ตอนที่ 2115

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 2,115 : ยันต์ปฐมอัสนีเซียนม่วง

 

การปะทะกันระหว่างต้วนหลิงเทียนกับเซี่ยจงเรียกว่าบังเกิดขึ้นฉับไวดุจละอองไฟวาบดับ

 

เรียกว่าในชั่วเวลาแสนสั้นที่ไม่ต่างอะไรดั่งฟ้าผ่า ผลการประมือหนึ่งกระบวนนี้ก็รู้ผลแล้ว

 

พลังของต้วนหลิงเทียนสะกดข่มครอบงำเซี่ยจง!

 

ยังบดขยี้อย่างราบคาบ!

 

“ข้ายังไม่ได้ใช้เวทย์พลังจู่โจมอะไร…”

 

ครู่ต่อมาวาจาของต้วนหลิงเทียนก็ดังขึ้นเข้าหูเซี่ยจงที่ปลิวกระเด็นออกไปด้วยสภาพไม่ค่อยจะสู้ดี ทำให้ร่างมันสะท้านไปค่อยกระอีกโลหิตออกมาอีกรอบ!

 

วาจาของต้วนหลิงเทียนนับว่าจี้ใจเซี่ยจงอย่างจัง มันย่อมมีโมโหจนทนไม่ไหว แต่แน่นอนว่ามันรู้ความนัยวาจานี้ดี…

 

ไม่ได้ใช้เวทย์พลังจู่โจมอะไร แต่บีบคั้นให้มันตกอยู่ในสภาพนี้ได้…

 

เช่นนั้นหากใช้เวทย์พลังจู่โจม มันไม่ตายคาที่เลยหรือ?

 

ขวับ!

 

หลังปลิวกระเด็นไปดุจว่าวสายป่านขาดพักหนึ่ง เซี่ยจงก็เร่งเร้าพลังขืนร่างให้กลับมาทรงตัวได้อีกครั้ง

 

ขณะเดียวกันใบหน้าซีดเซียวแทบไร้สีเลือดของมัน บัดนี้ได้มืดดำคล้ำลงราวถ่าน สองตาถลึงมองต้วนหลิงเทียนด้วยจิตฆ่าฟันอันน่ากลัว “ต้วนหลิงเทียนเจ้าคิดจริงๆหรือ…ว่าอาศัยเพียงพลังฝีมือของเจ้าจะมีปัญญาฆ่าข้าได้จริงๆ?”

 

“อะไร? เจ้าคิดจะใช้หยกสื่อสารขอความช่วยเหลือรึไง?”

 

ได้ยินวาจาของเซี่ยจง ต้วนหลิงเทียนแสยะยิ้มออกมาอย่างดูแคลน ราวกับจะเห็นซึ้งถึงความคิดของเซี่ยจง ขณะเดียวกันเขาก็ไม่ได้แยแสแม้แต่น้อย

 

อันที่จริงต้วนหลิงเทียนก็ไม่ได้สนใจมันเลยย

 

ด้วยความสามารถของเขาตอนนี้ เขาย่อมสามารถบดขยี้เซี่ยจงได้อย่างราบคาบ ต่อให้เซี่ยจงจะส่งหยกสื่อสารออกไปก็เท่านั้น เขาฆ่ามันได้ง่ายดายก่อนที่ผู้ช่วยเหลือของมันมจะมาเสียอีก

 

กว่าความช่วยเหลือของเซี่ยจงจะมาถึง เขาก็ไม่รู้หนีไปถึงไหนต่อไหนแล้ว!

 

“เจ้าอย่าได้ลืมเรื่องยันต์กระจกเงาแม่ลูก”

 

ตอนนี้เองในหูต้วนหลิงเทียนมีเสียงผู้เฒ่าหั่วดังขึ้น

 

เป็นผู้เฒ่าหั่วที่คอยเตือนเขา

 

ตั้งแต่วันนั้นที่ต้วนหลิงเทียนฆ่าผู้นำพันธมติรขวานปฐพี เหยาปู่จี ของนครแห่งบาป เขาก็กลับไปหาข้อมูลเรื่องยันต์เต๋า กระทั่งมีความเข้าใจเรื่องยันต์เต๋าต่างๆในภูมิภาคเบื้องบน

 

อย่างที่ผู้เฒ่าหั่วบอก

 

ยันต์เต๋าที่ทำให้เรื่องฆ่าคนของเขาเปิดเผยต่อเหยาปู่จี ก็คือยันต์เต๋ากระจกเงาแม่ลูก!

