ตอนที่ 1299

Alchemy Emperor of the Divine Dao

สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์ปลดปล่อยอำนาจที่ทรงพลังออกมา ปีกขนาดยักษ์ทั้งสองของเขากระพืออยู่ด้านหลังพร้อมกับเปลวเพลิงราวกับเป็นนกอมตะที่แท้จริง

นางไม่อาจยอมให้ใครมาดูถูกหลิงฮันของนางได้

ที่แห่งนี้ไม่มีจอมยุทธระดับดารา จอมยุทธระดับสุริยันจันทราทั่วไปเองก็ไม่สามารถทนต่อแรงกดดันจากนางได้ พวกเขารู้สึกว่าสตรีผู้นี้สามารถเผาพวกเขาให้เป็นเถ้าถ่านได้เพียงแต่กระพือปีก

“ฮ่าๆๆ เป็นสตรีที่เลือดร้อนยิ่งนัก จะรังเกียจรึไม่หากจะแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากับข้าหนึ่งหรือสองกระบวนท่า?” เสียงหัวเราะดังขึ้นพร้อมกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่เดินเข้ามาใกล้และจ้องมองสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนาอยากเป็นเจ้าของ

สตรีที่งดงามนั้นหาไม่ยากก็จริง แต่สตรีที่งดงามและบ่มเพาะพลังจนบรรลุระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุดได้นั้นเป็นดั่งไข่มุขล้ำค่าที่หาได้ยากยิ่ง

สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์ไม่เปิดปากพูด นางยกมือขวาควบแน่นเปลวเพลิงนับไม่ถ้วนกลายเป็นดาบ

ชายหนุ่มผู้นั้นยิ้มและกล่าว “ข้ามีนามว่าหรงเทา ไม่ทราบว่าแม่นางมีชื่อแซ่ว่าอะไร?” แม้เขาจะกล่าวว่าขอแลกเปลี่ยนกระบวนท่า แต่เขาก็ไม่ได้ต้องการปะทะกับสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์จริงๆ เขาเพียงต้องการหาเรื่องพูดคุยกับนางเท่านั้น

สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์ไม่แยแสและโจมตีใส่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

“นั่นมันเสียมารยาทไปหน่อยนะ!” หรงเทาตอบโต้สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์ด้วยพลังทั้งหมดอย่างไม่ลังเล เขาคิดจะแสดงพลังเพื่อสยบสตรีที่งดงามตรงหน้านี้ให้เร็วที่สุด

เขาพบเจอสตรีมามากมายและรู้สตรีเช่นสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์นั้นหยิ่งทะนงในตนเอง หากจะพูดหว่านล้อมให้อีกฝ่ายตกลงรักตนเองนั้นย่อมไม่มีประโยชน์ ก่อนอื่นเขาต้องโค่นนางลงให้ได้เพื่อทำลายความความทะนงตนของนาง

สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์เองก็ใช้พลั้งทั้งหมดออกไปเช่นกัน นางต้องการจัดการคู่ต่อสู้ให้เร็วที่สุดเพื่อสร้างชื่อเสียงให้หลิงฮัน

หลังจากทั้งสองเข้าปะทะห้ำหั่นกัน หรงเทาก็แสดงสีหน้าตกตะลึงออกมาเนื่องจากเขาพบว่าพลังต่อสู้ของอีกฝ่ายทรงพลังอย่างมาก… ทรงพลังจนถึงขั้นที่ว่าเขามองไม่เห็นโอกาสชนะแม้แต่น้อย

ทั้งสองมีพลังบ่มเพาะระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุดชั้นสูงสุดเหมือนกัน แต่สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์เป็นอัจฉริยะสี่ดาว ในขณะที่หรงเทาเป็นเพียงอัจฉริยะสองดาว ความต่างเพียงสองดาวนี้เพียงพอให้สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์บดขยี้อีกฝ่ายอย่างง่ายดาย

ผ่านไปไม่นานทรงเทาก็ถูกฟาดฟันด้วยดาบเพลิงจนรีบเผ่นหนีไป

สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์สลายดาบเปลวเพลิงและกล่าวอย่างไม่แยแส “ในระดับพลังเดียวกัน หลิงฮันสามารถเอาชนะข้าได้”

ว่าไงนะ!

