ตอนที่ 1006 เจอกันอีกแล้ว

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

กู้ไป๋อีมองดูแผนที่ม้วนไผ่โบราณหนัก ๆ ในมือก็ตกใจผงะไปเล็กน้อย

“คุณหนูใหญ่เป็นนักปรุงยา ของสิ่งนี้มีค่ากับคุณหนูใหญ่มาก ข้าตามหาของสิ่งนี้ไม่เจอก็ไม่เป็นไร คุณหนูใหญ่ไม่จำเป็นต้องมอบมันให้ข้า”

มู่เฉียนซีกล่าว “แผนที่นี้ข้าจำรายละเอียดข้างในได้หมดแล้ว ฉะนั้นข้าไม่จำเป็นต้องใช้มันแล้ว”

“แต่หากคนอื่นหาหม้อเทพนิรันดร์เจอ คุณหนูใหญ่ก็ไม่มีโอกาสที่จะได้มันมาแล้วนะขอรับ”

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่นักปรุงยา แต่เขาก็รู้ดีว่าสำหรับนักปรุงยาแล้วนั้น หม้อเทพนิรันดร์แสดงให้เห็นถึงสิ่งใด

“ก็แค่แผนที่ม้วนเดียว จะหาหม้อเทพนิรันดร์เจอได้ง่าย ๆ เช่นนั้นเลยเหรอ เจ้ารับมันไว้เอาไปแลกกับประโยชน์ของเจ้าเถอะ ไม่ต้องเกรงใจข้า”

แผนที่นี้ไม่ใช่แผนที่ม้วนนั้นของตระกูลเย่ เย่เฉินรู้ดี

นายท่านเป็นเจ้านายของท่านหม้อเทพนิรันดร์ เกรงว่าแผนที่ม้วนไผ่โบราณทั้งสามม้วน นางล้วนแต่หาเจอครบแล้ว

ถึงอย่างไรมู่เฉียนซีก็เป็นคนยัดแผนที่ม้วนนี้ให้กับกู้ไป๋อี ต่อให้กู้ไป๋อีอยากจะปฏิเสธก็คงจะไม่ได้

ของทุกอย่างในคลังเก็บของล้ำค่าของตระกูลเย่ล้วนแต่ก็เก็บเอาไปทั้งหมดแล้ว มู่เฉียนซีกล่าว “เย่เฉิน ไปกันเถอะ!”

“อืม!”

ตูม ปัง ปัง! คนเหล่านั้นที่ถูกกลไกทำร้ายจนบาดเจ็บทรมาน ในที่สุดก็ออกมาจากห้องลับได้แล้ว

พวกเขาจ้องเขม็งไปที่ประตูใหญ่นั้นด้วยความโหดเหี้ยม “ข้ามีชีวิตอยู่มานานหลายปีเช่นนี้ นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะถูกเจ้าเด็กนั้นเล่นอุบายใส่เอาได้”

“ที่นี่เป็นคลังเก็บของล้ำค่าของตระกูลเย่ คนของตระกูลเย่ไม่เป็นอันใดแน่นอน แต่ข้าไม่เชื่อซะหรอกว่าพวกมันจะอยู่ในนั้นตลอดชีวิตไม่คิดจะออกมา”

“รอก่อน พวกมันต้องออกมาแน่!”

เย่เฉินกล่าว “นายท่าน รอให้ข้าล่อพวกมันไป พวกท่านก็รีบหนีไปให้เร็วที่สุด”

มู่เฉียนซีขมวดคิ้วขึ้น “ล่อศัตรู? รอให้ถูกพวกมันฆ่าตายหรือรอตายไปกับพวกมันล่ะ กว่าข้าจะได้ลูกน้องที่ได้อย่างเจ้ามามันไม่ง่ายเลย ข้าก็ไม่อยากให้คนเหล่านั้นฆ่าเจ้าไปง่าย ๆ หรอกนะ”

“แต่ว่า…” คนเหล่านั้นรับมือได้ยากนัก

มู่เฉียนซีกล่าว “จะไม่เกิดอันใดขึ้นแน่นอน”

นางเอาเม็ดยาโชคลาภตี้หลินออกมาเม็ดหนึ่งและกลืนลงไป และในตอนนี้เย่เฉินก็รับรู้ได้ว่าพลังของมู่เฉียนซีนั้นแข็งแกร่งขึ้นมาไม่น้อยเลย

นายท่านที่มีพลังเพียงแค่จักรพรรดิแห่งภูตระดับห้าก็สามารถต่อสู้กับมหาจักรพรรดิระดับห้าได้ เช่นนั้นการที่พลังของนางถึงขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตเช่นนี้ นางจะสามารถต่อสู้กับคู่ต่อสู้ระดับใด? เย่เฉินไม่อยากจะจินตนาการเลย

ทว่า ภายในชั่วพริบตาเดียวพลังก็เพิ่มขึ้นมาหลายระดับเช่นนี้ ผลกระทบที่ตามมามันจะไม่ดีต่อนายท่านหรือไม่?

