงเรือนของสำนักเงามายา หลิงตู้ฉิงก็เดินไปที่สวนด้านหลังเรือนและสั่งให้หยูเจิ้นไห่กับหยูคงหมิงยืนเฝ้าหน้าทางเข้าสวนเอาไว้ในทันที เพื่อกันไม่ให้ใครก็ตามเข้ามารบกวนเขา จากนั้นเขาก็หยิบกงล้อเบญจธาตุขึ้นมาและนำเอาสาหร่ายลงไปปลูกไว้ด้านในกงล้อ

“สมาชิกใหม่งั้นเหรอ?” ดอกไม้เทวะหยินหยาง ดอกไม้ฟื้นชีพและสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ต้นอื่น ๆ ต่างถามขึ้นด้วยน้ำเสียงสนใจ “ว่าแต่ไอ้เจ้านี่มันคือต้นอะไรกันล่ะเนี่ย?”

หลิงตู้ฉิงหัวเราะและพูดว่า “ในตอนนี้มันก็เป็นแค่สาหร่ายทะเลนั่นแหละ แต่ด้วยพลังชีวิตที่หนาแน่นในตัวมัน ในอนาคตมันน่าจะพัฒนาไปได้อีกไกล เอาล่ะ ข้าฝากพวกเจ้าช่วยดูแลมันหน่อยก็แล้วกัน อย่ากินมันซะล่ะ!”

“ไม่ต้องห่วง ๆ” ดอกไม้เทวะหยินหยางพูดขึ้น “พวกเราเป็นมิตรกับเผ่าพันธุ์เดียวกันมากกว่าพวกเจ้าเผ่ามนุษย์ที่ชอบฆ่ากันเองอยู่แล้ว พวกเราจะดูแลเขาเป็นอย่างดีและจะช่วยให้เขาพัฒนาร่างจนมีจิตสำนึกให้ได้”

หลิงตู้ฉิงพยักหน้า จากนั้นเขาจึงเก็บกงล้อเบญจธาตุกลับไปและเริ่มสร้างหม้อขนาดใหญ่ที่ทำขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับเคี่ยวซุปเนื้อปลาให้กับคนในครอบครัวของเขากิน

หลิงตู้ฉิงโยนเนื้อปลาลงไปในหม้อและปรุงมันด้วยโอสถนานาชนิด และจากนั้นเขาก็เคี่ยวมัน 5 วัน 5 คืนติดกันโดยไม่พักผ่อน

วันที่ 6 หลิงฟ่างหัวเดินเข้ามามองดูซุปที่อยู่ในหม้อและถามหลิงตู้ฉิงด้วยความสงสัยว่า “ท่านพ่อ พวกเราจะกินมันได้รึยัง? ตอนนี้เนื้อปลามันเละไปหมดแล้วนะท่านพ่อ!”

หลิงตู้ฉิงหัวเราะและตอบกลับหลิงฟ่างหัว “พ่อไม่ได้จะให้เจ้ากินเนื้อมันสักหน่อย พ่อจะให้เจ้ากินน้ำซุปมันต่างหาก! พลังชีวิตที่อัดแน่นอยู่ในเนื้อปลาก่อนหน้านี้มันอยู่ในน้ำซุปหมดแล้ว นี่พ่อถึงขนาดให้ดอกไม้ฟื้นชีพหยดน้ำวิญญาณของมันลงไปในซุปแถมยังให้ต้นหญ้าสามแฉกแบ่งใบของมันมาด้วยนิดหน่อยอีกต่างหากเพื่อผสมลงในซุป แต่ว่าเจ้าอย่ากินมันมากจนเกินไปก็แล้วกัน หากเจ้ากินมันมากเกินไป ร่างของเจ้าจะไม่สามารถทนกับพลังชีวิตอัดแน่นอยู่ในน้ำซุปได้ และร่างกายของเจ้าอาจจะเปลี่ยนไปจนดูแปลกประหลาด”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลิงฟ่างหัวและคนอื่น ๆ ก็พยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง และคิดว่าซุปหม้อนี้พวกเขาไม่ควรจะกินมันมากเกินไป เพราะด้วยพลังชีวิตที่อัดแน่นในเนื้อปลาแถมยังรวมไปถึงน้ำวิญญาณจากดอกไม้ฟื้นชีพและใบของต้นหญ้าสามแฉก หากพวกเขากินมากเกินไปร่างกายของพวกเขาจะไม่อาจรับกับพลังชีวิตอันหนาแน่นที่จู่ ๆ ก็เพิ่มขึ้นในร่างกายอย่างฉับพลันได้