ทุกคนอุทานออกมา ทรงเทาที่แข็งแกร่งขนาดนั้นได้พ่ายแพ้ให้กับดาบเพลิงของสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์อย่างง่ายดายทั้งๆที่ทั้งสองมีระดับพลังและความเข้าใจในอำนาจแห่งกฎเกณฑ์เท่ากัน

แต่สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์กลับปล่าวประกาศด้วยตนเองว่าตัวนางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลิงฮัน!

หลิงฮันที่ว่าแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยรึ?

อย่างน้อยชื่อของหลิงฮันก็ได้ประทับลงไปในจิตใจของพวกเขา บางทีอีกฝ่ายอาจจะเป็นอัจฉริยะหน้าใหม่ที่กำลังพุ่งทะยาน

หลิงฮันยิ้มและกล่าว “ทำไมเจ้าต้องไปเสียเวลาทำอะไรเช่นนั้นด้วย? เมื่อถึงตอนที่ข้าเหยียบย่ำอัจฉริยะผู้เข้าร่วมทุกคนและชิงอันดับหนึ่งมาครอง พวกเขาก็จะรับรู้เอง”

“ข้าแค่ทนฟังคนอื่นพูดดูถูกเจ้าไม่ได้!” สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์กล่าวด้วยท่าทีที่บ่งบอกว่าตนเองเป็นภรรยาของหลิงฮัน

หลิงฮันจิตใจสั่นสะท้านและกล่าว “เปลี่ยนสถานที่กันดีกว่า สามีผู้นี้อยากจะให้รางัวลภรรยาเสียหน่อย”

สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์กรอดตา “ถ้าเจ้ากล้า ข้าจะทุบตีเจ้า!”

หลิงฮันแสยะยิ้ม “ไม่ใช่เจ้ากล่าวเองรึว่าในระดับพลังเดียวกัน เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า?”

“นั่นข้าแค่โกหก ถ้าเจ้ากล้าแตะต้องมือหรือเท้าของข้าแม้แต่นิดเดียว ข้าจะทุบตีเจ้า!” สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์กล่าวเตือน

หลิงฮันหัวเราะและยิ้มจนถึงปลายหู “ภรรยาข้า เจ้าเชื่อไหมว่าต่อให้เป็นตอนนี้ข้าก็ปราบเจ้าได้!”

“เจ้ากล้ารึ!” สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์จ้องมองด้วยสายตาสั่นเครือ

จิตใจของหลิงฮันหวั่นไหว เขาอยากจะลงเมื่อเสียแต่ตอนนี้เลย แต่ทันใดนั้นเองเบื้องหน้าของเขาก็ก็การสั่นสะเทือนพร้อมกับเรือเหินดาราที่ลอยลงมาจากท้องฟ้า ผู้คนที่อยู่รอบด้านรีบขยับหนีอย่างรวดเร็ว

ทันทีที่เรือลงจอดและเปิดออกมา รุ่นเยาว์ผู้หนึ่งก็เดินลงมา ไม่สิ จะกล่าวว่าเป็นรุ่นเยาว์ที่อายุน้อยก็ไม่ถูก อีกฝ่ายแค่มีรูปลักษณ์เหมือนอายุสิบหกสิบเจ็ดปีเท่านั้น กลิ่นอายที่สัมผัสได้จากอีกฝ่ายทรงพลังเป็นอย่างมาก

เขาคืออัจฉริยะระดับราชา การก้าวเดินหนึ่งก้าวรุนแรงราวจะทำให้ดวงดาวสั่นไหว

“หยางหลิน!”

ใครบางคนเอ่ยชื่อของรุ่นเยาว์ผู้นั้นด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้าน

เขาคือหยางหลิน ไม่เพียงมีพรสวรรค์ในศาสตร์แห่งวรยุทธที่น่าอัศจรรย์ แต่ยังมีวาสนาที่ฝืนสวรรค์อีกด้วย เขาโชคดีได้ครอบครองอาวุธเซียนไม่สมบูรณ์ซึ่งต่อให้เป็นศัตรูระดับดาราขั้นต่ำเขาก็สามารถต่อกรได้

“หยางหลิน ข้ารักท่าน!”

“โปรดทำลูกกับข้าเถิด!”

