บทที่959 ตัวตายตัวแทน

Mars เจ้าสงครามครองโลก

Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่959 ตัวตายตัวแทน
เย่เซิ่งเทียนจัดวางงานเตรียมไว้เรียบร้อย คอยแต่รอไอ้หมาแก่เหล่าเฟิงตัวนั้นเข้ามาหา

จะตัองทำให้ได้ว่าใส่ทีเดียวจบ ไม่ต้องให้คนอื่นได้รู้เห็น ต้องให้ได้แบบนี้ แผนต่อไปของเขาจึงดำเนินต่อได้อย่างสะดวก

เวลาผ่านไปเป็นนาทีจากวินาที เย่เซิ่งเทียนรออยู่อย่างอดทน

เหล่าเฟิงเดินเข้ามาอย่างไม่พอใจ ใจพกพาความอยากจะเอาเรื่องกับเย่เซิ่งเทียนเข้ามา

“คุณชายเย่ เที่ยวนี้จะเอาอะไรอีกหละ?ทรัพยากรมูลค่าสิบล้านล้าน ไม่ใช่ว่าจะใช้หมดไปอย่างรวดเร็วขนาดนี้มั้ง?”

น้ำเสียงเหล่าเฟิงเต็มไปด้วยความข้องใจ

เย่เซิ่งเทียนรีบตีสีหน้ายิ้มระรื่นเข้าไปพูดว่า “ท่านเฟิง ทรัพยากรยังเหลืออยู่ไม่น้อย ฉันเรียกท่านมา ก็เพียงอยากขอปรึกษาอะไรสักเรื่องหนึ่ง ท่านขอเชิญเข้ามาก่อน”

เหล่าเฟิงสะบัดเสียงฮึอยู่ในใจ

รีบ ๆ ผนึกมวลสารทิพย์ให้ได้เถอะ ถึงเวลาจะดูว่าไอ้เด็กสายพันธุ์มั่วอย่างแกจะตายยังไง

เหล่าเฟิงไม่เคยระแวง และจะสงสัยก็ไม่เคยเลย เย่เซิ่งเทียนมีหรือจะลงมือทำอะไรเขา

ที่นี่มันบ้านตระกูลเซียว เย่เซิ่งเทียนกล้าจะเล่นไม่ซื่อรึ มีหลากหลายวิธีที่จะจัดการเขาได้

เย่เซิ่งเทียนปิดประตูอย่างเงียบเชียบ ตอนนี้เหล่าเฟิงหันหลังให้เขาอยู่ กำลังจะนั่งลง

“คุณชายเย่ ท่านมีเรื่องอะไรหรือ?ว่ามา ด….”

เขาพูดยังไม่ทันจบ เย่เซิ่งเทียนที่อยู่ข้างหลัง ลงมือในฉับพลัน ทุ่มกำลังลงไปเต็มที่ อัดกำปั้นใส่ลงกลางหัวสมองเหล่าเฟิง

“แก….”

แววตาเหล่าเฟิงส่อแสดงถึงอาการงุนงง ผวากลัว อารมณ์สับสนไม่รู้อะไรเป็นอะไร

ตัวร่างทรุดลงกับพื้นชักกระตุก สัญญาณชีพค่อย ๆ หลุดหายไป

เขาตายไปอย่างยังคิดไม่ออก เย่เซิ่งเทียนทำไมถึงต้องลงมือกับเขา ณ ที่นี้ด้วย!

“เจ้าหมา เรื่องของแม่ฉันในปีนั้น แกก็มีส่วนร่วมไม่น้อยนะ?”

เย่เซิ่งเทียนยิ้มเยือก จัดการเก็บซากศพของเหล่าเฟิง ถอดเอาเสื้อผ้าของเขาออก ใส่สวมเข้ากับตัวเองอย่างเร่งด่วน

หลังจากนั้นก็ใช้《วิชาพันหน้า》เริ่มจัดการนวดปั้นหน้าของตัวเอง ควบคุมจัดโครงกระดูกทั้งตัว แปลงร่างจนเหมือนเหล่าเฟิง

ที่ผ่านมาหนึ่งเดือนกว่า เย่เซิ่งเทียนคอสังเกตุดูลักษณะของเหล่าเฟิง บุคลิกจุดเด่นนิสัย เลียนแบบมาได้อยู่พอสมควรทีเดียว

แม้กระทั่งเวลาเหล่าเฟิงก้าวเท้าออกเดิน จะถนัดก้าวเท้าข้างไหนออกก่อน การแสดงออกทางสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไปแต่ละอารมณ์ เขาก็เลียนแบบไว้หมด

ช่วงเวลาระยะนี้ นอกจากใช้ไปในการฝึกวิชา ก็เอาเวลามาหัดเลียนแบบเหล่าเฟิง เป้าหมายก็คือ วันนี้นี่แหละ!

