บทที่ 1865 เอาแหวนออกมา
แต่น่าเสียดายว่าที่รัฐอิสระนั้นไม่ได้เหมาะกับทุกคน ไม่อย่างนั้นย้ายจูเสินสือไต้ไปไว้ที่รัฐอิสระได้…ก็คงจะดี
“สวัสดี”
ท้องฟ้าเป็นสีเทาขมุกขมัว ตอนที่เดินผ่านพื้นที่ห่างไกลแห่งหนึ่ง ชายร่างผอมบางไม่ทราบที่มาก็ปรากฏตัวขึ้นแล้วขวางทางเยี่ยหวันหวั่นไว้
สถานที่นี้อยู่ไม่ไกลจากจูเสินสือไต้มากนัก ดังนั้นเยี่ยหวันหวั่นจึงใช้วิธีเดิน
เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะมองไปยังชายร่างผอมที่ยืนขวางทาง เธอไม่รู้จักชายคนนี้และไม่เคยเห็นเขามาก่อนด้วยซ้ำ
“มีเรื่องอะไร”
เยี่ยหวันหวั่นถามอย่างไม่แน่ใจ
“ไม่ต้องตกใจ ฉันไม่ได้มีเจตนาร้าย” ชายผู้นั้นมองเยี่ยหวันหวั่นแล้วพูดเบาๆ “ที่ฉันขวางเธอไว้ตอนนี้ ก็เพราะว่าอยากได้ของที่ไม่ใช่ของเธอคืนจากเธอ”
“ของที่ไม่ใช่ของฉัน?”
เมื่อฟังชายร่างผอมพูดจบ เยี่ยหวันหวั่นก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ
ของที่ไม่ใช่ของเธอคืออะไรกัน…เธอไม่รู้จักชายคนนี้แม้แต่น้อย ดูเหมือนว่าไม่เคยเอาอะไรจากเขามาเลยถึงจะถูก
“โอ้…แต่ฉันอยากรู้ว่าอะไรที่ไม่ใช่ของๆ ฉัน นายอยากได้อะไรคืนจากฉันงั้นเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นจ้องชายหนุ่มแล้วยิ้มเยาะ
“ก็แหวนที่อยู่บนมือเธอไง”
ชายร่างผอมตอบอย่างตรงประเด็นไม่อ้อมค้อม สายตาจับจ้องไปยังแหวนที่ซือเยี่ยหานมอบให้เยี่ยหวันหวั่น
“อันนี้…”
เยี่ยหวันหวั่นมองแหวนที่ดูแปลกตาวงนี้อย่างงุนงง
ตอนที่ซือเยี่ยหานมอบแหวนวงนี้ให้กับตัวเอง เขาเคยบอกว่า แหวนวงนี้แต่เดิมก็เป็นของเธอ และซือเยี่ยหานแค่เก็บไว้ให้เท่านั้น สำหรับหน้าที่ของแหวนหรือที่มาของมัน แม้แต่ซือเยี่ยหานก็ไม่ทราบแน่ชัด
เยี่ยหวันหวั่นคิดไม่ถึงว่าแหวนที่ซือเยี่ยหานเพิ่งมอบให้เธอ แค่ชั่วพริบตาก็ถูกจับตามองแล้ว
“นายเป็นใคร” เยี่ยหวันหวั่นมองชายร่างผอมแล้วเอ่ยถาม
“เรื่องนี้ เธอไม่จำเป็นต้องรู้หรอก ส่วนแหวนวงนี้ไม่ใช่ของๆ เธอ ส่งมันมาเดี๋ยวนี้” ชายร่างผอมพูดด้วยใบหน้าไร้อารมณ์
“ตลกจริงๆ” เยี่ยหวันหวั่นยิ้มเยาะ “แหวนวงนี้มันอยู่บนมือของฉัน ถ้ามันไม่ใช่ของฉัน แล้วมันเป็นของนายเหรอไง”
เดิมที เยี่ยหวันหวั่นไม่ได้ใส่ใจแหวนวงนี้ แต่พอมาวันนี้ แหวนวงนี้ต้องไม่ใช่แค่เครื่องประดับอย่างแน่นอน มันต้องมีความลับอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในแหวนวงนี้ ไม่อย่างนั้นใครจะมาแย่งมันไป
“คือ…เธอจะไม่ยอมส่งมันมาใช่ไหม…” ขณะพูด ชายร่างผอมก็ค่อยๆ ก้าวเข้าไปหาเยี่ยหวันหวั่น “ถ้าอย่างนั้น ฉันต้องถอดเอาเองแล้วล่ะ”
ขณะที่พูด ชายร่างผอมก็เดินมาข้างๆ เยี่ยหวันหวั่น แล้วยื่นมือออกมาจะรูดแหวนออกจากปลายนิ้วของหญิงสาว
เมื่อเห็นดังนั้น เยี่ยหวันหวั่นก็เบี่ยงตัวหลบข้างเล็กน้อย
แต่มือของชายร่างผอมก็ติดตามดั่งเงา คว้าหมับเข้าที่ไหล่ซ้ายของเยี่ยหวันหวั่นไว้อย่างง่ายดาย
ในตอนนี้เอง เยี่ยหวันหวั่นจึงตระหนักได้ว่า ชายที่อยู่ตรงหน้า หากอยู่ที่รัฐอิสระ ก็จะได้ชื่อว่าเป็นผู้แข็งแกร่งชั้นยอด!
