ตอนที่ 886: การเชื้อเชิญของศาลาวิญญาณสวรรค์

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 886: การเชื้อเชิญของศาลาวิญญาณสวรรค์

ผู้อาวุโสทั้งสองรู้สึกตกใจทันทีเมื่อพวกเขาได้ยินว่าพวกเขาได้รับคำเชิญจากศาลาวิญญาณสวรรค์ในฐานะแขกจากผู้อาวุโสประจำศาลา แม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้อาวุโสของศาลาเทพเจ้าอสรพิษ แต่มันก็เป็นเพียงตำแหน่งเท่านั้น พวกเขาไม่มีอำนาจเพราะพวกเขาเป็นผู้อาวุโสธรรมดาของศาลาเท่านั้น ทำไมผู้อาวุโสประจำศาลาวิญญาณสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ถึงได้มาเชิญพวกเขา ? พวกเขาตกตะลึงมาก

อย่างไรก็ตาม ผู้อาวุโสทั้งสองก็ขมวดคิ้วอย่างรวดเร็ว หนึ่งในนั้นพูดออกมาว่า “กรุณาแจ้งท่านผู้อาวุโสประจำศาลาที่เคารพด้วยว่า พวกเราซาบซึ้งมากในการเชื้อเชิญของท่านผู้อาวุโสประจำศาลา แต่พวกเราในตอนนี้มีเรื่องสำคัญที่ต้องไปทำ พวกเราไม่มีเวลาในตอนนี้ ทำไมไม่ให้พวกเราไปเยี่ยมหลังจากที่พวกเราจัดการเรื่องของพวกเราเสร็จแล้วล่ะ ? “

เซียนราชาชราจากเผ่าเฉินหยางขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดอย่างไม่สบายใจ “ท่านผู้อาวุโส นั่นอาจจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่ ผู้อาวุโสประจำศาลาของพวกเราต้องการที่จะพบผู้อาวุโสทั้งสองในตอนนี้ พวกท่านผู้อาวุโสทั้งสองต้องการจะบอกปัดคำเชิญของท่านผู้อาวุโสประจำศาลา และให้ท่านรอพวกท่านเพียงเพราะว่าท่านไม่สนใจท่านผู้อาวุโสประจำศาลาอย่างนั้นหรือ ? ” น้ำเสียงของชายชราเริ่มค่อนข้างเครียดในตอนท้าย เขาได้รับคำสั่งเด็ดขาดมาจากผู้อาวุโสประจำศาลาให้เชิญผู้อาวุโสทั้งสองไปที่ศาลาให้ได้ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม อย่างไรก็ตาม เผ่าเฉินหยางไม่มีกำลังพอที่จะไปข่มขู่พวกเขา ดังนั้นเขาจึงต้องอ้างชื่อของผู้อาวุโสประจำศาลา

ท่าทางของผู้อาวุโสทั้งสองเปลี่ยนไปเล็กน้อย พวกเขาอธิบายออกไปทันที “ไม่ใช่ ไม่ใช่ พวกเราไม่ได้หมายความเช่นนั้น พวกเราจะให้ท่านผู้อาวุโสประจำศาลาที่เคารพรอพวกเราอย่างนั้นได้เช่นไร ? พวกเรานั้นปิติยินดีมากที่ได้รับคำเชิญจากผู้อาวุโสประจำศาลา มันเป็นไปได้อย่างไรที่พวกเราจะไม่สนใจท่านผู้อาวุโสประจำศาลา ? ” ผู้อาวุโสทั้งสองของศาลาเทพเจ้าอสรพิษไม่กล้าที่จะทำให้ผู้อาวุโสประจำศาลาของศาลาวิญญาณสวรรค์โกรธ คนที่เป็นผู้อาวุโสประจำศาลาได้ต้องเป็นจอมยุทธที่ทรงพลังอย่างน่ากลัวแน่ พวกเขาทั้งหมดเป็นขั้นสูงสุดของ 16 ดาวและเหลืออีกนิดเดียวเท่านั้นก่อนที่จะเป็น 17 ดาว