 

“ผ่อนคลาย…”

 

ได้ยินวาจาผู้เฒ่าหั่ว ต้วนหลิงเทียนรับทราบค่อยกล่าว “ก่อนที่ข้าจะฆ่ามันข้าจะหาทางทำลายยันต์เต๋ากระจกเงาลูกที่ตัวมันทิ้ง…ตอนนี้ข้ายังไม่คิดจะฆ่ามันให้ตายโดยง่าย ข้าจะให้มันตายหลังรู้สึกถึงความสิ้นหวังครั้งแล้วครั้งเล่า!”

 

ยิ่งพูดน้ำเสียงต้วนหลิงเทียนยิ่งเย็นเยียบ ฟังแล้วหนาวเหน็บราวติดอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง

 

ความแค้นที่มีต่อเซี่ยจง ไม่เพียงแค่ถูกอีกฝ่ายหยันหยามชิงตราผนึกมาร ยังมีความแค้นเรื่องกู่มี่และองครักษ์เกราะทมิฬ!

 

เขาไม่คิดปล่อยให้มันตกตายโดยง่าย!

 

ส่วนยันต์เต๋ากระจกเงาแม่ลูกนั้น เขาได้รู้จักมันแล้ว

 

เมื่อผู้ที่มียันต์เต๋าลูกถูกฆ่าตายหรือเป็นผู้กระตุ้นใช้ยันต์เต๋ากระจกเงาลูกด้วยตัวเอง ฉากเรื่องราวในห้วงเวลาสุดท้าย จะถูกส่งไปยังยันต์เต๋ากระจกเงาแม่

 

หากต้องการรับชมฉากเรื่องราวเพียงบดขยี้เพื่อใช้งานยันต์เต๋ากระจกเงาแม่เท่านั้น

 

เซี่ยจงในฐานะบุตรชายคนเดียวของ จ้าวราชสีห์ขนทอง 1 ใน 4 มหาธรรมราชาของลัทธอารามทมิฬ…เป็นไปไม่ได้เลยที่ตัวตนเช่นนี้จะไม่มียันต์เต๋ากระจกเงาลูก

 

ดังนั้นต้วนหลิงเทียนก็คิดไว้แล้ว

 

ก่อนที่จะฆ่าเซี่ยจงให้ตาย เขาจะทุบตีทรมาณมันให้หนัก จากนั้นค่อยฆ่ามันทิ้งหลังพบยันต์เต๋ากระจกเงาลูกในร่างเซี่ยจง!

 

แต่ต้วนหลิงเทียนจะกระทำตามที่ต้องการได้หรือ?

 

“เฮอะ! ข้าไม่จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ใดทั้งสิ้น! อาศัยข้าคนเดียวก็ฆ่าเจ้าได้!!”

 

เผชิญหน้ากับวาจาปรามาสดูแคลนของต้วนหลิงเทียน เซี่ยจงพลันแค่นคำออกเสียงเย็น

 

ขวับ!

 

กล่าวจบคำเซี่ยจงก็ยกมือขึ้น ปรากฏแสงสีม่วงส่องสว่างออกมาจากความว่างเปล่า

 

มองให้ชัดจะพบว่าต้นตอแสงสีม่วงดังกล่าวคือยันต์เต๋าแผ่นหนึ่ง!

 

ไม่ใช่ว่าตัวยันต์เต๋าใบนี้ที่มีสีม่วง หากแต่ที่แลดูเหมือนมันจะมีสีม่วงเพราะประกายอัสนีสีม่วงที่แล่นวาบแปลบปลาบทั่วตัวยันต์!

 

และทันทีที่ยันต์เต๋าใบนี้ปรากฏ กลิ่นอายพลังวิญญาณฟ้าดินโดยรอบก็คล้ายจะสั่นสะเทือน

 

ทันใดนั้นคล้ายตัวยันต์จะดูดกลืนพลังวิญญาณฟ้าดินจนเหือดแห้ง!

 

“ยันต์ปฐมอัสนีเซียนม่วง!”

 

ทันทีที่เซี่ยจงหยิบยันต์เต๋าแผ่นนี้ออกมา ต้วนหลิงเทียนก็จดจำยันต์เต๋าดังกล่าวได้ในพริบตา สีหน้ายังเปลี่ยนไปใหญ่หลวง!