ตอนที่ไม่ได้ดื่มเหล้าแบบนี้ เกรงว่าจะทัดทานชายผู้นี้ไม่ได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว
อย่างไรก็ตาม…เมื่อมาถึงประเทศจีน เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่ได้พกเหล้าติดตัวทุกวัน และไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องเจอกับเหตุการณ์อันตรายเมื่ออยู่ในจีน
ตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นเหลือบมองชายร่างผอมเล็กน้อย “นายอยากได้แหวนวงนี้ ไม่ใช่ว่าให้ไม่ได้…ขอแค่นายบอกฉัน ว่านายเป็นใคร…และทำไมถึงอยากได้แหวนวงนี้ ฉันจะถอดยื่นถวายให้เลย”
“ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ” ชายร่างผอมตอบอย่างเยือกเย็น
——————————————————————–
บทที่ 1866 เอ่ยนามมา
หากอยากให้ชายร่างผอมที่อยู่ตรงหน้าเอ่ยปากพูด เกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องง่าย
ดังนั้นเยี่ยหวันหวั่นจึงมองไปรอบๆ ทิศ จากสถานการณ์ในตอนนี้ เธอควรหาทางหนีไปจากที่นี่ ต่อให้ถามจนรู้ว่าแหวนวงนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร แต่หากถูกชายผู้นี้ฉกแหวนไป เธอจะทำอย่างไร…
“ฉันไม่อยากทำร้ายเธอ ตอนนี้เธอแค่ส่งแหวนมาให้ฉัน แล้วฉันก็จะจากไป เป็นไง” ชายหนุ่มพูดกับเยี่ยหวันหวั่นด้วยสีหน้าเฉยเมย
เมื่อได้ยินดังนั้น เยี่ยหวันหวั่นก็ยิ้มอย่างเยือกเย็น “นี่มันแหวนของฉัน ถ้านายอยากได้ก็ต้องดูว่านายมีความสามารถไหม”
แววตาของชายผู้นั้นเย็นยะเยือก “จะให้ดีๆ หรือจะให้ด้วยน้ำตา”
ภารกิจของเขาคือต้องเอาแหวนวงนี้มาจากหญิงสาวให้ได้ แม้ว่าเขาจะได้รับคำสั่งไม่ให้ฆ่าผู้หญิงคนนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำร้ายเธอไม่ได้
เยี่ยหวันหวั่นยังไม่ทันพูดอะไรต่อ เงาร่างสีดำหลายเงาก็โผล่เข้ามาและยืนอยู่ข้างเยี่ยหวันหวั่นทันที
“ผู้นำ พวกเรามาช้าแล้ว”
ชายในเงาร่างสีดำหลายคน พูดกับเยี่ยหวันหวั่น
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าใครมา คนเหล่านี้ต่างเป็นสมาชิกหัวกะทิของพันธมิตรอู๋เว่ยที่เธอนำมาจากรัฐอิสระ แต่ละคนต่างก็เป็นผู้แข็งแกร่งชั้นเยี่ยม คอยรับผิดชอบลงมืออยู่ลับๆ
“หนุ่มน้อย ฉันขอเตือนให้นายบอกมาตรงๆ ว่านายเป็นใครกันแน่ และทำไมถึงอยากได้แหวนของฉันนัก ถ้าไม่พูด วันนี้อย่าหวังว่าจะได้ออกไปจากที่นี่ง่ายๆ”
เมื่อมีสมาชิกจากพันธมิตรอู๋เว่ยอยู่ด้วย เยี่ยหวันหวั่นก็มีความมั่นใจขึ้นมาและพูดกับชายร่างผอมอย่างเย็นชา
“โอ้…ชายร่างผอมกวาดสายตามองคนจากพันธมิตรอู๋เว่ยแวบหนึ่งพร้อมเอ่ยอย่างเฉยเมย “ถ้าหวังจะพึ่งแค่คนพวกนี้ กลัวว่าจะปกป้องเธอไม่ได้หรอกนะ”
“ไม่เห็นพวกเขาอยู่ในสายตา?!”
