ตอนที่ 2103

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 2,103 : เชิญท่านลงไห!

 

 

‘หรือพวกมันคิดฆ่าชิงทรัพย์กัน?’

 

ต้วนหลิงเทียนลอบกล่าวในใจ

 

หากแต่ต้วนหลิงเทียนไม่สนใจ

 

พวกมันไม่มายุ่งกับเขาก็แล้วไป แต่ถ้ากล้ามายุ่งกับเขา เช่นนั้นเขาก็จะกลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณพวกมันให้เหี้ยน!

 

ตอนนี้รากวิญญาณของเขาเจียนเปลี่ยนเป็นสีครามเต็มที ขาดอีกแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น!

 

“ผู้เฒ่าหั่ว พวกมันมีพลังฝึกปรือขั้นไหนกัน?”

 

อย่างไรก็ตามด้วยห่วงความปลอดภัย ต้วนหลิงเทียนจึงกล่าวถามด่านพลังฝึกปรือของพวกที่ซุ่มจับตาดูเขากับผู้เฒ่าหั่วก่อน

 

หลังได้ยินคำถามของต้วนหลิงเทียน ผู้เฒ่าหั่วก็กล่าวตอบกลับทันที

 

“ทั้งหมดล้วนอยู่ในขอบเขตเซียนนภา…สำหรับเจ้าแล้วไม่มีใดให้กังวล”

 

หลังได้ยินคำตอบของผู้เฒ่าหั่วต้วนหลิงเทียนก็อึ้ง ยังอดไม่ได้ที่จะขำเบาๆ “นี่ข้าแลดูอ่อนแอขนาดนั้นเลยหรือ กระทั่งกุ้งฝอยเล็กๆน้อยๆขอบเขตเซียนนภาถึงหาญกล้ามาตอแย…”

 

ยังดีที่วาจานี้ของต้วนหลิงเทียนไม่มีใครมาได้ยินเข้า หาไม่แล้วพวกมันคงต้องกระอักเลือดกันบ้าง!

 

จะอย่างไรพวกมันก็บรรลุถึงขอบเขตเซียนนภา! แม้จะไม่ใช่ชนชั้นสุดยอดฝีมือของขอบเขตเซียนนภา แต่อย่างไรหากมองไปทั่วดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าภูมิภาคเบื้องบน พวกมันก็มีพลังฝึกปรืออยู่ในค่าเฉลี่ย!!

 

ทว่าวาจาที่หลุดจากปากของต้วนหลิงเทียนคือเรียกหาพวกมันว่ากุ้งฝอย?

 

นอกจากนี้คล้ายต้วนหลิงเทียนจะลืมเลือนไปแล้ว

 

ว่าพลังฝึกปรือในปัจจุบันของเขา ก็ไม่ได้มากมายอะไรไปกว่าเซียนปฐพีขั้นสูงสุด!

 

ในสายตาของตัวตนขอบเขตเซียนนภา ขอเพียงตรวจพบพลังฝึกปรือของต้วนหลิงเทียน ใจของพวกมันก็ไม่ได้ให้ราคาอะไรกับเขาเช่นกัน ยังคิดว่าเขามันก็แค่ผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนปฐพีเท่านั้น

 

วูบ!

 

หลังได้รับทราบว่าผู้ที่ลอบจับตาดูเขาด้วยเจตนามุ่งร้ายเป็นแค่กลุ่มเซียนนภา ต้วนหลิงเทียนก็ไร้ใดให้กังวลเหินร่างออกไปจากหน้าโรงเตี๊ยมยินดีต้อนรับทันที

 

และหากคำตอบของผู้เฒ่าหั่วคือพวกมันมีพลังฝึกปรือที่คุกคามเขาได้ เขาก็จะย้อนกลับเข้าไปในโรงเตี๊ยมยินดีต้อนรับแทน

 

หากตึงมือเกินไปเขาก็แค่หลบ จะไปหาเรื่องทำเพื่อ?

 

ถึงแม้การยกระดับพรสวรรค์รากวิญญาณจะสำคัญ แต่ก็ไม่สำคัญเท่าชีวิตเขา!