ที่สำคัญพวกเขายังคงจำภาพตอนที่พวกเขากินเนื้อกวางในอดีตได้อย่างไม่ลืมเลือน ที่ร่างกายของพวกเขาจู่ ๆ ก็พองขึ้นจนแปลกประหลาด และนั่นมันเป็นเพียงแค่เนื้อกวางขอบเขตนภาเท่านั้น แต่นี่คือซุปที่ทำมาจากเนื้อปลาขอบเขตราชันแถมยังมีส่วนผสมของสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าถ้าพวกเขาไม่กินมันอย่างระมัดระวัง รอบนี้ร่างกายของพวกเขาจะต้องน่าเกลียดขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าแน่ ๆ

อย่างไรก็ตามมีอยู่ 2 คนที่ระวังตัวน้อยกว่าเพื่อนก็คือ อี้ลั่วเอ๋อและหลงเฉิน เนื่องจากพวกเขายังไม่เคยเผชิญกับประสบการณ์แปลกประหลาดแบบนั้นมาก่อน

หลังจากพูดจบ หลิงตู้ฉิงก็เคี่ยวซุปต่อไปอีกครึ่งเดือน ซึ่งมันทำให้เนื้อปลาทั้งหมดละลายกลายเป็นซุปข้น ๆ ไปหมดแล้ว

“ท่านพ่อเสร็จแล้วรึยัง?” หลิงฟ่างหัวถามขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากกลิ่นของซุปนั่นมันหอมเตะจมูกเป็นอย่างมากจนนางทนไม่ไหว

หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “เอาล่ะ ๆ ตอนนี้พวกเจ้าทุกคนสามารถกินได้แล้ว! แต่พวกเจ้าทุกคนจงอย่าลืม อย่ากินมันมาเกินไป! หมิงยู่เดี๋ยวข้าจะแบ่งซุปใส่ขวดให้กับเจ้า เมื่อถึงเวลาเจ้าจะได้นำมันกลับไปให้ร่างหลักของเจ้าดื่มมัน”

หมิงยู่โค้งคำนับ “ขอบคุณนายท่าน!”

คนอื่น ๆ เมื่อได้รับการอนุญาตจากหลิงตู้ฉิงแล้ว พวกเขาต่างก็กรูกันมาล้อมหม้อซุปและค่อย ๆ ใช้ถ้วยเล็ก ๆ ตักแบ่งขึ้นมา

แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะแบ่งมาใส่ถ้วยเล็ก ๆ แล้วพวกเขาก็ยังคงใช้ช้อนเล็ก ๆ ค่อย ๆ ซดน้ำซุปอย่างระมัดระวัง

แต่ในระหว่างที่ทุกคนกำลังกินอย่างระมัดระวัง กลับมีอยู่ 2 คนที่ซดน้ำซุปจนหมดถ้วยในรวดเดียว ซึ่งทั้งสองคนนั้นคือ อี้ลั่วเอ๋อ และ หลงเฉิน

หลังจากซดซุปปลารวดเดียวจนหมดถ้วย พลังชีวิตในร่างกายของอี้ลั่วเอ๋อก็ปะทุขึ้นอย่างรุนแรงทันที ส่งผลให้เสื้อผ้าของนางขาดกระจุยทั้งชุดรวมไปถึงร่างกายของนางก็ขยายใหญ่ขึ้นจากตอนแรกที่ดูเป็นเด็กน้อยตอนนี้ร่างของนางก็ดูโตขึ้นราวกับหญิงสาวอายุ 15 และปีกของนางก็ขยายใหญ่ขึ้นกว่าเดิมถึง 3 เท่า

อี้ลั่วเอ๋อร้องลั่นด้วยความตกใจปนกับเขินอายในทันที และนางก็รีบใช้ปีกของนางหุ้มร่างของนางไว้

แต่แล้วเมื่อนางรู้ตัวว่าร่างกายของนางเติบโตขึ้นและหน้าอกก็ใหญ่ขึ้นด้วย นางก็เหลือบมองไปที่หลิงตู้ฉิง และคิดในใจว่าในอดีตหลิงตู้ฉิงปฏิเสธนางเพราะนางหน้าอกเล็ก แต่ตอนนี้มันน่าจะใหญ่พอแล้วใช่ไหม?

—————————————————–