 

หลังได้ร่ำเรียนเรื่องยันต์เต๋าจากตำรารวมยันต์ที่เขาหาซื้อในนครแห่งบาปแล้ว ต้วนหลิงเทียนย่อมได้รู้เรื่อง ยันต์เต๋า ปฐมอัสนีเซียนม่วงด้วยเช่นกัน ยังได้ทราบว่ายัตน์เต๋าชนิดนี้มีเพียงปรมาจารย์ยันต์เต๋าระดับเทียมสวรรค์เท่านั้นที่เขียนขึ้นมาได้

 

และยันต์เต๋าปฐมอัสนีเซียนม่วงที่ว่า ก็คือยันต์จู่โจมใช้ครั้งเดียวทิ้ง พลังอำนาจสามารถพิฆาตตัวตนภายใต้ขอบเขตเซียนสวรรค์ 4 เปลี่ยนได้ทั้งหมด!

 

ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์เซียน!

 

เรียกว่าตราบใดที่พลังฝึกปรือยังไม่บรรลุถึงเซียนสวรรค์ 4 เปลี่ยน หากถูกพลังทำลายของมันเข้าไป ต้องตายแน่นอน!

 

กระทั่งเป็นตัวตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 4 เปลี่ยน หากต้องรับการจู่โจมทำลายของยันต์ปฐมอัสนีเซียนม่วงเข้าตรงๆ ถึงแม้จะไม่ถูกพลังอำนาจของยันต์เข่นฆ่า แต่ก็สมควรได้รับบาดเจ็บกระทั่งยังจะบาดเจ็บสาหัสปางตาย!!

 

ปกติแล้วมีเพียงผู้ที่มีพลังฝึกปรือตั้งแต่ขอบเขตเซียนสวรรค์ 5 เปลี่ยนขึ้นไปเท่านั้น ถึงจะสามารถป้องกันพลังทำลายล้างของยันต์เต๋าปฐมอัสนีเซียนม่วงได้อย่างหมดจด

 

“ฮ่าๆๆๆๆ…!!!”

 

เห็นหน้าต้วนหลิงเทียนเปลี่ยนสีไปอย่างหนัก ทั้งได้ยินเสียงอุทานด้วยความตื่นตระหนกของต้วนหลิงเทียน เซี่ยจงอดไม่ได้ที่จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาด้วยความสะใจ

 

ผ่านไปซักพักเสียงหัวเราะค่อยหยุดลง

 

“ต้วนหลิงเทียน…ไม่คิดเลยว่าตัวบ้านนอกเช่นเจ้ายังสามารถรู้จักยันต์เต๋าปฐมอัสนีเซียนม่วงได้…”

 

เซี่ยจงกล่าวออกเสียงเย็น

 

ในวาจายังเผยให้เห็นถึงความแปลกใจไม่น้อย ที่ต้วนหลิงเทียนผู้มาจากภูมิภาคเบื้องล่างของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า จะรู้จักยันต์เต๋าระดับสูงของภูมิภาคเบื้องบนแบบนี้ได้

 

ยันต์เต๋าปฐมอัสนีเซียนม่วงแผ่นนี้ เป็นบิดาของมันจ้าวราชสีห์ขนทอง 1 ใน 4 มหาธรรมราชาใช้ความพยายามอย่างหนักรวมถึงจ่ายราคาออกไปมหาศาลกว่าจะได้มา เพื่อมอบให้มันเอาไว้ใช้ป้องกันตัว

 

“ได้ตายด้วยพลังของยันต์เต๋าปฐมอัสนีเซียนม่วง ต้วนหลิงเทียน ชีวิตนี้ของเจ้าสมควรภาคภูมิใจได้แล้ว!”

 

ไม่รอให้ต้วนหลิงเทียนตอบคำ เซี่ยจงพลันกล่าวออกมาเสียงเย็นอีกครั้ง

 

และทันทีที่กล่าวจบคำมันก็ซัดยันต์เต๋าปฐมอัสนีเซียนม่วงไปทางต้วนหลิงเทียนทันที

 

วินาทีต่อมามันก็อ้าปากออกด้วยคิดประกาศคำ ‘สำแดง’

 

และเมื่อมันกล่าวคำ ‘สำแดง’ ออกมายันต์เต๋าปฐมอัสนีเซียนม่วง ก็จะสลายหายกลายเป็นอัสนีพิฆาตทรงฤทธิ์อันยากต้านทาน ถล่มทลายเข้าใส่ร่างต้วนหลิงเทียนจนกว่าคนจะสลายเป็นผุยผง!

 

พริบตานี้ ห้วงเวลาคล้ายจะหยุดลง

 

ยังเป็นห้วงเวลาเดียวกันกับที่ ปากของเซี่ยจงอ้าออก

 

ฟั่ฟฟฟฟ!!!