 

ต้วนหลิงเทียนยังรู้หนักเบา เมื่อยกได้ก็วางได้

 

หลังจากที่ต้วนหลิงเทียนเหินร่างออกจากโรงเตี๊ยมยินดีต้อนรับ

 

“เจ้านั่นมันเหาะไปแล้ว!”

 

“พวกเจ้ารีบติดตามมันไปเร็วเข้า…เดี๋ยวข้าจะรีบย้อนกลับไปแจ้งท่านผู้นำให้เอง!”

 

“ตามนั้น!”

 

……

 

ทันทีที่ต้วนหลิงเทียนเหินร่างจากไปอย่างไม่รีบไม่ร้อน เหล่าผู้ที่จับตาดูเขาโดยเผยเจตนามุ่งร้ายในสายตาก่อนหน้า ก็เร่งหารือกันจ้าละหวั่น พวกมันแยกกันทันที กลุ่มใหญ่เร่งรุดติดตามต้วนหลิงเทียนไปห่างๆ ส่วนอีกคนก็เร่งกลับไปรายงานผู้นำกองกำลัง!

 

แน่นอนว่าคนเหล่านี้ก็คือคนของกองกำลังพันธมิตรขวานปฐพี!

 

ผู้ที่ย้อนกลับไป ก็ย้อนกลับไปฐานที่มั่นของพันธมิตรขวานปฐพี

 

จุดประสงค์ของมันคือเร่งคาบข่าวเป้าหมายไปให้ผู้นำพันธมิตรขวานปฐพี ว่าอีกฝ่ายออกจากโรงเตี๊ยมยินดีต้อนรับแล้ว

 

ด้วยความที่ผู้นำของพวกมันให้ความสำคัญกับคนผู้นี้มาก พวกมันย่อมไม่กล้าลงมือเองโดยพลการ

 

‘หืม? ไม่ได้ตามข้ามาทั้งหมด แต่แยกไปบางส่วนหรือ?’

 

เมื่อคนของกองกำลังพันธมิตรเหินร่างตามมา ต้วนหลิงเทียนย่อมสัมผัสได้ทันทีว่าคนไม่ครบ

 

ด้วยเหตุนี้ทำให้เขาบังเกิดความสงสัยขึ้นมาทันทีว่าพวกมันที่แท้เป็นใครกันแน่

 

‘หึ!’

 

แค่นคำเสียงเย็นในใจเบาๆ ต้วนหลิงเทียนก็เลือกเหินร่างออกไปจากนครแห่งบาปทันที

 

แน่นอนว่าความเร็วของต้วนหลิงเทียนไม่ได้มากมายอะไร ปรับให้อยู่ในขอบเขตของเซียนปฐพีขั้นสูงสุดเท่านั้น

 

“มันออกจากนครแห่งบาปแล้ว!”

 

เมื่อต้วนหลิงเทียนเลือกจะเหินร่างออกจากนครแห่งบาป เหล่าผู้ติดตามก็อดตกใจเสียไม่ได้

 

“พวกเรายังจะตามต่อหรือไม่?”

 

“แน่นอนว่าต้องตาม! ท่านผู้นำสั่งเอาไว้ว่าตราบใดที่มันออกจากโรงเตี๊ยมยินดีต้อนรับพวกเราต้องติดตามมันไปอย่าให้คลาดสายตาเด็ดขาด”

 

“มองจากความเร็วของมัน เจ้านี่อย่างดีก็เซียนปฐพีขั้นสูงสุดเท่านั้น ข้ามิรู้จริงๆว่าไฉนท่านผู้นำจึงให้ความสำคัญกับมันนัก…ถึงขั้นสัญญาว่าจะมอบรางวัลที่มากมายเกินระดับของมันไปเยอะแบบนั้น!”