ชายชราของเผ่าเฉินหยางยิ้มอย่างมีเลศนัยและทำท่าผายมือต้อนรับไปที่พวกผู้อาวุโสทั้งคู่ เขาพูด “ถ้าเป็นแบบนั้น ถ้างั้นพวกเราไปกันเถอะ พวกเราทั้งสี่คนจะนำทางท่านผู้อาวุโสทั้งสองไปเอง เพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นมารบกวนท่านผู้อาวุโสทั้งสอง”

ผู้อาวุโสทั้งสองของศาลาเทพเจ้าอสรพิษมองหน้ากันและกันก่อนจะถอนหายใจออกมาเบา ๆ พวกเขาทำได้แค่เลิกไล่ตามพวกเจี้ยนเฉินและบินไปที่ศาลาวิญญาณสวรรค์อย่างช่วยไม่ได้ พวกเขาทั้งสองไม่กล้าที่จะปฏิเสธหรือไม่สนใจคำเชิญจากผู้อาวุโสประจำศาลาของศาลาวิญญาณสวรรค์ได้

เซียนผู้คุมกฎทั้งสองมาถึงเมืองที่กลุ่มของเจี้ยนเฉินพักอยู่ในขณะที่ผู้อาวุโสทั้งสองกำลังถูกเชิญมาที่ศาลาวิญญาณสวรรค์โดยการนำทางของคนจากเผ่าเฉินหยาง พวกเขาเป็นจอมยุทธ 13 และ 14 ดาวจากเผ่าที่ต่างกันที่อยู่ใกล้ ๆ กัน

เซียนผู้คุมกฎทั้งสองลอยอยู่กลางอากาศพันเมตรในขณะที่พวกเขามองลงไปที่เมือง หนึ่งในนั้นพูดออกมา “สถานที่ซึ่งท่านผู้อาวุโสประจำศาลาบอกคือที่นี่แหละ พวกเขาอาจจะลบพลังแห่งการมีอยู่ของพวกเขาและซ่อนตัวอยู่ในเมือง พวกเราอ่อนแอกว่าพวกเขา ดังนั้นมันจึงยากมากสำหรับพวกเราที่จะตามหาเขาด้วยพลังของพวกเรา พวกเราไปเยือนจวนของท่านเจ้าเมืองกันเถอะ” เซียนผู้คุมกฎทั้งสองคนมุ่งตรงไปจวนของท่านเจ้าเมือง ก่อนที่จะหายไปในที่อยู่ใหญ่โต

ไม่นานหลังจากนั้น องครักษ์ทั้งหมดในเมืองถูกส่งออกไป เพื่อปูพรมรื้อค้นไปทั่วทุกสิ่งปลูกสร้างในเมือง

เสียงจากด้านนอกรบกวนเจี้ยนเฉินที่กำลังฟื้นฟูตัวเองอยู่ในโรงเตี้ยมที่พวกเขาพักอยู่

เจี้ยนเฉินลืมตาขึ้นช้า ๆ และขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาดูคร่งเครียด

ในตอนนี้เอง ประตูของห้องถูกเปิดออกมา นูบิสและซี่หวังก็เดินเข้ามา

“เจี้ยนเฉิน มียามรักษาการณ์สองสามคนกำลังดำเนินการค้นหาอยู่ข้างนอก เจ้าคิดว่าพวกเขามาเพื่อตามหาพวกเราหรือเปล่า ? ” นูบิสถามทันทีทที่เขาเข้ามาในห้อง

เจี้ยนเฉินนั่งอย่างไม่ขยับที่เตียงและพยักหน้าอย่างช้า ๆ “น่าจะเป็นแบบนั้นแหละ พวกเขามาหาพวกเราจริง ๆ ผู้อาวุโสประจำศาลาของศาลาวิญญาณสวรรค์กำลังตามหาพวกเราอยู่”

ท่าทางของนูบิสเปลี่ยนไปเล็กน้อย “อะไรนะ ? ท่านผู้อาวุโสประจำศาลาของศาลาวิญญาณสวรรค์ ? บ้าเอ้ย พวกเขาไม่รู้จักแม้แต่พวกเรา ดังนั้นทำไมพวกเขาต้องมาตามหาพวกเราด้วยล่ะ ? “