เหมือนอ่านความคิดของเย่เฉินได้ มู่เฉียนซีจึงกล่าวว่า “วางใจเถอะ ข้าเป็นนักปรุงยานะ”

เย่เฉินได้ยินเช่นนี้ก็วางใจไปเปราะหนึ่ง นายท่านของเขาไม่เพียงแต่จะเป็นนักปรุงยาเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้ทำพันธสัญญากับนักปรุงยาอย่างหม้อเทพนิรันดร์อีกด้วย ยาเม็ดเดียวไม่มีทางทำอันใดนางได้

“พวกมันจะออกมาแล้ว!”

ในขณะที่มู่เฉียนซีเดินมาที่ประตู กลุ่มคนที่อยู่ด้านนอกเหล่านี้ก็รับรู้ได้

“หึ หึ! ข้านึกว่าพวกมันจะมุดหัวอยู่ในนี้เป็นเดือน ๆ ซะอีก นึกไม่ถึงว่าจะอดใจรอไม่ได้เช่นนี้”

“เก็บเจ้าเด็กตระกูลเย่นั้นไว้ ส่วนคนอื่น ฆ่าได้เลย! เพื่อไม่ให้มันได้เล่นอุบายอันใดอีก”

“……”

มู่เฉียนซีและพวกก็เดินออกมาเช่นนี้ มู่เฉียนซีหรี่ตามยิ้มพลางกล่าวว่า “พวกเราเจอกันอีกแล้วนะ”

สายตาของพวกเขาพลันโหดเหี้ยมขึ้น “เหอะ เหอะ เหอะ! พวกเราเจอกันอีกแล้ว แล้วพวกเจ้าก็ถึงเวลาตายแล้วด้วย!”

พวกเขาลงมืออย่างไม่รีรอ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าความเร็วของมู่เฉียนซีจะเร็วกว่าพวกเขามาก

เสียงอันเย็นชาเสียงหนึ่งตะโกนขึ้น “ทักษะโยวหลัว!”

ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!

พลังอันทำลายล้างได้โจมตีพวกเขาอย่างไม่ทันได้ตั้งรับ

ปัง!

เลือดในร่างกายของพวกเขาพลุ่งพล่านขึ้น พวกเขามองไปที่สาวน้อยผู้นี้ด้วยความประหลาดใจและกล่าวว่า “เป็นไปได้ยังไง?”

เห็นได้ชัดว่าพลังของนางก่อนหน้านี้ไม่ได้แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ แต่การโจมตีในเมื่อครู่ นึกไม่ถึงเลยว่าจะร้ายกาจถึงเพียงนี้

มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “อืม! เมื่อครู่ข้าเข้าไปในคลังเก็บของล้ำค่าของตระกูลเย่มา ได้กินยาดี จู่ ๆ พลังก็แข็งแกร่งขึ้นเช่นนี้ มดปลวกอย่างพวกเจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า ยอมจำนนซะเถอะนะ!”

คำพูดของมู่เฉียนซีนั้นเฉยเมยเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีท่าทางของการขมขู่เลยแม้แต่น้อย

ยิ่งเป็นเช่นนี้กลับยิ่งทำให้คนเหล่านั้นใจสั่นมากขึ้น

สาวน้อยผู้นี้จะต้องกินยาดีไปจริง ๆ แน่ มิเช่นนั้นไม่มีทางแข็งแกร่งได้เช่นนี้แน่นอน

“ต่อให้นางจะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งแล้วยังไงเล่า พวกเราต้องการแผนที่ม้วนไผ่โบราณของหม้อเทพนิรันดร์ ไม่ต้องการอย่างอื่นกลับไป พวกเราที่หายตัวมานานหลายปีเช่นนี้แล้วยังจะมีสถานะอันใดเหลืออยู่อีก”

“ใช่ เราต้องนำความดีความชอบกลับไป พวกเราถึงจะได้มีอำนาจในการพูดอันใดมากขึ้น”

“……”

พวกเขาลงมืออย่างไม่ยอมตัดใจ มู่เฉียนซีและพวกได้แยกกันรับมือกับศัตรู

ทันใดนั้นเองพวกเขาทั้งสามคนก็ได้โรยผงสีดำออกมา และใบหน้าของคนเหล่านั้นก็ยิ่งทวีความเคร่งเครียดมากขึ้น

“บัดซบ! พวกมันวางยาพิษ!”

