สายตาของเฉินโม่เย็นเฉียบ “อยากจะแย่งของจากมือฉัน คุณสมบัติของพวกแกยังไม่เพียงพอ”

หนานเฮ่อหยู่ตะโกนด้วยสีหน้าที่โอเวอร์ “ได้ยินกันยัง พวกคุณได้ยินกันหรือยัง เขาว่าเราไม่มีคุณสมบัติ!”

“เฉินไต้ซือ แม้แต่หกสำนักใหญ่ของโลบู๊โบราณยังไม่มีคุณสมบัติ คุณช่วยบอกผมหน่อยว่าใครมีคุณสมบัตินี้!”

เฉินโม่ยิ้มเยาะ “ไม่ต้องพูดมาก พวกแกเข้ามาพร้อมกันเลย!”

หนานเฮ่อหยู่มองไปทางลู่เจี้ยนอู่และคนอื่นๆ แล้วตะโกนพูด “พวกคุณยังรออะไรกันอยู่ ถูกคนของโลกฝึกบู๊รังแกจนขนาดนี้แล้ว หากไม่สั่งสอนมันหน่อย โลกบู๊โบราณของเรายังจะมีหน้ามาปรากฏตัวอีกเหรอ!”

“พวกนายไม่ลุย ฉันลุยก่อน!” หนานเฮ่อหยู่พูดจบ พลังที่อยู่ในร่างกายก็เพิ่มขึ้นอย่างราวเร็ว เห็นได้ชัดว่าเขาโกรธจนถึงขีดสุดแล้ว

“ไอ้หนุ่ม ฉันจะสับแกให้เป็นหมื่นๆชิ้น!” หนานเฮ่อหยู่คำรามด้วยสีหน้าที่โหดเหี้ยม

เฉินโม่ไม่ได้ตอบ แต่ได้ชกหมัดออกไป

“พูดมากจริง!”

ความสามารถของเฉินโม่เมื่อเทียบกับหนานเฮ่อหยู่นั้นแข็งแกร่งกว่ามาก ตอนที่อยู่ในชั้นเจ็ดแดนรวมพลัง เฉินโม่ก็สามารถฆ่าผู้แข็งแกร่งแดนเทพได้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นวันนี้เฉินโม่นั้นถึงชั้นแปดแดนรวมแล้ว

ทั้งสองต่อสู้กัน โดยพื้นฐานหนานเฮ่อหยู่เสียเปรียบเฉินโม่ นอกเสียว่าหนานเฮ่อหยู่จะเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเทพ ไม่อย่างนั้นคงแพ้ไปนานแล้ว

นักพรตชิงซงพูดอย่างเย็นชา “ใช้คนจำนวนมากรังแกคนน้อย เดิมฉันดูถูกการกระทำแบบนี้ แต่วันนี้สถานการณ์มันพิเศษ แกก็อย่าโทษฉันเลย!”

นักพรตชิงซงกระโดดลอยตัวขึ้นเข้าร่วมกันต่อสู้

ทั้งสองโจมตีเฉินโม่เพียงลำพัง แต่ก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนสถานการณ์ของการต่อสู้ได้ ยังคงเสียเปรียบเฉินโม่อยู่

เมื่อเห็นแบบนี้ลู่เจี้ยนอู่ได้มองหญิงสาวปิดหน้าแวบหนึ่ง แล้วคารวะกล่าว“เทพธิดาหลิงซวง เฉินไต้ซือแข็งแกร่งมาก แม้ว่านักพรตชิงซงกับหนานเฮ่อหยู่จะร่วมมือกันสู้กับเขา ยังคงเสียเปรียบอยู่ เรามาลงมือกันเถอะ!”

“สบายใจได้เลย เมื่อถึงเวลาฉันจะลงมือเอง!” เทพธิดาหลิงซวงพูดอย่างเย็นชา ในน้ำเสียงเหมือนไม่ได้มีความรู้สึกไร้ยางอายที่คนหมู่มากรังแกคนหมู่น้อยเลย

ลู่เจี้ยนอู่พยักหน้า ดึงกระบี่ออกมา แล้วเข้าร่วมกันต่อสู้

ทั้งสามร่วมมือกัน สถานการณ์การต่อสู้ก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย แต่พวกเขาก็ยังคงรุกน้อยกว่าแต่ป้องกันมากกว่า และเฉินโม่ยังคงเหนือกว่า

“เฉินไต้ซือคนนี้ช่างไม่ธรรมดาจริงๆ สามารถสู้กับผู้แข็งแกร่งแดนเทพทั้งสามคนได้เพียงลำพัง อีกทั้งยังเหนือกว่า ดูเขาที่อายุยังน้อย พลังบำเพ็ญนี้มาจากไหนกัน?”

เทพธิดาหลิงซวงเฝ้ามองสนามต่อสู้อย่างเงียบๆ และแอบคาดเดาในใจ

“ช่างเถอะ เดาก็เดาไม่ออก ไอ้หนุ่มคนนี้แปลกมาก วันนี้ต้องจัดการมันให้ได้ ถ้าหากปล่อยมันไป ขอเพียงมันได้ของล้ำค่าในนี้ไป ต่อไปความสามารถก็ต้องเพิ่มขึ้นอีกขั้น เมื่อถึงเวลานั้นโลกบู๊โบราณก็จะอันตรายแล้ว”

อย่างไรเสียเทพธิดาหลิงซวงก็เป็นหนึ่งในคนของโลกบู๊โบราณ เพื่อโลกบู๊โบราณ แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่น่าไร้ยางอายที่คนหมู่มากรังแกคนหมู่น้อย แต่มันก็ทำได้เพียงเท่านี้

ผู้แข็งแกร่งแดนเทพสี่คนร่วมมือกัน ถึงจะสามารถเสมอเฉินโม่

ห้องที่ทำจากไม้โดยรอบได้แตกเป็นเสี่ยงๆจากการต่อสู้ของพวกเขา และทั้งตำหนักเกือบจะพังทลายลงทั้งหมด

พวกเขาต่อสู้จากในตำหนักจนออกมานอกตำหนัก และได้เปิดศึกใหญ่บนหิมะ การต่อสู้ยากที่จะแยกออกในชั่วขณะหนึ่ง

นักบู๊ที่เหลือต่างก็วิ่งตามออกมา เฝ้าดูดูการต่อสู้ของพวกเขา มันไม่ง่ายเลยที่จะได้เห็นการต่อสู้ที่แข็งแกร่งในระดับนี้ สำหรับนักบู๊เหล่านี้ มันก็ถือเป็นโอกาสที่ดี

“ทุกคนตั้งใจดูให้ดี การต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่นี้ หาดูได้ยากในรอบหลายร้อยปี และมันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการฝึกฝนของเรา” ชายชรากำชับทุกคนอย่างตื่นเต้น

“ขอบคุณผู้อาวุโสหลินที่เตือน พวกเราไม่กล้าที่จะกะพริบตาแม้แต่ทีเดียว แต่น่าเสียดายความสามารถของผมต่ำ มีหลายจุดที่ยังไม่เข้าใจ ชายหนุ่มคนหนึ่งผู้อย่างเสียดาย”