เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1236

ตรงมุมที่นั่งผู้ชม ไอ้อ้วนตงและพวกนั่งอยู่นานแล้ว วันนี้หวูเฉินไม่ได้มา แต่กลับเป็นพวกยอดฝีมือที่ชอบไปดื่มที่ร้านไอ้อ้วนตงเป็นประจำ แต่ละคนลอยอยู่กลางท้องฟ้า รับชมอย่างตั้งอกตั้งใจ

ไอ้อ้วนตงเห็นแล้วแอบพยักหน้า ไอ้หลิวที่อยู่ข้างๆ หัวเราะไม่หยุด

“พลังของลู่ฝานแข็งแกร่งกว่าเล็กน้อย ส่วนเด็กแซ่เฟิงเร็วกว่านิดหน่อย ทั้งสองคนสู้กันได้อย่างสูสี!”

“เด็กแซ่เฟิงคงฝึกวิชากายดาวเคลื่อนดาราคล้อยสินะ ไอ้อ้วนตง นี่เป็นวิชาสุดยอดของศิษย์น้องของนายที่ตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ”

ยัยแก่หยางพูดเสียงดัง

ไอ้อ้วนตงหัวเราะแล้วพูดว่า “ใช่ นี่คือศิษย์หลานของฉัน ไอ้เด็กนี่ไม่เลวใช่ไหม ศิษย์น้องฉันเลือกผู้สืบทอดไม่ผิดจริงๆ!”

เซวียนหยวนพูดว่า “ไม่เลว ศิษย์หลานของนายโชคดีจริงๆ ถ่ายทอดอย่างมีระเบียบแบบแผน ตายอย่างสมราคา”

อีกด้านหนึ่ง ฉินซางต้าตี้ดูการต่อสู้ในสนามด้วยรอยยิ้ม

“สู้กันดุเดือดจริงๆ!”

ฉินอวิ่นกับฉินฝานมองไปรอบๆ ด้วยความสับสน พวกเขาไม่เห็นแม้แต่เงาการต่อสู้

ส่วนนายพลด้านหลังเอาแต่เอ่ยชมด้วยความตะลึง

“หมัดทรงพลังมาก!”

“ร่างกายกำยำแข็งแกร่งมาก!”

“ตอนนี้สองคนนี้ยังแข็งแกร่งขนาดนี้ ต่อไปคงกลายเป็นคนสำคัญของประเทศอู่อาน!”

หลู่เฉิงเซี่ยงหลับตาพักสายตา เพราะคนไม่มีวิทยายุทธแบบเขา ดูไปก็ไม่รู้เรื่อง แต่ได้ยินการพูดคุยของพวกนายพล ก็พอรู้ว่าพรสวรรค์ของทั้งสองคน ทำให้คนทั้งงานตกตะลึงไปแล้ว

ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย หลู่เฉิงเซี่ยงยิ่งรู้สึกว่าตัวเองดึงลู่ฝานเอาไว้ในตอนนั้น เป็นเรื่องที่ไม่มีอะไรถูกต้องไปกว่านี้แล้ว

ตู้ม!

เสียงระเบิดดังขึ้น หินศิลาดำทั้งสนามบู๊ระเบิดจนลอยขึ้นสูงหลายเมตร

ลู่ฝานกับเฟิงเสี่ยวชี่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

เฟิงเสี่ยวชี่แตะนิ้วลงบนหน้าผากลู่ฝาน ส่วนลู่ฝานต่อยลงบนหน้าเฟิงเสี่ยวชี่อย่างแรง

การเคลื่อนไหวของทั้งสองคนรวดเร็วและเหนือความคาดหมายมาก

สายลมแรงหยุดลง ฝ่าเท้าของลู่ฝานแยกพื้นออกเป็นรอยแยกที่เห็นได้อย่างชัดเจน เฟิงเสี่ยวชี่ถอยหลังไปสิบกว่าก้าว มีเลือดอยู่ตรงมุมปาก

เมื่อทรงตัวได้แล้ว เลือดไหลลงมาจากหน้าผากลู่ฝาน

เฟิงเสี่ยวชี่ลูบแก้มตัวเองที่ยุบลงไปเล็กน้อย นัยน์ตาเต็มไปด้วยประกายบ้าคลั่ง

“สะใจ!”

เฟิงเสี่ยวชี่ยืดตัวตรง หัวเราะเสียงดังแล้วพูดออกมา

ลู่ฝานค่อยๆ ยืนขึ้น ปาดเลือดบนหน้าผากตัวเองออก

ทั้งสองคนเพิ่งพูดจบ หินศิลาดำนับไม่ถ้วนที่ลอยอยู่ร่วงหล่นลงมาบนพื้น

ปัง! ปัง! ปัง!

กำแพงรอบๆ ก็มีหินนับไม่ถ้วนหล่นลงตามมาด้วย เพียงระยะเวลาไม่กี่อึดใจ ทั้งสนามบู๊เละเทะเพราะการต่อสู้ของทั้งสองคน

เฟิงเสี่ยวชี่กำหมัดแล้วพูดว่า “พลังของร่างกายนายแข็งแกร่งจริงๆ ดูเหมือนสู้ด้านพละกำลังกับนาย เป็นการกระทำที่ดูไม่ฉลาดเท่าไรนัก!”

นัยน์ตาลู่ฝานมีประกายประหลาด เขาพูดว่า “ความเร็วของนายก็ไม่เลวเหมือนกัน จะเอาจริงเลยไหม”

เฟิงเสี่ยวชี่หัวเราะแล้วพูดว่า “แน่นอน!”

ผู้ชมได้ยินบทสนทนาของทั้งสองคนอย่างชัดเจน

สู้กันจนเป็นแบบนี้แล้ว คิดไม่ถึงว่ายังไม่เอาจริงกันอีก พูดได้เพียงว่าพละกำลังของทั้งสองคนแข็งแกร่งเกินไป

ถ้าเป็นนักบู๊คนอื่น การต่อสู้คงจบไปนานแล้ว จนถึงตอนนี้คนจำนวนมากก็ยังไม่เข้าใจว่าเมื่อกี้ทั้งสองคนสู้กันยังไง

ทำไมยืนนิ่งไม่ขยับ แล้วรอบๆ เกิดการระเบิดขึ้นเองจนอยู่ในสภาพแบบนี้!

เฟิงเสี่ยวชี่ใช้มือดึงกระบี่เหล็กของตัวเองออกมา จากนั้นเอามือลูบ สนิมบนกระบี่หายไปจนหมด

กระบี่เหล็กที่เดิมทีดูผุพัง ตอนนี้กลับส่องประกายเหมือนอาวุธวิเศษอย่างไรอย่างนั้น

รอยบิ่นแต่ละรอย โดนอักษรยันต์ที่มีแสงระยิบระยับปกปิดเอาไว้ ตัวอักษรคำว่า “ฟางชุ่น” สว่างไสว ปรากฏอยู่บนกระบี่