 

เพียงคำว่า ‘สำ’ ดังออกจากปากของเซี่ยจง เสียงกระบี่ทะลวงแหวกฟ้าฉับไวพลันดังขึ้น!

 

ในพริบตานี้ เซี่ยจงได้แลเห็นประกายแสงกระบี่สายหนึ่งเบื้องหน้า…

 

‘ไมใช่กระบี่พันอาคมเซียน…กระบี่เล่มนี้ทรงพลังยิ่งกว่า!’

 

และนั่นเป็นความคิดสุดท้ายที่ดังขึ้นในใจของเซี่ยจง ก่อนที่มันจะตกตาย

 

เรียกว่าแทบจะพร้อมกันกับที่บังเกิดความคิดนี้ขึ้น หลุมโลหิตอันน่ากลัวก็ปรากฏขึ้นกลางหว่างคิ้ว หน้าของมันยังไม่ทันมีวลาได้เปลี่ยนสีด้วยซ้ำ

 

ฉึบบ!!

 

หลังหลุมโลหิตปรากฏขึ้นที่หว่างคิ้ว เสียงกระบี่ทะลวงผ่านกระดูกเลือดเนื้อค่อยดังขึ้น

 

ดูเหมือนว่าความเร็วของเสียงจะช้ากว่าความเร็วของแสงกระบี่…!

 

เซี่ยจงที่ปากอ้าค้างกล่าววาจาออกมาได้ครึ่งคำไม่อาจกล่าวใดสืบต่อ สองตาเปิดค้าง แววตาราวกับจะสะท้อนแสงสุดท้ายที่มันได้เห็นอันเป็นประกายแสงกระบี่สายหนึ่ง…หลุมโลหิตที่หว่างคิ้ว มีโลหิตแข่งขันกันไหลทะลักออกจ๊อกๆ

 

“แย่แล้ว!”

 

ตอนนี้เองต้วนหลิงเทียนที่ใช้กระบี่นิลสวรรค์ออกด้วยเคล็ดกระบี่อยู่ที่ใจ ก็หน้าเปลี่ยนสีไปทันที

 

นั่นเพราะเขาสัมผัสได้ชัดเจนถึงคลื่นพลังผันผวนจากยันต์เต๋า!

 

“ยันต์กระจกเงาลูก!”

 

ต้วนหลิงเทียนย่อมจำได้ ว่าทันทีที่เซี่ยจงตกตาย ยันต์กระจกเงาลูกในตัวมันก็จะเริ่มทำหน้าที่โดยอัตโนมัติ

 

ตอนนี้ภาพเรื่องราวช่วงสุดท้ายในชีวิตของเซี่ยจงกำลังถูกส่งไปไปยังยันต์เต๋ากระจกเงาแม่…

 

ยันต์เต๋ากระจกเงาแม่ แน่นอนว่าต้องอยู่ในมือของจข้าวราชสีห์ทองคำ 1 ใน 4 มหาธรรมราชาของลัทธิอารามทมิฬ

 

“สายไปแล้ว…”

 

ผลลัพธ์ของเรื่องราวออกมาในรูปแบบนี้แม้ต้วนหลิงเทียนจะไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้คิดมาก

 

เพราะสถานการณ์เมื่อครู่มันไม่เป็นใจ และไม่เหลือโอกาสใดให้เขา

 

เขาไม่มีเวลามากพอจะจัดการกับยันต์เต๋ากระจกเงาลูกที่ร่างเซี่ยจง

 

เพราะเมื่อครู่หากเซี่ยจงกล่าวคำ ‘สำแดง’ จบคำ ยันต์เต๋าปฐมอัสนีเซียนม่วงย่อมต้องทำงาน และพลังอำนาจทำลายล้างของมันได้ถล่มใส่เขาแน่

 

เจอแบบนั้นต่อให้เขาเร่งเร้าพลังทั้งหมดใช้ออกด้วยเวทย์พลังปราการเต่าทมิฬ แต่ก็คงไม่อาจหยุดมันได้

 

กระทั่งให้ใช้กระบี่นิลสวรรค์ที่จ่ายพลังเซียนสุริยันลงไปทั้งหมด ก็ไม่แน่ว่าจะทำลายคลื่นพลังทำลายล้างนั่นได้ และต่อให้ทำได้จริงเขาก็ต้องตายอยู่ดี!