“แน่ใจนะว่าพวกเจ้าไม่ได้ไปทำให้ท่านผู้อาวุโสประจำศาลาของศาลาวิญญาณสวรรค์โกรธเข้าอีกเหมือนกัน” ซี่หวังพูดออกมาในขณะที่เขาจ้องไปที่คนทั้งสองอย่างสงสัย

“พวกเราไม่ได้ทำอะไรพวกศาลาวิญญาณสวรรค์เลย บางที่พวกเขาอาจจะมาด้วยจุดประสงค์เดียวกันกับพวกศาลาเทพเจ้าอสรพิษในเมื่อพวกเขามาตามหาพวกเราอย่างกะทันหันขนาดนี้ ? ” เจี้ยนเฉินพูดอย่างไม่เร่งรีบ เขาอดไม่ได้ที่จะคิดเกี่ยวกับกุญแจลึกลับซึ่งส่องแสงไปด้วยแสงสีฟ้าจ้าในวัตถุเซียน

“อาจจะเป็นอย่างนั้น ศาลาวิญญาณสวรรค์มีจอมยุทธที่มีความสามารถเยี่ยมอยู่มาก ทันทีที่พวกเราเข้ามาที่ดินแดนของพวกเขา พวกเขาก็ส่งบางคนมาตามหาพวกเราด้วยเหมือนกัน” นูบิสเริ่มเคร่งเครียด พวกเขาเพิ่งหนีมาจากศาลาเทพเจ้าอสรพิษได้ เขาคิดว่าเขาน่าจะปลอดภัยในตอนนี้แล้วและเขาสามารถหาที่ซึ่งจะฝึกฝนได้อย่างไม่ต้องกังวลอะไร ไม่คิดว่าพวกเขาจะมีปัญหาเข้ามาเคาะถึงประตูก่อนที่พวกเขาจะได้พักผ่อนอย่างเหมาะสม พวกเขาติดอยู่ในสถานการณ์ที่มีปัญหาอีกครั้ง

“เปิดให้ค้นหาเดี๋ยวนี้ ! ” เสียงหยาบคายดังออกมาจากด้านนอก ประตูของโรงเตี้ยมถูกเตะเปิดออกและทหารหลายคนในชุดเกราะสีเทาพิเศษก็เดินเข้ามา

พวกเขาทั้งสามมองไปที่ทหาร ทหารรู้สึกว่าหัวใจของพวกเขาถูกบีบรัดภายใต้สายตาของเซียนผู้คุมกฎแม้ว่าจะถูกพวกเขามองแค่ปราดเดียวเท่านั้น มันเหมือนว่าอากาศรอบ ๆ ตัวเขานั้นได้เปลี่ยนเป็นสูญญากาศ ทำให้พวกเขายากที่จะหายใจออกมา

หัวหน้าที่นำกลุ่มยังคงสงบและกวาดตามองพวกเขาทั้งสามด้วยสายตาเกรงกลัว เขาพูด “พวกเรามาตามคำสั่งเพื่อให้มาหาคนกระทำผิด ท่านนักรบ ขออภัยด้วย พวกเราจะไปแล้ว” หัวหน้าของกลุ่มไม่กล้าที่จะอยู่ต่อนาน เขาโบกมือแล้วก็นำทหารของพวกเขาออกจากห้องไป ก่อนที่จะปิดประตูอย่างนุ่มนวล

หลังจากนั้น หัวหน้ากลุ่มก็ออกจากโรงแรมไปและพุ่งไปยังทิศทางที่อยู่ของเจ้าเมือง

เจี้ยนเฉินยืนขึ้นอย่างช้าช้าในโรงเตี้ยมแล้วพูด “ที่อยู่ของพวกเราถูกพบเข้าแล้ว”