สตรีใจเด็ดบางคนกล่าวสารภาพรักอย่างว่องไวจนน่ากลัว

หยางหลินเดินไปด้านหน้าโดยมีบุรุษและสตรีสี่คนเดินตาม กลิ่นอายของทั้งสี่คนนั้นยิ่งใหญ่ราวกับเป็นมังกรหรือนกอมตะในหมู่ผู้คน ดูจากท่าทีการเดินของพวกเขาแล้ว เห็นได้ชัดว่าทั้งสี่สมควรเป็นผู้ติดตามของหยางหลิน

น่าตกตะลึงมาก ทั้งสี่คนนั้นกล่าวได้ว่าเป็นอัจฉริยะไม่ผิดแน่ แต่พวกเขากลับยอมศิโรราบให้กับหยางหลิน จากมุมมองนี้สามารถคาดเดาได้ว่าพลังของหยางหลินนั้นน่าหวาดกลัวขนาดไหน

“แข็งแกร่งไม่ด้อยไปกว่าพี่ชายอู่เมี่ยน” หลิงฮันพยักหน้าพร้อมกับวิจารณ์

อีกฝ่ายไม่ใช่รุ่นเยาว์อย่างแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าเขากินอะไรเข้าไปถึงได้คงความเยาว์วัยเอาไว้ได้

ขณะที่หยางหลินเดินผ่าน ทุกคนได้ขยับเปิดทางให้เขาเดินโดยไม่ต้องบอกกล่าว อย่าว่าแต่จอมยุทธระดับสุริยันจันทราไม่กล้าล่วงเกินเขาต่อ ต่อให้เป็นจอมยุทธระดับดาราก็อาจจะถูกกำราบด้วยอาวุธเซียนไม่สมบูรณ์ของอีกฝ่าย

หลิงฮันถอนหายใจและรู้สึกว่าอาวุธเซียนไม่สมบูรณ์นั้นทรงพลังเกินไป ตัวเขานั้นมีเพียงหอคอยทมิฬที่ช่วยได้เพียงเป็นที่ซ่อนตัว… ช่างน่าขายหน้าจริงๆ

“ขอโทษด้วยแล้วกัน” หอคอยน้อยกล่าวอย่างเย็นชา

หยางหลินเดินไปได้สักครู่ก็มีอีกคนปรากฏตัวด้วยท่าทีองอาจ นางเป็นสตรีที่งดงามราวเทพธิดา เสน่ห์ของนางไม่ด้อยไปกว่าสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์ แต่กลิ่นอายของนางนั้นดูเหนือกว่ารราวกับเป็นราชินีที่สูงศักดิ์

แม่นางหยุน บุตรสตรีของจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิราชวงศ์เฉียนเฟิง

ที่ด้านข้างนางมีบุรุษหล่อเหลายืนอยู่อย่างใกล้ชิด ไม่รู้ว่ามีชายฉกรรจ์มากมายกี่คนมองไปยังเขาด้วยแววตาอิจฉา

“ชายคนนั้นคือศิษย์ของจักรพรรดิเฉียนเฟิง นามว่าซั่วเฉียน เขาเองก็เป็นอัจฉริยะเช่นกันแต่ก็ยังด้อยกว่าแม่นางหยุน เพียงแต่ว่าเขาบ่มเพาะพลังมาเป็นเวลานานแล้วจนตอนนี้ได้ด้าวเท้าเข้าสู้ระดับดาราเรียบร้อย”

“มีคำกล่าวว่าจักรพรรดิเฉียนเฟิงตั้งใจจะให้ทั้งสองครองรักกัน และดูจากท่าทีของแม่นางหยุนแล้ว นางเองก็เหมือนจะสนใจศิษย์พี่ของตนอยู่เช่นกัน”

ซั่วเฉียนทำหน้าที่มาส่งแม่นางหยุน เขานั่งอยู่บนดาวเหินดาราที่หรูหราซึ่งถูกสลักเอาไว้ด้วยรูปแบบอาคมที่สามารถต้านทานภัยพิบัติทางอวกาศ

หลิงฮันดวงตาลุกโชนเนื่องจากเรือเหินดาราล้ำนั้นถูกสร้างขึ้นด้วยแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์มากมาย ถ้าเขาได้มันมาไม่ต้องกล่าวเลยว่า ดาบอสูรนิรันดร์จะยกระดับเป็นอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับแปด แต่ยังคงยกระดับได้สูงกว่านั้นอีกครึ่งระดับด้วย

 

สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์เห็นเช่นนั้นก็อดรู้หึงไม่ได้และบิดไปที่ข้อมือของหลิงฮัน