 

“ช่างเถอะหน่า รีบตามมันไปกันก่อน…อีกไม่นานท่านผู้นำก็สมควรติดตามมาแล้ว”

 

 

หลังต้วนหลิงเทียนเหินร่างออกจากนครแห่งบาป เหล่าพันธมิตรขวานปฐพีก็ติดตามมาไม่คลาดสายตา

 

แน่นอนว่าเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ต้วนหลิงเทียนตรวจพบ พวกมันเลือกที่จะเว้นระยะห่างพอสมควร

 

ใครจะไปรู้ว่าต้วนหลิงเทียนพบตัวพวกมันตั้งแต่แรก!

 

‘เอาแถวนั้นละกัน’

 

หลังออกจากนครแห่งบาป ต้วนหลิงเทียนก็เหินมาเรื่อยๆ จนในที่สุดก็แลเห็นภูมิประเทศสลับซับซ้อนอันเป็นป่ารกชัดอยู่เบื้องหน้า

 

ตั้งแต่ก่อนออกจตากนครแห่งบาปเขาก็วางแผนเอาไว้แล้ว

 

หาสถานที่ๆคนของพวกมันไม่อาจติดตามหาพบได้ง่ายๆ

 

หลังจากนั้นก็จะสอบปากคำพวกมันดูว่าตามเขามาเพราะอะไรกันแน่

 

หากพวกมันให้เหตุผลไม่ดี เขาก็ไม่รังเกียจที่จะกลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณของพวกมันให้หมด ให้พรสวรรค์รากวิญญาณของพวกมันเป็นสารอาหารบำรุงรากวิญญาณของเขา!

 

ต้วนหลิงเทียนที่เหินร่างมาถึงป่ารกชัดและใกล้ๆกับเทือกเขาอันแลดูสลับซับซ้อนก็ลงมือทันที

 

เขาเลือกที่จะเหินร่างลงไปยังจุดหนึ่ง หมายซ่อนตัวจากกลุ่มคนด้านหลัง

 

ฟุ่บ!

 

ร่างที่เหินอยู่บนฟ้าอยู่ๆก็ดิ่งลงเป็นวงโค้งที่แลดูไม่สมบูรณ์วงหนึ่ง หล่นไปในแนวเทือกเขาที่มีป่ารกแลดูมีภูมิประเทศซับซ้อน ก่อนที่จะหายไปต่อหน้าต่อตาพวกมัน

 

“เจ้านันมันมาที่นี่ทำไมกัน?”

 

“หรือที่นี่มีของดีอันใดซุกซ่อนอยู่?”

 

“มันคงไม่ใช่…คลังสมบัติของยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนหรอกนะ?”

 

….

 

เมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนเหินร่างลงไปยังป่าเบื้องล่างก่อนที่จะหายตัวไป เหล่าคนของกองกำลังพันธมิตรขวานปฐพีอดไม่ได้ที่จะกล่าวคาดเดากันออกมาด้วยสงสัย

 

และในขณะที่หารือกัน สองตาพวกมันก็สว่างวาบขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว

 

เพราะสุดท้ายแล้วชายหนุ่มชุดม่วงผู้นี้ ก็เป็นผู้นำของพวกมันกำชับให้จับตาดูเป็นพิเศษ

 

หากบอกว่าคนที่มีพลังฝึกปรือเพียงเซียนปฐพีขั้นสูงสุดนั้น ถูกผู้นำสั่งให้จับตาดูเฉยๆโดยที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไร ให้ตายพวกมันก็ไม่เชื่อ!

 

“หากเป็นคลังสมบัติของยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนจริง เช่นนั้นพันธมิตรขวานปฐพีของพวกเราก็พบโชคลาภครั้งใหญ่แล้ว”

 

เหล่าคนของพันธมิตรขวานปฐพีแต่ละคนสองตาลุกวาวด้วยกันทั้งสิ้น

 

ในสายตาคนของพันธมิตรขวานปฐพี หากพวกมันติดตามชายหนุ่มเบื้องหน้าไปจนพบกับคลังสมบัติของยอดฝีมือขอบเขตเซวียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนจริง แม้ของดีจะเป็นของผู้นำ แต่พวกมันก็ยังต้องได้แบ่งปันน้ำแกงมาดื่มสักถ้วย!