“พวกเราโชคไม่ดีเท่าไร ทำไมข้าถึงได้เข้ามาพัวพันในปัญหาใหญ่ทันทีที่ข้าตามพวกเจ้ามานะ ? ถูกไล่ล่าโดยศาลาเทพเจ้าอสรพิษในตอนแรกและในตอนนี้ศาลาวิญญาณสวรรค์ยังมาตามหาพวกเราอีก ถ้าข้ารู้เรื่องนี้เร็วกว่านี้ ข้าคงไม่มาร่วมทุกข์กับพวกเจ้าถึงแม้ว่าข้าจะไม่ได้เป็น 15 ดาวก็ตาม” ซี่หวังบ่นออกมาอีกข้างหนึ่ง เขากอดอกและเสียดายอยู่

นูบิสมองไปที่ซี่หวังซึ่งกำลังบ่นอยู่และหัวเราะคิกคัก “น่าเสียดายที่เจ้าไม่มีตัวเลือกอีกต่อไปแล้ว เจ้าได้ไปทำให้คนของศาลาเทพเจ้าอสรพิษโกรธเข้า ค่อนข้างแน่ว่าพวกเขาคงไม่ปล่อยเจ้าไปไม่ว่ายังไงก็ตาม แม้ว่าเจ้าจะซ่อนอยู่ในอาณาเขตของศาลาวิญญาณสวรรค์ พวกเขาก็จะมีวิธีที่จะเอาชีวิตเจ้า ทางเดียวที่เจ้าจะรอดได้คืออยู่กับพวกเราเท่านั้น”

“พวกเราอย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้กันในตอนนี้ดีกว่า พวกเราต้องไปเดี๋ยวนี้ พวกเขาเจอพวกเราเข้าแล้ว พวกเราอยู่ที่นี่นานกว่านี้ไม่ได้แล้ว” ซี่หวังพูด เขาถอยหลังกลับไม่ได้แล้ว นูบิสพูดถูก ศาลาเทพเจ้าอสรพิษจะไม่ปล่อยใครที่เป็นศัตรูและหยามเกียรติของพวกเขาไปแน่

เจี้ยนเฉินเปิดหน้าต่างออกและจ้องออกไปยังถนนที่มีชีวิตชีวาด้วยความสนใจ เขาพูด “ศาลาวิญญาณสวรรค์ตามหาพวกเราอย่างไม่มีเหตุผล ดังนั้นมันต้องไม่ดีแน่ พวกเราอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้แล้ว พวกเราต้องไปทันทีและไปที่อาณาเขตของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล พวกเราอาจจะปลอดภัยที่นั่น”

“พวกเจ้ามั่นใจหรือว่าคนของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลจะไม่สร้างปัญหาให้พวกเราอีก” ซี่หวังถามอย่างกังวล

เจี้ยนเฉินลังเล เขาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงคำที่หญิงลึกลับที่ได้ให้ไข่มุกจิตวิญญาณน้ำกับเขาพูดเอาไว้ นางเคยบอกเขาครั้งหนึ่งว่าถ้าเขาไม่สามารถอยู่ที่ดินแดนของศาลาเทพเจ้าอสรพิษได้ เขาสามารถไปที่ศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลได้แทน และมันจะปลอดภัยที่นั่น

“ข้าเชื่อว่าจะไม่มีใครสร้างปัญหาให้เราในอาณาเขตของเทพเจ้าแห่งท้องทะเล” เจี้ยนเฉินพึมพำ เขาเชื่อว่าหญิงลึกลับจะไม่ทำร้ายพวกเขา

“เอาล่ะ ข้าหวังว่ามันจะเป็นแบบนั้น ไปกันเดี๋ยวนี้เลยเถอะ” ซี่หวังพูดอย่างค่อนข้างเร่งรีบ เขาไม่ต้องการที่จะอยู่ที่นี่ต่อแม้เพียงชั่วเสี้ยววินาที ยิ่งใช้เวลาอยู่ที่นี่มากขึ้น มันก็ยิ่งเพิ่มความอันตรายมากขึ้นเท่านั้น

ในตอนนี้เอง พลังแห่งการมีอยู่ที่ยิ่งใหญ่สองดวงได้ปรากฏขึ้นมาจากทิศที่อยู่ของเจ้าเมือง สองร่างบินตรงมาที่ที่กลุ่มของเจี้ยนเฉินอยู่