หน้าตารูปร่างแปลงจนเหมือนเหล่าเฟิงทั้งหมดแล้ว เย่เซิ่งเทียนจัดแจงโกนผมตัวเองทิ้งจนเกลี้ยง นำเอาผมสีขาวดอกเลาของเหล่าเฟิงทำเป็นวิกผมสวมใส่กับตัวเอง

หลังจากนั้นก็หนวดเครา ขนคิ้วต่าง ๆ

ทั้งหมดเตรียมเสร็จพร้อมสรรพ จัดการกำจัดซากศพของเหล่าเฟิงทิ้ง เย่เซิ่งเทียนงอเอวลงเล็กน้อย รูปร่างก็ดูค่อมงอลง

จนถึงตอนที่เขาออกจากที่พักอีกครั้ง ก็ได้กลายเป็นเหล่าเฟิงเต็มตัว

“ขั้นต่อไป ก็เอาข่าวเรื่องทรัพยากรมูลค่าสามสิบล้านล้าน กระจายเปิดเผยออกไป ให้คนในตระกูลเซียวรู้กับให้หมด”

มุมปากเย่เซิ่งเทียนปาดรอยยิ้มหนาวเยือกออกมา

ก่อนหน้านี้เหล่าเฟิงเคยได้บ่นปรับทุกข์ให้เขาฟัง บอกว่าคนในตระกูลเซียวได้เคยมีเสียงโจษจานไม่พอใจกันแล้ว แต่ถูกเซียวเทียนเฉิงบีบบังคับจนต้องเงียบไป

เวลานี้ ทรัพยากรมูลค่าสามสิบล้านล้านที่เป็นตัวเลขขาดดุลนี้ถ้าแพร่กระจายออกไป คนตระกูลเซียวจะยังไม่บ้ากันอีกหรือ?

ต่อให้ลูกชายแท้ ๆ ของเซียวเทียนเฉิง ก็ยังจะเจ็บแค้นเซียวเทียนเฉิงไปด้วยมั้ง?

ในเมื่อทรัพยากรที่ใช้ในการฝึกวิชาของทุกคนในตระกูลเซียว ถูกบั่นทอนหายไปถึงสี่ส่วน!

เย่เซิ่งเทียนพุ่งเป้าไปก่อนเลยที่ลูกชายคนโตของเซียวเทียนเฉิง เซียวจิ่ง

เขาก็เป็นหนึ่งในอัจฉริยะของตระกูลเซียว ขณะเดียวกันก็เป็นผู้สืบทอดของตระกูลเซียว นอกจากเซียวเทียนเฉิง เขาคือผู้ที่มีอำนาจออกเสียงมากที่สุด

หลังจากนั้น ก็จะเป็นเครือสาแหรกอื่น ๆ ของตระกูลเซียว
แต่ไหนแต่ไรมาเซียวเทียนเฉิงบริหารงานออกจะเผด็จการ ในตอนที่ขึ้นมานั่งตำแหน่งใหม่ ๆ ได้จัดการกดดันเครือสาแหรกญาติค่อนข้างรุนแรง ตอนหลังค่อยเพลามือลงบ้าง แต่เครือสาแหรกญาติอื่น ๆ ก็ยังมีความแค้นเคืองเซียวเทียนเฉิงกันอยู่

ข้อมูลข่าวของเหย้ซูหลิงบอกว่า ตอนนั้นแม่บังเกิดเกล้าของเซียวเทียนเฉิง ก็ได้ถูกเครือสาแหรกญาติอื่น ๆ บีบคั้นถึงตาย

ตอนหลังเมื่อเซียวเทียนเฉิงขึ้นมาอยู่ในตำแหน่ง ถึงแม้ได้จัดการสังหารตัวหัวโจกหลายคนนั้นไปแล้ว และเข้าคุมอำนาจบังคับกลุ่มเครือญาติไว้หมด แต่ความขัดข้องหมองหมางใจของทั้งสองฝ่ายก็ยังคงอยู่ตลอดมา

นี่ ก็คือจังหวะโอกาสของตัวเอง!

เย่เซิ่งเทียนมาถึงลานโถงบ้านของเซียวจิ่ง ก็เดินตรงเข้าไปข้างใน

คนรับใช้ทั่วไปเห็นเป็นเหล่าเฟิงเข้ามา ต่างรีบทำการคำนับ

“นายน้อยอยู่ไหม?”

เย่เซิ่งเทียนผงกหัวเล็กน้อย

คนรับใช้รีบตอบว่า “นายน้อยอยู่ในห้องหนังสือ”

เย่เซิ่งเทียนก็ไปตามทางเดินถึงห้องหนังสือ เคาะประตู พูดว่า “นายน้อย ฉันผู้เฒ่ามีเรื่องจะขอปรึกษากับนายน้อย”

แผนการ ก็จะเริ่มขึ้นแล้ว

สำเร็จหรือไม่สำเร็จ ประเด็นสำคัญต้องดูที่เซียวจิ่งนี่แล้ว!