 

“มันลงไปในป่าแล้ว รีบตามไปเร็วเข้าเดี๋ยวจะคลาดกับมัน!”

 

ทันใดนั้นคนของพันธมิตรขวานปฐพีคนหนึ่งที่ยังแน่วแน่กับการจับตาดูต้วนหลิงเทียนพลันกล่าวเตือนออกมา

 

เสียงของมันยังปลุกทุกคนให้ตื่นจากฝัน ดึงสติทั้งหมดกลับเข้าตัวทันที “ใชแล้ว! ปล่อยให้มันคลาดสายตาไปไม่ได้เด็ดขาด!”

 

ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!

 

……

 

ทันใดนั้นเหล่าพันธมิตรขวานปฐพีก็เหินร่างดิ่งลงไปในป่าตามต้วนหลิงเทียนอย่างไม่รอช้า

 

อย่างไรก็ตามทันทีที่ลงมาถึงในป่าพวกมันก็จำต้องสับสน

 

นั่นเพราะ…

 

พวกมันพบว่วาชายหนุ่มชุดม่วงที่พวกมันไล่ตามมาอย่างไม่ให้คลาดสายตาก่อนหน้า อยู่ดีๆก็หายไปในป่าอย่างไร้ร่องรอย ยังเสมือนหายไปในอากาศว่างเปล่าต่อหน้าต่อตาของพวกมัน

 

“อะไร? มันหายไปที่ใดแล้วเล่า?”

 

“พวกเราก็ไม่ได้ช้ากว่ามัน แล้วไฉนอยู่ๆมันหายตัวไปได้?”

 

“นั่นสิด้วยความเร็วของมัน แม้จะห่างจากพวกเราไปบ้างเพราะต้นไม้บังตา แต่มันก็ไม่ควรไวจนสลัดพวกเราหลุด!”

 

 

หลังคนของพันธมิตรลงมาถึงในป่าได้ไม่ทันไร พวกมันก็พบว่าเป้าหมายได้หายไปจากสายตาของพวกมันเสียแล้ว

 

หากเป็นตัวตนขอบเขตเซียนนภา ต่อเป็นเซียนนภาขั้นสูงสุดก็ไม่มีทางหายลับไปจากสายตาของพวกมันได้ นับประสาอะไรกับเซียนปฐพีขั้นสูงสุดคนหนึ่ง! ไฉนอยู่ๆถึงหายไปจากสายตาของพวกมันอย่างไร้ร่องรอยได้!?

 

“บัดซบ! นี่พวกเราคลาดกับมันแล้วหรือ!?”

 

“แย่แล้ว…หากท่านผู้นำพบว่าพวกเราคลาดกับมันจนเสียคนไปเพราะมัวแต่คุย…เกรงว่าพวกเราคงโดนลงโทษสถานหนักแน่!”

 

“ถูกลงโทษเป็นเรื่องเล็ก…ที่น่ากลัวที่สุดคือพันธมิตรขวานปฐพีของพวกเรา พลาดที่อยู่คลังสมบัติของยอดฝีมือเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนต่างหาก!”

 

……

 

เหล่าคนของพันธมิตรขวานปฐพีได้แต่มองหน้ากันอย่างทำอะไรไม่ถูก สีหน้าแววตาของทุกคนฉายความกังวลออกชัด

 

“หรือ…พวกเราแยกกันตามหาคนก่อนดี?”

 

สมาชิกพันธมิตรขวานปฐพีคนหนึ่งกล่าวแนะนำ

 

“ข้าเองก็คิดวว่าพวกเราคงทำได้แค่นั้นแล้ว…อย่างไรพวกเราก็มีกัน 9 คน เช่นนั้นแบ่งกันออกเป็น 3 กลุ่มๆละ 3 คนแล้วแยกย้ายกันตามหาร่องรอยของเจ้าหนุ่มชุดม่วงนั่นโดยแยกกันไป 3 ทิศทางเหนือ ตก ออก เป็นอย่างไร?”