เมื่อได้ยินคำพูดของชายร่างผอม กลุ่มคนจากพันธมิตรอู๋เว่ยก็เดือดดาลในทันที
คนของพันธมิตรอู๋เว่ยไม่เคยถูกผู้อื่นดูถูกเหยียดหยามเช่นนี้มาก่อน นี่ถือว่าเป็นการสบประมาทพวกเขาเป็นอย่างมาก
“ไว้ชีวิตเขาด้วย อย่าเอาถึงตายล่ะ…” เยี่ยหวันหวั่นกล่าว
แต่เยี่ยหวันหวั่นยังพูดไม่ทันจบคำ ร่างของสมาชิกหัวกะทิหลายคนของพันธมิตรอู๋เว่ยก็พุ่งทะยานผ่านหางตาของเยี่ยหวันหวั่นไปแล้ว
ทันใดนั้น ชายร่างผอมก็ชักมือกลับทันที แล้วเหลือบมองเยี่ยหวันหวั่นเล็กน้อย “ส่งแหวนมา”
ในตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นถึงกับตกตะลึง ผู้ชายคนนี้เป็นตัวประหลาดอะไรแน่…ทำไมถึงแข็งแกร่งได้ขนาดนั้น พวกเป่ยโต่วกับชีซิงเป็นถึงสมาชิกหัวกะทิของพันธมิตรอู๋เว่ยที่คัดเลือกมาอย่างดี ลงมือแค่ไม่กี่อึดใจ กลับถูกชายร่างผอมซัดจนปลิวไปได้?
“ผู้…ผู้นำ…คนคนนี้แข็งแกร่งเกินไป พวกเราที่เหลือไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน…เห็นทีผู้นำต้องลงมือด้วยตัวเองแล้วละ!” หนึ่งในสมาชิกหัวกะทิของพันธมิตรอู๋เว่ยที่ตอนนี้ใบหน้าซีดเซียวเล็กน้อย จ้องไปที่เยี่ยหวันหวั่นแล้วกล่าวด้วยความเคารพ
“เด็กน้อย…นายตายแน่…มีตาหามีแววไม่ แกรู้ไหมว่าคนผู้นี้เป็นใคร!”
ในสายตาของบรรดาสมาชิกหัวกะทิของพันธมิตรอู๋เว่ยนั้น เยี่ยหวันหวั่นไม่เคยแพ้ใคร ขอแค่เยี่ยหวันหวั่นลงมือ ชายร่างผอมคนนั้นต้องตายอย่างแน่นอน
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก…‘พวกแกแม่งไม่มาเสียยังดีกว่า’…
หากสมาชิกหัวกะทิของพันธมิตรอู๋เว่ยไม่มา เธอแค่วิ่งหนีไปก็จบแล้ว แต่ตอนนี้กลับต้องเผชิญหน้ากับชายร่างผอม เอาชนะเขาไม่ได้แน่ๆ แถมตอนนี้ก็ยังไม่สามารถวิ่งหนีไปต่อหน้าสมาชิกหัวกะทิของพันธมิตรอู๋เว่ยได้อีก
“ช้าก่อน!”
เยี่ยหวันหวั่นกระแอมในลำคอเบาๆ “ฮึ่ม…ไม่มีใครตายด้วยฝ่ามือของฉันโดยไร้ชื่อ…เอ่ยนามของนายมาก่อน”