มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 821
ผู้โดดเดี่ยวทุกคนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง ในตอนนั้นถังอันจึงคิดว่าเขาเป็นคนโดดเดี่ยว ดังนั้นเขาจึงสุภาพและให้เกียรติเขามาก

แต่เมื่อเขากำลังจะปฏิเสธ จู่ ๆ เขาก็คิดได้เขาไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับป่าหินแดงนองแม้แต่น้อย ถ้าเขาสามารถมีคน ๆ หนึ่งที่จะไปกับเขาได้ อาจจะลดเรื่องยุ่งยากได้มากมาย

เมื่อเห็นว่าหลัวซิวไม่พูดอะไร ชายชราร่างผอมอ่อนแอก็ดูเหมือนจะสามารถเห็นสิ่งที่เขาคิดในใจได้ เขาพูดช้าๆ ว่า “เมื่อก่อนข้านี้เคยมาที่นี่สองครั้งแล้ว ข้าดูแล้วว่าผลการฝึกตนของเจ้าก็ไม่เลว พวกข้ามาเข้าร่วมกัน โอกาสจะได้สมบัติก็มีมากขึ้น”

เหตุผลที่เขากล่าวว่าผลการฝึกตนของหลัวซิวไม่เลว เพราะเขาไม่สามารถมองผลการฝึกตนของหลัวซิวได้ จากมุมมองของชายชราร่างผอม ผู้คนในแดนดารานอกที่ทำให้เขาไม่สามารถมองเห็นความแข็งแกร่งได้ ย่อมมีคุณสมบัติที่จะร่วมมือกับเขาได้อย่างแน่นอน

“ข้าชื่อซิวหลัว” หลัวซิวพยักหน้า ตัดสินใจร่วมมือกับชายชราคนนี้ชั่วคราว

“ข้าชื่อ จู่ฉิว”ชายชราร่างผอมก็บอกชื่อของเขาเช่นกัน

“ไปกันเถอะ”

จู่ฉิวเหลือบมองหลัวซิวแล้วเดินไปที่ป่าหินแดงนองทันที ร่างกายอ่อนแอ แต่ทุกย่างก้าวที่เขาเดิน พื้นดินดูเหมือนจะหดเข้าใกล้กัน ในไม่ช้าก็หายไปในป่าหินที่เต็มไปด้วยหมอกสีแดง

หลัวซิวก้าวตามไป ดวงตาเป็นประกายเล็กน้อย เมื่อครู่นี้ ฝีเท้าที่ จู่ฉิวแสดงให้เห็นมีความลึกลับของกฎปริภูมิ

เห็นได้ว่าชายชราร่างผอมคนนี้เป็นปรมาจารย์ผู้แข็งแกร่งในการฝึกฝนกฎปริภูมิที่

ป่าหินแดงนองนั้นเต็มไปด้วยสีเลือด ไม่ว่าจะเป็นหิน หมอก หรือแม้แต่พื้นดินก็เป็นสีแดง

ในหมอกสีเลือดที่ปกคลุมอยู่ในอากาศ พื้นดินเป็นสีแดงเหมือนเลือด ดินตาย

หลัวซิวมาสถานที่แย่ๆแห่งนี้เป็นครั้งแรก เขาไม่รู้ว่าที่นี่มีอันตรายอะไร เขาแค่เดินตาม จู่ฉิวซึ่งเป็นผู้นำทาง

“เจ้ามาที่นี่ครั้งแรกหรือ?” จู่ฉิวหยุดกะทันหันและหันกลับไปมองหลัวซิว

ร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วยแสงสีเงิน-ขาว ปิดกั้นหมอกสีเลือดที่มีฤทธิ์กัดกร่อนเป็นอย่างมากให้ห่างจากร่าง

“ใช่” หลัวซิวไม่ปิดบัง เพราะเขาไม่คุ้นเคยกับพื้นที่ที่นี่ และก็ง่ายที่มองออกว่าเป็นครั้งแรกที่เขามาที่นี่

“ที่นี่แปลกประหลาดมาก ถ้าเจ้าไม่เคยมาที่นี่ ระวังตัวด้วย” จู่ฉิวกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ขรึมและไม่พูดอะไรอีก

“แปลกประหลาด?”หลัวซิวงงเล็กน้อย ไม่รู้ว่า จู่ฉิวหมายถึงอะไร ม้วนหยกที่ ถังอันมอบให้เขาไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้

“ฮือ ฮือ ฮือ…”

ทันใดนั้น หมอกเหลือดที่อยู่รอบๆ ก็เคลื่อนไหว เกิดเหมือนผีกำลังร้องไห้

“มฤตยูโลหิต?”สีหน้าของ จู่ฉิวเปลี่ยนไปกะทันหัน และนี่เป็นครั้งแรกที่หลัวซิวเห็นการเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าบนของชายชราคนนี้

หลัวซิวไม่มีเวลาแม้แต่จะถามว่ามฤตยูโลหิตคืออะไร เขาก็รู้สึกถึงเจตนาฆ่าราวกับมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ไพศาลแผ่ขยายไปทั่ว และหมอกเลือดที่อยู่รอบๆ ก็หมุนตัวอย่างรวดเร็ว ก่อตัวเป็นวังวนสีแดงเลือด

“ปกป้องด้วยสุดกำลัง!”

จู่ฉิวมีเวลาพูดได้ทันแค่นี้ จากนั้นก็โยนเตากลั่นสีดำออกไปพร้อมกระโดดเข้าไป

บูม! บูม! บูม! …

เจตนาฆ่าที่น่าสะพรึงกลัวในมฤตยูโลหิต ดูเหมือนจะกลายเป็นร่างที่มีตัวตน คล้ายใบมีดแหลมคมกระแทกลงบนเตากลั่นสีดำ ทำให้เกิดเสียงดัง

เจตนาฆ่าไร้ที่สิ้นสุด ทำให้หลัวซิวเกรงขามขึ้นทันที และโยนเตาทยานนภามังกรคู่ออกมา

“แคร่ง! แคร่ง! แคร่ง!…”

เจตนาฆ่าราวกับกระบี่และดาบ ฟันลงบนเตาทยานนภามังกรคู่จนเกิดประกายไฟ ทำให้เกิดเสียงดังกึกก้อง

มังกรเขียวสองตัวบนกำแพงเตาบินออกมา แต่ก็ถูกเจตนาฆ่าที่มองไม่เห็นฟันจนแหลกไปในทันที เตากลั่นได้รับความเสียหาย สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และแสงก็สลัวลง