 

คนของพันธมิตรขวาวนปฐพีอีกคนพยักหน้ารับก่อนที่จะกล่าวเสนอออกมา

 

และข้อเสนอของมันก็ถูกอีก 8 เห็นดีด้วย

 

“ไปเถอะ!”

 

และในขณะที่พันธมติรขวานปฐพีอีกคนโพล่งคำออกมา และทั้ง 9 กำลังจะแบ่งแยกออกเป็นกลุ่มเล็กๆ 3 กลุ่มเพื่อดำเนินการตามแผนนั้น…

 

“ไม่ต้องไปหาแล้ว…ข้าอยู่นี่”

 

เสียงไม่แยแสหนึ่งพลันดังขึ้น ซ้ำยังราวกับจะดังก้องขึ้นมาทั่วทิศทาง ทำให้สีหน้าท่าทางคนของกองกำลังพันธมิตรขวานปฐพีเปลี่ยนไปทันที

 

ครู่ต่อมาลูกตาของพวกมันก็หดเล็กลงโดยพลัน คิ้วขมวดเป็นปมยกใหญ่

 

นั่นเพราะอยู่ๆก็มีผู้คนผุดโผล่ขึ้นมาจากอากาศว่างเปล่าต่อหน้าต่อตาของพวกมันอย่างไร้ร่องรอย ราวกับภูตผี!

 

“ความเร็วนี่มัน…”

 

แน่นอนว่าคนของพันธมิตรขวานปฐพีทั้งหลายไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะโผล่ออกมาจากอากาศว่างเปล่าจริงๆ

 

เหตุเพราะพริบตาเดียวกันกับที่มันเห็นร่างดังกล่าวโผล่ขึ้นในอากาศเบาบาง พวกมันก็สัมผัสได้ถึงสายลมเย็นเยียบหนึ่งพัดผ่านมาจากด้านหลัง

 

ทว่าในบรรดาพวกมัน ที่ส่วนใหญ่อยู่ในขอบเขตเซียนนภาขั้นเชี่ยวชาญ กระทั่งบางคนยังบรรลุถึงขอบเขตเซียนนภาขั้นสูงสุด กระทั่งที่พลังฝึกปรือต่ำสุดก็รั้งอยู่ในเซียนนภาขั้นกลาง แต่ทั้งหมดกลับไม่มีใครแลเห็นความเคลื่อนไหวของชายหนุ่มในชุดสีม่วงได้สักคนว่าอีกฝ่ายมาปรากฏตัวเบื้องหน้าพวกมันได้อย่างไร

 

‘ผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนสวรรค์!’

 

ความคิดดังกล่าวผุดขึ้นในใจของพันธมิตรขวานปฐพีทั้ง 9 แทบจะพร้อมเพรียงกัน!

 

ด้วยเหตุนี้หน้าของพวกมันจึงเปลี่ยนสีไปอย่างร้ายแรง

 

บัดซบ!

 

คนที่พวกมันติดตามมาอยู่นานสองนานที่แท้เป็นตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์!

 

ที่พวกมันเห็นอีกฝ่ายเป็นเซียนปฐพีขั้นสูงสุด ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะความเร็วที่อีกฝ่ายใช้ในการเหินบิน!

 

มาตอนนี้พวกมันตระหนักได้ว่าอาจเป็นอีกฝ่ายจงใจ!

 

เผลอๆอีกฝ่ายอาจจะพบตัวพวกมันแต่แรกแล้ว!

 

แน่นอนว่าผู้ที่ราวกับจะผุดโผล่ออกมาจากอากาศวว่างเปล่าต่อหน้าพันธมิตรขวานปฐพีทั้ง 9 ก็คือต้วนหลิงเทียนนั่นเอง

 

ด้วยเขาบังเกิดความคิด ‘เชิญท่านลงไห’ จึงล่อทั้ง 9 ให้มาติดกับที่นี่

 

“พวกเจ้า…มาจากพันธมิตรขวานปฐพีงั้นเหรอ?”

 

ต้วนหลิงเทียนที่ซ่อนตัวจับตาดูพวกมันอยู่พักหนึ่ง ย่อมได้ยินบทสนทนาของพวกมันเช่นกัน!