ตอนที่ 887: ปราณของผู้คุมกฎ
“ท่านนักรบ มันอาจจะไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไรที่จะปฏิเสธคำเชิญของท่านผู้อาวุโสประจำศาลาที่เคารพ” ต้าหานและทานิสค์พูดด้วยท่าทีว้าวุ่น
ภายในศาลาวิญญาณสวรรค์ การได้รับคำเชิญของผู้อาวุโสประจำศาลานั้นเป็นเกียรติอันสูงสุด มันชี้ให้เห็นถึงสถานะของคนบางบางคน การถูกเชิญแบบนี้จะทำให้คนถูกเชิญรู้สึกปีติยินดีเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีใครที่จะบอกปัดคำเชิญนั้นหรอก
ต้าหานและทานิสค์รู้สึกค่อนข้างตกใจที่กลุ่มของเจี้ยนเฉินปฏิเสธคำเชิญเช่นนี้ พวกเขาทั้งสองไม่ได้จินตนาการถึงผลลัพธ์แบบนี้
เจี้ยนเฉิน นูบิส และซี่หวังไม่สนใจพวกเขาทั้งสอง พวกเขาออกไปจากโรงเตี้ยมหลังจากที่จ่ายค่าที่พัก พวกเขาไม่อยู่อยากจะอยู่ที่เมืองนานไปกว่านี้ และออกไปจากเมืองด้วยความเร็วสูงสุดทันทีและมุ่งหน้าไปยังศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล
อาฮานและทานิสค์ขมวดคิ้วในขณะที่เขามองไปที่กลุ่มที่บินออกไป พวกเขาทำภารกิจของผู้อาวุโสประจำศาลาผิดพลาด ดังนั้นพวกเขาคงต้องกลับไปแบบนั้น พวกเขาได้แต่ดูอย่างช่วยไม่ได้ไปที่คนทั้งสามที่กำลังจากไป ความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่มากพอที่จะขัดขวางกลุ่มของเจี้ยนเฉินได้
“เราจะทำยังไงกันดี ? พวกเราจะไปรายงานท่านผู้อาวุโสประจำศาลายังไงดี ? ” ทานิสค์พูดอย่างเคร่งเครียด
ต้าหานถอนหายใจเบา ๆ “พวกเราแค่รายงานว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่มีอะไรที่พวกเราจำเป็นต้องพูดมากกว่านี้”
ต้าหานและทานิสค์ส่งข้อความไปหาผู้อาวุโสประจำศาลาโดยใช้อุปกรณ์พิเศษในการสื่อสาร และรายงานทุกอย่างที่เกิดขึ้นตามจริง
ผู้อาวุโสประจำศาลาทั้งห้าคนรวมกันอยู่ที่โถงลอยฟ้าในกึ่งกลางของอาณาเขตของศาลาวิญญาณสวรรค์ พวกเขาได้รับคำสั่งจากเจ้าศาลาให้ทุ่มเทความพยายามทั้งหมดในการตามหาผลึกอเวจี ซึ่งเป็นเหตุผลที่พวกเรามารวมกันทั้งหมดที่นี่ และกำลังพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้กันอยู่
“ดี ผู้อาวุโสทั้งสองของศาลาเทพเจ้าอสรพิษกำลังมาที่ศาลาของพวกเรา พวกเราสามารถที่จะตามหาคนที่พวกเขากำลังไล่ตามได้ก่อนที่พวกเขาจะหาพบก่อน ข้าอยากจะรู้ว่าพวกเราเดาถูกหรือไม่ พวกเราจะมีผลงานอย่างดีถ้าผลึกอเวจีอยู่กับพวกนั้นทั้งสามคน” คนที่พูดเป็นชายวัยกลางคนที่ดูมีมารยาทดี เขาใส่ชุดยาวสีขาวและดูดีมีการศึกษา เขาดูเหมือนนักปราชญ์
ชายคนนั้นชื่อว่า มูฮี เขาเป็นผู้อาวุโสประจำศาลาของศาลาวิญญาณสวรรค์ หนึ่งในจอมยุทธที่เป็นอันดับสองรองจากเจ้าศาลา
ชายชราที่อยู่ข้างข้างมูฮีหลับตา ก่อนที่จะบิดมุมปากด้วยรอยเหยียดเล็กน้อย “ข้าเพิ่งได้รับข้อความมา ข้าส่งคนบางคนไปเชิญพวกเขาทั้งสามมา แต่ไม่เพียงแต่พวกนั้นจะปฏิเสธเท่านั้น พวกเขายังหนีไปอีกด้วย พวกเขาไม่แม้แต่จะต้องการมาใกล้ ๆ พวกเรา พวกนั้นทั้งสามคนดูน่าสงสัยจริง ๆ “
“พวกเราส่งผู้อาวุโสไปเถอะถ้าเป็นแบบนั้น พวกเราต้องให้พวกเขาอยู่ที่นี่ให้ได้” มูฮีพูดอย่างสงบ
“ข้าได้ส่งผู้อาวุโส 2 คนไป อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือเรื่องระยะทาง มันจะใช้เวลาสักหน่อยที่พวกนั้นจะเดินทางไป ดังนั้นพวกเราคงทำได้แค่รออย่างอดทน ข้ามั่นใจว่าพวกเราจะได้ข่าวดีในไม่ช้านี้”
..