 

เพราะเมื่อทำแบบนั้น พลังเซียนสุริยันในร่างเขาคงลดฮวบลงแทบไม่เหลือ!

 

เช่นนั้นแล้วต่อให้จะหยุดพลังทำลายล้างของยันต์เต๋าปฐมอัสนีเซียนม่วงได้จริง แต่เขายังจะเหลือพลังที่ไหนไปต่อกรกับเซี่ยจงอีก? ไม่พ้นต้องถูกมันฆ่าตายแน่!

 

เช่นนั้นในห้วงเวลาอันวิกฤตคับขัน ต้วนหลิงเทียนได้แต่ตัดสินใจสังหารคนฉับไวปานฟ้าผ่า ใช้กระบี่นิลสวรรค์ฆ่าเซี่ยจงทิ้งทันที!

 

ฆ่ามันได้ทันก่อนที่มันจะได้กล่าวคำ ‘สำแดง’ จบ เปิดใช้ยันต์เต๋าปฐมอัสนีเซียนม่วงนั่นฆ่าเขา

 

กระบวนการทั้งหมดแลดูราบรื่น หากแต่ในใจต้วนหลิงเทียนยังรู้สึกกลัวไม่หาย

 

นั่นเพราะการกระทำแบบนี้ก็มีความเสี่ยงอันใหญ่หลวงเช่นกัน

 

เพราะหากกระบี่นิลสวรรค์ที่เขาเรียกออกมาหมายใช้เคล็ดกระบี่อยู่ที่ใจอันเป็นขอบเขตที่ 3 ของยอดใจกระบี่สังหารคน ก็ไม่แน่ว่าจะทันเวลาที่เซี่ยจงเปิดใช้ยันต์เต๋า…!

 

ถึงตอนนั้นมีหวังเขาได้ตายพร้อมเซี่ยจงแน่

 

มาตอนนี้ต้วนหลิงเทียนจึงอดไม่ได้ที่จะระบายลมหายใจออกเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอก “โชคดี…ที่เซี่ยจงมันลีลาท่ามาก…”

 

หลังดึงสติกลับมาได้ ต้วนหลิงเทียนก็สะบัดมือคราหนึ่งใช้พลังดูดรั้งเก็บยันต์เต๋าปฐมอัสนีม่วงที่ยังไม่ทันได้ใช้งานมาเก็บไว้ทันที

 

นับจากนี้ไป ยันต์เต๋าปฐมอัสนีเซียนม่วง ก็ได้กลายเป็นไพ่ตายอีกใบหนึ่งของเขา

 

ยังเป็นไพ่ตายอันทรงพลังนัก! พลังทำลายของมันเรียกได้ว่าพอๆกันกับกระบี่นิลสวรรค์ ที่เขาจ่ายออกด้วยพลังเซียนสุริยันทั้งหมดในร่างตอนนี้ด้วยซ้ำ!!

 

“ผู้เฒ่าหั่ว ช่วยข้าดูดกลืนพรสวรรค์รากวิญญาณของมันที…”

 

ขณะเดียวกันต้วนหลิงเทียนก็ไม่ลืมกล่าวบอกผู้เฒ่าหั่วเพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์สุดท้าย…

 

ในฐานะลูกชายคนเดียวของจ้าวราชสีห์ทองคำ 1 ใน 4 มหาธรรมราชา พรสวรรค์รากวิญญาณของเซี่ยจงย่อมเป็นรากวิญญาณสีคราม หากแต่เป็นรากวิญญาณสีครามอ่อนๆ

 

แม้ด้วยพรสวรรค์รากวิญญาณสีครามเหมือนกันของต้วนหลิงเทียนในตอนนี้ รากวิญญาณสีครามของเซี่ยจงไม่ต่างใดจากเทน้ำหนึ่งแก้วเติมลงถัง แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีเลย

 

เช่นนั้นแล้วหลังได้กลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณของเซี่ยจง ต้วนหลิงเทียนก็ยังคงมีความสุข

 

“ไม่รู้ว่าตราผนึกมารจะยังอยู่ที่มันรึเปล่า…”

 

หลังกลืนกินพรสวรรค์รากวิญญาณเซี่ยจงเสร็จ ต้วนหลิงเทียนก็ริบแหวนพื้นที่ของมันมาเป็นสินสงคราม ก่อนที่จะผูกพันธะครองแหวนแล้วใช้สำนึกเทวะตรวจสอบทันที

 

ฉากภายในแหวนของเซี่ยจง เผยให้เห็นว่ามันเก็บของเอาไว้มากมายนัก!