นอกจากพลังจะเพิ่มขึ้นแล้ว ก่อนที่จะออกมามู่เฉียนซีได้เตรียมของเอาไว้ไม่น้อยเลย

มีสมุนไพรวิญญาณที่อยู่ในคลังเก็บของล้ำค่าของตระกูลเย่ วัสดุในการปรุงยาพิษครบครัน นางคันไม้คันมือจึงปรุงออกมาไม่น้อย

ยาพิษเหล่านี้ที่นางปรุงออกมาเพียงพอที่จะจัดการกับคนเหล่านี้

ค่อก ค่อก ค่อก!

“……”

อยู่อาศัยที่หุบเขาตระกูลเย่มานานหลายปีแล้ว อันที่จริงพวกเขาก็มีความสามารถในการต้านพิษอยู่บ้าง

ทว่า พิษของมู่เฉียนซีนั้นร้ายแรงมาก ทำให้พวกเขาทุกข์ทรมานเป็นอย่างยิ่ง

ทันทีที่กระบี่มังกรเพลิงขยับ เปลวไฟอันแดงฉานก็ได้ส่องสว่างขึ้นทั่วทั้งเขตต้องห้ามของตระกูลเย่

มู่เฉียนซีตะโกนอย่างเย็นชาว่า “บัวแดงพิฆาต!”

ปัง! ในขณะที่บัวอัคคีสีแดงฉานนั้นพุ่งเข้ามา ต่อให้เป็นยอดฝีมือขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตก็ไม่อาจต้านทานได้

ร่างของคนผู้นั้นกระเด็นลอยออกไป

พรวด! เสียงกระอักเลือดดังก้องขึ้น

เขาอยากพลิกตัวกระโจนรับมือกับมู่เฉียนซี แต่สุดท้าย…

ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ! เข็มยาหลายเข็มปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว และได้ปักเข้าตรงจุดฝังเข็มบนร่างของเขา ทำให้เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

ตุบ! ร่างของเขาแข็งทื่อ ล้มลงกระแทกกับก้อนหินก้อนหนึ่งจนก้อนหินก้อนนั้นแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ

พรวด พรวด พรวด! เขากระอักเลือดคำโตออกมาอย่างต่อเนื่อง เลือดสีแดงสดเหล่านั้นได้ย้อมก้อนหินตรงนั้นจนแดงฉาน

“พี่ใหญ่!”

“……”

คนผู้นี้แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มของพวกเขาแล้ว เมื่อเห็นเขาถูกมู่เฉียนซีผู้ที่เป็นสาวน้อยผู้หนึ่งโจมตีจนพ่ายแพ้เช่นนี้ พวกเขาก็ตื่นตระหนกขึ้น

เดิมทีคิดว่าสาวน้อยผู้หนึ่งที่จู่ ๆ พลังวิญญาณเพิ่มขึ้นเช่นนี้จะมีกำลังในการต่อสู้ที่ไม่แข็งแกร่งนัก พี่ใหญ่สามารถจัดการนางได้อย่างแน่นอน

กลับคิดไม่ถึงเลยว่าสาวน้อยผู้นี้ไม่เพียงแต่พลังเพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่กำลังในการต่อสู้ก็น่ากลัวเช่นกัน

มู่เฉียนซีกล่าว “พวกเจ้าถูกขังไว้ที่นี่นานเกินไปแล้ว ร่างกายก็เสื่อมโทรมลงแล้ว กำลังในการต่อสู้ก็ไม่เท่าไหร่! จัดการไปหนึ่ง ต่อไปก็…”

พรวด! ขณะเดียวกันนั้นกระบี่อันเย็นยะเยือกของกู้ไป๋อีเคลื่อนไหวตัดผ่านอากาศ

หลังจากที่กระบี่เล่มนี้ออกมา พลังของเขาก็ฟื้นฟูกลับมาถึงขั้นมหาจักรพรรดิยอดยุทธ์ระดับหนึ่งได้อย่างราบรื่น

พลังถึงขั้นมหาจักรพรรดิยอดยุทธ์ระดับหนึ่งแล้ว กระบี่เล่มนี้ก็เปรียบเสมือนฝันร้ายของมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเจ็ดเหล่านี้!

ฆ่าได้ในกระบวนท่าเดียว และไม่อาจที่จะหลบหลีกได้

พรวด!

มู่เฉียนซีกับกู้ไป๋อีร่วมมือกันแสดงพลังอำนาจออกมา ทำให้เย่เฉินผู้ที่มีพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับหกถึงกับตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น

ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก ถึงแม้ว่าพลังวิญญาณของเขาจะเหนือกว่าพวกเขา แต่ก็ไม่อาจสู้พวกเขาได้ มู่เฉียนซีกับกู้ไป๋อีหันมองหน้ากัน เจตนาแห่งการต่อสู้นั้นเย็นชามาก กระบี่สองเล่มได้ส่องประกายขึ้น และเริ่มลงมือกับคนอื่นที่เหลือในทันที