เจี้ยนเฉิน นูบิส และซี่หวังบินเร็วที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้ บาดแผลของเจี้ยนเฉินได้ถูกฟื้นฟูอย่างช้า ๆ จากสายพลังงานดั้งเดิมของพลังเซียนธาตุแสงของเขา ทำให้เขาฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ เขากลับมาอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อม
เจี้ยนเฉินรู้ว่าทั้งศาลาเทพเจ้าอสรพิษและศาลาวิญญาณสวรรค์มีทักษะลับสูงสุดที่จะหาได้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน การลบตัวตนนั้นไม่ได้มีประโยชน์อะไร และแม้แต่พวกเขาจะซ่อนในวัตถุเซียนก็ไม่ได้ผลเช่นกัน นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาจึงไม่เสียเวลาปิดบังตัวตนเลยแม้แต่น้อย และบินผ่านเผ่านับไม่ถ้วนที่มีขนาดแตกต่างกันไปด้วยพลังแห่งการมีอยู่ที่ยิ่งใหญ่ที่พวกเขาเปล่งออกมา พวกเขามุ่งตรงไปที่อาณาเขตของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล
ทุกเผ่าและกลุ่มในอาณาจักรทะเลนั้นถืออาณาเขตเป็นเรื่องที่สำคัญมาก พวกเขาห้ามไม่ให้ใครก็ตามบินผ่านอาณาเขตของเขาโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่งั้นมันจะเป็นการยั่วยุและเรื่องคงไม่จบลงง่าย ๆ ดังนั้น ทั้งสามคนจึงได้ไปทำให้เผ่าหลายเผ่าโกรธในขณะที่พวกเขาบินผ่านไป
อย่างไรก็ตาม พวกเจี้ยนเฉินนั้นทรงพลังมาก พวกเขาจึงได้แต่ทำเป็นเงียบและหลับหูหลับตาทันทีที่พวกเจี้ยนเฉินผ่าน ทันทีที่พวกเขาสัมผัสได้ถึงพลังแห่งการมีอยู่ของขั้นสูงสุดของ 14 ดาวจากพวกเขาทั้งหมด พวกเขาไม่ได้ตามพวกเจี้ยนเฉินไปเพราะการกระทำหยาบคายนี้
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่พวกเขาทั้งหมดที่จะกลัวคนทั้งสาม เสียงลมหวีดหวิวผ่านมา ชายชราพุ่งเข้ามาที่ท้องฟ้าทันทีด้วยพลังแห่งการมีอยู่ที่ยิ่งใหญ่ เขาไล่ตามคนทั้งสามอย่างโกรธเกรี้ยว
“เจ้าหนู เจ้ากล้าดียังไง! เจ้ากล้าที่ผ่านเผ่าชุนยูของข้า ! เจ้าดูถูกพวกเรา หยุดแล้วบอกชื่อของพวกเจ้ามาซะ ! ไม่เช่นนั้นข้าจะไม่ปราณีกับพวกเจ้าแล้วนะ ! ” ผู้นำเผ่าชุนยูคำรามออกมา เขาหลอมรวมกับมิติรอบ ๆ และไล่ตามพวกทั้งสามไปโดยใช้พลังมิติ และความเร็วของเขานั้นเหนือกว่าคนทั้งสามหลายเท่า
เผ่าชุนยูเป็นหนึ่งในเผ่าที่แข็งแกร่งที่สุดในรัศมีหลายแสนกิโลเมตร พวกเขาเทียบเท่าได้กับตระกูลโบราณของทวีปเทียนหยวน พวกเขาเป็นที่รู้จักกันดีเพราะว่าเผ่าของพวกเขามีเซียนราชา
“นั่นเป็นนักรบวิญญาณทะเล 15 ดาว ! ” ท่าทีของซี่หวังเปลี่ยนไปเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงพลังของชายชราด้านหลัง