พวกเขาเคลื่อนที่เร็วมาก และมาถึงที่หน้าทางเข้าของโรงเตี้ยมในเวลาไม่กี่วินาที หลังจากนั้น พวกเขาก็กลายเป็นภาพติดตาและขึ้นมาทางบันไดอย่างเร็วมาก และปรากฎขึ้นที่ห้องที่พวกเขาพักอยู่

มีชายชราสองคนที่ดูเหมือนจะอายุเกิน 60 ปี พวกเขาทั้งคู่สวมชุดสีฟ้า ในขณะที่มีผมสีฟ้าที่มัดจุกอยู่ ตาของพวกเขาลึกเหมือนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวซึ่งทำให้ยากมากที่จะอ่านสิ่งใดได้จากตาของพวกเขา

“ข้าคือต้าหาน ข้าขอคารวะท่านนักรบ”

“ข้าคือทานิสค์ ข้าขอคารวะท่านนักรบเช่นกัน”

ทันทีที่ชายชราทั้งสองคนเข้ามาในห้อง พวกเขาก็ป้องมือไปที่กลุ่มของเจี้ยนเฉินและคำนับก่อนที่พวกเขาจะทันได้เริ่มพูดเสียอีก พวกเขาดูเป็นมิตรมาก

เจี้ยนเฉิน นูบิส และซี่หวังมองหน้ากันและกัน หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็ตอบกลับเหมือนอย่างปกติ “ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าทำไมพวกท่านทั้งสองถึงได้มาตามหาพวกเราอย่างกะทันหันเช่นนี้ ? “

“ท่านนักรบ พวกเราเป็นคนจากสองเผ่าที่ต่างกันในเขตนี้ ไม่นานมานี้ พวกเราได้รับข้อความจากท่านผู้อาวุโสประจำศาลาที่เคารพมาว่า พวกเขาต้องการที่จะเชิญให้ท่านไปเยี่ยมเยียนที่ศาลาวิญญาณสวรรค์ของพวกเขา” ทานิสค์ยิ้ม

“กรุณาบอกท่านผู้อาวุโสที่เคารพของพวกท่านด้วยว่า พวกเราทั้งสามนั้นมีเรื่องสำคัญที่ต้องไปทำ ดังนั้นพวกเราจึงไม่อาจสามารถไปเยี่ยมเยียนได้ อย่างไรก็ตาม พวกเราจะแวะไปเยี่ยมและขอโทษด้วยตัวเองในอนาคตแน่นอน” เจี้ยนเฉินพูด

ต้าหานและทานิสค์แสดงท่าทีว้าวุ่น หนึ่งในนั้นพูดออกมา “ท่านนักรบ นั่นอาจจะไม่ดีเท่าไร นี่เป็นคำเชิญส่วนตัวจากท่านผู้อาวุโสประจำศาลาที่เคารพ ท่านจะปฏิเสธอย่างนั้นหรือ ? “

“กรุณาแจ้งคำพูดให้เหมือนกับที่ข้าพูดเป๊ะ ๆ ไปให้ท่านผู้อาวุโสประจำศาลาด้วย พวกเราทั้งสามมีเรื่องที่ต้องจัดการ พวกเราขอลาก่อน” เจี้ยนเฉินออกไปทันทีพร้อมกับนูบิสและซี่หวังหลังจากที่พูดไปแบบนั้น

พวกเขาได้รับความสนใจจากศาลาวิญญาณสวรรค์ทันทีที่พวกเขามาถึงที่นี่ พวกเขาไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไปแล้ว พวกเขาจำเป็นต้องจากไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ นี่เป็นเพราะสองคนที่มากหาพวกเขาในครั้งนี้เป็นเพียงเซียนผู้คุมกฎ ครั้งหน้าอาจจะมีเซียนราชาปรากฏขึ้นมาก็ได้ มันคงจะยากที่จะหนีในตอนนั้นถึงแม้ว่าพวกเขาต้องการก็ตาม