พวกเขาทั้งสามคนรู้ว่าพวกเขาไม่สามารถหนีเซียนราชาได้พ้น ดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงหยุด นูบิสจ้องไปที่ชายชราในขณะที่เขาบินออกไปด้วยสีหน้าที่มืดมนและสบถออกมา “เจ้ากล้าที่จะทำโอหังเพียงเพราะเจ้าเป็นแค่เซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 1 ธรรมดาแค่นั้นหรือ? ให้ปู่นูบิสสั่งสอนบทเรียนให้กับเจ้าหน่อย”
จิตต่อสู้ของนูบิสพุ่งพรวดขึ้น และเขาพุ่งไปที่ชายชราด้วยพลังที่หยุดไม่ได้
ผู้นำเผ่าชุนยูคิดว่าพวกเขาทั้งสามนั้นนิ่งอึ้งไปเพราะว่าเขาเป็นนักรบวิญญาณทะเล 15 ดาว เมื่อเขาเห็นพวกนั้นทั้งสามหยุด เขานึกดีใจขึ้นมา แต่ในตอนที่เขากำลังจะตำหนิด่าพวกนั้นทั้งสาม เขากลับเห็นนูบิสพุ่งเข้ามาอย่างดุร้าย
สายตาของเขาฉายแววเย็นชาและเขาเหยียดออกมา “เข้ามาเลย เจ้าหนูไม่รู้ภาษา เจ้าต้องการที่จะท้านักรบวิญญาณทะเล 15 ดาว ทั้ง ๆ ที่เจ้าเป็นเพียงขั้นสูงสุดของ 14 ดาวเท่านั้น ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นถึงพลังของนักรบวิญญาณทะเล 15 ดาวเอง” ชายชราเหวี่ยงหมัดไปที่นูบิสในขณะที่เขาพูด
นูบิสไม่ได้กลัวเขา หมัดของเขากลายเป็นสีทองและปะทะเข้ากับหมัดของชายชราอย่างจังด้วยพลังงานมหาศาล
ตู้ม !
การปะทะกันของหมัดของพวกเขาเกือบทำให้มิติรอบ ๆ แตกกระจายและทำให้มันสั่นไหวอย่างรุนแรง พลังงานที่หลงเหลืออยู่ขยายออกไปด้านล่างซึ่งทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน ต้นไม้ด้านล่างกลายเป็นฝุ่นผงเนื่องจากพลังงานที่ทรงพลัง
พวกเขาทั้งสองยืนนิ่งไม่ขยับหลังจากที่หมัดปะทะกัน พวกเขาลอยอยู่นิ่งนิ่ง ก่อนที่จะปะทะกันอย่างแรงอีกครั้ง
“ข้าประเมินเจ้าต่ำเกินไป ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะมีกำลังที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของนักรบวิญญาณทะเล 15 ดาวได้ แม้ว่าเจ้าจะเป็นขั้นสูงสุดของ 14 ดาว” ชายชราคำรามออกมา หลังจากนั้นเขาจึงคิดและพันธนาการมิติ และทำให้นูบิสติดอยู่ในนั้น
นูบิสพ่นลมหายใจละอองพิษออกมาซึ่งปกคลุมไปทั่วร่างของชายชรา ก่อนที่จะเหวี่ยงกรงเล็บทั้งสองของออกไปเพื่อทำให้มิติแตกกระจาย
ชายชราทั้งสองไม่ทันระวังตัวและสูดเอาแก๊สพิษเข้าไป ท่าทางของเขาเปลี่ยนไปทันที พิษของอสรพิษทองริ้วเงินนั้นร้ายแรงมาก ดังนั้นแม้ว่าเขาจะเป็นเซียนราชา เขาก็ยังรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย
ในช่วงเวลาเล็ก ๆ นี้ กรงเล็บของนูบิสได้กวาดผ่านหน้าอกของชายชราไปด้วยความเร็วดุจสายฟ้า และเหลือแผลทิ้งไว้สิบกว่าแผล บาดแผลเป็นสีดำในขณะที่มีเลือดสีดำไหลออกมา พวกมันติดพิษจากมือของนูบิส
ผู้นำเผ่าชุนยูคำรามออกมา ท่าทางของเขาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เขาจ้องไปที่นูบิสด้วยความหวาดกลัว เขาไม่คิดมาก่อนว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บจากนักรบวิญญาณทะเล 14 ดาวธรรมดาได้ และการบาดเจ็บนี้ก็หนักมากด้วย
“ไปซะ เผ่าของข้าจะไม่เอาเรื่องที่เจ้าบุกรุกอาณาเขตอีกแล้ว” ผู้นำเผ่าตะโกนออกมา เขาไม่สนใจที่จะสู้ต่อและบินถอยหลังไปทันที
นูบิสเลียเลือดที่อยู่บนมือของเขา กลิ่นที่รุนแรงทำให้ความดุร้ายของสัตว์อสูรที่ซ่อนอยู่ในสายเลือดของเขาตื่นขึ้น เขาเหยียด “ข้ายังไม่เคยฆ่าเซียนราชาด้วยตัวของข้าเอง เมื่อเจ้ามารนหาที่ด้วยตัวเจ้าเอง เจ้าจะเป็นเซียนราชาคนแรกที่พลาดท่าให้กับข้า นูบิสผู้ยิ่งใหญ่”
จากที่ไกลออกมา ท่าทางของเจี้ยนเฉินเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในตอนนี้ เขาตะโกนออกมา “นูบิส พวกเราไปกันเถอะ พวกมันใกล้จะไล่ตามทันแล้ว พวกเราจะมามัวเสียเวลาไม่ได้”
ท่าทางของนูบิสก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเขาได้ยินอย่างนั้น เขาไม่สนใจผู้นำเผ่าชุนยูและเดินทางต่อไปที่อาณาเขตของศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลทันทีพร้อมกับเจี้ยนเฉินและซี่หวัง
พวกเขาทั้งสามบินต่อไปอีกครึ่งชั่วยามก่อนที่จะโดนจอมยุทธของศาลาวิญญาณสวรรค์ตามทันและหยุดพวกเขาเอาไว้
ศาลาวิญญาณสวรรค์ส่งผู้อาวุโสมาเพียง 2 คนเท่านั้น แต่พวกเขาทั้งสองเป็นถึงชั้นสวรรค์ที่ 3 พวกเขานั้นทรงพลังมากซึ่งแม้แต่นูบิสก็ไม่สามารถรับมือได้
ผู้อาวุโสทั้งสองไม่โจมตีทันที ในทางกลับกัน พวกเขาสังเกตไปที่คนทั้งสาม ก่อนที่จะหรี่ตาเล็กและก็สบถออกมา “ปราณของผู้คุมกฎ ปราณของผู้คุมกฎ มันคือปราณของผู้คุมกฎ มันอยู่บนตัวของพวกเขาจริง ๆ “
ปราณของผู้คุมกฎปกติจะปรากฏอยู่บนตัวของผู้คุมกฎของบางเผ่าเท่านั้น ไม่เพียงแต่มันจะแสดงให้เห็นถึงความผู้นำของเผ่าเท่านั้น แต่มันยังชี้ให้เห็นถึงสถานะและเป็นศูนย์รวมของความแข็งแกร่งของพวกเขา
ท่านกลางเผ่าพันธุ์ทะเล ผู้คุมกฎเหล่านี้เป็นเหมือนสัตว์อสูรโบราณท่ามกลางหมู่สัตว์อสูร เหมือนอสรพิษทองริ้วเงิน พวกเขานั้นหายากและมีศักยภาพสูงในการเจริญเติบโต ความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นน่าตกใจ และเหนือกว่าคนที่อยู่ในระดับเดียวกันมาก
อย่างไรก็ตาม ปราณของผู้คุมกฎนั้นจะสามารถมองเห็นได้ผ่านทักษะลับของศาลาทั้งสามเท่านั้นนอกเหนือจากคนที่อยู่ในเผ่าเดียวกัน คนอื่น ๆ ไม่สามารถสัมผัสได้เลย
“พวกเราเจอสองคนที่มีปราณของผู้คุมกฎในครั้งเดียวเลย” ผู้อาวุโสทั้งสองเต็มไปด้วยความยินดี พวกเขารู้ดีว่าคนที่มีปราณของผู้คุมกฎจะต้องแข็งแกร่งเท่าผู้อาวุโสประจำศาลาอย่างแน่นอน หรือระดับอาจจะสูงกว่านั้นขึ้นไปอีก เป็นเหมือนเซียนจักรพรรดิ
นี่เป็นเพราะว่าเซียนจักรพรรดิในท่ามกลางอาณาจักรทะเลนั้นทั้งหมดมีปราณของผู้คุมกฎของเผ่าบางเผ่าอยู่